ตราสัญลักษณ์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี

[ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว]

 ตราสัญลักษณ์ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี  อักษรพระปรมาภิไธย ภปร สีเหลืองนวลทอง อันเป็นสีประจำพระชนมวาร ขลิบรอบตัวอักษรด้วยสีทองบนพื้นสี   น้ำเงินเจือทอง อันเป็นสีประจำพระราชวงศ์ ล้อมด้วยเพชรอันเป็นเอกแห่งรัตนะหมายว่าเหล่านักปราชญ์ ราชกวีสำคัญ อีกบรรดาช่างอันมีชื่อ พระยาช้างสำคัญ นางแก้ว  ทหาร  ข้าราชราชบริพาร อันยอดฝีมือในการปฏิบัติราชการอย่างสุจริตยิ่ง เหล่านี้เปรียบด้วยเพชรอันชื่อว่ารัตนะ แวดล้อมประดับพระเกียรติยศแห่งพระมหากษัตริยาธิราชพระองค์นั้นอันเหนือยิ่งกว่าเพชรอันได้ชื่อว่ารัตนะทั้งปวง คือพระมหากษัตริย์ผู้ทรงสถิตเป็นเพชรอันยอดค่ายิ่งในดวงใจราษฏร์ ทรงบำบัดทุกข์ผดุงสุขเป็นที่พึ่งอันเกษมสุขร่มเย็นแก่ปวงพสกนิกรซึ่งต่างเชื้อชาติศาสนาในพระราชอาณาจักรของพระองค์
อนึ่ง อักษรพระปรมาภิไธย ภปร นี้ ประดิษฐานบนพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฎประกอบพระอุณาโลม อันเป็นหนึ่งในเครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ แวดล้อมด้วยพระแสงขรรค์ชัยศรีและพระแส้หางช้างเผือก ทอดสอดอยู่ในกงพระที่นั่งภัทรบิฐ เบื้องซ้ายแห่งพระมหาพิชัยมงกุฎ มีธารพระกรและพัชนีฝักมะขาม ทอดสอดอยู่เบื้องขวาแห่งกงพระที่นั่งภัทรบิฐอันประดิษฐานบนฐานเขียง ซึ่งทอดฉลองพระบาทประดิษฐานอยู่ เหล่านี้รวมเรียกว่าเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ประกอบด้วยสิ่งอันแสดงความเป็นกษัตริย์ทั้ง 5 คือ พระมหาพิชัยมงกุฎ 1 พระแสงขรรค์ชัยศรี 1 ธารพระกร 1 พัดวาลวิชนีและพระแส้ 1 ฉลองพระบาท 1 หมายถึงปีแห่งการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติ ล่างลงมาเป็นแพรแถบสีชมพูขลิบทองเขียนอักษรสีทอง ความว่า ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พุทธศักราช 2549 ปลายแห่งแพรแถบผูกเป็นภาพกระบี่ธุช         คือวานรกายขาวมือเชิญก้านลายซุ้มอันเป็นกรอบลายของตราสัญลักษณ์ ฯ อยู่ด้านขวา ส่วนด้านซ้ายปลายแพรแถบผูกเป็นภาพพระครุฑพ่าห์ เป็นครุฑหน้าขาวกายสีเสนปนทอง มือเชิญก้านลายกรอบแห่งแห่งตราสัญลักษณ์ ฯ พื้นภาพตราสัญลักษณ์ ฯ เฉลิมพระเกียรติทั้งหมดสีเขียวปนทอง อันหมายถึงสีอันเป็นเดชแห่งวันพระบรมราชสมภพ และยังหมายถึงสีของความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์แห่งผืนภูมิประเทศที่ทรงปกครองทำนุบำรุงอย่างหนักยิ่งมาตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติมา ณ บัดนี้ถึงมหามงคลสมัยที่จะฉลองเฉลิมพระเกียรติในการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อันยาวนานที่สุดยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์องค์ใดในพระราชพงศาวดารในสยามประเทศ

[ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว]

ลองลงรูปใหม่

[เทาชมพู]

ดิฉันลองส่งภาพใหญ่ จะได้เห็นชัดขึ้น

[ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว]

 เข้าไปใน พันทิพย์.คอม บางคนบอกว่าดูเขมรๆไปหน่อย หรือไม่ก็ลิเก แต่ผมว่าสวยดี อีกทั้งองค์ประกอบในตราสัญลักษณ์ก็มีความหมายดีด้วย ฉลองสิริราชสมบัติ ก็มี เครื่องเบญจกกุธภัณฑ์ พระที่นั่งภัทรบิฐ ฯลฯ เหมาะสมตามความหมายของงาน

[เทาชมพู]

 ขอบคุณที่นำคำอธิบายและภาพมาให้ชมค่ะ

[นทีสีทันดร]

 ตราสัญลักษณ์ที่มีเพชรประดับล้อมรอบพระปรมาภิไธย น่าจะหมายถึง ความหมายของ diamond jubilee ด้วยนะคับ

[นทีสีทันดร]

 ขอถามคุณลำดวนฯหน่อยนะครับเนื่องด้วยไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ ปกติรูปพระครุฑพ่าห์ที่เห็นทั่วไปจะเป็นรูปครุฑกางปีกไม่ใช่หรอครับ

[ถาวภักดิ์]

 ที่ไหน ๆ ก็ไม่เน้นแฮะ  สัญญลักษย์อันเป็นมิ่งมงคลสูงสุด ยันต์อุณาโลมภายใต้มหาพิชัยมงกุฎ ลอยเด่นเหนือพระปรมาภิไธยย่อ แทนองค์พระศาสดาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เทิดไว้เหนือแม้องค์พระมหากษัตริยาธิราชเจ้า

วานรกายขาวคือหนุมาน บ่งบอกถึงการทรงพระฐานะสมเด็จพระรามาธิบดี  ในขณะพระยาครุฑบ่งบอกการทรงพระฐานะพระนารายณ์อวตาร

[ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว]

 ตอบคุณ นทีสีทันดร ผมคิดว่า รูปกระบี่ธุช แลรูปพระครุฑพ่าห์ ในตราสัญลักษณ์ฯ คงเป็นรูปหล่อที่ยอดเสาธงกระบี่ธุช แลธงพระครุฑพ่าห์ ซึ่งจะเห็นบ่อยในงานวันสวนสนามของเหล่าทหารรักษาพระองค์ ในเดือนธันวาคม คงมิได้หมายถึงตราพระครุฑ ซึ่งเป็นรูปครุฑรำกางปีกแบบที่เห็น เพราะทเที่จำได้ ตราพระครุฑของไทย ก็เปลี่ยนรูปแบบมาหลายครั้ง จนมาสุดท้ายที่เป็นรูปครุฑรำแบบในปัจจุบัน...
(ไม่แน่ใจในข้อมูลนะครับ เพราะเคยอ่านเจอนานแล้ว ถ้าผิดพลาดก็กราบขออภัย)

[ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว]

พอดีเจอรูปธงพระครุฑพ่าห์ เลยเอามาให้สังเกตดูว่า รูปพระครุฑในธงฯ มิใช่รูปพระครุฑรำ แบบในปัจจุบัน

[ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว]

 ตั้งใจว่า จะค้นคว้าเรื่องครุฑ และเครื่องตาพระครุฑพ่าห์ มาให้แต่เสียดายช่วงนี้ผมสุขภาพไม่อำนวย แต่ว่ามีหนังสือแนะนำให้ไปอ่าน คือ หนังสือชื่อว่า "ครุฑ(Gurada)" โดย สติ ศรีบุญเรืองและคณะ เป็นหนังสือที่สามารถใช้อ้างอิงได้ดีมากเล่มหนึ่ง หนังสือเล่มนี้ผมไม่มีมีเก็บไว้เป็นเจ้าของเพราะราคาสูงพอสมควร แต่เคยอ่านจนจบแล่ม เนื้อหาสาระนั้นกล่างถึงเรื่องครุฑไว้ในหลายแง่มุม ใครที่ต้องการศึกษาเรื่องครุฑ ซึ่งรวมถึงตราพระครุฑและธงพระครุฑพ่าห์ โดยพิศดารก็น่าจะลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดู
"ความรู้มาจากหลายวิธี และวิธีการอ่านก็เป้นวิธรการหาความรู้ที่ดีวิธีหนึ่ง"

[UP]

 เรื่องแนวคิดที่จะกำหนดให้ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เป็น Diamond Jubilee นั้น ได้ยินมาว่าไม่ต้องด้วยพระราชนิยมครับ เพราะทรงถือว่า Diamond Jubilee ที่แท้จริงคือ ๗๕ ปี

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ถือกันว่าพระมหากษัตริย์ในบางประเทศที่ได้ทรงด่วนฉลอง Diamond Jubilee ในปีที่ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี นั้น ไม่มีพระองค์ใดทรงพระเจริญรัชพรรษาได้ถึง ๗๕ ปีอันเป็นพัชราภิเษกที่แท้จริงเลยสักพระองค์เดียว

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกนามพระราชพิธีนี้เพียงว่า "พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี" ไม่ได้ใช้ถ้อยคำอันเกี่ยวข้องกับเพชร ต่างกับกรณีรัชดาภิเษก และกาญจนาภิเษก

ฉะนั้น นับแต่พุทธศักราช ๒๕๔๙ ไปอีก ๑๕ ปี อันเป็นปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๕ ปี พวกเราจึงจะได้ร่วมฉลอง Diamond Jubilee ของรัชกาลปัจจุบันอย่างแท้จริง

[นทีสีทันดร]

 เข้าใจแล้วครับผม

[125 66]

 กระจ่างมากครับ

ขอบพระคุณท่านทั้งหลายเป็นที่ยิ่ง มา ณ ที่นี้ครับ