หนอนบุ้ง
อสุรผัด

ตอบ: 113
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 01 ต.ค. 07, 11:12
|
|
.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หนอนบุ้ง
อสุรผัด

ตอบ: 113
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 01 ต.ค. 07, 11:22
|
|
เจ้าคุณแพร (สะใภ้หลวงคนแรก) เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๙๗ ปีขาล เข้าถวายตัวเมื่อเดือน ๑๒ พ.ศ. ๒๔๑๐ ปีเถาะ
สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ ทรงได้หม่อมแข ช่วงต่อปี ๒๔๐๙-๒๔๑๐ ขณะนั้นพระชนม์ ๑๓ พรรษาเศษ ที่ตำหนักสวนกุหลาบทรงมีพระธิดาองค์แรก (พระองค์เจ้าหญิงผ่อง) ซึ่งทรงประสูติเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ปี ๒๔๑๐
รูปซ้าย พระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงตำแหน่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เมื่อปีเถาะ พ.ศ.๒๔๑๐
รูปขวา หม่อมท่านเเรก คุณแพ หลานปู่ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๐ (ในร. ๖ เป็นเจ้าคุณพระประยุรวงศ์)
มีคำถามค่ะ สงสัยว่าทำไมพระองค์เจ้าหญิงศรีวิลัยลักษณ์ จึงทรงกรมเป็นกรมขุน เทียบเท่าเจ้าฟ้าล่ะคะ? โดยทั่วไปชั้นพระองค์เจ้าเห็นได้รับพระราชทาน "กรมหมื่น" เท่านั้นค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
frong
อสุรผัด

ตอบ: 4
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 22 ก.ย. 12, 15:20
|
|
ขุดกระทู้เก่ามาอ่าน
เหตุที่กรมขุนสุพรรณฯ ท่านทรงได้เป็นกรมขุน เห็นทีจะด้วยเป็น "ลูกคู่ทุกข์คู่ยาก" กระมังครับ
ส่วนพระองค์ผ่อง
เคยได้อ่านมาอีกว่า
มีครั้งหนึ่ง รัชกาลที่ ๕ เสด็จมา พระบรมวงศ์รวมทั้งพระองค์ผ่อง ก็หมอบกราบเฝ้ารับเสด็จกันตามธรรมเนียม โดยพระองค์ผ่องเตรียมพัดขนนก ไว้ถวายด้วย
ครั้งนั้น รัชกาลที่ ๕ เสด็จผ่านหน้าพระองค์ผ่อง พระองค์ผ่องก็ถวายพัด รัชกาลที่ ๕ ก็ตรัสว่า อยากได้อะไร พระองค์ผ่องทูลว่า อยากได้พระธำมรงค์
คราวต่อมา รัชกาลที่ ๕ ก็พระราชทานแหวนให้พระองค์ผ่องจริงๆ
เป็นความปลาบปลื้มนัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
kwang satanart
อสุรผัด

ตอบ: 48
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 16 พ.ย. 12, 17:53
|
|
บทความนี้คัดลอกมาฝากคุณหนอนบุ้งอ่านค่ะ.....
พระองค์เจ้าหญิงศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี พระธิดาพระองค์ที่ ๒ ที่ประสูติก่อนบรมราชภิเษก พระมารดาคือ “คุณแพ” หรือ “เจ้าจอมมารดาแพ” พระนัดดาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เจ้านายผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจในเวลานั้น สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ทรงมีพระทัยชอบพอในตัว “คุณแพ” ซึ่งถือเป็น “รักแรก” ของพระองค์ พระราชบิดาทรงดีพระทัย จึงทรงสู่ขอและพระราชทานให้เป็น “สะใภ้หลวง” เพื่อให้เกิดผลดีทางการเมืองอีกประการหนึ่งด้วย พระธิดาฯ เมื่อแรกประสูติดำรงพระยศชั้น “หม่อมเจ้า” เนื่องด้วยตามกฎมณเฑียรบาล พระโอรสและพระธิดาที่ประสูติแต่พระมารดาผู้เป็นสามัญชน ให้ดำรงพระยศเป็น ”หม่อมเจ้า” และยังมิได้เรียกขานเป็น “พระราชธิดา” แต่ให้เรียกเป็น “พระธิดา” เหมือน หม่อมเจ้าหญิงผ่อง พระธิดาพระองค์นี้เป็นที่โปรดปรานในพระราชบิดานัก ทรงเรียกพระธิดาว่า “เจ้าหนู” และเมื่อเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ได้เลื่อนพระยศเป็น “พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์”
พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ ทรงเป็นที่เคารพนับถือของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและลูกยาเธอเจ้าฟ้าฯ ทุกพระองค์ คนในวังจึงออกพระนามว่า “เสด็จพระองค์ใหญ่” ทั้ง ๆ ที่เป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ ๒ ของพระเจ้าอยู่หัว บรรดา เจ้าน้องที่เป็น “เจ้าฟ้า” ทุกพระองค์ทรงเรียกพระองค์ว่า “พี่หนู” ตามที่พระราชบิดาทรงเรียกพระองค์เจ้าหญิงฯ ว่า “เจ้าหนู”มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ “เสด็จพระองค์ใหญ่” ทรงได้รับพระมหากรุณาเป็นพิเศษกว่าพระเจ้าลูกเธอที่เป็นพระองค์เจ้าด้วยกัน ดังจะเห็นได้ว่า “เสด็จพระองค์ใหญ่” เป็นพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าหญิง พระองค์เดียวที่ได้ทรงกรมระดับเจ้าฟ้า โดยเป็น “กรมขุน” ที่ “กรมขุนสุพรรณภาควดี”
เป็นที่น่าสะเทือนใจนักที่ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ ทรงมีพระชันษาสั้นนัก ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อทรงมีพระชันษาเพียง ๓๗ ปี เป็นที่อาลัยอาวรณ์แก่พระราชชนก และข้าหลวงชาววังทั่งไป ด้วยอาลัยยิ่งนัก ในการพระราชทานเพลิงศพพระราชธิดาพระองค์ใหญ่นี้ ถือเป็นครั้งแรกในรัชสมัยที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระภูษา “ขาว” และทรงมีรับสั่งว่า “ลูกคนนี้รักมาก เป็นลูกคู่ทุกข์คู่ยาก ต้องนุ่งขาวให้” (ตามธรรมเนียมโบราณของงานศพ ผู้ที่อ่อนวัยกว่าผู้ตายเท่านั้นถึงจะต้องแต่งขาวมาในงานศพ ส่วนผู้ที่แก่อาวุโสกว่าผู้ตาย ต้องแต่งดำ)
จะกล่าวถึง “คุณแพ” หรือ “เจ้าจอมมารดาแพ” พระราชมารดาของพระองค์หญิงฯ เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงได้เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้เลื่อนให้เป็นได้เพียง “เจ้าคุณพระสนมเอก” มิอาจสถาปนาให้เป็นพระมเหสีเทวี หรือพระอัครชายาได้ เพราะ “คุณแพ” เป็นเพียงสามัญชน มิต้องตามธรรมเนียมราชประเพณี กรณีตั้งวงศ์แต่แรกนั้นถึงจะสถาปนาได้ แต่พระพุทธเจ้าหลวงก็ทรงยกย่องนัก ทรงเรียก “คุณแพ” ตลอดไป ซึ่งโดยปกติพระองค์จะทรงเรียกพระอัครชายาหรือเจ้าจอมแต่ละท่านว่า “นาง...” เช่น “นางสดับ” เป็นต้น และที่ทรงเรียก เจ้าจอมมารดาแพ และ พระองค์หญิงฯ ว่าเป็น “ลูกเมียคู่ทุกข์คู่ยาก” เนื่องด้วยในคราวที่ทรงตามเสด็จพระราชชนก ไปที่ตำบลหว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคา ขณะที่ยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ หลังกลับจากทอดพระเนตรได้ทรงประชวรด้วยไข้ป่า “คุณแพ” ได้เฝ้าดูแลพยาบาลมิห่างหายทั้งที่ยังมีลูกอ่อน จนหายประชวร ทรงตรัสเสมอว่า คุณแพและพระราชธิดาพระองค์นี้เป็น “ลูกเมียคู่ทุกข์คู่ยาก” และทรงเมตตาเป็นพิเศษ ทรงโปรดให้ประทับอยู่กับพระองค์ดุจเป็น “ครอบครัว” มิต้องแยกพระตำหนักกันดังเช่นพระองค์อื่นอีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
benzene
อสุรผัด

ตอบ: 125
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 21 พ.ย. 12, 08:37
|
|
พอทราบมาบ้าง เรื่อง พระองค์หญิงผ่อง แต่ที่อยากเห็น คือ เจ้าจอมมารดาแข พึ่งบุญ ครับ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ใคร่อยากจะชมรูปโฉมท่านเหลือเกิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|