ผมอยากทราบเรื่อง"The Winchester house in America"

[vun]

ผมอยากทราบเรื่อง"The Winchester house in America"ที่เขาเล่าว่าเป็นบ้านผีสิงนะครับ

[เทาชมพู]

เรื่องนี้สนุกดีค่ะ   ขอเวลาอีกสองสามวัน  จะเล่า เอารูปมาให้ดูก่อน

[เทาชมพู]

เรื่องราวของคฤหาสน์ผีสิงวินเชสเตอร์  หรือที่เรียกกันว่า The Winchester Mystery Mansion เป็นเรื่องที่แพร่หลายไปทั่วอเมริกา และโกอินเตอร์อีกด้วย เพราะมีนักท่องเที่ยวนับล้านๆคน ได้ข่าว  แห่ไปเยือนคฤหาสน์นี้มาแล้ว   ทุกวันนี้ก็ยังมีไม่ขาดสาย   ทำเอาการท่องเที่ยวของเมืองซานโฮเซ่ รัฐคาลิฟอร์เนียยิ้มไม่หยุด เพราะมันเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจุดสำคัญของเมือง  โดยที่ชาวเมืองนี้แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลยก็ว่าได้   ขอเล่าแบบหนังเรื่องยาวนะคะ  ใครขี้เกียจอ่าน อยากอ่านอะไรสั้นๆก็ไปเปิดอ่านที่เว็บนี้  http://www.ghosts.org/haunted/winchester/winchester.html รูปที่นำมาลงในคห.นี้คือคฤหาสน์วินเชสเตอร์ ในปัจจุบัน ที่ตกแต่งเสียสวยงาม รับนักท่องเที่ยว

[เทาชมพู]

ความเป็นมาของคฤหาสน์ที่ได้ชื่อว่าพิลึกพิลั่นที่สุดของอเมริกาย้อนหลังไปถึงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ค่ะ เริ่มต้นที่คุณนายเศรษฐีนีไฮโซคนหนึ่ง  เธอชื่อซาราห์ วินเชสเตอร์ เป็นภรรยาของวิลเลียม วินเชสเตอร์ ทายาทตระกูลเจ้าของโรงงานผลิตอาวุธปืนไรเฟิล วินเชสเตอร์ ใครที่ไม่รู้จักปืนแต่เคยอ่านเพชรพระอุมา  อาจจะเคยผ่านตายี่ห้อนี้มาแล้ว ว่าเป็นปืนยาวคู่มือของแงซาย  ถือขึ้นมาที่บ้านหนองน้ำแห้งของรพินทร์ ล่วงมาถึงสมัยเพชรพระอุมา  มันอาจเป็นปืนเก่าคร่ำคร่ารุ่นคุณทวด แต่ในสมัยที่ผลิต มันเป็นปืนทันสมัยมีอานุภาพการประหัตประหารสูงมาก เท่าที่เคยมีมา   แทนที่จะยิงได้ทีละนัดเดียวก็หมดกระบอก  อย่างปืนแก๊ปโบราณกระบอกยาวสูงท่วมอก ก็ยิงได้หลายนัดติดต่อกันไป บรรจุกระสุนง่าย ประสิทธิภาพเยี่ยม ในสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้   รัฐบาลสั่งซื้อปืนแบบนี้แหละไปให้กองทัพเอาไปรบ   ทำให้เจ้าของโรงงานร่ำรวยมหาศาลขึ้นมาทันตาเห็น   ต่อมา พอผู้บุกเบิกอพยพไปตั้งถิ่นฐานทางตะวันตก ต้องเผชิญกับอินเดียนแดง และโจรผู้ร้าย  ปืนวินเชสเตอร์ก็ไปมีบทบาทให้ ชาวไร่ชาวนา คาวบอยและผู้ร้ายไล่ยิงกันมันมือไปเลย ยิ่งต่างฝ่ายต่างยิงกันมากเท่าไร เจ้าของโรงงานก็โกยเงินเข้ากระเป๋ามากเท่านั้น มรดกมหาศาลตกทอดมาถึงวิลเลียม   และซาราห์ภรรยา ผู้ใช้ชีวิตอย่างผู้ดีไฮโซอยู่ที่นิวฮาเวน รัฐแมสสาชูเส็ตต์ ทางตะวันออกของอเมริกา แต่ชีวิตคนรวยนั้นก็มักจะมีอะไรอาภัพอย่างนึกไม่ถึง   อย่างสามีภรรยาคู่นี้ มีเงินพอจะมีลูกสักโหลก็ได้สบายมาก เอาเข้าจริงกลับมีลูกสาวคนเดียวชื่อแอนนี่   เจ้ากรรม หนูน้อยแอนนี่ก็ยิ่งอาภัพซ้ำซ้อน  เกิดมาเป็นลูกมหาเศรษฐีเสียเปล่า  เธอเกิดป่วยด้วยโรคที่เรียกชื่อยาก ว่า marasmus ดิฉันไปเปิดดิกชันนารีออนไลน์หาความหมาย    เขาอธิบายว่าเป็นโรคที่ร่างกายขาดสารอาหาร  จนอดตายไปเองเหมือนเด็กไม่มีอะไรจะกิน   ถ้าคุณหมอศานติหรือคุณนทีสีทันดรเปิดเข้ามาอ่านกระทู้  ช่วยอธิบายความหมายด้วยจะขอบคุณมาก ภาพนี้คือซาราห์ วินเชสเตอร์สมัยยังสาว

[เทาชมพู]

โรคนี้นับว่าน่าเศร้ามากสำหรับลูกมหาเศรษฐี  แอนนี่ก็เลยตายไปจริงๆ ทำให้ซาราห์เศร้าโศกเสียใจจนสติแตก   เธอ "หลุด"ไปถึง 10 ปีกว่าจะทุเลากลับมาใช้ชีวิตกับสามีอีกครั้ง ยังไม่ทันชีวิตจะดีขึ้น   วิลเลียมก็มาตายจากไปด้วยวัณโรค ซึ่งเป็นโรคร้ายยากจะมีทางรักษาในสมัยนั้น  ทิ้งให้ซาราห์เป็นม่ายเมื่ออายุ 42 ปี สูญเสียทั้งลูกและสามี    ซาราห์เศร้าโศกเสียใจจนทำใจไม่ได้   เพื่อนคนหนึ่งก็เลยแนะนำให้ปรึกษาคนทรง เพื่อหาทางติดต่อกับโลกของวิญญาณ ขออธิบายแถมหน่อยค่ะว่า   ในสมัยนั้นซึ่ง ตรงกับวิคตอเรียนของอังกฤษ   คนอังกฤษและอเมริกันนิยมเรื่องทรงเจ้าเข้าผีกันแพร่หลาย แต่ไม่มีเจ้าแม่เจ้าพ่ออย่างบ้านเรา   เขามีคนทรงซึ่งเป็นสื่อกลางติดต่อกับวิญญาณคนตาย เพื่อญาติพี่น้องลูกเมียจะได้รู้ข่าวคืบหน้า ว่าตายแล้วสุขสบายหรือลำบากยังไง  ว่างๆก็กลับมาทักทายกันบ้างพอให้หายคิดถึง รูปที่เอามาลง คือห้องที่คนทรงกำลังทำพิธีติดต่อกับวิญญาณค่ะ

[เทาชมพู]

 ซาราห์หาคนทรงมาได้     คนทรงติดต่อกับโลกของวิญญาณ จนพบสามีเธอ    
เขาบอกว่าสามีเล่าให้ฟังว่า เขาและลูกของเธอต้องตายไปก็เพราะต้องคำสาป ที่ตระกูลก่อขึ้น  
คือผลิตอาวุธที่ทำลายล้างชีวิตมนุษย์เสียนับไม่ถ้วน
บรรดาวิญญาณที่ตายไปเพราะปืนวินเชสเตอร์นั่นแหละกลับมาล้างแค้น และถ้าสบโอกาสจะเอาตัวซาราห์ไปอีกคนเมื่อไรก็จะทำ

คนทรงยังบอกอีกว่า วิญญาณสามีจะนำเธอไปทางทิศตะวันตก ณ ที่นั้นเธอจะพบบ้านหลังใหม่  ที่สร้างเพื่อล้างคำสาปนี้

ซาราห์ย้ายจากนิวฮาเวนมาหาที่อยู่ใหม่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร คือที่เมืองซานโฮเซ  รัฐคาลิฟอเนีย

เธอซื้อที่ดิน 162 เอเคอร์ พร้อมบ้าน 6 ห้องนอนจากเจ้าของเดิม  ทุบของเดิมทิ้งไปอย่างไม่ไยดี  เริ่มทำอะไรอย่างหนึ่ง เพื่อล้างคำสาป   คือสร้างบ้านใหม่ให้วิญญาณเหล่านั้น
เพราะตราบใดที่บ้านยังไม่เสร็จ   วิญญาณร้ายเหล่านั้นก็ยังเอาตัวเธอไปไม่ได้

[เทาชมพู]

ตลอดเวลา 38 ปี  จนซาราห์ถึงแก่กรรม   บ้านหลังนั้นมีการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา   ตอกตะปูปึงปัง  คนงานแบกนั่นขนนี่ รื้อห้องโน้น ต่อห้องนี้  ดัดแปลงห้องนั้น   ทุบทิ้งส่วนที่สร้างเสร็จ  ทำเพิ่มส่วนใหม่  ไม่มีวันจบวันสิ้น ขณะที่ชาวบ้านอย่างเราสร้างบ้านเข้าสักหลังก็บานปลายจนเป็นหนี้แบ๊งค์   แต่ซาราห์สร้างบ้านหลังเดียว  ต่อเนื่องได้เกือบ 40 ปีอย่างขนหน้าแข้งไม่ร่วง เพราะเธอมีรายได้มหาศาลจากมรดกที่สามีทิ้งไว้ให้ถึง 20 ล้านดอลล่าร์  (ถ้าเป็นมูลค่าปัจจุบันก็คงหลายพันล้าน) นอกจากนี้เธอยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทผลิตปืนของสามี ถึง 48.9%  และมีรายได้เข้ากระเป๋าตกวันละ 1000 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินเท่าไรนับไม่ถูก   แต่ถ้าเป็นปัจจุบันนี้เธอก็คงยืนอยู่ไม่ห่างบิล เกต กี่มากน้อย

[เทาชมพู]

บ้านวินเชสเตอร์ไม่มีแบบแปลนอะไรตายตัว   ซาราห์จ้างช่างไม้ประจำไว้ 22 คน ทำงานตลอดปี วันละ 24 ชั่วโมง   ทุกเช้าเธอจะเรียกช่างไปพบพร้อมด้วยแปลนต่อเติมใหม่ให้ตัวบ้าน    ซึ่งสับสนอลหม่าน ไม่เหมือนบ้านไหนในโลก     พอสร้างไปแล้วพบว่ามันไม่ลงตัว เธอก็หาทางออกด้วยการเพิ่มส่วนใหม่รองรับเข้าไป   บ้านจึงขยายตัวออกไปเรื่อยๆ แทนที่จะเป็นหลังเดียวก็เหมือนหมู่บ้านต่อเชื่อมติดกันเป็นกองใหญ่     ส่วนความสูงก็ต่อกันแล้วต่อกันอีกเข้าไปถึง 7 ชั้น  มีหอคอย  ปีกของบ้าน  หลังคาใหญ่น้อย อยู่ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง แล้วแต่ใจชอบ

[เทาชมพู]

สำรวจถึงความพิลึกพิลั่นในบ้านบ้างนะคะ ว่ามีอะไรบ้าง -ลิฟต์สามตัว (สำหรับเจ้าของบ้านคนเดียว) -เตาผิง 47 แห่ง - บันไดจำนวนนับไม่ถ้วน ที่สร้างไว้ ไม่ใช่สำหรับเดินขึ้นลง    เช่น บันไดที่ทอดขึ้นสู่เพดานตัน - ระเบียงขนาดจิ๋ว   ใช้เดินผ่านไม่ได้ - ปล่องไฟที่สร้างไว้สูง 4 ชั้นแต่ตรงปลายทิ้งไว้ ไม่ติดต่อทะลุเพดาน - ประตูห้องเก็บเสื้อผ้า ที่เปิดเข้าไปเจอผนังทึบ - ประตูลับบนพื้นห้อง - ทางเดินระหว่างห้องที่ย้อนกลับมาที่ห้องเดิม - ช่องรับแสงสว่างบนหลังคา  ที่สร้างไว้ซ้อนใต้หลังคาอีกแห่งหนึ่ง - ประตูที่เปิดออกไปแล้ว ก็จะก้าวดิ่งลงสู่อากาศว่างๆนอกบ้าน เหนือสวนดอกไม้เบื้องล่าง - เสาเชิงบันได ที่ติดตั้งกลับหัวลง - ประตูห้องน้ำ จำนวนมากในบ้าน เป็นกระจกใส - อ่างล้างมือที่มีท่อน้ำทิ้งถึง 13 ท่อสำหรับอ่างเดียว ภาพนี้คือบันไดหนึ่งในจำนวนหลายแห่ง ที่สร้างขึ้นไปชนเพดานตัน ไม่มีทางไปอีก

[เทาชมพู]

อ่างล้างมือสั่งจากอิตาลี มีท่อน้ำทิ้งถึง 13 ท่อ (ไม่รู้ว่ามีเกินจำเป็นไปทำไม 12 ท่อ)

[เทาชมพู]

ระเบียงขนาดจิ๋ว ตรงกลาง สร้างให้มีประตูเข้าออกขนาดเล็ก คนเดินผ่านเข้าออกไม่ได้

[เทาชมพู]

ปล่องไฟสูง 4 ชั้น  แต่พอถึงชั้นที่ 5 ก็หยุดสร้าง เว้นช่องว่างไว้ไม่ให้ต่อถึงเพดานไปออกหลังคา ทำให้ใช้งานไม่ได้

[เทาชมพู]

ห้องลับที่ต้องออกทางประตูห้องเก็บเสื้อผ้าได้ทางเดียว เข้ามาจากอีกทางหนึ่ง ซึ่งออกไม่ได้

[เทาชมพู]

บันไดเวียนที่หักเลี้ยวถึง 9 เลี้ยว ขั้นบันไดชิดกันมาก  อย่างบันไดนี้มี 44 ขั้น แต่สูงเพียง 9 ฟุต

[ติบอ]

 แวะมาตามอ่านนะครับ
สัปดาห์หน้าผมสอบอีกแล้วล่ะครับ
เหนื่อยจัง