It Never Rains in Southern California

[เทาชมพู]

cellspacing="0" cellpadding="0" width="100%">

It never rains in Southern California Seems I've often heard that kind of talk before It never rains in California, but girl, don't they warn ya It pours, man, it pours /> โปรยหัวข้อเป็นการเกริ่นก่อนจะมาต่อในวันพรุ่งนี้   ว่า /> ดิฉันตั้งใจจะมาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่คาลิฟอร์เนียใต้ /> ก็ดิสนีย์แลนด์ ลอสแองเจลิสนั่นเองค่ะ /> ผลคือเจอพายุฝนเข้าเต็มรัก    พระพิรุณทรงเปิดฝักบัว กระหน่ำลงมา /> ตั้งแต่สายไปจนกระทั่งค่ำก็ยังไม่หยุด เลยได้แจ๊กพ็อท   เดินเที่ยวดิสนีย์แลนด์กลางสายฝน src="rtimages/RW2264x0.jpg">

[เทาชมพู]

ตื่นแต่เช้า ขับรถจาก Ontario ไปดิสนีย์แลนด์  ให้ทัน ๘ โมงกว่าๆ เพื่อจะได้เข้าเที่ยวได้นานๆทั้งวัน เห็นท้องฟ้ามีเมฆมาก  ก็..เออ ดี  แดดไม่ร้อน แต่เพื่อความไม่ประมาท เตรียมเสื้อสกีโค้ทตัวสั้นไปด้วย เผื่อตกค่ำได้ไม่หนาว กะว่าจะ count down เสียที่ดิสนีย์แลนด์  เขาคงมีแสงสีขบวนแห่กันเอิกเกริก ปรากฏว่าพอก้าวเท้าผ่านเข้า Main Street USA ถนนสายแรกของสวนสนุกแห่งนี้ พระพิรุณที่คอยทีอยู่ก็เปิดฝักบัวโปรยละอองน้ำลงมาต้อนรับทันควัน ก็ยังมือไว ถ่ายต้นคริสต์มาสมาให้ชมกันค่ะ ส่วนผู้คนที่วิ่งตัวปลิวหลบฝน ถือเป็นของแถมในภาพ

[เทาชมพู]

เอาภาพมาให้ชมกันพลางๆก่อน   ถ้าดูมัวซัวไปบ้างก็ขออภัย  มือใหม่หัดถ่าย อีกอย่างฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจให้ภาพใสกว่านี้  ขนาดปรับแสงสุดแรงเกิดแล้วค่ะ ภาพแรกเป็นละแวกบ้านของเพื่อนที่ Ontario   เดินเล่นอยู่หน้าบ้านเขา  ก็เลยถ่ายรูปบ้านใกล้เรือนเคียงมาให้ดู เพื่อให้เห็นว่าบ้านช่องแถวนั้นหน้าตาเป็นยังไง บ้านแบบนี้ไม่มีในเมืองที่ดิฉันเคยเรียนอยู่

[เทาชมพู]

ดิสนีย์แลนด์ส่วนนี้เรียกว่า Main Street USA เป็นถนนทอดจากปากประตูของดิสนีย์แลนด์ พุ่งตรงเข้าไปสู่ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา   ซ้ายขวาแยกออกเป็นดินแดนส่วนต่างๆ  เช่น Tomorrow Land , Frontier Land, Adventure Land ดินแดนทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน Park 1  ซึ่งเป็นส่วนดั้งเดิมของดิสนีย์แลนด์ ส่วนใหม่เรียกว่า Park 2 เป็นที่รวมอะไรต่อมิอะไรแบบนี้เหมือนกัน   สร้างขึ้นภายหลัง แม้ว่าฝนโปรยลงมาไม่มีท่าทีว่าหยุด    ผู้คนก็ยังแห่กันไปไม่ย่อท้อ .

[เทาชมพู]

ร้านเล็กๆหน้าตาโบราณน่ารักแบบนี้เรียงรายอยู่สองข้าง Main Street USA  
ล้วนเป็นร้านขายของที่ระลึก   ซึ่งโกยเงินจากนักท่องเที่ยวอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
แวะเข้าไปแล้วกระเป๋าฉีกกันเป็นแถว เมื่อกลับออกมา

[เทาชมพู]

ไม่ว่าจะไปดิสนีย์แลนด์ในวันไหนเวลาไหน  เป็นต้องเจอผู้คนล้นหลาม  เต็มแน่นหมดทุกถนน ราวกับเปิดให้เข้าชมฟรี ร้านต่างๆ ทั้งร้านขายของและร้านอาหารก็อัดแน่นไปด้วยลูกค้า เหมือนแจกของฟรี ทั้งที่สินค้าของดิสนีย์ราคาแพงเอาการเมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ เพราะมันบวกค่าดีไซน์เข้าไปด้วย กระท่อมหลังนี้ถ้าจำไม่ผิด (เพราะถ่ายมั่วมาก) เป็นร้านขายของที่ระลึกค่ะ

[เนยสด]

 กระทู้อิงเพลงอีกแล้ว ชอบมากๆ ครับ
ขอบคุณครับ ที่เล่าเรื่องดีๆ ให้ฟัง
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ

(ไหนว่า Never Rain ไงครับ     )

[เทาชมพู]

สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันค่ะ  คุณเนยสด ฝนไม่ "ตก" ค่ะ แต่" กระหน่ำ" It pours. ดิสนีย์แลนด์กำลังฉลองวันเกิดครบรอบ ๕๐ ปีในปี ๒๐๐๕ ที่เพิ่งผ่านไป เลยเอารูปในอดีต สมัยกำลังก่อสร้างมาให้ชมกัน อาคารที่เห็นคือ Main Street USA

[เทาชมพู]

ไปคราวนี้เห็นดิสนีย์แลนด์ทาสีสันใหม่สวยสดใส  ต้อนรับครบรอบ ๕๐ ปี   ไม่ว่าเดินไปตรงไหน    เห็นสีสันฉาบทาอย่างประณีต แม้แต่ในส่วนเล็กๆน้อยๆอย่างขอบรั้ว เป็นสีอ่อน สว่างตา  ถ่ายรูปแล้วจะขึ้นมาก เลยไปค้นรูปปราสาทเจ้าหญิงนิทรามาให้ดูกันค่ะ ทาสีใหม่เอี่ยมอ่อง

[เทาชมพู]

นอกจากทาสีใหม่  ขลิบทอง แล้วก็ยังประดับประดาอาภรณ์ แถมให้ด้วย อย่างที่เจ้ากระรอกน้อย กับพลอยสีสวยเม็ดนี้ เป็นของตกแต่ง เพิ่มเติมขึ้นมาในปราสาทเจ้าหญิงนิทรา

[เทาชมพู]

เมื่อลอดประตูทางเข้าปราสาทเจ้าหญิงนิทราเข้าไป ด้านหลังเป็นแบบนี้ค่ะ เราจะรู้สึกเหมือนเข้ามาในเมืองเทพนิยายเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง

[เทาชมพู]

ปราสาทเมื่อแรกสร้าง  ในค.ศ. 1954-55 บนที่ดินนอกเมือง ซึ่งเคยเป็นสวนส้ม ที่ดินราคาถูก    เป็นบ้านนอกที่เงียบเหงา ไร้ผู้คนสนใจไยดี

[ติบอ]

 แวะเอาเพลงมาฝากครับ อาจจะไม่ดูเป็น Disney แบบเด็กๆ เหมือนในความคิดของหลายๆคนซักเท่าไหร่ แต่ที่อยากโพสต์เพลงนี้เพราะจำได้ว่าคุยเรื่องเพลงกับอาจารย์เทาฯ เพลงแรกเป็นของนักร้องคนนี้ครับ เลยขอเอาเพลงของเธอมาแปะไว้หน่อยนะครับ


ก็ Disney เหมือนกันน่านะ ถ้าไม่ฟังก็ไม่ต้องไปโหลดครับ


 http://www.savefile.com/files/5439438
Disney Medley - Barbra Streisand ครับ

[เทาชมพู]

โหลดเพลงคุณป้าบาร์บราเปิดอยู่ค่ะ  ขณะตอบคุณติบอ ขอบคุณมากที่เรียกความทรงจำเก่าๆกลับมา อยากคุยถึงดิสนีย์ เมื่อเดินอยู่ในดิสนีย์แลนด์เมื่อวานนี้ค่ะ อาจจะไม่ใช่เรื่องสนุกเฮฮานัก    แต่จะเอาภาพเข้ามาแทรกบ้าง  ลดบรรยากาศจริงจัง ตอนที่เราเดินจากลานจอดรถ มานั่งรถ tram ที่ขนนักท่องเที่ยวจากลานจอดไปถึงหน้าประตูทางเข้า    ดิฉันก็ลองคำนวณดูตามประสาคนไม่เอาไหนเรื่องตัวเลข ว่ารายได้ของเขาวันๆ ไม่ต่ำกว่าเท่าไร สมมุติว่าคนเที่ยว ประมาณ ๒๐,๐๐๐ คนต่อวัน  คนหนึ่งจ่ายค่าบัตร + ค่าอาหาร+ค่าซื้อของเล่น  ตีเสียว่า $ ๑๐๐.๐๐ ต่อคนอย่างต่ำ ดิสนีย์แลนด์ได้ไปแล้ว วันละ ๒ ล้านดอลล่าร์ อย่างน้อยนะคะ ปีหนึ่งได้เท่าไหร่   รวมวันพิเศษที่ผู้คนหนาแน่นยิ่งกว่านี่อีกไม่รู้กี่วัน หักภาษี หักค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมแซมทะนุบำรุง ทั้งหมด  ก็ยังเป็นอุตสาหกรรมทำเงินระดับต้นๆของประเทศ ไม่รวมสินค้ายี่ห้อดิสนีย์ที่ส่งขายทั่วโลก   โทรทัศน์ช่องดิสนีย์  วิทยุของดิสนีย์  โรงถ่ายหนังอีกล่ะ...การ์ตูนและไม่ใช่การ์ตูน ยังมี Disney College ผลิตบัณฑิตมาทำงานให้บริษัทดิสนีย์ และดินแดนหรรษาที่เปิดขึ้นในประเทศอื่นๆอีกทั้งยุโรปและเอเชีย เป็นรายได้มหึมา  สร้างงานให้คนในหลายร้อยอาชีพ หลายร้อยล้านคนทั่วโลก ทั้งหมดนี้มีจุดกำเนิดมาจากการใช้สมองและฝีมือของผู้ชาย ๑ คน และแรงบันดาลใจจากเจ้าหนูที่ไม่มีตัวตนจริงอีก ๑ ตัว

[เทาชมพู]

วอลท์ ดิสนีย์ในวัยหนุ่ม เมื่อค่อนทศวรรษก่อน ก็ไม่ต่างอะไรกับหนุ่มอเมริกันธรรมดาๆ ที่ต้องดิ้นรนสร้างตัวเอง  มีสมองและสองมือเป็นทุนเดิมติดตัวมา  ไม่มีมรดกเจ้าคุณปู่ เขาเคยเป็นแรงงานเล็กๆ  ทำงานให้นายทุน มีฝีมือวาดเขียนติดตัวอยู่  ผลิตการ์ตูนตัวแรกออกมา ทำท่าจะรุ่ง แต่ก็ถูกนายเบรค และสูญเสียผลงานให้นายทุนเจ้าของบริษัท  ด้วยความเสียเปรียบด้านกฎหมาย เคยเล่าไว้แล้วในกระทู้ การ์ตูน แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ  คิดตัวการ์ตูนใหม่ขึ้นมาจนได้ คือเจ้าหนูแขนขาผอมเก้งก้าง ชื่อมิคกี้ เม้าส์ จะเรียกว่าเป็นหนูคู่บารมีของวอลท์ ดิสนีย์ก็คงไม่ผิด   เพราะมันกลายเป็นหนูที่ส่งชื่อเสียงของเขาให้ขึ้นถึงระดับโลก ความที่เราคุ้นเคยกับมิคกี้มาก  จนบางครั้งก็อาจจะลืมไปว่า มันไม่เคยมีตัวจริง  เป็นเพียงลายเส้นและภาพเคลื่อนไหวบนจอ