วันเสาร์
อสุรผัด

ตอบ: 20
|
ความคิดเห็นที่ 90 เมื่อ 11 ส.ค. 05, 18:19
|
|
ความเห็นเพิ่มเติมที่ 73
หม่อมระวี นามสกุลอะไรครับ
วันที่ 29 ก.ค. 2548 - 21:38:58 โดย: หม่อมจุมพฏเพ็ชรกล้า [IP: 203.118.113.17,,]
เท่าที่ค้นเจอ หม่อมระวี นามสกุล ไกยานนท์ ดังที่ปรากฎในบทความย้อนอดีตวังเพ็ชรบูรณ์ สู่เส้นทาง TK Park อุทยานการเรียนรู้ ในหนังสือ คู่มือเติม "ชีวิต" ให้ห้องสมุด น.9 "...ก่อนหน้าที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ ทรงอภิเษกกับหม่อมเจ้าหญิงบุญจิราธร ชุมพล พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ทรงมีหม่อมแล้ว 2 ท่าคือ หม่อมลออ ศิริสัมพันธ์ มีพระธิดาในหม่อมลออ 1 พระองค์ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงสุทธสิริโสภา หม่อมระวี ไกยานนท์ มีพระโอรสในหม่อมระวี 1 พระองค์คือ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หม่อมจุมพฏเพ็ชรกล้า
มัจฉานุ
 
ตอบ: 78
|
ความคิดเห็นที่ 91 เมื่อ 18 ส.ค. 05, 18:34
|
|
พระองค์เจ้าทีปังกรฯ ทำไมไม่มีสกุลยศเป็น พระเจ้าหลานยาเธอ พระองค์เจ้าล่ะครับ แล้วมีตำแหน่งนี้มั้ยครับเพราะยังมี ลูกยาเธอ ลูกเธอ เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีปิงเวียง
|
ความคิดเห็นที่ 92 เมื่อ 18 ส.ค. 05, 21:27
|
|
ส่วนคำถามที่ว่า ความเห็นเพิ่มเติมที่ 51
พระประพันธวงศ์เธอพระสัมพันธวงศ์เธอพระบรมอัยกาเธอพระวงศ์เธอคืออะไร edit
อยากจะถามว่ายศ ๑.พระประพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ๒.พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ๓.พระบรมอัยกาเธอ พระองค์เจ้า ๔.พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้า คืออะไรครับ แล้วถ้าหม่อมเจ้าหญิงและพระวรวงศ์เธอสมรสกับเจ้าฟ้าชายลูกจะมียศอะไรครับ และ พระเจ้าวรวงศ์เธอกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ ลูกจะมียศอะไรครับ ขอบคุณครับ
หม่อมจุมพฏเพ็ชรกล้า [IP: 203.118.119.109,,] วันที่ 23 มิ.ย. 2548 - 20:28:07 ผมขอตอบว่า 1. พระสัมพันธวงศ์เธอ โดยปกติจะใช้ตามที่ ร .4 ทรงระบุไว้ กล่าวคือ ใช้กับ 1.1พระโอรสธิดาของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง)ที่ประสูติแต่เจ้าข้างใน(พระชายาทองอยู่) ซึ่งได้แก่ 1.1.1 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปาน กรมหมื่นนราเทเวศร์ (ต้นสกุล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา) 4 ธ.ค.2313 - 9 ต.ค. 2368 1.1.2 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงกระจับ ประสูติในปี 2315 ไม่ทราบปีสิ้นพระชนม์ แต่คาดว่าก่อนปี 2322 1.1.3 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบัว กรมหมื่นนเรศร์โยธี 1 ก.พ. 2318 -1 เม.ย. 2374 (57 ชันษา) 1.1.4 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแตง กรมหลวงเสนีบริรักษ์ (ต้นสกุล เสนีวงศ์ ณ อยุธยา) 21 ก.ค. 2320- 7 มิ.ย.2377 1.1.5 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงกระจับ ประสูติราว 2322 -2323 ไม่ทราบปีสิ้นพระชนม์ คนละพระองค์กับ 1.1.2 และไม่มีระบุไว้ในหนังสือราชสกุลวงศ์ 1.1.6 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฐมวงศ์พระองค์เจ้าพระองค์แรกที่ประสูติเมื่อสถาปนาราชวงศ์จักรี ประสูติเมื่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ และสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 3 (สุนทรภู่เคยตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์เมื่อครั้งพระองค์เสด็จนมัสการพระพุทธบาท จ. สระบุรีดังที่ระบุไว้ในนิราศพระบาท) 1.1.7 พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงจงกล ไม่มีข้อมูลว่าประสูติและสิ้นพระชนม์ในปีใด พระองค์เจ้าในข้อ 1.1.1,1.1.3-4 ทรงอิสริยยศเป็นกรมหมื่นในปี 2350 ส่วน 1.1.4 ทรงอิสริยยศเป็นกรมหลวงในปี 2375 แต่ มีข้อที่น่าสังเกตในกรณีของพระองค์เจ้าพรรณรายซึ่งจะกล่าวต่อไปในเรื่อง พระประพันธวงศ์เธอ 1.2 ใช้กับพระโอรสธิดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ พระเจ้าน้องนางเธอในรัชกาลที่ 1 1.3 ใช้กับพระโอรสธิดาของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (ซึ่งต้องศึกษาต่อไป เพราะมีพระองค์หนึ่งมีอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้า) 2 .พระบรมอัยกาเธอ ความจริงไม่มีผลอะไร เพราะเป็นหนึ่งในคำนำหน้าพระนามที่ใช้ในการฉลองพระอัฐิ และมีรายละเอียดพิสดารกว่านี้ ซึ่งน่าจะมีผู้อธิบายได้ 3 .พระประพันธวงศ์เธอ เป็นคำนำหน้าพระนามของพระองค์เจ้าที่ประสูติแต่สมเด็จพระไปยกาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ซึ่งใช้ใน ร. 5 เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น จะแสดงพระนามพระโอรสธิดาในกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ดังต่อไปนี้ ๑. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้ามงคลเลิศ ๒. พระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินีในปัจจุบัน) ๓. พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมชื่น ๔. พระประพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฟื้นพงศ์ประยูรวงศ์สนิท ๕. หม่อมเจ้าหญิงประสงค์สันต์ ศิริวงศ์ ๖. พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย (พระมารดาของสมเด็จ ฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์) ๗. พระประพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉายเฉิด กรมหมื่นนฤบาลมุขมาตย์ ๘. หม่อมเจ้าสารพัดเพชร ศิริวงศ์ ๙. หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์ ศิริวงศ์ ผมไม่แน่ใจว่าจะมีการเปลี่ยนคำนำหน้าพระนามพระประพันธวงศ์เธอหลังวันที่ 9 ต.ค. 2438 (วันที่สถาปนาหม่อมเจ้าชมชื่น ศิริวงศ์เป็นพระองค์เจ้า)หรือไม่ แต่คาดว่าจะไม่เปลี่ยน และถ้ามีข้อมูลมากกว่านี้จะแจ้งให้ทราบภายหลัง 4. ที่คุณหม่อมจุมภฎเพชรกล้าถามว่า ถ้าหม่อมเจ้าหญิงและพระวรวงศ์เธอสมรสกับเจ้าฟ้าชายลูกจะมียศอะไร นั้น โดยปกติย่อมมียศเป็นหม่อมเจ้าอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับพระบรมราชโองการว่าจะเป็นพระองค์เจ้าแต่กำเนิด หรือทรงสถาปนาภายหลังซึ่งมีรายละเอียดมาก คงจะกล่าวในโอกาสต่อไป 5. ที่คุณหม่อมจุมภฎเพชรกล้าถามว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ ลูกจะมียศอะไร ก็เช่นเดียวกับในความคิดเห็นที่ คุณหยดน้ำและคุณ V_Mee ตอบมาแล้ว 6. ขอขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูมากครับที่ถอดความหมายของบทร่ายท้าย พระนามพระโอรสธิดาในรัชกาลที่ ๔ (ความคิดเห็นที่ 84 )มากครับ และขออภัยที่มิได้บอกว่าให้ช่วยถอดบทความบทใดครับ ผมมีพระบรมฉายาลักษณ์ที่สแกนมาจากหนังสือ ภปร. 5 ธันวาคม พระพุทธศักราช ๒๕๑๑ พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี(ก่อนมีประกาศสำนักพระราชวังเฉลิมพระยศดังกล่าว) ซึ่งเป็นหนังสือรวมพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ,สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในคราวนี้นำมา 1 รูปครับ ขอถาม อ.เทาชมพูครับว่า โคลง 2 บทสุดท้ายใน พระนามพระโอรสธิดาในรัชกาลที่ ๔ (ดูความเห็นที่ 81) และบทร่ายท้ายโคลงดังกล่าว เป็นคำประพันธ์ชนิดใด 7. ในความเห็นที่ 91 ที่ว่า พระองค์เจ้าทีปังกรฯ ทำไมไม่มีสกุลยศเป็น พระเจ้าหลานยาเธอ พระองค์เจ้าล่ะครับ แล้วมีตำแหน่งนี้มั้ยครับเพราะยังมี ลูกยาเธอ ลูกเธอ เลย วันที่ 18 ส.ค. 2548 - 18:34:31 โดย: หม่อมจุมพฏเพ็ชรกล้า [IP: 203.118.113.16,,]
ผมขอตอบว่าผมไม่เคยได้ยินว่ามีคำว่า พระเจ้าหลานยาเธอ เห็นมีแต่พระเจ้าหลานเธอ เฉย ๆ เช่น พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี (ร. 3 ทรงสถาปนาเพราะพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ พระบิดาของพระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดีสิ้นพระชนม์ก่อนวัยอันควร),พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา(ร. 5 ทรงสถาปนาเพราะหม่อมเจ้าทิพย์สัมพันธ์ ก่ออัตวินิบาตกรรม),พระองค์เจ้ามงคลเลิศ , พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นต้น(ความจริงมีมากกว่านี้ แต่จะนำมาลงในโอกาสต่อไป 8. คำถามสุดท้ายค่อนข้างจะละลาบละล้วงครับ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี มีหม่อมหรือไม่ครับ
 |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่เห็นใครแน่นอน
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 93 เมื่อ 19 ส.ค. 05, 18:41
|
|
กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ทรงมีหม่อมหลายองค์ ที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นหลักฐานคือ เจ้าหญิงสิริมา ธิดาของเจ้าน้อยธรรมวงษาซึ่งเป็นบุตรของเจ้าหญิงอุบลวรรณา น้องสาวของแม่เจ้าทิพเกสรพระมารดาของ พระราชชายา เจ้าดารารัศมี นอกจากนั้นในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในรัชกสลที่ ๖ ประจำวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๕๕ ก็ได้มีการกล่าวถึงหม่อมในเสด็จในกรมฯ ว่า ก่แนหน้านั้น ๒ - ๓ วันได้ประทานลายพระหัตถ์เปนการเสี่ยงทายให้หม่อมของพระองค์ท่านคิดเป็นปริศนา ๒ ข้อ แต่หม่อมไม่ทราบความตีปัญหาไม่แตก จึงทรงทำลายลายพระหัตถ์นั้นสิ้น แล้วต่อมาก็ทรงกระทำอัตวินิบาตกรรม รายละเอียดพระประวัติพระเจ้าบรมววศ์เธอ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ซึ่งยังไม่เคยมีผู้ใดค้นคว้ามาได้ละเอียดลึกซึ้งถึงขนาดนี้ โปรดติดตามอ่านในหนังสือ "พระบารมีปกเกล้าฯ ยุพราชวิทยาลัย ๑๐๐ ปี นามพระราชทาน" ซึ่งกำหนดจะออกในราวเดือนธันวาคมนี้ (ขออนุญาตโฆษณาเลยนะครับ) ไม่ทราบว่า คุณศรีปิงเวียงเป็นชาวเชียงใหม่หรืออย่างไรครับ ถึงสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้านายพระองค์นี้ซึ่งแทบจะไม่เป็นที่รู้จักเลยในประวัติศาสตร์ไทย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 94 เมื่อ 19 ส.ค. 05, 19:08
|
|
ตอบคุณศรีปิงเวียง ถาม -โคลง 2 บทสุดท้ายใน พระนามพระโอรสธิดาในรัชกาลที่ ๔ (ดูความเห็นที่ 81) และบทร่ายท้ายโคลงดังกล่าว เป็นคำประพันธ์ชนิดใด ตอบ - เป็นโคลงสอง ค่ะ
คุ้นๆเหมือนคุณศรีปิงเวียง เป็นชาวเรือนไทยหน้าเก่า
ดิฉันสนใจพระประวัติพระเจ้าบรมววศ์เธอ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี ค่ะ คุณ V_Mee เคยเล่าเอาไว้นิดหน่อยในกระทู้ ก๊อสสิปนอกกำแพงวัง เห็นว่าท่านเป็นเจ้านายที่อาภัพพระองค์หนึ่ง น่าเสียดายความรู้ที่ทรงเรียนจบถึงปริญญาเอกจากทูบิงเง่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีปิงเวียง
|
ความคิดเห็นที่ 95 เมื่อ 20 ส.ค. 05, 18:25
|
|
ใช่แล้วครับคุณ V_Mee และก็อยู่ในโรงเรียนนี้ด้วยครับ ผมสนใจประวัติกรมหมื่นสรรควิสัยนรบดีเพราะเคยเห็นในพิพิฒภัณฑ์ศาลากลางเก่า (หออะไรจำไม่ได้)ที่อยู่หลังอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์นี้เองครับ ขอลงความเห็นก่อนครับ 1. เจ้านายที่ก่อพระอัตนิวิบาตกรรม(ในราชวงศ์จักรี)ที่ทราบมา นอกจากหม่อมเจ้าทิพย์สัมพันธ์ (พระมารดาของพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพย์อาภา) และกรมหมื่นสรรควิสัยนรบดีแล้ว ก็น่าจะมีพระองค์อื่นอีก คือ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา,และกรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ความจริงมีมากกว่านี้แต่ไม่ทราบรายละเอียด 2. ท่านหญิง ที่ใช้นำหน้าพระนามแทนหม่อมเจ้าหญิงที่สมรสกับสามัญชนนั้น จำเป็นต้องใช้หรือไม่ มีไว้ทำไม 3. พระบรมฉายาลักษณ์ในความเห็นที่ 92 นี้ ทำให้ผมสนใจว่า เจ้านายที่ประทับในวังหลวง(หลังจาก ร. 5 เสด็จสวรรคตแล้ว) มีใครบ้าง นอกจากพระองค์เจ้าผ่องและพระองค์เจ้าประดิษฐาสารี 4. ในเชียงใหม่มิได้มีแหล่งข้อมูลเท่าที่กรุงเทพ ฯ ข้อมูลที่นำมาลงนี้จึงค่อนข้างจำกัด ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ 5. ขอถาม อ. เทาชมพูว่า ร่ายมีกี่แบบครับ และขอบพระคุณในคำตอบที่เสียสละเวลาตอบมาให้ครับ 6. กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร สิ้นพระชนม์ในปีใดครับ 7.ขอถามย้อนคุณV_Mee ว่าเป็นคนเชียงใหม่หรือเปล่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่เห็นใครแน่นอน
|
|
|
หม่อมจุมพฏเพ็ชรกล้า
มัจฉานุ
 
ตอบ: 78
|
ความคิดเห็นที่ 96 เมื่อ 21 ส.ค. 05, 15:14
|
|
พระองค์เจ้าอ๊อสคาร์นุทิศ ทรงกระทำอัตวินิบาตกรรม จริงหรอครับ แล้วเคยเป็นคณะสำเร็จราชการจริงรึเป่ลาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีปิงเวียง
|
ความคิดเห็นที่ 97 เมื่อ 21 ส.ค. 05, 16:17
|
|
เคยได้ยินเรื่องราวนี้จากในหนังสือเจ้าชีวิตครับ ในหน้าที่เท่าใดจำไม่ได้ คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 8 ประกอบด้วย 1. พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ 2. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพย์อาภา (ต่อมามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ เฉลิมพระยศเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ) 3. เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) 4. เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน (ชอุ่ม อินทรโยธิน) 5. นายปรีดี พนมยงค์ หมายเหตุ หมายเลข 1 ทรงดำรงตำแหน่งประธานจนถึงวันสิ้นพระชนม์(12 ส.ค. 2478) หมายเลข 2 ทรงดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการและทรงดำรงตำแหน่งประธานจนกระทั่งลาออก หมายเลข 4 ดำรงตำแหน่งต่อจากหมายเลข 3 จนถึงแก่อสัญกรรม และหมายเลข 5 ดำรงตำแหน่งตามความเห็นของจอมพล ป. พิบูลสงคราม หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่ามีการแต่งตั้งใครเป็นผู้สำเร็จราชการต่อจากนายปรีดี พนมยงค์ จนกระทั่งร. 8 สวรรคต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่เห็นใครแน่นอน
|
|
|
ศรีปิงเวียง
|
ความคิดเห็นที่ 98 เมื่อ 11 ก.ย. 05, 10:08
|
|
ผมสงสัยอีกแล้วครับ ไม่ทราบว่าพระองค์เจ้าวังหลังเป็นพระองค์เจ้าโดยกำเนิดหรือหลังสถาปนาสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอนุรักษ์เทเวศร์เป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขแล้วครับ ป.ล.ตำแหน่งกรมพระราชวังหลังมีการสถาปนาอีกหรือไม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่เห็นใครแน่นอน
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 99 เมื่อ 11 ก.ย. 05, 13:26
|
|
ตอบความเห็นที่ ๙๕
6. กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร สิ้นพระชนม์ในปีใดครับ สิ้นพระชนม์เมื่อ ๑๘ ตุลาคม ๒๔๙๐
7.ขอถามย้อนคุณV_Mee ว่าเป็นคนเชียงใหม่หรือเปล่าครับ ผมเกิดที่ อ.ตะพานหิน จังหวัดพิจิตร เรียนจบประ ๑ แล้วก็ถูกส่งตัวมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ใช้ชีวิตเป็นนักเรียนประจำในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งเป็นเวลา ๒ ปี ก่อนที่จะเข้าเรียนชั้นประถม ๓ จนจบชั้น มัธยมในโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งจะว่าไปก็นับเป็นญาติกับยุพราชวิทยาลัยได้เหมือนกัน เพราะเป็นโรงเรียนที่เนื่องในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยกัน
สำหรับคำถามในความเห็นที่ ๙๖ นั้นขอยืนยันว่า จริงครับ เพราะไม่สามารถจะทรงยอมตามความต้องการของคณะรัฐบาลในขณะนั้นได้
ส่วนความเห็นที่ ๙๗ นั้น ขอเรียนเพิ่มเติมว่า ตามกฎมณเฑียร บาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ หใวดที่ ๖ ว่าด้วยเวลาที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระเยาว์ ได้กำหนดไว้ในมาตรา ๑๔ ว่า ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะ จะต้องมีผู้ราชการแผ่นดินปฏิบัติงานปทนพระองค์ และมาตรา ๑๕ กำหนดให้พระราชวงศ์ซึงมีพระชนมายุเกิน ๒๐ ปี พระองค์หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน มาตรา ๑๖ กำหนดให้เสนาบดีผู้ใหญ่สองท่านทำหน้าที่สมุหมนตรีเป็นที่ปรึกษาผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน มาตรา ๑๘ กำหนดให้ออกนามคณะผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและสมุหมนตรีที่ปรึกษารวมสามคนนี้ว่า "สภาผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน" และในการประกาศใช้กฎหมายต่างๆ ต้องห้ทั้งสามท่านนี้ลงนามร่วมกันจึงจะมีผลบังคับมช้โดยสมบูรณ์ ดมื่อรัชกาลที่ ๗ สละราชสมบัติ และสภาได้กราบบังคมทูลเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติเฉลิมพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลแล้ว ก็ได้แต่ตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ มหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย และนายพลเอก เจ้าพระยาพชเยนทรโยธิน (อุ่ม แอนทรโยธิน) อดีตสมุหราชองครักษ์ในรัชกาลที่ ๖ - ๗ ครั้นเมื่อกรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์สิ้นพระชนม์แล้ว สภาได้มีมติเลือก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เป็นผู้สำเร็จราชการฯ แทน ต่อมาคณะผู้สำเร็จราชการชุดดังกล่าวได้สิ้นพระชนม์และถึงแก่อสัญกรรมตามลำดับแล้ว สภาจึงได้แต่งตั้งนายปรีดี พนมยงค์ (หลวงประดิษฐมนูธรรม) เป็นสมุหมนตรี และท้ายที่สุดได้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเพียงคนเดียว ไม่มีมีการแต่งตั้งสมุหมนตรีขึ้นทดแทนอีกเลย ถึงรัชกาลปัจจุบันได้ทรงตั้งให้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร (ต่อมาทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร) เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินจนเสด็จกลับจากทรงศึกษาต่อที่ต่างประเทศ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อานุภาพ
อสุรผัด

ตอบ: 2
|
ความคิดเห็นที่ 100 เมื่อ 15 ก.ย. 05, 15:25
|
|
ขอเรียนถามผู้รู้ทุกท่านครับ อยากทราบการใช้ ณ อยุธยา ครับ ปัจจุบันเห็นแวดวงบันเทิงมีคน นามสกุล ณ อยุธยา มาก บางคนก็มีสิทธิใช้ บางคนก็ยังน่าคลุมเครือ เช่น อานันท์ทวีป ชยางกูร สังเกตว่าจะใช้ ณ อยุธยาตลอด อยากทราบว่า จริงๆแล้ว เขามีสิทธิใช้ ณ อยุธยาหรือไม่ เพราะทราบว่าถ้าจะใช้ได้จะต้องมาจากเชื้อสายทางพ่อเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากทราบจริงๆว่าเขาใช้ได้หรือไม่ครับ (พ่อของเขาคือใคร) และช่วยบอกได้ไหมครับว่า ทำไมเราจะต้องใส่ใจกับระเบียบการนับราชสกุลครับ เผื่อผมจะได้ไปตอบให้คนไม่รู้ได้ฟังกัน ด้วยความเคารพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีปิงเวียง
|
ความคิดเห็นที่ 101 เมื่อ 15 ก.ย. 05, 17:38
|
|
ขอแย้งความเห็นที่ ๙๙ ครับ ก่อนที่กรมขุนชัยนามนเรนทรจะทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แต่เพียงผู้เดียวนั้น ได้มีการสถาปนาคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยมีพระยามานวราชเสวีดำรงตำแหน่งนี้รวมถึงพระองค์ด้วยครับ (ราว ๆ พ.ศ. 2490 ดังจะเห็นได้จากพระราชบัญญัติประมง พุทธศักราช ๒๔๙๐) แต่ต่อมาถูกยกเลิกหลังรัฐประหาร 2490 ซึ่งเกร็ดมีเยอะมาก จะนำมาเล่าให้ทราบภายหลังครับ และขอบพระคุณคุณ V_Meeเป็นอย่างสูงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่เห็นใครแน่นอน
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 102 เมื่อ 15 ก.ย. 05, 18:36
|
|
ตอบค.ห. 98
พระองค์เจ้าวังหลัง มี 4 องค์แรกที่เป็นสามัญชนเมื่อประสูติ เพราะพระบิดายังเป็นขุนนางสามัญชน บรรดาศักดิ์ล่าสุดคือพระยาสุริยอภัย ต่อมา เมื่อพระยาสุริยอภัยได้รับโปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข พระโอรสธิดาทั้ง 4 ก็ได้เป็นพระองค์เจ้า
พระโอรสลำดับ 5 และ 6 เป็นพระองค์เจ้าแต่ประสูติ คือพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ (เป็นพระองค์เจ้าองค์แรกที่ประสูติในพระราชวงศ์จักรี) และพระองค์เจ้าจงกล พระองค์เจ้าทั้ง 6 พระองค์ ประสูติแต่เจ้าครอกทองอยู่ พระชายาเอก ส่วนโอรสธิดาอื่นๆที่ประสูติจากหม่อมห้าม ดำรงพระยศหม่อมเจ้า
กรมพระราชวังหลัง มีเพียงรัชกาลเดียว อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกรมพระราชวังหลังและสายราชสกุล ได้ที่บทความนี้http://www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?Aid=245
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 103 เมื่อ 17 ก.ย. 05, 01:48
|
|
เรื่องการใช้เครื่องหมายแห่งราชสกุล "ณ อยุธยา" ต่อท้านนามสกุลนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกำหนดให้ใช้เฉพาะผู้ที่สืบสายสกุลโดยตรงลงมาจากพระบรมราชวงศ์ คือต้องสืบสายทางพ่อโดยตรงเท่านั้น ในกรณีที่ใช้ราชสกุลเป็นนามสกุลตามมารดาหรือใช้ราชสกุลในฐานะเป็นบุตรบุญธรรมต้องห้ามมิให้ใช้ ณ อยุธยา ตามประกาศเพิ่มเครื่องหมายนามสกุลสำหรับราชตระกูล ลงวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๕๘ และประกาศแก้เครื่องหมายนามสกุลสำหรับราชสกุล ลงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๔๖๗ แต่มาเมื่อประมาณยี่สิบกว่าปีมานี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการตีความให้หญิงซึ่งใช้ราชสกุลตามสามีให้ใช้ ณ อยุธยา ต่อท้ายนามสกุลได้ ก็เลยเป็นความนิยมกันว่า ถ้ามิได้เป็นหม่อมราชวงศ์หรือหม่อมหลวงแล้วให้เติม ณ อยุธยา กันโดยอัตโนมัติไปหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายนิติราม
อสุรผัด

ตอบ: 23
รามคำแหง
|
ความคิดเห็นที่ 104 เมื่อ 19 ก.ย. 05, 20:25
|
|
พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้า/หม่อมเจ้า ที่มีพระชนมายุเกิน 90 ปีขึ้นไปก่อนสิ้นชีพิตักษัย ตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เท่าที่ผมรวบรวมไว้ได้ มีดังนี้ 1.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธวงษ์วิจิตร(2449-2546=96 ปี) 2.พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุไรรัตน์สิริมาน(2452-2543=91 ปี) 3.มจ.หญิง หญิง อิศรางกูร(2370-2461=91 ปี) 4.มจ.สนิท อิศรางกูร(2371-2462=91 ปี) 5.มจ.หญิงสามจันทน์(แสงจันทน์)บรรยงกะเสนา(2374-2465=91 ปี) 6.มจ.อุทัย ยุคันธร(2376-2467=91 ปี) 7.มจ.หญิงนวลจันทน์ สีสังข์(2371-2467=96 ปี) 8.มจ.หญิงเบญจางค์ สีสังข์(2377-2467=90 ปี) 9.มจ.ชิดชนก กฤดากร(2447-2541=94 ปี) 10.มจ.หญิงข่ายทองถัก ทองใหญ่(2441-2531=90 ปี) 11.มจ.ลายฉลุทอง ทองใหญ่(2444-2534=90 ปี) 12.มจ.หญิงจรัสโฉม เกษมสันต์(2419-2516=97 ปี) 13.มจ.หญิงพโยมมาล เกษมสันต์(2422-2514=92 ปี) 14.มจ.หญิงสลักษณา เกษมสันต์(2430-2525=95 ปี) 15.มจ.หญิงวรรณวิจิตร เกษมสันต์(2441-2535=94 ปี) 16.มจ.หญิงนภมณี กมลาสน์(2433-2528 = 95 ปี) 17.มจ.หญิงบุญราษี กมลาสน์(2444-2534=90 ปี) 18.มจ.หญิงวงศ์แข เกษมศรี(2445-2539=94 ปี) 19.มจ.หญิงสมรศรีโสภา เทวกุล(2444-2539=95 ปี) 20.มจ.หญิงพวงรัตนประไพ เทวกุล(2447-2542=95 ปี) 21.มจ.หญิงพรพิมลพรรณ วรวรรณ(2433-2524=91 ปี) 22.มจ.ดุลภากร วรวรรณ(2443-2544=101 ปี) 23.มจ.หญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล(2429-2521=92 ปี) 24.มจ.หญิงพูนพิศมัย ดิศกุล(2438-2533=95 ปี) 25.มจ.หญิงสิวลีวิลาศ ดิศกุล(244-2535=92 ปี) 26.มจ.หญิงสิบพันพารเสนอ โสณกุล(2437-2528=91 ปี) 27.มจ.หญิงภิรมย์สงวน ไชยันต์(2430-2520=90 ปี) 28.มจ.หญิงประดับศักดิ์ ไชยันต์(2435-2526=91 ปี) 29.มจ.หญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร(2454-2544=90 ปี) 30.มจ.ชมิยบุตร ชุมพล(2452-2548=96 ปี) 31.มจ.หญิงดวงจิตร จิตรพงศ์(2451-6 ก.ย. 2548 = 97 ปี) **ข้อมูลบางส่วนอ้างอิงจากหนังสือพระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าโดยพล.ต.มรว.ศุภวัฒน์ เกษมศรี**
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|