มาแก้ไขความเข้าใจผิดของติบอ นิดหน่อย
มาจากฮินดูค่ะ
คำนี้แยกได้ออกเป็น ๒ คำ คือ ปะตาระ+ กาหลา
ปะตาระ ใช้ในหนังสือไทยว่า ปัตรา อย่างในพงศาวดารเมืองกลันตัน ระบุชื่อสุลต่านองค์หนึ่งว่า
"ตนกูศรีปัตรามหารายา"
ปะตาระ ปัตรา มาจาก Betara แปลว่าศักดิ์สิทธิ์ มีอภินิหาร เป็นคำนำหน้าเทพเจ้าผู้ใหญ่ของฮินดู และนำหน้ากษัตริย์ระดับมหาราช
อย่างคำว่า Betara Guru ออกเสียงว่า บะตารา คุรุ หมายถึงพระฮิศวร
(คำนี้มีขีดอยู่ข้างบนคำนะคะ แบบอั๊กซงของฝรั่งเศส แต่ดิฉันพิมพ์ไม่ได้ค่ะ)
บะตาระ หรือบะตารา กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร ทรงเขียนว่า " ภัฏฏาระ" แปลว่าผู้เป็นใหญ่ ตามความหมายในพจนานุกรมของเซอร์โมเนีย-วิลเลียมส์
ส่วน กาหลา มาจากสันสกฤตว่า กาล หมายถึงเทพผู้สังหาร ผู้ทำลาย
รวมกัน ปะตาระกาหลา มาจาก ภัฏฏารกาล ไทยเรียกว่าพระมหากาล
เป็นปางดุร้ายของพระอิศวร คู่กับพระนางกาลี
ในชวามีรูปหนังเทพองค์นี้จริงๆ ถือดาบ มีสร้อยทำด้วยกระโหลกคนห้อยคอ แลบลิ้น ระบายสีดำทั้งตัว
ปัตตานีเรียก " กาลอ"
มีอีกชื่อว่า Raja Huntu แปลว่าเจ้าแห่งผี เพราะชอบปรากฏตัวตามป่าช้า มีภูตผีเป็นบริวาร
ก็คือพระอิศวรหรือพระศิวะเองละค่ะ
ข้อความนี้ไม่ได้คิดเองค่ะ เอามาจากหนังสืออธิบายศัพท์ภาษาชวามาเลย์ ที่น่าเจ็บใจมาก ว่าหาไม่เจอ(อีกแล้ว) ไม่งั้นจะเอาชื่อหนังสือมาลงให้ไปอ่านกันต่อ
ชื่อปะตาระกาหลา ท่านอํธิบายว่ามาจาก ภัฏฏารกาล ซึ่งเป็นชื่อหนึ่งของพระอิศวร
ตรงนี้ ก็คือองค์ปะตาระกาหลา ไม่ได้มาจากพระอินทร์แน่ๆ
แต่ต่อจากนั้นคือ เทพเจ้าจากฮินดูแปลงวัฒนธรรมมาเป็นชวา จากชวามาเป็นไทย ก็เหมือนถูกต่อเติมด้วยเครื่องทรงของแต่ละวัฒนธรรม ให้ภาพเทพเจ้าออกมาแปลกไป
ท่านก็ไม่ใช่ภาพเดิมในอินเดียอีกต่อไปค่ะ
ข้อนี้คิดว่าติบออธิบายได้ถูกแล้ว