เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3997 นิทานเซ็น
เนยสด
ชมพูพาน
***
ตอบ: 153



เว็บไซต์
 เมื่อ 11 มิ.ย. 05, 23:06


"...เพื่อประโยชน์กว้างขวาง เป็นเหตุให้เราต้องฟังเรื่องอะไรๆ ต่างๆ ไว้บ้าง ยอมฟังผู้อื่นบ้าง มีการเจียมตัวยอมรับฟังแม้แต่เด็กๆ พูดบ้าง บางโอกาส บางครั้งบางคราว อย่างเอาตัวตนออกรับ ยกหู-ชูหาง เป็น 'น้ำชาลันถ้วย' อันเป็นถ้อยคำที่เขาใช้เป็นคำด่าชนิดหนึ่ง น้ำชาล้นถ้วยใสไม่ลง นั้นเป็นส่วนที่กินไม่ได้ ฉะนั้นควรมีโอกาสสักระยะหนึ่งที่เราจะต้องฟัวให้รอบด้าน ทั้งนี้มิใช่ว่าจะต้องทำกันไปตลอดชีวิต แต่ควรจะมีสักระยะหนึ่งที่เราจะศึกษาทั้งฝ่ายเถรวาท ฝ่ายมหายาน และฝ่ายอื่นๆ ที่เรายังไม่รู้ว่าเป็นเถรวาท หรือเป็นมหายาน พุทธศาสนาอย่างพม่า อย่างลังกา อย่างไทย อย่างธิเบต อย่างจีน อย่างญี่ปุ่น เหล่านี้ควรจะฟังไว้ จะเหมาเอาว่าที่ตัวรู้อยู่มันหมดแล้ว และถูกทั้งนั้น คนอื่นฝ่ายอื่นผิดหมด อย่างนี้ไม่สมควร..."
พุทธทาสภิกขุ

เล่าเรื่องโดย อ.อภิปัญโญ
ภาพฝีพู่กันโดย เขมานันทะ

หนังสือเล่มนี้ มีใจความว่า ให้ช่วยเผยแผ่พุทธศาสนาออกไป
การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง และ การรับธรรมะย่อมชนะการรับทั้งปวง
หากต้องการหนังสือ โปรดติดต่อธรรมสภา 02-434-3566  
บันทึกการเข้า

เนยสด
ชมพูพาน
***
ตอบ: 153



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 11 มิ.ย. 05, 23:08

 เรื่องที่ 5 อาจารย์เซ็นปราบผี
ในประเทศจีนเมื่อนานมาแล้ว มีสามมีภรรยาคู่หนึ่งรักกันมาก เมื่อภรรยาใกล้ตายจึงได้สั่งสามีว่า ห้ามมีคนอื่น ถ้าหากผิดคำสัญญาตนจะแปลงเป็นผีมาหลอกหลอน เดือนแรกๆ เขาก็ยังไม่ปันใจให้คนอื่น แต่นานเข้าๆ ก็ได้พบกับสาวสวยคนหนึ่ง ถูกใจจนถึงขั้นจะแต่งานด้วยเลย ผีภรรยาจึงได้มาหลอกหลอน ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็รู้หมด เขาจึงได้เที่ยวขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านบ้าง ญาติพี่น้องบ้าง แต่ก็ไม่มีใครช่วยได้เลย เขาจึงได้เข้าวัดให้พระช่วย พระอาจารย์จึงบอกว่า ก่อนนอนให้กำเมล็ดเหลืองถั่วไว้ แล้วให้ผีภรรยาทายดู เมื่อผีภรรยามาจริงๆ และเขาได้ทำตามคำแนะนำของพระอาจารย์แล้ว จึงได้รู้ว่า ผีที่ตนเองกลัวนั้น คือความกลัวในจึงใจของเขาเอง  
บันทึกการเข้า

เนยสด
ชมพูพาน
***
ตอบ: 153



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 11 มิ.ย. 05, 23:09

 เรื่องที่ 6 ประตูสวรรค์
ในประเทศญี่ปุ่นนานมาแล้ว ได้มีซามูไรคนหนึ่ง ซึ่งกำลังสับสนในชีวิตตนเอง จึงหันหน้าเข้าหาพระ จนได้พบกับอาจารย์ฮากูอิน เมื่อพบท่านจึงได้ถามคำถามว่านรกสวรรค์นั้นมีจริงหรือไม่ อาจารย์จึงถามกลับไปว่าเธอหนะใคร แล้วจึงพูดดูถูกว่าไม่เอาไหน ซามูไรโกรธมาก ควบคุมสติไม่ได้จึงชักดาบออกมา อาจารย์จึงว่าดาบนั้นคมพอที่จะตัดหัวฉันได้มั้ย ซามูไรจึงรู้สึกตัว พระอาจรย์จึงบอกว่า นี่แหละประตูนรก ถ้ามีประตูนรกแล้วทำไมนรกจะไมมีหละ เมื่อได้ยินดังนั้น ซามูไรจึงทรุดตัวกราบลงกับเท้าอาจารย์ ขอยอมเป็นศิษย์ อาจารย์จึงบอกว่า นี่ไงหละประตูสวรรค์ ถ้ามีประตูสวรรค์แล้วใยสวรรค์จะไม่มี  
บันทึกการเข้า

เนยสด
ชมพูพาน
***
ตอบ: 153



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 11 มิ.ย. 05, 23:10

 เรื่องที่ 10 ผู้ก้าวข้ามเปือกตม
ที่ญี่ปุ่นประมาณ 100 ปีก่อน มีพระอาจารย์ที่มีความรู้และคุณธรรมสูงคือ หลวงพ่อตันซัน ครั้งหนึ่งท่านออกเดินธุดงค์และได้ชวนภิกษุนามว่า เอกิโด ซึ่งเป็นพระที่มีความรู้ดี แต่เข้มงวดด้านวินัยมากเกินไป อาจารย์ตันซันจึงหาช่องทางที่จะชี้ทางสว่างให้ ระหว่าที่ธุดงค์กลางป่าอยู่นั้น ฝนก็ตกหนัก ทำให้พื้นเฉอะแฉะไปทั่ว เมื่อเดินได้อีกระยะ ก็พบผู้หญิงแต่ตัวสูงศักดิ์จะก้าวข้ามตม อาจารย์ตันซันจึงเดินไปอุ้มนางขึ้นมา แล้วพาข้ามไปได้ ทำให้พระเอกิโดประหลาดใจมาก แต่ก็เก็บไว้ในใจไม่ได้ถามไปทันที เมื่อตกดึกและพระทั้ง 2 เตรียมที่นอนเรียบร้อย พระเอกิโดจึงได้ถามขึ้นว่า ทำไม่ท่านถึงไปอุ้มนางขึ้นมา ทำอย่างนี้ผิดวินัยสงฆ์ อาจารย์ตันซันจึงตอบกลับไปว่า เราวางเธอไว้ตรงนั้นตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว แต่ท่านนั้นยังแบกเธอไว้อยู่หรือ พระเอกิโดจึงเข้าใจและบรรลุธรรม  
บันทึกการเข้า

เนยสด
ชมพูพาน
***
ตอบ: 153



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 11 มิ.ย. 05, 23:11

 เรื่องที่ 11 เรื่องของความถูก-ผิด
ในประเทศจีนสมัยก่อน วัดทั่วไปก็จะมีศาลาระฆัง ซึ่งภิกษุที่ได้รับหมายก็จะมาตีระฆังตอนตี 4 เพื่อเป็นการเรียกประชุมสวดมนต์ ซึ่งในวัดนี้ ก็มีภิกษุรูปหนึ่ง ตื่นแต่เช้าเที่ยวเก็บหอยทากที่อยู่บริเวณทางเดินไปไว้ในที่ปลอดภัย จนมีภิกษุรูปหนึ่งมาเห็น และทักขึ้นว่าทำไปทำไม ท่านจึงว่าเพื่อรักษาชีวิตสัตว์โลก ภิกษุอีกรูปจึงแย้งว่า การนำหอยทากไปปล่อย เหมือนเป็นการทำร้ายชาวบ้าน เพราะหอยทากพวกนี้ไปทำความเสียหายให้แก่สวน ภิกษุรูปที่สามจึงแย้งว่าภิกษุรูปแรก มิได้มีเจตนาทำร้ายใคร เพียงแต่ต้องการปลดปล่อยสัตว์เท่านั้น เมื่อตกลงกันไม่ได้ จึงได้ไปหาหลวงพ่อโตกุซันช่วยตัดสิน เมื่อท่านฟังภิกษุรูปแรก ท่านก็ว่าถูก ฟังรูปที่สอง ท่านก็ว่าถูกอีก เมื่อฟังรูปที่สาม ก็ว่าถูก เณรที่นั่งฟังอยู่จึงแย้งว่า ภิกษุรูปแรกและสองขัดแย้งกันอยู่ ทำไมถึงถูกได้ เพราะถ้ารูปนึงถูกอีกรูปก็ต้องผิดสิ หลวงพ่อก็หันมาแล้วบอกว่า เจ้านี้ก็ถูกอีกคน

อธิบายนิทาน
เราไม่สามารถใช้เกณฑ์วัดความถูกผิดของสิ่งใดได้ สิ่งที่ถูกต้องในสมัยนึง อาจผิดในอีกสมัยนึง เพราะฉะนั้น เมื่อเราชี้ถูก-ผิดลงไปในสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น เมื่อนั้นก็ยังไม่หลุดพ้นจากโลกแห่งโลกิยารมณ์ไปได้ เราจึงไม่ควรยึดติดกับสิ่งใดให้มากเกินไป แล้วชีวิตจึงจะเป็นสุข  
บันทึกการเข้า

เนยสด
ชมพูพาน
***
ตอบ: 153



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 11 มิ.ย. 05, 23:12


เรื่องที่ 13 ใครกันแน่ที่ต้องยถาสัพพี
วัดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นครั้งโบราณ มีธรรมศาลาคับแคบ เนื่องจากผู้คนเลื่อมใสในศาสนามาก จำเป็นที่จะต้องขยายศาลาประชุมออกไป พ่อค้าคนหนึ่งรู้เรื่องนี้ จึงตัดสินใจออกเงินก่อสร้างทั้งหมดเสียเอง ซึ่งเป็นจำนวนถึง 500 เหรียญทอง เมื่อนำไปถวายอาจารย์เซอิเสตสุแล้ว ก็รอที่จะฟังคำโมทนาบุญ แต่พระอาจารย์กลับนิ่งเฉยต่อเงินจำนวนมากนี้ ทำให้พ่อค้าไม่สบายใจ คิดไปต่างๆ นาๆ จนเมื่อทนไม่ไหวจึงบอกกับหลวงพ่อ ให้โมทนาบุญขอลใจซักหน่อย แต่หลวงพ่อกลับบอกว่า เธอนั้นแหละ ที่ควรเป็นฝ่ายขอบใจฉัน

อธิบายนิทาน
เรื่องนี้เมื่ออ่านจบแล้วผมก็งงครับ และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็งงอยู่ ผู้เขียนหนังสือเค้าอธิบายไว้ดังนี้ครับ
พ่อค้าในเรื่องนี้ มีตาธรรมสว่างพอสมควร รู้ว่าเกิดมาจากไม่มีอะไร และเมื่อตายก็เอาอะไรไปไม่ได้ จึงอุทิศทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หลวงพ่อเห็น ดังนี้จึงถือโอกาสเปิดตาธรรมของพ่อค้าให้มากขึ้น โดยนั่งนิ่งๆ และใช้คำพูดให้รู้ธรรม ว่าทางวัดต้องการขยับขยายศาลา ทำให้เกิดช่องทางให้พ่อค้าก่อประโยชน์ได้ และให้ลดความยึดมั่นว่าเงินนี้เป็นของตนลงไป เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องขอบใจที่ทางวัดที่ต้องการขยายศาลางั้นหรือ? เปล่า...เพราะถ้ามีศาลาที่ใหญ่ขึ้นแล้ว แต่ไม่มีคนมานั่งฟังธรรมแล้วเขาจะปิติได้หรือ งั้นเขาก็ควรขอบคุณคนที่มาฟังธรรม?มิใช่เลย! เพราะถ้าคนที่มานั้น ไม่ได้ใช้ศาลาทางด้านที่ก่อประโยชน์ เขาจะยินดีได้อย่างไร คนที่เขาควรขอบใจมากที่สุดคือ อาจารย์เซอิเสตสุ เพราะเป็นคนที่ชี้ทางสว่างให้ผู้คน ทำให้มีคนเลื่อมใสมากขึ้น จนจำเป็นที่จะต้องขยายศาลา ฉะนี้แล พ่อค้าจึงควรขอบใจอาจารย์เซอิเสตสุและวัดแห่งนี้  
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 19 คำสั่ง