เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
อ่าน: 36530 ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
THOReN
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 21 พ.ย. 05, 12:54


ทำไมไม่มีภาพล่ะครับ
ขออีกที
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 22 พ.ย. 05, 11:31

 ภาพประกอบต้องมีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนะครับ ต้องไม่เกิน 40kB และ เป็นนามสกุล .jpeg หรือ .gif ครับ
บันทึกการเข้า
THOReN
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 22 พ.ย. 05, 15:18


ภาพประกอบผม สาม กิโลไบท์ เท่านั้นเอง
สกุล เจพีจีด้วยครับ
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 24 พ.ย. 05, 15:10

 เอ ... งั้นส่งมาที่ dear@vcharkarn.com ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเอาลงให้
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 27 พ.ย. 05, 16:28


๊USS Yorktown - in its glory

เมื่อคืนดิฉันดูรายการ UBC 23 History Channel เรื่อง "้What if"
ซึ่งหยิบยกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ มาวิเคราะห์ ทำนองว่าหากเหตุการณ์ในอดีต
เป็นไปอีกอย่างหนึ่ง แล้วผลของมันจะเป็นอย่างไร

แล้วก็มาถึงยุทธภูมิมิดเวย์ ทางรายการใช้ if (ที่ไม่เป็นความจริง) ว่า ตอนญี่ปุ่นจับโค้ด
"Af is short of water" ได้ ถ้าญี่ปุ่นฉุกคิดสักนิดว่าเป็นแผนของสหรัฐอเมริกา
ที่มุ่งลวงให้ญี่ปุ่นหลงเชื่อ แล้วญี่ปุ่นทันเกมและซ้อนแผนได้ทัน  ญี่ปุ่นก็อาจจะไม่แพ้

ญี่ปุ่นก็จะไม่ต้องเสีย carriers ถึง 4 ลำ (Akagi, Kaga, Soryu, Hiryu)  พร้อมทั้งเครื่องบิน
บนเรือนั้นๆ ทั้งหมด 275 ลำ และกะลาสี 2,400 นาย และฮาวายก็อาจหมดสภาพ
การเป็นมลรัฐที่ 50 ของ สหรัฐไปแล้ว เพราะขณะนั้นฐานทัพ Pearl Harbor ที่โฮโนลููลู
ยังไม่ฟื้น หากญี่ปุ่นยึด Midway ได้อีก ก็เรียกว่ายึดฮาวายได้ทั้งหมด

เผอิญ If นั้น ไม่เป็นความจริง...

เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นคือทันทีที่ญี่ปุ่นเสร็จศึกทาง Coral Sea ไปเปลาะหนึ่งในเดือนพ.ค. 1942
กองทัพเรือญี่ปุ่นเคลื่อนตัวขึ้นไปทางมหาสมุทรแปซิฟิคตอนกลาง เพื่อโจมตีมิดเวย์
ในวันที่ 4-7 มิถุนายน  1942

ขณะที่ทัพเรือญี่ปุ่นเคลื่ิอนเข้าไปใกล้ อีก 30 ไมล์เศษก็จะถึงมิดเวย์อยู่แล้ว
ทันใดนั้น เรือของนายพล Nimitz ซึ่งจัดทัพรอการมาของญี่ปุ่น ก็ส่งฝูงบิน
มาทิ้งระเบิด carriers โดยไม่เปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นตั้งเนื้อตั้งตัว ลักษณะเดียวกันกับ
การจู่โจมสายฟ้าแลบที่ญี่ปุ่นเป็นต้นแบบเมื่อครึ่งปีก่อนหน้า

ผลคือญี่ปุ่นสูญเสียอย่างหนัก และสหรัฐก็สูญเสียเรือรบ 2 ลำ เช่นกัน คือ USS Yorktown
และ USS Hamman ซึ่งถูกเรือดำน้ำญี่ปุ่นยิงตอร์ปิโดใส่
บันทึกการเข้า
ครู...ชิต
อสุรผัด
*
ตอบ: 47

TEACHER IN SISAKET ,S AREA 2 EDUCATION OFFICE


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 28 พ.ย. 05, 10:55

 คุณ Nuchan ขอปรบมือให้จริงๆครับผมอ่านตั้งหลายรอบยิ่งอ่านยิ่งรู้ว่าข้อมูลเยอะมากจริงๆอ้อคุณ Nuchan ครับวันนี้เป็นวันครบรอบ 60 ปี(พ.ศ 2488-2548)ที่กองทัพสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดที่สะพานข้ามแม่น้ำแควพอดีดูข่าวจากช่อง 3 มาช่วงเช้านี้เองครับ
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 28 พ.ย. 05, 23:32


-เรือบรรทุกเครื่องบิน Akagi ของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็น "Queen" ของกองเรือพระจักรพรรดิ ปี 1941


ขอบคุณ คุณครู...ชิต ค่ะ

ใช่ค่ะตอนนี้เมืองกาญจน์กำลังมีงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และบังเอิญครบรอบ 60 ปี
ของวันที่สงครามโลกยุติด้วย เวลาคนใหญ่คนโตของต่างประเทศแถบยุโรปมาประเทศไทย
ก็มักจะมาทำพิธีเคารพอัฐิของทหารหาญ วางพวงมาลาเป็นเกียรติยศแก่ผู้ล่วงลับด้วย

คนที่ฮาวายอายุยืนมาก อายุ 80-90 ปี เป็นเรื่องธรรมดา ตอนที่ระลึก Pearl Harbor ครบรอบ 50 ปี
พวกทหารผ่านศึกผู้รอดชีวิตมาร่วมพิธีกันมาก

คนข้างบ้านดิฉันคนหนึ่งเล่าว่า ตอนนั้นเขาอายุ 18 ปี ถูกส่งไปเป็นทหารเรืออยู่ในน่านน้ำฟิลิปปินส์
เขาเล่าว่าอยู่ในเรือลำเดียวกับท่าน MacArther เรือถูกญี่ปุ่นยิงถล่ม ตัวนายพล MacArther หนีลง
เรือดำน้ำไปโผล่ที่ออสเตรเลีย

ดิฉันขอเวลาปะติดปะต่อเหตุการณ์ตรงนี้ก่อน เพราะนึกไม่ออกว่าเขาพูดถึงเรือลำไหน
บันทึกการเข้า
Dominio
ชมพูพาน
***
ตอบ: 128

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 11 ธ.ค. 05, 14:08


เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
พร้อมด้วยสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ทรงรับแขกเมือง ลอร์ด เมาน์แบตเตน
(Lord Louis Mountbatten) ตัวแทนของสหราชอาณาจักรอังกฤษ  

Mouthbatten เคยเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพอังกฤษในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง
ผลักดันให้กองทัพญี่ปุ่นออกจากพม่า ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงอังกฤษที่มาดูแลผลประโยชน์
ประจำอินเดีย (British viceroy of India) และมีบทบาทสำคัญในการให้อินเดียและปากีสถาน
ได้รับเอกราชในเวลาต่อมา
บันทึกการเข้า
HotChoc
มัจฉานุ
**
ตอบ: 62


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 17 ธ.ค. 05, 19:18

 "คนข้างบ้านดิฉันคนหนึ่งเล่าว่า ตอนนั้นเขาอายุ 18 ปี ถูกส่งไปเป็นทหารเรืออยู่ในน่านน้ำฟิลิปปินส์
เขาเล่าว่าอยู่ในเรือลำเดียวกับท่าน MacArther เรือถูกญี่ปุ่นยิงถล่ม ตัวนายพล MacArther หนีลง
เรือดำน้ำไปโผล่ที่ออสเตรเลีย"

อาจจะเป็นตอน MacArthur หลบหนีญี่ปุ่น ออกจากเกาะฟิลลิปปินส์ทางเรือก็ได้นะครับ กะจะลงเรือเล็กแล้วไปลงเรือดำน้ำเพื่อไปออสเตรเลีย แต่ปรากฏว่าเรือเล็กหาเรือดำน้ำไม่เจอ เลยวิ่งไปออสเตรเลียเลย แต่ผมไม่เคยได้ยินว่าเรือเล็กโดนจม
บันทึกการเข้า
ศานติ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 190

อดีตศัลยแพทย์ช่องอกเส้นเลือด (เกษียณ) ปัจจุบันเป็นช่างไม้


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 27 ธ.ค. 05, 23:56

เมื่อสองวันก่อนไปเยี่ยมลูกสาวกับลูกเขย เขาเช่าภาพยนตร์ The Bridge Over the River Kwai มานั่งดูกัน รุ่นลูกๆไม่มีความรู้เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองเลย ลูกเขยนึกว่าสพานข้ามแควน้อยเป็นเรื่องนวนิยายทั้งเรื่อง ไม่รู้ว่าภาพยนตร์เป็นนวนิยายซ้อนประวัติศาสตร์ ผมได้โอกาสเลยเข้าวิชาการ.คอม เอารูปที่คุณ Nuchan ลงไว้ให้ดู พร้อมทั้งสถิติผู้เสียชีวิต

น่าเสียดายที่ฮอลลีวุดพลิกแพลงความจริงจนคนดูนึกว่าเป็นนวนิยายไปหมด ซ้ำไปถ่ายที่ศรีลังกาด้วยแทนที่จะถ่ายเมืองไทย ชาวบ้านกลายเป็นแขกไปหมดยกเว้นคนไทย ๕ คน ดูเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วจนลืมว่าใครแสดงบ้าง คราวนี้ได้มาฟื้นฟูความจำใหม่ มี M.R. B. Chakrabandhu, วิไลวัลย์ ศรีบุญเรือง, งามตา ศุภพงษ์, ชวนารถ Punynchoti กับ กรรณิกา ดาวคลี่ แสดงเป็นชาวบ้านไทย เข้าใจว่า M.R. B. Chakrabandhu คงหมายถึง มจ. จักร์พันธุ์ เพ็ญศิริ จักร์พันธ์ (เดี๋ยวนี้เป็นพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า) แต่ทำไมใช้ M.R. แทนที่จะใช้ M.C. หรือว่าสมัยนั้นท่านยังเป็น มรว. อยู่ท่านแสดงเป็นเสรีไทยชื่อใหญ่ เป็นคนนำทาง

(ขอโทษด้วยถ้าสะกดชื่อของแต่ละท่านผิด ลอกมาจากจอ นามสกุลคุณชวนารถ ไม่ทราบว่าเขียนยังไง) สาวไทยสวยในหนังสวยทุกคน ทั้งๆที่ใช้ไม้คานหิ้วกระจาดเดินในป่าตาม William Holden เป็นวันๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 28 ธ.ค. 05, 00:04

 ใครจำได้บ้างว่า เครื่องบินมาทิ้งระเบิดครั้งแรกในกรุงเทพ
พ.ศ. ไหนคะ
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 28 ธ.ค. 05, 08:08

 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2486) นั้นฝ่ายสัมพันธมิตรใช้เครื่องบิน B-17 กว่า 1,000 เครื่อง
ทิ้งระเบิด 250 ปอนด์ กว่า 9,000 ครั้ง ต่อเป้าหมายหลัก 1 เป้าหมาย (ด้วยความละเอียดเป็นพื้นที่ 3,300 ฟุต)
บันทึกการเข้า
ศานติ
ชมพูพาน
***
ตอบ: 190

อดีตศัลยแพทย์ช่องอกเส้นเลือด (เกษียณ) ปัจจุบันเป็นช่างไม้


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 28 ธ.ค. 05, 09:20

 ทิ้งระเบิดครั้งแรกคงราว ๒๔๘๖ ครับ จำได้แต่ว่าผมกับน้องสาวสองคนเพิ่งตัดต่อมทอนซิลได้ไม่กี่อาทิตย์ ทีบ้านเชิญหมอสงวน โรจนวงศ์ ซึ่งเป็นคนผ่ามาทานข้าวที่บ้านในกรมช่างอากาศ ทานเกือบเสร็จมียามวิ่งไปตามบ้านในกรม บอก "ดับไฟ ดับไฟ เครื่องบินมา" ทั้งบ้านรวมทั้งแขกลงไปที่หลุมหลบภัย (ความจริงไม่ใช่หลุม เพราะขุดลงไปแค่ข้อศอกก็เจอน้ำแล้ว เป็นกองดินมีหลังคาเป็นดินมีทางเข้าหัวกับท้าย) ได้ยินนายทหารพูดกันว่าข้างแรมพระจันทร์มืดไม่น่าจะมีการทิ้งระเบิด ที่ไหนได้เครื่องบินลำแรกทิ้งพลุ (flare) สว่างเป็นกลางวันเลย เครื่องบินมาจากทางตะวันออก บินข้ามทางรถไฟหลังกรมช่างอากาศ ทิ้งระเบิดมาเป็นระยะ ลูกสุดท้ายตกในคลองข้างทางรถไฟนอกรั้วกรมช่างอากาศ ดูเหมือนเที่ยวนั้นไม่เสียหายอะไรมาก ตัวโรงงานเองไม่โดน พอสัญญาณปลอดภัยกลับไปที่บ้านปรากฎว่ามีก้อนโคลนขนาดพอดีหม้อแกง ทะลุหลังคากระเบื้องลงไปเต็มหม้อแกงเลย
สถานีรถไฟบางซื่อดูเหมือนจะโดนหนัก

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนกรมช่างอากาศก็ย้ายไปโคราช
บันทึกการเข้า
sound engineer
อสุรผัด
*
ตอบ: 37

ทำงาน บ.ทอป ออดิโอ จก.


ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 28 ธ.ค. 05, 10:15

 ผมเคยอ่านประวัติของคุณ สมัคร สุนทรเวช ท่านบอกว่าเคยวิ่งหลบระเบิดแถวบางลำพู ว่าแต่ว่า คุณสมัครท่านมีเชื้อสายอะไรในวังหรือเปล่าครับ และก็อีกคนที่เขียนฉากการวิ่งหนีลูกระเบิดได้ระทึกใจที่สุดคือคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ในหนังสือ บอมบ์กรุงเทพฯครับ
บันทึกการเข้า
Nuchana
สุครีพ
******
ตอบ: 979


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 28 ธ.ค. 05, 21:55


คุณสมัคร สุนทรเวช เกิดปี พ. ศ. 2478 ช่วงทิ้งระเบิดคงราวๆ 8ขวบ (อาจจะวัยไล่เรี่ยกับคุณหมอ)
เห็นผู้ใหญ่บ้านไหนๆก็เล่าว่าได้ยินเสียงหวอทีไร ต้องรีบไปลงหลุม ถ้าหลุมธรรมดาไม่ใช่อุโมงค์
ก็ไม่น่าจะช่วยอะไรได้นะคะ เคยเห็นหลุมหลบภัยของเวียดนาม เหมือนถ้ำใต้ดินมาก แค่คิดจะขุด
ให้ได้เท่านั้น ก็รู้สึกว่างานช้างแท้ๆค่ะ

เอาภาพหลุมเหมือนกันแต่เป็นหลุมถาวรที่ซัดดัมขังตัวเอง ขนาด 8 ฟุต คูณ 5 ฟุต มาฝาก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.062 วินาที กับ 19 คำสั่ง