เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 45 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 12:01
|
|
อ่านจากที่คุณvunโพสไว้ รู้สึกติดใจมากๆๆๆๆค่ะ อยากอ่านต่อ อยากให้เข้ามาโพสต่อด้วยนะคะ Doraikufuki [IP: 61.91.124.63,,] วันที่ 10 ต.ค. 2548 - 11:57:18 (คุณ Doraikufuki ช่วยร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ ผ่านวิชาการ.คอมแล้ว รวมทั้งสิ้น 1 ครั้ง)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 15:21
|
|
ผมพึ่งทราบมาว่าเครื่องบันลือโลกประดับเพชรเส้นนี้มีนามว่า"รีวิแยร์" ในชุดของรีวิแยร์นี้ยังมีต่างหูระย้า เป็นแบบสร้อยที่ใช้เพชรเม็ดยักษ์เรียงเดี่ยวตลอดสาย ที่นิยมทั่วไปจะใช้เพชร ล้อมด้วยทับทิม มรกต ไพฑูรย์ หรือ ราชาวดีเจียระไนเหลี่ยมสลับซับซ้อนเพื่อเพิ่มประกาย
 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 47 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 15:29
|
|
 นางแพศยา "มาดาม เดอร์ ลามอตต์"ชื่อเต็มของมาดาม เดอร์ ลามอตต์ มีชื่อว่า"จินนี่ ดอร์ เซนต์ เรมี ลามอตต์ ดอร์ แวร์หลอส(Jeanne de Saint-Remy de Valois) " |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 48 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 15:30
|
|
 มาดาม เดอร์ ลามอตต์ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 49 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 15:35
|
|
คาร์ดินัล โรอัง หรือ"คาร์ดีนัล เดอร์ หลุยส์ รีนี เอนโดล์ลาร์ท โรฮัน(Cardinal de Louis Rene Edouard Rohan)"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 50 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 15:36
|
|
 คาร์ดินัล โรอัง |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 15:55
|
|
โรอังเชื่อหัวปักหัวปำว่านางตัวปลอมที่มาดามจีนจ้างมาหลอกเขา แม้พระราชินีจะไม่ยอมรับโรอัง แต่เขาก็ยังเชื่อว่าราชินีมีใจต่อเขา โรอังจึงซื้อสร้อยเส้นนั้นด้วยเงินกว่าพันล้านบาท และมอบให้มาดามจีน นางมาดามจีนเมื่อได้รับเพชรแล้วก็นำไปให้สามีไปแบ่งขายทันที
ความจริงถูกเปิดเผยเสียจนหมด แต่ยังไงประชาชนชาวฝรั่งเศสไม่เชื่อความนั้น เขาเห็น มาดามเดอร์ ลามอตต์ เป็นคนดี และเสียใจเมื่อนางถูกเหล็กตัวยูเผาบนนองของนางเหมือนในการ์ตูน
ในสายตาชาวฝรั่งเศส เขามองพระนางมารีตรงกันข้ามกับมาดามจีน เขาบอกว่าพระนางเป็นผู้หญิงแพศยา ใส่ร้ายป้ายสีให้มาดามจีน และซื้อครื่องเพชรราคาพงหูฉี่ ได้อย่างขนหน้าแข่งไม่ร่วง ขณะที่เศรษฐกิจของบ้านเมืองกำลังอยู่ในสภาวะตกต่ำ อดอยาก ประชาชนในสมัยนี้ส่วนมากจะเป็นขอทานเพราะไม่มีอันจะกิน ผิดกับพวกขุนนางไฮโซที่สุรุ่ยสุร่ย ฟุ่มเฟือย ทั้งการแต่งกาย อาหารการกิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 17:13
|
|
ไพฑูรย์ หรือ ราชาวดี
ชื่อพลอยในที่นี้ คงจะผิด
ไพฑูรย์หรือ cat's eye เป็นพลอยราคาไม่สูง ไม่นิยมนำไปประกอบกับเพชรแพงๆ
ส่วนราชาวดี คือการลงยาของไทย ไม่ใช่พลอย ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 53 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 17:25
|
|
 สงสัยจะผิดแน่เลย ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยล่ะกันครับ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 54 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 17:29
|
|
 เรื่องราวต่อไปนี้คงจะเสร้าสลดใจมากนะครับฟังกันหน่อย |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Nuchana
|
ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 17:36
|
|
...ขณะที่เศรษฐกิจของบ้านเมืองกำลังอยู่ในสภาวะตกต่ำ อดอยาก ประชาชนในสมัยนี้ส่วนมากจะเป็นขอทานเพราะไม่มีอันจะกิน ผิดกับพวกขุนนางไฮโซที่สุรุ่ยสุร่ย ฟุ่มเฟือย ทั้งการแต่งกาย อาหารการกิน
ดิฉันติดตามอ่านว่าพระนางคนนี้ ใช่คนเดียวกับคนที่เชื้อเชิญให้รับประทานขนมปังหรือเปล่าค่ะ.... ***** ที่ถามคุณ vun ใน ค.ห. 40 ไม่กล้าถามให้ชัดเจนนัก เดี๋ยวถ้าเผื่อว่าใช่ขึ้นมา จะเป็นการดักคอ
เคยฟังกลุ่มเพื่อนที่เรียนประวัติศาสตร์คุยผ่านๆหู ไม่ได้ใส่ใจฟังนัก ชื่อคุ้นๆว่าพระนางมารีคือเจ้าของวาทะ ถ้าประชาชนอดยากไม่มีข้าวกิน ก็ไปกินขนมปังแทน ใช่มารีเดียวกันไหมคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 56 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 17:54
|
|
อ๋อ จำได้แล้ว ใช่ พระนางมารีคนเนี๋ยเเหละ แต่จำอะไรไม่ค่อยได้จำได้แต่ มีชาวบ้านมาของขนมปังพระนางมารีกินแล้วพระนางมารีก็ให้หรือไม่ให้ไม่ทราบแน่ครับ คุณป้าบอกนานแล้ว ใครรู้บอกด้วยนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 57 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 18:14
|
|
มีเรื่องเล่าว่า ชาวบ้านในสมัยนั้นอดอยากยากแค้น พอากันเดินขบวนไปร้องเรียนหน้าพระราชวัง ว่า "เราไม่มีขนมปังจะกิน"แล้ว ถ้าพูดแบบไทยๆก็คือ ไม่มีข้าวจะกินแล้ว พระนางมารีอังตัวแนตต์ จะด้วยความซื่อใส ไร้การรับรู้ต่อปัญหาประชาชนจริงๆหรืออะไรก็ตาม ก็ตอบไปว่า " ไม่มีขนมปัง ก็กินขนมเค้กสิ"
อย่างไรก็ตาม ก็มีนักประวัติศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นภายหลัง เพื่อใส่สีใส่ไข่ให้ภาพของพระนางดูเลวร้าย ชนิดไม่ได้ผุดได้เกิด พระนางไม่เคยเอ่ยคำนี้เลย
เรื่องของสังฆราชโรอังก็เช่นกัน เป็นเรื่องสิบแปดมงกุฎกลุ่มหนึ่งที่รวมหัวกันต้มตุ๋นท่าน โดยอ้างชื่อพระนางมารีมาหลอกลวงเอาสร้อยเพชรไปขายกินสบายไป
เรื่องจริงจะเป็นยังไงก็ตาม ราชวงศ์บูร์บองได้มาถึงยุคตกต่ำสุดในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อย่างที่คุณ vun เกริ่นไว้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 20:53
|
|
ขอบคุณคุณเทาชมพูมากครับ คุณ Nuchan แจ่มแล้วใช้ไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vun
|
ความคิดเห็นที่ 59 เมื่อ 10 ต.ค. 05, 21:32
|
|
งั้นเรามาเล่ากันต่อเลย
ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่16 ได้มีการขอร้องให้พระเจ้าหลุยส์ที่16 ช่วยประชาชน แต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับออกกฎหมายขึ้นภาษี
เหตุการณ์บ้านเมืองในสมัยนี้ปั่นป่วน อุตลุต กันมาก ข้าฟันกันเป็นรายวัน วันละห้าสิบกว่าคน
14 กรกฏาคม เกิดปฏิวัติฝรั่งเศสพระเจ้าหลุยส์ที่16 และพระนางมารี อังตัวเน็ตต์ หนีออกจากพระราชวังแวร์ซายกันปั่นป่วน ชาววังวิ้งหนีกันชุนละมุน พระเจ้าหลุยส์ 16 และพระนางมารีมีพระดำริอยากจะให้ใช้การปกครองแบบเก่า แต่พวกรัฐบาลต้องการการปกครองแบบใหม่คือแบบมีประธาณาธิบดี ด้วยเหตุนี้พระเจ้าหลุยส์ที่16 และพระนางมารีจึงหนีออกจากพระราชวัง
พอท่านหนีออกจากพระราชวัง พวกทหารเห็นพระเจ้าหลุยส์ กับมารี และเหล่าพระบรมวงศ์กำลังจะข้ามไปพรมแดนประเทศอื่น จึงถูกจับ แต่ท่านหนีการจับกุมออกมาได้ และจึงคิดจะข้ามพรมแดนอีก แต่ก็ถูกจับอีกทีหนึ่ง
ท่านถูกจับไปขังคุก ประชาชนฝ่ายปฏิวัติจับขุนนางเก่าๆแก่ๆรวมทั้งขุนนางใหม่ๆในการปกครองแบบเก่า รวมถึงจับพวกชาววังมาตัดหัวเสียบประจานไว้ที่หน้าคุก พระราชินีมารี ก็ทอดพระเนตรอยู่ทุกวัน
ทุกครั้งที่ท่านทอดพระเนตรศีรษะเหล่านี้พระนางมารีถึงกับประชวรพระวาโยทุกครั้งไป
โดยเฉพาะศีรษะของเจ้าหญิงแลมบลังก์ นางกำนัลผู้ซื่อสัตย์ มีความงดงาม และเรียบร้อยที่สุด ศีรษะของแลมบลังก์ตอนที่ท่านทอดพระเนตรมันเป็นศีรษะที่เน่าเหม็น มีหนอนไชอยู่ทั่ว ผมที่เคยหวีเรียบร้อยกลายเป็นผมยุ่งเหยืองน่าขนพองสยองเกล้ามาก พระราชินีทอดพระเนตรแล้วถึงกับทรงประชวรพระวาโยกันเป็นการใหญ่
แต่ก็ไม่มีผู้ใดสนใจพระนางปล่อยให้พระนางประชวรอยู่อย่างนั้น พระนางต้องช่วยพระองค์เอง สุดท้ายก็หายได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|