http://www.tonrak.com/thaiwedding_a1.htmlขันหมาก เป็นขบวนสินสอดทองหมั้น และอาหารคาวหวาน ที่ฝ่ายชายนำมาให้ฝ่ายหญิงในสมัยก่อนพิธีหมั้นและพิธีแต่งงานจะกระทำกันคนละวัน จึงต้องจัดขบวนขันหมาก สองครั้งคือขันหมากหมั้นและขันหมากแต่ง แต่ทว่าในปัจจุบันนิยมจัดพิธีหมั้นและพิธีแต่งในวันเดียวกัน จึงจัดขันหมากเพียงครั้งเดียว ซึ่งขบวนขันหมากจะเคลือนขบวนตามฤกษ์ยามที่เป็นมงคล และมักจะมีขบวนกลองยาวนำหน้า ร้องรำกันอย่างสนุกสนาน ไปตลอดทางจนถึงเรือนของฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงจะแสดงมิตรไมตรี ด้วยการถือพานหมากพลู หรือพานเชิญขันหมากออกมาต้อนรับ
ขันหมากแบ่งออกเป็น ขันหมากเอก และขันหมากโท
ขันหมากเอก ประกอบไปด้วย ขันหมากพลู สำหรับใส่หมากพลู และพืชมงคล เช่น ถั่ว งา ข้าวเปลือก ใบเงินใบทอง ฯลฯ ขันสินสอด สำหรับใส่เงินทอง ของหมั้น พานแหวนหมั้น และพานธูปเทียนแพ
ขันหมากโทหรือบริวารขันหมาก จะเป็นอาหารคาว หวาน ซึ่งนิยม จัดให้เป็นคู่ เช่น พานไก่ต้ม หมูนอนตอง, กล้วยน้ำว้า, มะพร้าวอ่อน, ห่อหมก, ขนมจีน, ขนมไทยต่าง ๆ เช่น ขนมกง ขนมทองเอก ขนมเสน่ห์จันทน์ ขนมจ่ามงกุฎ ขนมชั้น ขนมถ้วยฟู ฯลฯ ที่มีชื่อเป็นมงคล และมีต้นกล้วย ต้นอ้อย ที่ขุดมาทั้งราก เพื่อให้คู่บ่าว สาว นำไปปลูก ณ เรือนหอ ให้เจริญงอกงาม ผลิดอกออกผล เหมือนกับชีวิตสมรส
http://www.tonrak.com/thaiwedding_a4.htmlตามธรรมเนียมไทย ฝ่ายชายจะเป็นผู้นำ สินสอด ทองหมั้นตามจำนวนที่ได้ตกลงกันไว้ในวันสู่ขอ ซึ่งปัจจุบันได้ประยุกต์มาเป็น เงินสินสอดและแหวนหมั้น เพื่อเป็นการหมั้นหมายฝ่ายหญิง
โดยในพิธีนับสินสอด จะกระทำกันต่อหน้าสักขีพยาน พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ของทั้งสองฝ่ายโดยมีเฒ่าแก่ * เป็นผู้กำกับดูแลขั้นตอนต่าง ๆ การนับสินสอดจะวางเงินสินสอด ลงบนผ้าแดง ฝ่ายหญิงจะทำการตรวจนับ ตามธรรมเนียม ฝ่ายชายจะใส่เงินสินสอดให้เกินกว่าที่ตกลงกันไว้ถือเป็นเคล็ดว่า เงินงอก เงินทองจะได้เพิ่มพูน ส่วนที่เป็นของหมั้น ฝ่ายชายก็จะสวมให้ฝ่ายหญิงต่อหน้า สักขีพยาน แล้วเฒ่าแก่ พร้อมทั้งพ่อแม่ของทั้งฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง จะช่วยกัน โรย ถั่วเขียว งาดำ ข้าวตอก ดอกไม้ แป้งหอม ฯลฯ คลุกเคล้าสินสอด ก่อนที่จะช่วยกันพับผ้าแดงให้เป็นถุงจากนั้นแม่ของฝ่ายหญิงจะยกถุงสินสอด ขึ้นมาแนบอก แล้วยกขึ้นพาดบ่า แล้วนำไปเก็บรักษา
* เฒ่าแก่ คือ ผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือ ซึ่งฝ่ายชายเชื่อเชิญให้มาช่วยเป็นธุระในการสู่ขอ หมั้นหมายและแต่งงาน