หน้าปกในค.ห. 14 อาจจะแก่กว่าดิฉัน
ส่วนปกในค.ห. 15 คิดว่ารุ่นราวคราวเดียวกับคุณจ้อและคุณอ๊อฟ

**************************************
เนื้อเรื่องของ"ละครแห่งชีวิต" มีศูนย์กลางอยู่ที่ชายหนุ่มชื่อวิสูตร ศุภลักษณ์ ณ อยุธยา
เป็นบุตรของขุนนางสำคัญ แต่ว่าอาภัพความรักจากบิดา ทำให้มีปมด้อยตั้งแต่เล็ก
ต่อมาวิสูตรได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ โดยพำนักที่บ้านสามีภรรยาชาวอังกฤษคู่หนึ่ง
เขาได้พบนักหนังสือพิมพ์สาวชาวอังกฤษซึ่งเป็นเพื่อนกับครอบครัวนี้ ชื่อ มาเรีย เกรย์
เธอชักนำวิสูตรเข้าสู่วงการหนังสือพิมพ์
วิสูตรจีงมีโอกาสได้ทำงานให้หนังสือพิมพ์ "ลอนดอนไทมส์" แทนที่จะศึกษากฎหมายอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก
แต่วิสูตรก็ "รุ่ง" ในวงการได้ไม่นาน เขาประสบอุบัติเหตุ ต้องรักษาอยู่นาน
พอฟื้นตัว ร่างกายก็ไม่อาจทนความตรากตรำของอาชีพนักหนังสือพิมพ์ได้อีก
วิสูตรจึงอำลาประเทศอังกฤษไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา แต่สุขภาพก็บั่น
ทอนเขาจนศึกษาไม่จบ
เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมาเริ่มอาชีพนักประพันธ์
ส่วนไมตรีระหว่างเขากับมาเรีย เกรย์ ก็จบลงเป็นเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น
ไม่อาจจะคืบหน้าไปมากกว่านี้ได้ เพราะอุปสรรคหลายอย่างรวมทั้งความแตกต่างกันเรื่องเชื้อชาติด้วย
ความรันทดขมขื่นของวิสูตรที่ประสบอยู่ทุกช่วงชีวิต กลายมาเป็นเสน่ห์ตรึงใจคนอ่าน ตั้งแต่บทแรกจนบทจบ
คนอ่านสัมผัสอารมณ์เจ็บปวดของตัวละครเอก จนพลอยรู้สึกร่วมไปด้วย
ผู้นิพนธ์ทรงบอกเล่าความรู้สึกของวิสูตรอย่างตรงไปตรงมา หลายตอนแสดงให้เห็นว่าทรงเรียกร้องให้สังคมปรับเข้าหาบุคคลผู้มีปัญหา ด้วยความเมตตาเห็นอกเห็นใจ มากกว่าจะเมินเฉยหรือตำหนิติเตียน
อย่างเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ให้กำเนิดกับบุตร ในสมัยก่อนนั้นสังคมไทยมี"ขนบ" ปลูกฝัง "หน้าที่" ของบุตร เช่นย้ำเรื่องความกตัญญูต่อบิดามารดา
ม.จ.อากาศดำเกิงทรงแหวก "ขนบ" นี้ไม่มากก็น้อย
ทรงเรียกร้องให้บิดามารดาตระหนักถึง "หน้าที่" ของตัวเองที่มีต่อบุตร ไม่ใช่บุตรมีหน้าที่ต่อบิดามารดาฝ่ายเดียว
ทรงเรียกร้องอย่างตรงๆ ว่า
" ข้าพเจ้าขอวิงวอนให้ท่านมีใจยุติธรรมพอที่จะให้โอกาสเด็กที่เกิดมามีกรรมอาภัพ ให้สมกับที่เขาควรจะได้รับในฐานะที่เป็นบุตรและธิดาของท่าน
แม้ว่าหน้าตาเขาจะไม่สวย กิริยาท่าทางของเขาจะขวางๆ รีๆ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำมาได้เอง อย่างน้อยเขาควรจะได้รับความสงสาร
ท่านมีหน้าที่จะต้องช่วยเหลือเขาบ้างตามสมควร
ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ท่านรักคนโน้นเกลียดคนนี้ เพราะความรู้สึกเช่นนี้ของท่านจะปั้นชีวิตของเด็กต่อไปภายหน้า"