เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้าชมนิทรรศการของ มูลนิธิ James H W Thompson เรื่องเกี่ยวกับผ้ามัดหมี่ซึ่งจัดโดย อ. ธีรพันธุ์ จันทร์เจิรญ และได้เข้าใจในลายของผ้านุ่งมากขึ้น
แต่เดิม ผมเข้าใจเพียงแค่ว่า ลายผ้าของพระราชสำนัก มีการแบ่งประเภทของขุนนางในแต่ละระดับชั้น เช่น ในระบบของผ้าสมปัก(ผ้ามัดหมี่ผืนยาวที่ใช้นุ่งโจงกระเบนแบบต่างๆ) สมปักเชิงปูม สมปักริ้วสำหรับข้าราชการระดับล่างหน่อยและ สมปักปูมดอกเล็ก,กลาง,ใหญ่ สำหรับข้าราชการระดับสูงข้น หรือสมปักท้องนาคสำหรับข้าราชการสำคัญๆ และมีวิธีการนุ่งผ้า หรือชนิดของผ้าอีกหลายชนิดสำหรับงานพระราชพิธีต่างๆ เช่น พระราชพิธีตรียัมปวาย หรือผ้านุ่งสำหรับควาญผู้ควบคุมพระคชาธารเป็นต้น
แต่ในงานนิทรรศการดังกล่าว ได้กล่าวถึงการแบ่งวัยของสตรีในกลุ่มไทยลาวอีกหลายกลุ่ม ด้วยลวดลาย และชนิดต่างๆของผ้านุ่ง เช่นผ้าซิ่นเนื้อฝ้ายขนาดสั้นของชาวภูไท ซึ่งใช้นุ่งทั่วไป หรือ ซิ่นไหมลายต่างๆที่ชาวไทยลาว และชาวไทยเขมรหลายกลุ่มใช้กัน ซึ่งแบ่งได้ตามอายุ และบทบาท-สถานะทางสังคม เช่น เด็กสาว สาวรุ่น สตรีที่แต่งงานแล้ว และหญิงสูงอายุ
แต่ปัจจุบันด้วยแรงผลักดันทางเศรษฐกิจของระบบทุนนิยม และความสวยงาม สตรีในแต่ละเพศแต่ละวัยก็ใช้ผ้าที่ไม่ได้ยึดถือกันมาตามจารีตประเพณีเดิม หรือแม้กระทั่งสีสันและลวดลายที่มีในกลุ่มชนแต่ละกลุ่ม ซึ่งเปลี่ยนแปลง และค่อยๆกลืนกันไปตามกาลเวลา ด้วยความเป็น"โลกาภิวัฒน์" ของโลกยุคปัจจุบัน
ในทางหนึ่ง การเลือนหายของวัฒนธรรมหลายอย่างเหล่านี้อาจจะหมายถึงการสูญเอกลักษณ์ถิ่น ความหายนะทางวัฒนธรรม หรือ ความหย่อนปฏิบัติของจารีตประเพณีเดิม แต่ในทางกลับกันสิ่งเดียวกันก็หมายถึงความเป็นชาติที่แน่นแฟ้นมากขึ้น ความเป็นไทของชนชาติไทยที่มากขึ้นหรือ อิสระในการกระทำที่สูงขึ้นตามไปด้วย เราเลยได้เห็นอะไรๆที่ถ้าเมื่อ 4 - 5 ชั่วคนที่แล้ว (ผมคิดซะว่าชั่วคนละ 25 ปี) มาเห็นเข้าคงคิดว่าเข้ากลียุคเข้าเต็มทีแล้วกระมัง ไม่ว่าจะเป็นหญิงอายุมากที่แต่งตัวไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่นหรือเด็กวัยรุ่นที่ลุกขึ้นด่าผู้ใหญ่อย่างใครห้ามเตือนไม่ได้
ผมเอง อาจจะเกิดในยุคเก่า ระบบการปกครอง(ในครอบครัว) แบบเก่า ลูกหลานจะยืนค้ำศีรษะพ่อแม่ได้ เว้นแต่ตามโอกาสที่ท่านอนุญาต(เช่น ถ่ายภาพ เป็นต้น

) บางครั้งเห็นอะไรหลายๆอย่างก็คงตกใจเป็นธรรมดา ถ้าใครรู้สึกว่าผมแก่เกินความเป็นนักศึกษาไปก็ขอโทษด้วยนะครับ อย่าถือสาก็แล้วกัน
คืนนี้ง่วงมากแล้วครับ ขออนุญาตไปนอนก่อนละกันครับ กลัวว่าถ้าอดนอนแล้วจะฟุ้งซ่านอยู่ครับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาเขียนต่อแล้วกันนะครับ ว่าชาวไทยแต่ละสายเขามีการแบ่งประเภทของลวดลายผ้านุ่งกันยังไง