เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
อ่าน: 24559 ผมอยากทราบเรื่อง"The Winchester house in America"
ดารากร
อสุรผัด
*
ตอบ: 47

นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 19 ส.ค. 05, 20:38

 ดิฉันเคยอ่านเจอในหนังสือต่วยตูน พิเศษ นานมาแล้วว่า ซาราห์ วินเชสเตอร์ กลัววิญญาณของคนที่เสียชีวิตด้วยปืนของบริษัทเธอมาล้างแค้น คนทรงแนะนำให้สร้างบ้านไปเรื่อย ๆ เพราะผีจะหนวกหูและรำคาญเสียงค้อนตอกตะปู และเสียงอื่น ๆ ในระหว่างก่อสร้าง ก็จะไม่มารบกวนเธอ

และที่มีทางเดิน ประตู หน้าต่าง บันได ฯลฯ สลับซับซ้อนอย่างที่คุณเทาชมพูเล่ามา ก็เพื่อจะทำให้วิญญาณร้ายเหล่านี้หาเธอไม่เจอ  มีเรื่องเล่าว่าซาราห์จะเปลี่ยนห้องนอนทุก ๆ วันด้วยค่ะ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าซาราห์จะนอนห้องไหน และทางไปห้องนอนจะสลับซับซ้อนมากค่ะ บางทีต้องเปิดประตูตู้เสื้อผ้าเข้าไป จะพบเส้นทางลับ แต่ประตูที่ดูเหมือนเป็นประตูธรรมดา ๆ กลับเป็นทางตัน แม้แต่แม่บ้านที่ดูแลบ้าน ยังไม่รู้เลยว่าซาร่าจะนอนห้องไหนในแต่ละวันเลยค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 20 ส.ค. 05, 10:25

 เหตุผลที่ว่าทำไมซาราห์ต้องสร้างบ้านไม่หยุด มีแตกต่างกันไปค่ะ  บางตำนานก็อย่างที่คุณดารากรเล่า คือผีจะหนวกหูเสียงก่อสร้าง ไม่มารบกวน
แต่บางตำนานบอกว่า บ้านนี้สร้างเพื่อผี  ถ้าสร้างยังไม่เสร็จผีก็มาเอาตัวเธอไปไม่ได้ เธอจึงต้องทำให้เห็นว่ากำลังก่อสร้างตลอดเวลา

ความสลับซับซ้อนของบ้านนี้  ก็เพื่อทำให้วิญญาณร้ายที่ตามอาฆาต  เกิดความสับสนงงงวย เวลาเข้ามาในบ้าน จะได้รังควานเธอไม่ถูก

นี่คือภาพบ้านถ่ายจากทางอากาศ   แค่เห็นตัวบ้าน ไม่ว่าผีหรือคนก็น่าจะหมดปัญญาหาตัวเจ้าของ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 20 ส.ค. 05, 11:13

 ซาราห์อาศัยอยู่ในคฤหาสน์มหึมา เดียวดายตามลำพัง   ถ้าไม่นับคนใช้ (ซึ่งก็อาศัยอยู่ในส่วนของคนใช้) และช่างก่อสร้าง
ตอนกลางคืน ซาราห์มักใช้เวลาปรึกษาหารือกับวิญญาณเรื่องการก่อสร้างบ้าน  ถ้าคืนไหนนอนไม่หลับ  เธอก็เล่นเปียโน   เสียงเพลงแว่วออกไปถึงคนเดินถนนภายนอก  ในยามค่อนคืน

เหตุร้ายเกิดขึ้นกับซาราห์  เมื่อเกิดภัยแผ่นดินไหวในปี 1906    กระทบถึงบางส่วนที่กำลังก่อสร้าง ถล่มลงมา   บ้านชั้นที่ห้า หก และเจ็ดถล่มลงมาทับสวนดอกไม้  พังยับเยินซ่อมไม่ได้

ซาราห์ย้ายห้องนอนทุกคืน  แต่เคราะห์ร้ายห้องนอนที่เธอนอนคืนนั้น เตาผิงเกิดพังลงมา  ทำให้ซาราห์ต้องติดขังอยู่ในห้องนอน  กว่าคนใช้จะตามหาเจอว่าเธอนอนในห้องไหน ก็เป็นเวลานาน

เจอแบบนี้ทำให้ซาราห์เชื่อแน่นแฟ้นเข้าไปอีก  ว่าแผ่นดินไหวคือลางร้ายที่ผีเล่นงานเธอเพราะความโกรธแค้นที่บ้านใกล้จะเสร็จแล้ว
เธอก็เลยจัดการสั่งปิดตายห้องด้านหน้าเสีย 30 ห้อง เพื่อการก่อสร้างจะได้ค้างคาไม่เสร็จอยู่ตลอดไป    และยังเป็นการกักขังผีที่ถูกถล่มลงมาพร้อมกับบ้านให้ติดอยู่ในห้องเหล่านั้นไม่ให้ออกมารบกวนเธออีก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 20 ส.ค. 05, 11:20

 นี่คือหอระฆัง   พอถึงเที่ยงคืน  ระฆังจะถูกตีเป็นสัญญาณเชิญผีมาพบซาราห์
เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการก่อสร้างบ้าน
พอตีสอง ระฆังก็จะตีอีกครั้ง เป็นสัญญาณให้ผีอำลาไปได้แล้ว

ถ้าจะขึ้นไปที่หอระฆัง คือต้องปีนบันไดหลังคาบ้าน  
แต่วิธีดึงสายระฆัง  ไม่ใช่ปีนขึ้นไป    
ระฆังผูกเชือกยาวห้อยลงไปในอุโมงค์ใต้ดิน   ถ้าจะดึงเชือกให้ระฆังดังเหง่งหง่าง  ก็ต้องลงไปตามทางใต้ดิน
ซึ่งมีแต่คนตีระฆังและผู้ช่วยเท่านั้นที่รู้ทางลับใต้ดิน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 20 ส.ค. 05, 11:22

 นี่คือห้องโถงใหญ่ที่ซาราห์ให้สร้างเพื่อต้อนรับงานชุมนุมผี
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 20 ส.ค. 05, 17:55

 มาลงชื่ออ่านครับผม    
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 10:15


ภาพนี้คือห้องนอนของซาราห์   นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว เธอติดอยู่นานเป็นชั่วโมงในห้องที่เธอเลือกในคืนนั้น
หลังจากนั้นเธอก็เลิกย้ายห้องนอน   แต่นอนในห้องเดียวคือ Daisy Room จนกระทั่งถึงวันตาย

ห้องที่เห็น ตั้งเครื่องเรือนสมัยเดียวกับเธอ แต่ไม่ใช่เครื่องเรือนเดิม
เพราะซาราห์ทำพินัยกรรมยกเครื่องเรือนให้หลานสาว  พอเธอตาย หลานก็ขายเครื่องเรือนทั้งหมด
ต้องใช้รถบรรทุกขนกันตั้งแต่เช้ายังเย็น วันละ ๘ คัน  เป็นเวลาติดต่อกันถึงหนึ่งสัปดาห์
ถึงจะขนออกไปหมด

นอกจากนี้ ซาราห์ยังชอบเลข 13  มีหลายอย่างในบ้านที่เธอจงใจให้มีจำนวนเลข 13 อย่างอ่างล้างมือที่มีท่อน้ำ 13 ท่อ
หน้าต่างเกือบทุกบานแบ่งเป็น 13 ช่อง  บันไดเกือบทั้งหมด มี 13 ขั้น  ห่วงบนราวผ้าม่านมี 13 ห่วง ฯลฯ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 10:21


หน้าต่างลวดลายใยแมงมุม เห็นอยู่ทั่วไป
มีผู้วิเคราะห์ว่าซาราห์เลือกลายนี้  เพื่อให้ผีรู้สึกคุ้นเคยว่าเป็นที่อยู่ของมัน
บันทึกการเข้า
vun
พาลี
****
ตอบ: 374


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 17:16


ได้ยินว่า คุณนายซาร่าท่านตัวเล็กใช่ใหมครับ เป็นเพราะอะไรครับ หรือเป็นพันธุกรรม  
บันทึกการเข้า
vun
พาลี
****
ตอบ: 374


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 17:21


บ้านคุณนายซ่าราในปัจจุบันตกแต่งภายในแบบไดครับแบบวิคตอเรียน ใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า
vun
พาลี
****
ตอบ: 374


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 17:49

 ในวปพันทิป บ้าน Winchester House(ต่อไปจะย่อเหลือ WH) เป็น 1 ในบ้านที่ได้รับการโหวตให้เป็นบ้านที่น่ากลัวและลึกลับพิศวงที่สุดแห่งหนึ่งในอเมริกา  ด้วยการนำภาพอาณาบริเวณของบ้านที่กินพื้นที่กว่า 160 เอเคอร์ เป็นการประเดิมครับ

เมื่อ 120 ปีที่แล้วหรือ คศ 1884 ม่ายสาวนาม Sarah Winchester เจ้าของกองมรดกกว่า20ล้านเหรียญสหรัฐและผู้ถือหุ้น49%ของบริษัทผลิตปืนไรเฟิ้ล(คิดดูครับ 20ล้านเหรียญเมื่อ120ปีที่แล้วน่ะมหาศาลแค่ไหนแถมยุคนั้นอเมริกามี Civil War ทำให้รัฐบาลต้องซื้อปืนไรเฟิลจากบริษัทสามีเธอแถมยังได้อภิสิทธิ์ไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐด้วย)  
เธอกำลังเสาะแสวงหาทำเลบ้านหลังใหม่หลังจากการตายของลูกสาวคนเดียวของเธอหลังจากคลอดได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น  ช่วงเวลาดังกล่าทำให้เธอเสียสติและใช้เวลาบำบัดนานถึง 10ปีจึงจะกลับมาปกติอีกครั้ง  หลังจากเธอหายดีได้ไม่นาน สามีผู้เป็นทายาทคนเดียวของบริษัทผลิตปืนไรเฟิ้ลก็เสียชีวิตลงอีกและทิ้งเธอไว้ให้อยู่กับมรดกก้อนโตกว่า 800ล้านบาท (ใช้เรต 1$ = 40บาทซึ่งความจริงมันมากกว่านี้แน่นอน) และกำไรจากบริษัทที่เธอจะได้เฉลี่ยอีก"วันละ" 400,000 บาท

ที่เกริ่นไว้ว่าเธอกำลังหาบ้านใหม่นั้นเนื่องจากภายหลังการตายของบุคคล 2 คนที่เธอรักคือสามีและลูกนั้น เธอกระวนกระวาย

ใจจนเมื่อวันหนึ่งเพื่อนของเธอแนะนำให้เธอลองสื่อสารกับวิญญาณของสามีและลูกเธอดูผ่านทางร่างทรง

ร่างทรงบอกเธอว่าเขาสามารถติดต่อกับวิญญาณของสามีเธอได้ และสามีเธอเตือนเธอว่าการตายของเขาและลูกเกิดจากวิญญาณของผู้ที่ถูกยิงตายด้วยปืนไรเฟิลที่บริษัทพวกเขาผลิตนั้นเอง วิญญาณเหล่านั้นจะตามล่ารังควานและพรากชีวิตคนที่เธอรักไปทีละคน และคนถัดไปคือ ตัวของ Sarah เองนี่คือไรเฟิ้ลที่ว่าครับ บริษัทของพวกเขาสร้างให้รัฐบาลอเมริกา
ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ภายในตัวบ้าน ร่างทรงแนะนำว่าเพื่อแสดงความเคารพต่อวิญญาณผู้ตายเหล่านั้นเธอจะต้องย้ายบ้านไปอยู่ทางทิศตะวันตก และจงสร้างบ้านอย่างไม่วันหยุดสิ้น วันใดที่เธอสร้างบ้านเสร็จวันนั้นจะเป็นวันตายของเธอเองด้วย

ซาร่าเดินทางมายังแคลิฟอร์เนียและติดต่อซื้อที่ดินจากคุณหมอท่านหนึ่งเป็นอาณาบริเวณทั้งสิ้น 160 เอเคอร์และเธอได้จ้างชาวบ้านละแวกนั้นมาเป็น ช่างไม้ ช่างทาสี ช่างทั่วไปสารพัด และที่สำคัญการสร้างบ้านนั้นจะต้องดำเนินไปทั้งสิ้น 24 hours a day, 7 days a week. หรือพูดง่ายๆว่าการก่อสร้างจะต้องดำเนินไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ด้วยเม็ดเงินมหาศาลที่เธอมี โครงการสร้างอัครมหาคฤหาสดำเนินไปวันแล้ววันเล่า กว่า36ปีเต็มที่เสียงตอกตะปูไม่เคยหยุดเงียบในบริเวณบ้าน จากตึกหลังที่1 ขยายไปสู่หลังที่2 3 4 5อย่างไม่มีวันสิ้นสุด  
ที่จุดสูงสุดของบ้าน WH นั้นสูงถึง 7 ชั้น(บ้านคนคนเดียวอยู่กะหลานสาวและคนรับใช้) เริ่มแรกจากห้องทั้งสิ้น 26 ห้องขยายไปสู่
160ห้อง เป็นห้องนอนเสีย40ห้อง ลิฟท์3ตัว เตาผิง 47ชิ้น ห้องครัว 5 ห้อง บันไดที่นับขั้นได้ไม่ถ้วน ปล่องไฟ และโถงรับแสงอีกเป็นสิบๆโถง อาถรรพ์เริมเกิดขึ้นเมื่อปี 1906 เนื่องด้วยเกิดแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่รู้จักกันในนาม the great San Francisco Earthquake. บ้าน WH 3ชั้นบนถล่มลงมาจนสิ้น
เหตุการณ์นี้ทำให้ซาร่าคิดว่าเป็นเพราะเหล่าวิญญาณไม่พอใจเพราะบ้าน WH สร้างจนไม่รู้จะสร้างอะไรเพิ่มแล้ว และเหมือนกับเหล่าวิญญาณร้ายจะส่งสัญญาณที่จะมาเอาชีวิตของเธอไป
มีเรื่องเล่ากันว่า ซาร่านั้นนอนหลับในห้องที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละคืนและคืนที่แผ่นดินไหวนั้นเธอหลับอยู่ในห้อง Daisy Room ซึ่งในคืนดังกล่าวเธอติดอยู่ในซากปรักหักพังของห้องจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และบรรดาสาวใช้ต่างใช้เวลานา นมาก(เดี๋ยวจะเล่าว่าทำไมนาน)ที่จะหาตัวซาร่า ดังนั้นในที่สุดซาร่าจึงตัดสินใจที่จะนอนอยู่ในห้องห้องเดียวถาวรเผื่อง่ายต่อการหาตัวเธอหากเกิดเหตุใดๆขึ้นอีกห้องนอนของซาร่าที่เธอใช้ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
ถัดจากนี้จะเข้าสู่เรื่องราวพิศดารของบ้านครับ
สิ่งแรกเลยคือหลังจากแผ่นดินไหวครั้งนั้น ซาราสั่งปิดห้องต่างๆในโซนหน้าบ้านทิ้งทั้ง 30 ห้องเพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าบ้านของเธอจะไม่มีวันสร้างเสร็จนั้นเอง
เรื่องประหลาดๆก็คือภายในบ้านนั้นจะพยายามทำให้เป็นเลข 13 ให้ได้มากที่สุดเช่น ต้นไม้ที่ปลูก2ทางเข้าบ้านนั้นมี 13ต้น เชิงเทียนที่ปกติเค้าออกแบบให้ใส่เทียนได้ 12เล่ม แต่ซาร่าสั่งทำใหม่ให้ใส่เทียนได้ 13 เล่ม ตู้เสื้อผ้าที่มีตะขอแขวนผ้าได้ 13 ชิ้นต่อตู้ บานกระจกที่มีแบ่งกรอบ กรอบละ13ส่วน

ภาพนี้เป็นบานหน้าต่างรับแสงที่เธอออกแบบให้เป็นรูปใยแมงมุม

หรืออันนี้ที่สำหรับคนไทยอาจจะแค่แปลก แต่ฝรั่งมองว่าเป็นสิ่งที่หลอนมากครับ มันคือบันไดที่ทอดไปสู่เพดานหรือ A stair that leads to nowhere. คุณคิดดูสิว่าคนเราจะสร้างบันไดที่ทอดไปสู่เพดานเพื่ออะไร???
100ทั้ง100 อาจมองเจ้าสิ่งนี้ว่าเป็นประตูแต่แท้ที่จริงแล้วมันคือหน้าต่างที่มองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากผนังของอีกห้อง ตู้เสื้อผ้าที่มีตะขอให้แขวนได้ 13 อันเท่านั้น



ส่วนนี้คือบันไดประหลาดที่สุดในโลก เพราะแต่ละขั้นสูงเพียง 2นิ้วเท่านั้น เธอสร้างมันไว้ทำไม?] ห้องน้ำทุกห้องในคฤหาสจะมีประตูที่ทำจากแก้วเท่านั้น เหตุเพราะเธอเชื่อว่าวิญญาณนั้นกลัวภาพสะท้อนของตัวเองเธอจึงติดประตูกระจกเอาไว้

นี่คือตัวอย่างอ่างอาบน้ำของเธอ


เรื่องแปลกๆไม่หมดแค่นั้นเพราะซาร่าสั่งให้ช่างติดหน้าต่างไว้ที่พื้นทำประตูที่เปิดไปแล้วไม่มีอะไรนอกจากกำแพงโล่งประตูที่เปิดแล้วมองเห็นห้องครัวชั้นล่างปล่องไฟที่ไม่มีปลายระบายควันประตูที่เปิดไปสู่ชั้นล่างแต่ไม่มีบันไดให้ลง ฯลฯ
   
เหล่านี้เกิดจากที่บ้านหลังนี้ไม่มีการออกแบบล่วงหน้า ทุกเช้าซาร่าจะมายังห้องนี้ ห้องที่เธอเชื่อว่า วิญญาณจะให้แนวทางในการสร้างบ้านของวันนี้และวันต่อๆไป
หลังคาของหมู่คฤหาสน์ จะสังเกตุเห็นหอคอย และที่สำคัญ skylight ซึ่งมีเยอะมากๆๆๆ บ้านคนไม่น่ามีหลังคาที่แสงทะลุเข้ามาได้เยอะขนาดนี้
ประตูในบ้านหลังนี้สมมุติว่าจากชั้นใต้ดินนั้นจะพาคุณไปสู่นู้นชั้น 4หรือ จากชั้น3 บันไดจะทอดไปชั้น1แทนที่จะเป็นชั้น 2 เป็นต้น ยังไม่นับประตูที่ผมเล่าไว้ข้างบนแล้วที่ว่า ประตูที่เปิดออกไปแล้วจะเจอกับห้องครัวชั้นล่าง คือถ้าก้าวออกไปก็ตกลงไปเลย หรือประตูที่เปิดไปแล้วเจอกำแพงเปล่าๆเป็นต้นมันอาจฟังดูแล้วไร้เหตุผลในสายตาพวกเรา หากแต่ซาร่าสร้างประตูเหล่านี้ไว้ปั่นหัววิญญาณที่จะมาทำร้ายเธอให้งงเล่นนั่นเอง คราวนี้ฟังดูมีน้ำหนักขึ้นมั้ยครับสำหรับประตูแปลกๆเหล่านี้มานับอัญมณีบนหน้าต่างบานนี้กันครับ ผลลัพธ์เท่ากับ 13 มาดูอีกหนึ่งความแปลก หน้าต่างซึ่งสร้างไว้แทนที่จะดูวิวนอกบ้าน กลับเอาไว้ดูวิวอีกห้องหนึ่ง (ห้องที่หน้าต่างเชื่อมไว้คือห้องนอนที่ซาร่าเสียชีวิตครับ)

ปัจจุบันนาฬิกาทุกเรือนในบ้านถูกตั้งเวลาไว้ที่ 1.13 เพื่ออะไร? ขวามือของภาพ สังเกตุดีๆมันคือ Secret passage way

อีกเกร็ดหนึ่งที่อยากให้ทราบกันคือ เป็นเวลากว่า 120 ปีแล้วที่บ้านหลังนี้กำปริศนาที่ว่ามันมีห้องกี่ห้องกันแน่เพราะทุกครั้งที่ปฎิบัติการนับห้องในบ้านเริ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เคยเท่ากันเลยสักครั้ง และจำนวนที่กล่าวกันว่าบ้านนี้มี 160 ห้องนั้นเป็นเพียงตัวเลขอย่างสังเขปเท่านั้น
ห้องนี้ที่ฟันธงว่าไม่มีใครอยากมีในบ้านแน่ๆ เพราะมันคือ ห้องจัดเลี้ยงแก่ผีและวิญญาณ ซาร่านั้นโปรดปรานการเล่นเปียโนและออร์แกนมาก เธอมักจะมาเล่นออร์แกนในห้องนี้เพื่อให้ความเพลิดเพลินแก่บรรดาผีสางในบ้านของเธอ มีเรื่องเล่ากันว่าหลังจากซาร่าตายลงห้องที่มักได้รับการกล่าวขวัญถึงเสียงลึกลับห้องหนึ่งก็คือห้องนี้ กำเนิดแห่งเสียงนั้นคือออร์แกนที่ไม่มีใครบรรเลงนั่นเอง
ในราตรีกาลเสียงออร์แกรดังแผ่วแว่วมาแต่ไกล หากเพียงต้น
มาดูอีกหนึ่งความแปลก หน้าต่างซึ่งสร้างไว้แทนที่จะดูวิวนอกบ้าน กลับเอาไว้ดูวิวอีกห้องหนึ่ง (ห้องที่หน้าต่างเชื่อมไว้คือห้องนอนที่ซาร่าเสียชีวิตครับ)
บรรดาไกด์และคนดูแลบ้านต่างประสพกับเรื่องราวลี้ลับที่พวกเขาอธิลายไม่ได้ เช่น เมื่อกลางดึกของคืนหนึ่งระหว่างผู้ดูแลบ้านกำลังเดินปิดประตูห้องต่างๆอยู่นั้น เขาได้ยินเสียงคนเดินอยู่ชั้นบนของบ้านแต่นั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะบ้านทั้งหลังมีเขาเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาชั้นบนได้

หรือไกด์คนหนึ่งระหว่างนำกลุ่มนักท่องเที่ยวชมบ้าน เขาพบกับหญิงชราร่างเล็กสวมชุดสไตล์วิคตอเรียน เมื่อการนำชมเสร็จแล้วเขาจึงเดินไปต่อว่าเพื่อนๆไกด์ด้วยกันเพราะเขาคิดว่าวันนี้มีการแต่งกายเลียนแบบ มิส ซาร่า แต่ไม่มีใครในกลุ่มไกด์บอกเขาล่วงหน้าเลย คำตอบที่เขาได้รับจากเพื่อนๆทำให้เขาถึงกับ งง ไปนานเพราะไกด์ทั้งหลายต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า บ้านหลังนี้ไม่เคยมีการให้หญิงชราไปนั่งแต่งกายเลียนแบบมิส ซาร่า เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ภาพถ่ายของบรรดานักท่องเที่ยวที่ถ่ายขณะอยู่ในบ้านมักเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ปรกติ กล่าวคือ แทบทุกภาพที่ถ่ายในบ้านหลังนี้จะถ่ายติดสิ่งผิดปกติมาเสมอ และรูปที่ผมโพสไว้ด้านบนบางรูปก็มีนะครับ เช่นรูปที่ 16 -17 เจ้าของรูป claim ว่ามีฟองอากาศเป็นจุดสีขาวเหมือนรอยด่างติดอยู่ในหลายๆรูปที่เขาถ่ายติดไป ซึ่งตรงกับข้อเท็จจริงที่ว่า มิส ซาร่า เป็นสตรีร่างเล็กสูงเพียง 4ฟุต 10นิ้วเท่านั้น
รวมถึง ภาพส่งท้ายภาพนี้ซึ่งเป็นเงาลางคล้ายกับสตรีตัวเล็กสวมชุดกระโปรงบานแบบสไตล์วิคตอเรียนกำลังเดินผ่านประตู"ภาพถ่ายของบรรดานักท่องเที่ยวที่ถ่ายขณะอยู่ในบ้านมักเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ปรกติ กล่าวคือ แทบทุกภาพที่ถ่ายในบ้านหลังนี้จะถ่ายติดสิ่งผิดปกติมาเสมอ และรูปที่ผมโพสไว้ด้านบนบางรูปก็มีนะครับ เช่นรูปที่ 16 -17 เจ้าของรูป claim ว่ามีฟองอากาศเป็นจุดสีขาวเหมือนรอยด่างติดอยู่ในหลายๆรูปที่เขาถ่ายติด"
บ้าน WH อยู่ที่เลขที่ 525 South Winchester Boulevard, San Jose [แถวๆ Bay area ครับ] รัฐแคลิฟอร์เนีย อเมริกานู้น  ค่าทัวร์จะแบ่งได้ 4 ประเภทคือ
1 ทัวร์ดูแต่บ้าน 20 เหรียญหากจะนับกันแล้ว WH อาจเป็น one of the most haunted house in America แต่หากจัดอันดับโลกแล้วอาจแพ้สถานที่อีกที่หนึ่งครับ เป็นบ้านเช่นกันตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ
2 ทัวร์ดูเฉพาะบริเวณบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จคาราคาซัง 17เหรียญ
3 ทัวร์ดูทั้ง 1+2 ราคาอยู่ที่ 25เหรียญ
4 ตั๋วแบบรายปี  เข้าเมื่อรั่ยก็ได้ 49 เหรียญ

ลืมบอกบ้านหลังนี้เปิดทั้งปีแต่จะปิดวันคริสมาสวันเดียวครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 20:21


เอาภาพมาฝากกันนิดหน่อยนะครับ หลังจากเป็นแฟนกระทู้นี้มาหลายวันแล้ว




ภาพนี้เป็นภาพหน้าต่างซึ่งถูกประดับด้วยอัญญมณี 13 เม็ดในความเห็นที่ 25 ที่คุณvun นำข้อความมาจากบอร์ดพันทิพย์นะครับ

ผมหาได้จาก http://www.lostdestinations.com/winchstr.htm  ครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 20:24


ส่วนภาพนี้เป็นภาพหน้าต่างซึ่งมองทะลุเข้าไปยังห้องที่ Sarah เสียชีวิตครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 20:26


แล้วก็หน้าต่างที่มองทะลุจากพื้นลงไปยังอ่างล้างจานในห้องครัว ที่ข้อความจากบอร์ดพันทิพย์ซึ่งคุณvun นำมากล่าวถึงครับ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 20:29


หน้าต่างที่ถูกทำไว้บนพื้นแบบนี้อีกมั้งครับ ที่ดูแปลกสำหรับใครหลายๆคน (รวมทั้งผมด้วยล่ะครับ)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง