เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 8754 กางเกงใน
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
อสุรผัด
*
ตอบ: 14

studying


เว็บไซต์
 เมื่อ 13 ธ.ค. 05, 20:49

ถ้าลองมานึก ๆ ดูว่า  ทำไมต้องตั้งชื่อเจ้า  “สิ่งนี้”  ว่า  “กางเกงใน” ด้วย  ตามความคิดของข้าพเจ้า   กางเกงใน  ก็คือ  กางเกงที่อยู่ข้างใน   แล้วทำไมเราเรียก “บอกเซอร์”  ว่า  บอกเซอร์  ทำไมไม่เรียกว่า  กางเกงใน  แล้วทำไมไม่เรียก กางเกงธรรมดาว่า  “กางเกงนอก”  อันนี้ไม่อาจทราบได้  ลองไปเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  พ.ศ.   ๒๕๔๒  ไม่พบคำว่า  กางเกงใน  คำที่พบก็คือ  กางเกง  เฉย ๆ ครับ  ท่านให้ความหมายว่าดังนี้  

           กางเกง  น.  เครื่องนุ่งมี  2  ขา      ให้ความหมายไว้แค่นี้ครับ  ดังนั้นถ้าอะไรที่ไม่ใช่เครื่องนุ่ง  ก็ไม่ใช่กางเกง  และอะไรที่เป็นเครื่องนุ่งแต่ไม่มี  2  ขา  ก็ไม่ใช่กางเกง  อีกเช่นกัน                


เมื่อสมัยโบราณนั้นคาดว่าคงยังไม่มีกางเกงใน   ( หรือมีก็ไม่ทราบ  แต่ทึกทักเอาว่า  ไม่มีก็แล้วกัน )  และกางเกงก็ไม่ค่อยได้ใส่กัน  นอกจากว่าเวลาต้องออกจากบ้านไปธุระสำคัญ  ไปราชการงานเมือง  หรือไปรบทัพจับศึกเท่านั้น  แล้วเวลาอยู่กับบ้ายเฉย ๆ เขาแต่งตัวกันอย่างไร  ก็   ( สันนิษฐานอีกครั้งครับว่า ) คงนุ่งผ้าขาวม้า  หรือไม่ก็นุ่งโสร่งธรรมดา ๆ นั่นกระมัง  

           กลับมาที่คำว่า  “กางเกงใน” กันอีกครั้งหนึ่ง  คำว่า กางเกงในนั้นเป็นภาษาที่ค่อนข้างเป็นทางการ  ( แม้ไม่มีในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต ฯ  ข้าพเจ้าไม่ได้ค้นพจนานุกรมเล่มอื่น )   ถ้าภาษาชาวบ้านร้านตลาดทั่ว ๆ ไปเขาก็เรียกว่า  “กางเกงลิง”  แล้วทำไมต้องเรียกว่า กางเกงลิง  มันเหมือนกางเกงที่ลิงใส่หรืออย่างไร ?  อันนี้ก็ไม่ทราบ ( ขี้เกียจค้นข้อมูล )  ภาษาอีสานนั้นเขาเรียก  กางเกงใน  ว่า  “ซ่งสลิด” หรือ “ส่งสลิ้ด”  ตามแต่สำเนียงของแต่ละท้องถิ่น  ( ภาษาอีสานแต่ละพื้นที่จะสำเนียงไม่เหมือนกัน )  คำว่า  ซ่ง  หรือ ส่ง  แปลว่า  กางเกง  ส่วนคำว่า  สลิด  นั้น  แปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ  (  แต่ถ้าเป็นภาษาเหนือ  สลิด  แปลว่า  ออกแนวแรด ๆ แก่แดดแก่ลม  หรือ  ออกนอกลู่นอกทาง  ทำนองนั้น  )   และคำว่า  ซ่งสลิด นี้  จะใช้เรียกกางเกงในผู้หญิงเท่านั้น  กางเกงในผู้ชาย  ไม่ค่อยจะเรียกว่า  ซ่งสลิด  แต่จะเรียกว่า  “ซ่งใน”  และคำว่า  ซ่งใน  ก็ใช้เรียกกางเกงในผู้หญิงด้วยเหมือนกัน        รวมความก็คือว่า  

ซ่งใน  ใช้เรียกทั้งกางเกงในผู้ชายและกางเกงในผู้หญิง  

ซ่งสลิด  ใช้เรียกเฉพาะกางเกงในผู้หญิง  ( แต่บางทีก็อาจใช้เรียกกางเกงในผู้ชายด้วยก็ได้  แล้วแต่  คนจะเรียกครับ )

คำว่า  “สลิด”  นี้  เสียงมันเกิดไปพ้องกับคำว่า  สฤษฏ์  เข้า (หรือ สฤษดิ์ ก็ได้ ถูกทั้งสองคำ)  ดังนั้นหากถือเอาเสียงเป็นเกณฑ์  “ซ่งสลิด”  ก็อาจแปลได้ว่า  กางเกงของคนชื่อสฤษฏ์   กางเกงของของคนชื่อสฤษฏ์  ก็ตีความไปได้อีกว่า  คนชื่อสฤษฏ์  ( ซึ่งเป็นผู้ชายแน่นอน  คงไม่มีแม่คนไหน “สลิด” ตั้งชื่อลูกสาวตัวเองว่า “สฤษฏ์” ดอกกระมัง )  เป็นคนประดิษฐ์คิดค้น กางเกงชนิดนี้ขึ้นมา-ประเด็นที่หนึ่ง  ( ตามธรรมเนียมฝรั่งเราก็ต้องให้เกียรติ คนค้นพบหรือคนประดิษฐ์ขึ้นคนแรกโดยการตั้งชื่อสิ่งนั้นด้วยชื่อของเขา )   หรือคนชื่อสฤษฏ์ เป็นคนนำกางเกงชนิดเข้ามาสู่ดินแดนที่ราบสูง  ที่เรียกว่า  ภาคอีสาน –ประเด็นที่สอง  หรือ  กางเกงชนิดนี้  คนชื่อสฤษฏ์ชอบใส่เป็นประจำ  จนชาวบ้านรู้สึกชินตา  ก็เลย ให้สมญาไปเลยว่า  ซ่งสลิด  ( คือกางเกงของคนชื่อสฤษฏ์ ) –ประเด็นที่สาม  

ประเด็นที่หนึ่งกับสามนั้นตัดไปได้  เพราะสำหรับประเด็นที่หนึ่งนั้น  คนชื่อสฤษฏ์  คงไม่ใช่คนประดิษฐ์คิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมาแน่นอน  ส่วนประเด็นที่สาม  ก็คงเป็นไปไม่ได้  เพราะว่า  คนชื่อสฤษฏ์คงไม่ถึงขนาดกับเป็นพวกชอบโชว์กางเกงใน ( เพราะไม่ใช่ซุปเปอร์แมน )  ส่วนประเด็นที่สองนั้น  น่าคิดอยู่เหมือนกัน  น่าคิดอย่างไร  ท่านทั้งหลายก็ไปคิดเอาเองก็แล้วกันนะครับ

ภาษาเหนือหรือคำเมือง นั้น  เขาเรียกกางเกงในว่า  เตี่ยวใน  หรือเตวใน  ( อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสำเนียงแต่ละท้องถิ่นอีกเช่นกัน )  คำว่าเตี่ยวหรือเตว  ก็แปลว่า  กางเกง  สันนิษฐานว่า  คำว่าเตี่ยวนี้น่าจะมาจากคำว่า  ผ้าเตี่ยว  คำว่าผ้าเตี่ยว  หรือนุ่งเตี่ยว หมายถึงการนุ่งผ้าขาวม้าแล้วเอาชายผ้าไปเหน็บไว้ด้านหลัง  ( คล้าย ๆ นุ่งโจงกระเบน )  

กลับไปที่เนื้อความต้น ๆ ที่บอกว่า คนสมัยโบราณอยู่บ้านก็จะนุ่งผ้าขาวม้าหรือโสร่ง  ก็น่าจะเป็นความจริงดังนี้

สังเกตได้ว่า  ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยกลาง  ภาษาอีสานหรือภาษาเหนือ  ล้วนแล้วแต่นำคำว่า  “ใน”  ไปต่อท้ายคำว่ากางเกงด้วยกันทั้งสิ้น  ( แถมยังไม่มีในพจนานุกรมอีกต่างหาก)   ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างคำขึ้นมาใหม่  คำที่สร้างขึ้นมาใหม่ก็เพื่อรองรับกับวัฒนธรรมใหม่ ๆ  หรือสิ่งใหม่ ๆ ดังนั้นข้อความข้างต้น  ที่ว่า  เมื่อสมัยโบราณนั้นคาดว่าคงยังไม่มีกางเกงใน  ก็น่าจะเป็นจริง


ความสำคัญของกางเกงใน

ผู้คนสมัยก่อน  ( รุ่นคุณปู่คุณย่า ) อาจจะไม่คุ้ยกับการใส่กางเกงในนัก  และเนื่องจากเป็นสิ่งใหม่  ใส่แล้วทำให้รู้สึกรำคาญ  เด็ก ๆ สมัยก่อนก็มักจะไม่ได้ใส่กางเกงในเช่นกัน  เนื่องจาก  ผู้ปกครองเห็นว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็นในชีวิตก็ปล่อยให้วิ่งแก้ผ้าตาแดง ๆ กันไปตามประสา  พอเริ่มโตขึ้น  เข้าโรงเรียน  จึงค่อยได้ใส่กางเกงใน
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 13 ธ.ค. 05, 22:57

 คุณเจ้าของกระทู้ครับ หาความหายของคำว่า "สลิด" ของคุณอีกซักนิดก่อนจะดีกว่ามั้ยครับ ว่ามันเกี่ยวกับที่คำสุภาพต้องบัญญัติคำว่า "ดอกขจร" หรือ "ปลาใบไม้" ขึ้นใช้แทนคำว่า "ดอกสลิด" "ปลาสลิด" หรือเปล่านะครับ

อย่างน้อยผมว่าตัวสะกดมันถูกแล้วล่ะ ไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไร เพศก็ถูกทุกประการ ความหมายก็แปลได้ตรงตัวดีด้วยว่ากางเกงในนะครับ



แล้วก็ถ้าได้ค้นคว้าเพิ่มเติมตรงนี้ผมก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ เพราะที่ออกมาบอกให้ค้นคว้าเพิ่มเติมก็เพื่อตัวคุณเองครับ
บันทึกการเข้า
Hotacunus
องคต
*****
ตอบ: 613


AD FRANCIAM


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 01:14

 "ซ่งสลิด" ไม่เคยได้ยินเลยครับ คงเป็นเพราะเป็นภาษาถิ่น

คำว่า "ซ่งสลิด" ไม่ทราบว่า เป็นคำของทางอีสานเหนือ หรือ ใต้ครับ ผมคิดว่า ถ้ามีเวลา คุณทิวฟ้าลองไปค้นคำลาวดูว่าเรียกว่าอะไร หรือ คำเขมรเรียกว่าอะไร

ส่วนตัวนะครับ ผมสงสัยว่า "สลิด" จะมาจากคำเขมรหรือเปล่า ผู้รู้ภาษาเขมรช่วยด้วยครับ    
บันทึกการเข้า
Dominio
ชมพูพาน
***
ตอบ: 128

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 06:48

 ใกล้ปีใหม่แล้ว  หาทอปปิคที่ฟังแล้วรื่นรมย์หน่อยเถิด คุณจะเล่ากางเกงในก็ไปเล่าในบอร์ดของคุณ
ใครอยากฟังก็ตามไปฟังเองแหละ อุตส่าห์มาตกลูกค้าถึงที่นี่ก็ขอให้ศิริมงคลหูหน่อย
พึ่งเจอตัวป่วนมา ยังมาเจอหยาบๆโลนๆอีก ไม่มีอารมณ์ขำ
บันทึกการเข้า
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
อสุรผัด
*
ตอบ: 14

studying


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 11:56

 ขออภัยนะครับ  ถ้ามันฟังดูไม่รื่นหูหรือหยาบโลน  อย่างที่  คุณ  Dominio ว่า  
เรื่องกางเกงในสำหรับผมถือว่านี้เป็นเรื่อง ปกติ  และอีกอย่าง  บทความนี้ เป็นไปเพื่อการศึกษา  และศิลปวัฒนธรรม  คำว่า  วัฒนธรรมคืออะไร  ในทัศนะส่วนตัว  วัฒนธรรมก็คือ  สิ่งที่มันเป็นไปอยู่อย่างที่เป็นทุกวันนี้  บางคนอาจจะบอกว่า คำว่า  วัฒน  ตามพจนานุกรม  หมายถึงอะไรก็แล้วแต่  แต่วัฒนธรรมนั่นไม่ได้ความอย่างที่ว่า  พอฝรั่งมังค่ามาก็แสดงระบำรำฟ้อนให้ดู  เอานั่นเอานี่มาให้ใส่  หรืออะไรทำนองนั้น  วิถีชีวิตในปัจจุบันต่างหากคือวัฒนธรรม    ในเมื่อวิถีชีวิตในปัจจุบัน  มันเป็นเช่นนี้
เราพูดถึงเรื่องธรรมดาสามัญทั่วไป  ใครจะกระแดะตอแหลทำเป็นผู้รากมากดี  มีสกุลรุนชาติ  รับไม่ได้ก็แล้วแต่  แต่นี่คือความจริง  คือความเป็นไปในสังคม แม้มันไม่ได้ขยายเป็นวงกว้าง  แต่เกล้ากระผม  ก็อยากจะเสนอในสิ่งที่อยู่ซอกหลืบบ้าง ไม่ใช่หลงไปว่า  ประเทศไทยนี้ศิวิไลซ์หาใดจะปาน  ในน้ำมีปลาในนามีต่ข้าวก็แล้วแต่  ( ในความคิดผมในน้ำมีแต่ห่า ในนามีแต่หนี้มากกว่า -ขออถัยถ้าคำมันไม่สุภาพ )

การอยู่ในโลกมันต้องอยู่กับความเป็นจริงของโลกที่หมุนไปที่เป็นไป  ยอมรับในสิ่งที่มันเป็นจึงจะถูก  คุณอ่านยังไม่ทันจบแล้วด่วนตีค่านั้น  มิใช่วิสัยของผู้เป็นปราชญ์เขาทำกันหรอกนะครับ

อีอย่างเกล่ากระผมก็มิได้มาตกลูกค้าหรือลูกอะไรทั้งสิ้น  แค่นำความคิดมานำเสนอ  ก็เท่านั้น

ดูแต่ผิวเผินไม่มองในมุมลึกก็จะว่าหยาบโลน  เพราะวิสัย  นิสัย  ของตัวเองหยาบ  คนที่จะเข้าใจอะไรมันต้องมองอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้และมองหาประโยชน์  ตลอดจนสรุปออกมาว่า  ตกลงแล้วมันเป็นประโยชน์อย่างไร  ถ้าเกล้ากระผมคิดว่า  มันไม่มีประโยชน์ก็คงไม่นำเสนอออกมา  สิ่งที่คิดที่เขียนผ่านการกรั่นกรองมาแล้วทั้งสิ้น  ไม่ได้ซี้ซั้วมั่วไปเหมือนใครบางคน

ขอชี้แจงแต่เพียงเท่านี้ครับ

ขอบพระคุณมาก

อ้อ  !  ขอบคุณคุณติบอ และคุณ Hotacunus   มากครับ  ที่กรุณาช่วยชี้แนะ  ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ
ถ้าว่าง ๆ ก็จะค้นครับ  แต่ผมเป็นประเภทชอบเขียนที่มาจากสัญญาความจำมากกว่า
บันทึกการเข้า
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
อสุรผัด
*
ตอบ: 14

studying


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 12:03

 ปีใหม่หรือปีไหน  มันก็แค่วันหนึ่งผ่านไปเท่านั้นเอง   การจะหาความดีใส่ตัวมันหาได้ทุกลมหายใจครับ  ไม่ต้องไปหาตอนปีใหม่ดอก  ถ้ามัวแต่จะหาโอกาสนั้นโอกาสนี้  เกิดแล้วตายอีกกี่ทีกี่อสงไขยก็ตายเปล่า
โง่เง่าติดจมกับบ่วงทุกข์  บ่วงกิเลส บ่วงมาร เหมือนเดิมนั่นแหละ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 12:19

ก่อนอื่น
ดิฉันขอบอกคุณทิวฟ้าว่าดิฉันคลิกเข้าไปตามลิ้งค์
แล้วเจอไวรัสเข้าอย่างจังค่ะ
delete ก็ไม่ได้  move ก็ไม่ได้ ได้แต่ stop
ไม่รู้ว่ามันจะมีผลอย่างไรกับเครื่องของดิฉันบ้าง

ดิฉันจึงต้องลบลิ้งค์ทิ้งนะคะ   และลบข้อความที่ไม่เหมาะสมด้วย

ส่วนความเห็นของดิฉัน
คุณเล่าถึงกางเกงในในฐานะวัฒนธรรมการแต่งกายของไทยก็ได้  เห็นด้วย
มันมีประเด็นที่จะพูดถึงได้หลายข้อ

แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือนิทานใต้ร่มผ้าที่เล่าประกอบ   ไม่ว่าเรื่องเปลี่ยนหลอดไฟ หรือผู้หญิงบนต้นฝรั่ง
มันอาจจะขำขันสำหรับคุณ
แต่มันไม่ขันสำหรับดิฉัน   มันไม่น่าจะลงในเว็บวิชาการ

จะว่าไปมันก็ไม่เกี่ยวกับ "กางเกงใน" ในฐานะวัฒนธรรมการแต่งกายอย่างที่คุณอ้างบังหน้า
มันเป็นเรื่องของ " คนไม่นุ่งกางเกงใน"  ซึ่งเป็นตลกลามก  สุภาพชนไม่พึงเล่าในที่สาธารณะ
ยิ่งเล่าในเชิงเอาสรีระผู้หญิงมาเป็นเรื่องตลก ยิ่งทุเรศหนักขึ้น  

คุณจะด่าดิฉันหรือคุณ Dominio ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่ากระแดะทำเป็นผู้ลากมากดีหรืออะไรก็ตาม   ก็ไม่ทำให้สิ่งที่คุณเล่ากลายเป็นเรื่องถูกต้องดีงามขึ้นมาได้
คุณก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว  น่าจะเรียนรู้กาละเทศะและมารยาทในการแสดงออกต่อชุมชนมากกว่านี้

บันทึกการเข้า
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
อสุรผัด
*
ตอบ: 14

studying


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 16:43

 ครับ  ขอบพระคุณมากครับ  
เรื่องไวรัสนี่ไม่ทราบจริง ๆ ครับ  ไม่ได้มีเจตนานำมาจริง ๆ
และต้องขออภัย ไว้ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

รวมทั้งเรื่องบางเรื่องที่ตัวเองคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ขออภัยจริง ๆ

เอาไว้วันหน้าคงได้เห็นเป็นวิชาการที่ไม่เจือด้วยข้อความที่คิดว่าไร้สาระมากกว่านี้ครับ  ยิ้มกว้างๆ


จากใจ
บันทึกการเข้า
ทิวฟ้า ทัดตะวัน
อสุรผัด
*
ตอบ: 14

studying


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 14 ธ.ค. 05, 16:45

 ถ้าเข้า Link นี้ คงไม่มีไวรัสกระมังนะครับ

 http://www.student.chula.ac.th/~46361066

อ้อ  ได้ปรับปรุงโดยการลบบางประเด็นออกไปแล้วนะฮะ

ขอบคุณอีกครั้ง
ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Hotacunus
องคต
*****
ตอบ: 613


AD FRANCIAM


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 15 ธ.ค. 05, 02:59

 ขอบคุณครับ คุณทิวฟ้า

-----------------------------------

ผมเข้าใจว่าที่คุณเทาชมพูเจออาจไม่ใช่ไวรัสหรอกครับ แต่คงเป็นพวก spyware ซึ่งมักแอบๆ มากับเว๊บฟรี ค่อยโหลด pop up สร้างความรำคาญ ถ้าโปรแกรมแอนตี้ไวรัสดีๆ บางทีก็จับหมดครับ ทั้งไวรัส และ spyware แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเครื่องมืออาการแปลกๆ เช่น โหลดโปรแกรมอะไรก็ไม่รู้อยู่นานมากๆ ตอนเริ่มเปิดเครื่อง หรือมีอาการอื่นๆ คงต้องหาผู้รู้มาช่วยแล้วหละครับ

-------------------------------------------

ส่วนเรื่องการโต้ตอบกันนั้น ก็ขอให้อย่าเคืองกันเลยครับ ผมก็เข้าใจว่าคุณทิวฟ้าคงไม่ได้คิดอะไร ก็เลยตั้งกระทู้ว่า "กางเกงใน" แบบเพียวๆ เลย อิอิ เห็นครั้งแรกก็อึ้งๆ เหมือนกัน จะเป็นพวกแอบถ่ายหรือเปล่า ๕๕๕

ส่วนเนื้อหานั้น ก็คงตามที่คุณเทาชมพู ได้ออกความเห็นไปแล้ว ว่าควรจะต้องระวังด้วยครับ

ผมว่าที่บอร์ด "เรือนไทย" นี้ มีมาตรฐานของตัวเองอยู่เรื่องหนึ่งที่บอร์ดอื่นๆ ไม่ค่อยมีคือเรื่องของ "มารยาทในการใช้พื้นที่สาธารณะ" ครับ เพราะ การไม่มีมารยาท จะเป็นบ่อเกิดของการทะเลาะกัน เมื่อทะเลาะกันวิชาการก็ไม่เกิดครับ ดังนั้น ถ้าทุกคนมีมารยาท รู้จักสัมมาคาระ ผู้ใหญ่สอนก็รับฟังไปปรับปรุงปฏิบัติ ยอมรับความผิดพลาด ไม่ใช่ตัวเองผิด แล้วก็มาโกรธคนบอกสิ่งที่ถูกต้องให้ เพราะไปคิดว่าเหมือนโดนหักหน้า(เหมือน "ตัวป่วน" อิอิ) ผมเชื่อว่า คนที่เข้ามาใช้บอร์ดนี้จริงๆ ก็จะได้อะไรดีๆ กลับไปเยอะครับ นอกจากความรู้แล้วก็ยังมีเรื่องของมารยาทในการใช้พื้นที่สาธารณะด้วยครับ

--------------------------------------------

จริงๆ การตั้งชื่อกระทู้นี้ ถ้าเลือกใช้คำอีกหน่อยก็จะทำให้ลดความ "แรง" ของคำลงไปได้ครับ เช่น

ทำไม มีกางเกงในแต่ไม่มีกางเกงนอก ? ผมว่าถ้าตั้งประมาณนี้ คุณ Dominio คงไม่บ่นหรอกครับ อิอิ แต่เล่น มาแบบเพียวๆ เป็นใครก็ตกใจเป็นธรรมดา ยิ่งอารมณ์เสียมาจาก "ตัวป่วน" ก็เลยไปกันใหญ่

ส่วนเรื่องที่คุณเขียน โดยภาพรวมก็น่าสนใจดีครับ แต่ก็จะเป็น "เรื่องเล่าสู่กันฟังธรรมดา" ครับ เหมือนเป็นบันทึกความจำในสิ่งที่คุณรู้ (ซึ่งรู้มาถูกหรือผิดอันนี้อีกเรื่องหนึ่ง) แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนจากระดับนี้มาเป็น "บทความกึ่งวิชาการ" ก็คงต้องมีการค้นคว้าเพิ่มเติมครับ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล (ซึ่งค้นคว้าถูกหรือผิดก็อีกเรื่องเช่นกัน)

อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณ "ต้องทำ" นะครับ เรื่องแบบนี้บังคับกันไม่ได้เพราะคนเขียนคือคุณ แต่คนอ่านคือผม อิอิ ดังนั้น วิธีการนำเสนอเรื่องราวก็เป็นสไตล์ของแต่ละคนครับ แต่ที่ผมแนะไว้นี้ ก็ในฐานะคนอ่านคนหนึ่งเท่านั้นครับ

บันทึกการเข้า
Dominio
ชมพูพาน
***
ตอบ: 128

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 15 ธ.ค. 05, 10:04

 อ่านข้อเขียนของคุณ Hotacunus กี่ครั้งๆ ก็รู้สึกว่าคุณเป็นคนอารมณ์ดี และมองโลกในแง่ดีเสมอ
เวลาร้อนมาครั้งไร มาเจอคำพูดคุณ ก็รู้สึกเยือกเย็นขึ้นทันที
พระเจ้าคงเก่งมาก ที่ปั้นคนล้านคนได้ล้านสไตล์ นอกจากนี้ศิลปการเขียนอาจขึ้นอยู่กับเทคนิคหลายอย่าง
เมื่ออ่านคำตอบของคุณทัดฟ้าที่มี key words คำว่า

ตอแหล - กระแดะ - ไม่ใช่วิสัยของปราชญ์ - ตัวเองหยาบ เลยมองข้อเขียนกางเกงในหยาบ-ซี้ซั้ว-โง่เง่าติดจมกับบ่วงทุกข์

หะแรกจะโต้ตอบให้หนัก อาศัยว่ากำลังกิน finger foods กลัวเมาส์เปื้อน อีกสักครู่
เจอคำตอบของอาจารย์ที่ราบเรียบ รักษาน้ำเสียงและโทนผู้ดีอย่างเฉียบขาด

....คุณจะด่าดิฉันหรือคุณ Dominio ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่ากระแดะทำเป็นผู้ลากมากดีหรืออะไรก็ตาม
ก็ไม่ทำให้สิ่งที่คุณเล่ากลายเป็นเรื่องถูกต้องดีงามขึ้นมาได้...

ทำให้รู้สึก needless to say เพราะคำพูดเรียบๆของอาจารย์ แต่ให้น้ำหนักหมัดที่หนักหน่วง เป็นใครก็ต้องรู้สึกหน้าชา ยิ่งกว่าฝ่าพายุสโนว์เฟลค

คนไทยควรใจกว้าง เราอยู่ในบอร์ดแสดงความคิดเห็นที่สุภาพ ดิฉันลองมองกลับไปที่โพสต์
ของดิฉันเพื่อค้นหาว่าอะไรทำให้คุณทัดฟ้าเป็นฟืนเป็นไฟ ถึงขนาดขุดคำผู้หญิงขึ้นมา
ได้เป็นชุดใหญ่ แบบ party tray ครบเซ็ท ก็ยังไม่พบ
นักศึกษามหาวิทยาลัย ต้องเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้ค่ะ คุณทัดฟ้า
ไม่ใช่คำพูดเพียงไม่กี่คำ ทำให้คุณควบคุมระบบไม่ได้ ถึงกับฟิวส์ขาด  
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 15 ธ.ค. 05, 22:20

 "...อะไรทำให้คุณทัดฟ้าเป็นฟืนเป็นไฟ ถึงขนาดขุดคำผู้หญิงขึ้นมาได้เป็นชุดใหญ่ แบบ party tray ครบเซ็ท..."



อิอิ...ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง...ต่อให้แสบบบแค่ไหน สุภาพบุรุษอกสามศอก...ต้องอดกลั้นเสมอขอรับกระผม        
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.037 วินาที กับ 19 คำสั่ง