สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:24
|
|
 พระขอฝน หรือพระคันธารราษฎร์ เนื่องจากบริเวณบางปะอินเป็นถิ่นที่ทำนากันเป็นส่วนมาก จึงต้องมีฝนตกตามฤดูกาล แต่บางฤดูกาลฝนไม่ตก ทำให้เกิดความทุกข์ยาก ดังนั้นเพื่อเป็นหลักมิ่งขวัญจึงทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สร้างพระขอฝนขึ้น ปีไหนฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ก็โปรดเกล้าให้ทำพิธีขอฝน |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:26
|
|
 ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นเมล็ดพันธุ์พระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงได้เมล็ดพันธุ์มาแล้วพระราชทานแก่พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพรพินิต ทรงเพาะ ครั้นเมื่อเพาะขึ้นเป็นต้นแล้ว ก็ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานไว้ 3 ต้น ในรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2447 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:33
|
|
ตอบคุณ Nuchan นะครับว่าวัดนิเวศธรรมประวัติ เป็นวัดประจำราชสกุล “ดิศกุล” สังเกตได้จาก อนุสรณ์สถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งในวัดนิเวศธรรมประวัติ ซึ่งอยู่ชิดกำแพงด้านทิศตะวันตกของพระอุโบสถเป็นศิลาใหญ่ 4 ก้อน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกำหนดไว้เป็น ดิศกุลอนุสรณ์ และศิลาก้อนเล็กประดับเป็น 2 ส่วน ใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของบุคคลในสายราชสกุล “ดิศกุล” ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:36
|
|
 สวนหิน "ดิศกุลอนุสรณ์" |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:42
|
|
 ดิศกุลอนุสรณ์อีกรูปหนึ่ง |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:44
|
|
 ยังอยู่ที่อยุธยานะครับ มาเล่าต่อเลยดีกว่า คราวนี้ย้อนไปสมัยกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ว่าพระราชวังในสมัยนั้นเป็นแบบใด มาดูเลยดีกว่ารับ
พระราชวังหลวงที่ปรากฏในพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันคงเหลือแต่ฐาน อาคารให้เห็น เท่านั้นสันนิษฐานว่า พระเจ้าอู่ทองสร้างพระราชวังตั้งแต่เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เวียงเล็ก เมื่อ พ.ศ.1890 และเมื่อสร้างกรุงเสร็จใน พ.ศ.1893 จึงย้ายมาประทับที่พระราชวังใหม่ริม หนองโสน พระที่นั่งต่างๆ ในครั้งแรกนี้สร้างด้วยไม้อยู่ในบริเวณซึ่งปัจจุบันเป็น วัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.1991 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงถวายที่บริเวณ พระราชวังเดิมสร้างเป็นวัด ในเขต พระราชวัง เรียกว่า "วัดพระศรีสรรเพชญ์" แล้วทรงสร้าง พระราชวังหลวงใหม่เลื่อนไปทางทิศเหนือ ชิดริมแม่น้ำลพบุรี พระที่นั่งต่างๆ ในเขตพระราชวังหลวงหรือที่เรียกในปัจจุบันว่า พระราชวังโบราณ เดิมเป็นที่ประทับของ พระมหากษัตริย์อยุธยาทุกรัชกาล ตั้งอยู่ริมกำแพงพระนครศรีอยุธยาทางด้านเหนือ มีถนนสายรอบ กรุงผ่านจากวังจันทรเกษมไปเพียง 2 กิโลเมตร |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 05 ต.ค. 05, 23:53
|
|
มาดูว่าภายในพระราชวังหลวงจะมีพระที่นั่งที่ใด ที่น่าสนใจบ้าง
พระที่นั่งวิหารสมเด็จ ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุด เดิมเรียกว่า พระที่นั่งมังคลาภิเษก เป็นปราสาทยอดปรางค์มีมุกหน้าหลังยาวแต่มุขข้างสั้น มีกำแพงแก้วล้อม 2 ด้าน ตามพงศาวดารกล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 2186 เพื่อแทนพระที่นั่งมังคลาภิเษกที่ถูกฟ้าผ่าไฟไหม้ ชาวบ้านเรียก "ปราสาททอง" เนื่องจาก เป็นปราสาทปิดทององค์แรกที่สร้างขึ้น สำหรับประกอบพระราชพิธีต่างๆ
 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:03
|
|
 พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้สร้างขึ้นทางด้านเหนือ ริมแม่น้ำลพบุรี เรียกว่า พระที่นั่งเบญจรัตนมหาปราสาท เป็นปราสาทจตุรมุขก่อด้วยศิลาแลง อยู่ติดกำแพงริมน้ำ ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้รื้อสร้างใหม่ให้ชื่อว่า พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ ต่อมาเปลื่ยนเป็นชื่อนี้เพื่อให้คล้องกับชื่อ "พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท" ก่อสร้างเป็น ปราสาทจตุรมุขยกพื้นสูงกว่าพระที่นั่งองค์อื่นๆ พระที่นั่งพระองค์นี้สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชใช้เป็นที่รับแขกเมือง และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าเสือและสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ นอกจากนั้นจะใช้เพื่อการประทับทอดพระเนตรขบวนพยุหยาตราทางชลมารค |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:06
|
|
 พระที่นั่งสรรเพชญ์ปราสาท สร้างขึ้นสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เป็นพระที่นั่งที่มีมุขเด็จยื่นออกมาเพื่อเสด็จออกรับแขกเมือง มีโรงช้างเผือกกระหนาบอยู่ทั้งสองข้าง |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:11
|
|
 ในพระราชวังหลวงนั้น มีวัดๆหนึ่งที่จะขาดไปเสียมิได้ วัดนี้ก็คือ วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามที่กรุงเทพฯ หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่แล้วโปรดยกให้เป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:12
|
|
 จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ก็คือ..พระเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่เรียงกัน 3 องค์ ซึ่งถูกคั่นด้วยพระมณฑป (ปัจจุบันพังทลายเหลือเพียงฐาน)
จากรูป...พระเจดีย์องค์ขวาและองค์กลาง...สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3... ส่วนองค์ซ้าย..สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 ทรงสร้างบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:17
|
|
 ซากโบราณสถานภายในวัด |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:18
|
|
 จากรูปเป็นซากวิหารหลวงที่มองจากด้านข้าง...
ที่มา: หนังสือ วัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สำนักงานศิลปากรที่3 กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม รศ.เสนอ นิลเดช, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 2546 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:19
|
|
 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างซากที่เหลืออยู่ตอนนี้ กับสภาพสมบูรณ์ที่สันนิษฐาน....ก็จะเป็นอย่างที่เห็นครับ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สะใภ้จ้าว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 132
นักเรียนชั้นม.4
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 06 ต.ค. 05, 00:19
|
|
 มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้านในครับ... |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|