นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 14 พ.ย. 00, 03:07
|
|
รูดี้ อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมากครับ สมัยแกขึ้นเป็นนายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ใหม่ๆ แกทะเลาะกับนักการทูตทั่วนิวยอร์กเลย เรื่องที่จอดรถ นิวยอร์ก (เมือง ไม่ใช่นิวยอร์กที่เป็นรัฐ) ยิ่งหาที่จอดรถยากๆ อยู่ มีที่จอดบางที่เทศบาลก็เอาป้ายไปปักให้เป็นที่จอดรถเฉพาะนักการทูตต่างประเทศที่ประจำสหประชาชาติ นอกจากนั้นบางประเทศยังชอบจอดในที่ๆ เขาไม่ให้จอดอีก ถือว่าตำรวจจับไม่ได้ คนนิวยอร์กก็คงจะหมั่นไส้นักการทูตบ้างเหมือนกันแหละว่าเป็นอภิสิทธิชน พอแกขึ้นมาเป็นนายกเทศมนตรีก็ประกาศเอาจริงเลย จับดะไม่ไว้หน้า และลดจำนวนที่จอดรถที่เคยกันให้รถทะเบียนการทูตด้วย ตอนนั้นก็โวยวายกันพอสมควร เพราะนักการทูตต่างประเทศก็อ้างว่า ที่มีคณะทูตตั้งร้อยกว่าประเทศมาตั้งอยู่ในนิวยอร์กก็ไม่ได้ตั้งอยู่เปล่าๆ ทำรายได้ให้เมืองนิวยอร์กตั้งเยอะแยะ ตอนนั้นนักการทูตคิวบา ซึ่งไม่ถูกกับสหรัฐอยู่แล้ว ด่าเอาว่าสหรัฐนี่ช่างจุ้นจ้านจริง ตั้งตัวเป็นตำรวจโลกแล้วยังไม่พอใจ ยังจะตั้งตัวเป็นตำรวจจราจรโลกอีก ... กระทู้นี้หลุดนอกเรือนไทยไปหน่อยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นนทิรา
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 14 พ.ย. 00, 13:47
|
|
แล้วก็เคยได้ยินว่า คณะทูตประเทศต่างๆก็เลยได้รับใบสั่งจอดรถในที่ห้ามจอดกันระนาวเลยค่ะ แต่ก็ไม่จ่ายกัน จนเทศบาลนครนิวยอร์คโวยวายว่าอเมริกาน่ะ ให้เงินช่วยเหลือสหประชาชาติตั้งมากมาย คิดว่ามีการบอกว่าอเมริกาจะงดให้เงินช่วยเหลือจนกว่าคณะทูตจากนานาประเทศจะจ่ายเงินค่าปรับตามใบสั่งซะก่อน แต่ก็ไม่รู้เป็นไงมาไงเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ว่าสรุปแล้วเป็นยังไง
แต่นายกเทศมนตรีรูดี้นี่แกดีเรื่องปราบอาชญากรรมนะคะ นิวยอร์คนี่อาชญากรรมลดลงไปเยอะเลยตั้งแต่ได้แกมาเป็นนายกเทศมนตรี อาจจะเป็นผลพลอยได้มาจากการที่เศรษฐกิจในอเมริกาดีมากๆด้วยก็ได้ อย่างแถวๆย่านไทม์สแควร์เนี่ย ดูดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 14 พ.ย. 00, 14:03
|
|
ผมมองต่างไปว่า ฮิลลารี่เธอไม่ได้ดีหรือว่าให้อภัยสามีเธอในเรื่องนั้นหรอกครับ เธอไม่หย่ากับสามีเพียงเพราะว่า เธอไม่ต้องการสูญเสียตำแหน่ง First Lady มากกว่า แล้วก็ไม่อยากให้สามีต้องเสียชื่อ รวมทั้งเธอจะได้ไม่เสียอนาคตทางการเมืองด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33421
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 14 พ.ย. 00, 17:33
|
|
ความคิดคุณพระนายน่าคิด
ถ้าดิฉันเป็นชาวนิวยอร์ก ป่านนี้เลือกคุณฮิลลารีไปแล้ว คือคะแนนสงสาร + คะแนนนิยม + เห็นใจผู้หญิงด้วยกัน ที่เจอคนอย่างคลินตัน บวกเชื่อมั่นในภูมิรู้ของเธอ ที่จริงเธออาจจะบวกลบคูณหารถอดแควร์รู้ทไว้ดี ว่าควรเล่นบทไหนในจังหวะไหนถึงจะดีกับตัวเอง แต่เหตุผลไหนก็ตาม ก็ถือว่าผู้หญิงคนนี้ฉลาดจัง สุขุมดีด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 21 พ.ย. 00, 00:50
|
|
ตกลงพ่อพุ่มหรือพ่อขวิดชนะครับ? ผมกำลังรอฟังศาลสูงรัฐฟลอริด้า แต่ก็อ่อนใจเต็มที เรื่องอเมริกาไม่ยอมจ่ายค่าบำรุงสหประชาชาติที่ค้างอยู่ เป็นปัญหามีมาก่อนสมัยนายกเทศมนตรีรูดี้ของนิวยอร์ก และคงจะเป็นปัญหาต่อไปแม้ว่านิวยอร์กจะเปลี่ยนนายกเทศมนตรีแล้ว เพราะเป็นเรื่องระดับคองเกรสครับ ไม่ใช่เพียงระดับรัฐนิวยอร์กหรือระดับนคร ตอนนั้นเทศบาลนิวยอร์กคงจะพูดเล่นๆ หาพวกมากกว่า เพราะว่ากันตามรัฐธรรมนูญสหรัฐแล้ว นโยบายต่างประเทศไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของนครนิวยอร์ก แต่เป็นเรื่องระดับรัฐบาลกลาง เรื่องนี้คองเกรสดื้อครับ เผอิญเป็นคองเกรสของอภิมหาอำนาจก็เลยดื้อได้ ชักดาบได้ ถ้าเป็นคนธรรมดาก็ติดคุกไปแล้ว (ยกเว้นพวก NPL ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ที่เมืองไทย ซึ่งอาจจะเลียนแบบพฤติกรรมของสภาสหรัฐก็ได้...)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คนมาเยี่ยม
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 21 พ.ย. 00, 01:13
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 19 มี.ค. 03, 15:56
|
|
เวลาผ่านไปสองปี
ผมขอมากลับมติตัวเองครับ พ่อขวิดคือท่านอัล กอร์ น่ารักกว่าเยอะ ในขณะที่พ่อพุ่ม ประธานาธิบดีอเมริกัน (หรือผมควรจะเรียกว่าสมเด็จพระเจ้าบรมมหาจักรพรรดิบุชที่ 2 ท่านผู้นำสูงสุดแห่งอเมริกา ดี?) สวมวิญญาณพ่อขวิด ขวิดดะเกะกะเป็นควายเขาเกไปแล้ว หายน่ารักไปมาก
อีกสิบกว่าชั่วโมงมีสิทธิที่โลกจะเข้าสู่สงครามเพราะนโยบายท่านพุ่ม ขอให้โลกผ่านพ้นวิกฤตคราวนี้ไปด้วยดีด้วยเถิด
เมื่อคืนดูข่าว เห็นรองประธานาธิบดีอิรักออกมาให้สัมภาษณ์ว่า อิรักทุกคนพร้อมสู้ตาย ถ้าอเมริกาบุก แล้วก็ว่า ประชาชนคนอเมริกันก็ฉลาดๆ กันออก ทำไมถึงยอมอยู่ภายใต้การนำของผู้นำที่งี่เง่าเสียจนกระทั่งไม่รู้ว่าสเปนนั้นเป็นสาธารณรัฐมีประธานาบดี หรือว่ามีการปกครองแบบกษัตริย์กันแน่
ทั้งนี้เพราะเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่าน พ่อพุ่มไปประชุมสุดยอดกับนายกอังกฤษ นายกสเปน นายกอิตาลีที่เกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งทะเลยุโรป เป็นกลุ่มพันธมิตรที่จะถล่มอิรักด้วยดัน แต่ข่าวทีวีอเมริกันบางช่องบอกว่า ปธน. บุช ไปพบกับ "ประธานาธิบดี" สเปน ... ผมได้ฟังก็ตกใจ ไม่ยักรู้ว่าเขาถอดถอดสมเด็จพระเจ้าฮวนคาร์ลอสแห่งสเปนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นจะถอดพร้อมๆ กับการตั้งท่านบุชเป็นสมเด็จพระบรมอภิมหาจักรพรรดิราช จอร์จบุชเดอะเซกันด์ กระมัง แปลว่านอกจากทีวีจะผิดแล้ว สงสัยท่านบุชเองจะปล่อยไก่ด้วย และแปลว่านอกจากผมจะเห็นแล้ว ผู้นำอิรักที่ดูทีวีก็คงเห็นความเปิ่นของท่านบุชด้วยเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33421
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 20 มี.ค. 03, 08:21
|
|
ถ้าเลือกเกิดเป็นพลเมืองได้ 2 ประเทศคู่สงคราม คุณนกข.จะอยู่ประเทศไหนล่ะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
     
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 20 มี.ค. 03, 17:00
|
|
คำถามของคุณเทาชมพู น่าคิดครับ ผมคิดว่าผมอาจเลี่ยงตอบคำถามนี้ได้โดยบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ การตั้งสมมติฐาน "ถ้าหากว่า"... ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะคนเราไม่มีทางเลือกเกิดได้ ดังนั้น ผมขอไม่ตอบปัญหาที่เป็น hypothetical question
แต่จะเลี่ยงยังงั้นผมว่าก็จะง่ายไป
สมมติว่าเลือกเกิดได้ก่อน ถ้าสมมติว่าเลือกเกิดได้จริงๆ ผมก็จะเลือกเกิดเป็นคนไทยครับ ก่อนเลือกเป็นคนอเมริกันหรือเป็นอิรักกี้
แต่โจทย์ระบุให้เลือกระหว่างสองชาติเท่านั้น คือต้องเลือกไม่เป็นอเมริกันก็เป็นอิรักกี้ ตามโจทย์นี้ ขอตอบอย่างจริงใจจริงๆ แต่เห็นจะต้องอธิบายยาวหน่อยว่า แม้ผมจะไม่ชอบนโยบายของรัฐบาลอเมริกันเลย แต่สมมติผมต้องเลือกในระหว่าง 2 ชาตินี้เท่านั้น ผมก็คงเลือกไปเป็นอเมริกันครับ ฟังเหมือนขัดกันเองไหม?
ผมไม่มีเหตุโกรธเคืองกับประชาชนและระบบของอเมริกัน แต่ผมทนนโยบายรัฐบาลอเมริกันชุดนี้ในเรื่องนี้ไม่ได้เท่านั้น และผมแยกรัฐบาลกับประชาชน ถ้าผมได้เป็นอเมริกันจริง ในระบบที่เขาเป็นอยู่ ผมจะสามารถเป็นคนหนึ่งที่จะกาเลือกท่านกอร์ แทนท่านบุช ในระบอบประชาธิปไตยของอเมริกา ผมสามารถร่วมเดินขบวนประท้วงสงคราม ทำจดหมายถึงสมาชิกสภาเขตของผม เขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ แม้กระทั่งสามารถเลือกที่จะไปเป็นอาสาสมัครสันติภาพแม้แต่ในเขตยึดครองที่อิสราเอลยึดจากปาเลสไตน์ก็เลือกไปได้ (เร็วๆ นี้นักเคลื่อนไหวชาวอเมริกันเพื่อสันติภาพคนหนึ่งก็เพิ่งลูกหลงจากทหารอิสราเอลจนถึงตาย ขณะประท้วงการที่อิสราเอลรื้อถอนบ้านของชาวปาเลสไตน์)
ถ้าผมจะเห็นแก่ตัวหน่อย ผมยังคิดได้ต่อด้วยว่า ในกรอบสังคมอเมริกันผมจะได้รับการดูแลดีกว่าในกรอบสังคมอิรัก ผมจะมีชีวิตที่ดีกว่ากรณีผมเลือกเป็นคนอิรัก
แต่การที่ผมเลือกเป็นอเมริกันและยอมรับว่าสังคมอเมริกันเปิดกว่าสังคมอิรัก ก็ยังไม่ได้ให้สิทธิรัฐบาลอเมริกาในการละเมิดกฏบัตรสหประชาชาติโดยการรุกรานอิรักด้วยกำลังทหารอยู่ดี อาจจะมีการเถียงว่า ประชาชนอิรักก็ควรมีสิทธิที่จะได้สิ่งดีๆ ในชีวิตที่อเมริกันได้อยู่ และกองทัพอเมริกากำลังจะเอาเข้าไปให้ โดยเข้าไป "ปลดปล่อย" อิรักจากเผด็จการ อันนี้เป็นคคำพูดของท่านบุชทำนองนี้ ไม่รู้สิครับ ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะผมว่ามันหมิ่นเหม่ต่อการตีความ และถ้าเรายอมรับให้เป็นกรณีตัวอย่างได้แล้ว ประเทศมุสลิมก็มีสิทธิบุกประเทศคริสเตียนได้ ประเทศผู้เลี้ยงหมูก็มีสิทธิรวมกำลังไปบุกประเทศมุสลิมตอบ ประเทศผู้ค้ากัญชาก็สามารถบุกประเทศที่ไม่เสพกัญชา แม้กระทั่งประเทศไทยก็มีสิทธิบุกประเทศอื่นที่ไม่ใช้ภาษาไทย เพื่อเอา "สิ่งดีๆ" ที่อีกสังคมยังไม่มีไป (ยัดเยียดบังคับ) ให้ จะด้วยการฆ่าฟันกันนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร? มันไม่บ้าไปหน่อยเหรอครับ
จากการที่ผมเห็นการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเศรษฐกิจการตลาดในเมืองจีน ผมยังเห็นอยู่ดีว่า มีวิถีทางอื่นที่จะเปลี่ยนสังคมได้โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้าบุก และว่าที่จริงผมไม่เชื่อการอ้างเหตุผลหรือข้ออ้างของรัฐบาลท่านบุช ผมว่ามันมีอะไรแฝงอยู่ดี
รอดูกันต่อไปครับ
ปล. อเมริกันลืมอาฟกานิสถานหรือยัง? หลังจากบุกเขาแล้ว เอาละ ผมยอมรับว่า ช่วยเขาโค่นรัฐบาลตาลีบันไปได้ แล้วไงต่อ? ได้ช่วยเหลือเขาต่อให้เขาได้สิ่งดีๆ ในชีวิตตามสัญญาก่อนสงครามแค่ไหน? หรือว่าได้ของเล่นใหม่ก็ลืมของเล่นเก่าเสียแล้ว?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|