เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3776 ศิวะเศขร
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 28 ต.ค. 00, 12:00

เคยเล่าไว้ครั้งนึงในมองอดีต แต่ว่าไม่ได้ save เก็บไว้
แล้วรู้สึกจะสัญญาไว้นานแล้วว่าจะเล่า เรื่องนี้ ก็ขอเล่าใหม่จากความทรงจำนะครับ
นามศิวะเศขร (ปิ่นพระอิศวร)
เป็นอีกนามหนึ่งของพระจันทร์
จันทรเทพในความเชื่อ ของศาสนาพราหมณ์ เป็น เทพบุตรหนุ่มรูปงามแล้วก็มีนิสัยเจ้าชู้ ด้วย พระจันทร์นั้น ได้ชื่อว่า เป็นเทพแห่งโอสถ เหมือนที่คนจะเชื่อว่า ควรจะเก็บสมุนไพรในคืนวันเพ็ญ
จันทรเทพ มีหน้าที่คล้าย ๆ พระอาทิตย์ คือ โคจร รอบเขาพระสุเมรุ ซึ่งถือเป็นหลักของจักรวาล เมื่อโคจรไป ก็ไปเจอนางดาราทั้ง 27 จันทรเทพสุดหล่อ ก็ไปเจ้าชู้ตามประสา แล้วก็ได้นางทั้ง 27 เป็นเมีย
ฤาษี (จำชื่อไม่ได้กัสษปะหรือเปล่า)  ผู้เป็นพ่อนางดาราทั้ง 27 ก็เลยจับให้แต่งงานเป็นชายาของพระจันทร์ แต่ว่า จันทรเทพ ก็ไปเจ้าชู้ รักอยู่แต่กับนางดารา ผู้เป็นน้องสุดท้องเพียงคนเดียว ทำให้ภรรยาที่เหลือน้อยใจ (ก็น่าล่ะ) เอาความไปฟ้องพ่อ ฤาษีพ่อตาก็ไปเตือนพระจันทร์ว่าให้ดูแลเมีย ๆ ให้เท่ากัน (ตัวพ่อยังทำได้เลย) พระจันทร์ นั้นไม่สนใจ ก็คงละเลย หลงเมียเด็ก (น้องเล็กสุด) อยู่ต่อไป คราวนี้ พอลูกสาวไปฟ้องอีก ฤาษีผู้เป็นใหญ่รำคาญนัก ก็สาป ให้พระจันทร์ เป็นโรค ค่อย ๆ ซูบ ลงไปทุกวันและจะตายภายใน 15 วัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 28 ต.ค. 00, 11:28

เข้ามาอ่านค่ะ
คุณพระนายยังเล่าไม่จบนี่คะ  รออยู่
บันทึกการเข้า
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 28 ต.ค. 00, 14:05

แหะ ๆ โทษครับ พอดีเมื่อวานเล่าไม่จบ แล้วก็ให้มีเรื่องยุ่ง เลยพิพม์ไม่เสร็จ ซะที เข้ามาเล่าต่อล่ะครับ
หลังจาก ที่จันทรเทพ โดนคำสาปจากพ่อตา ก็ค่อย ๆ ซูบลงทุกวัน ทีนี้ ก็เอาล่ะสิ บรรดาภรรยาของจันทรเทพ ก็ร้องไห้อีก กลัวสามีจะตาย แล้วต้องเป็นม่ายกันหมดก็พากันไปต่อว่า พ่อตัวเอง พร้อมขอร้องอย่าให้ผัวต้องตายไปเลย ฤาษี ก็กลุ้มใจบอกว่า สาปแล้ว ก็สาปเลยจะถอนคำสาปนั้นไม่ได้ แต่เอาล่ะจะแก้ด้วยการ เพิ่มคำสาปว่า จันทรเทพ จะซูบผอม จนตายไปเมื่อครบ 15 วัน แต่จะค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาใหม่ ทีละน้อย จนแข็งแรงดังเดิม อีกที ในอีก 15 วันต่อมา นี่ก็เป็นการบอกสาเหตุว่า ทำไมพระจันทร์มีข้างขึ้นข้างแรมล่ะครับ หลังจากถูกสาป แล้ว พระจันทร์ จอมเจ้าชู้ ก็เงียบไปพักใหญ่ เพราะคงเข็ดไปนาน แต่นิสัยเจ้าชู้ ไม่เคยจางหายไป วันหนึ่ง พระจันทร์ ตอนสมบูรณ์ คิดว่าคงเป็นช่วงเต็มดวง ก็เกิดคิดถึง อาจารย์ของตน คือ พระพฤหัส
ตามตำนานบอกว่า พระพฤหัส เป็นอาจารย์ของเหล่าเทพ และพระศุกร์ เป็นอาจารย์ของเหล่าอสูร พระจันทร์ ไปเยี่ยมอาจารย์ แต่พระพฤหัส นั้น กำลังเข้าญาณ บำเพ็ญตบะ นางดารา (เมียสาว) ของพระพฤหัสจึงออกมาต้อนรับ พวกฤาษีนี่ก็แปลก จะบำเพ็ญก็เอา แต่อยากมีเมียสวย ๆ ไม่รู้ทำไม พระจันทร์ พอเห็นนางดารา ก็ปิ๊งทันที นางดาราเอง ก็เป็นนางงาม แต่ต้องมามีผัวแก่ ที่วัน ๆ เอาแต่นั่งบำเพ็ญเพียร ดังนั้นพอเห็นพระจันทร์ เป็นหนุ่มรูปงามก็ปิ๊งทันทีเหมือนกัน แต่ว่ายังไว้เชิงอยู่ พระจันทร์นั้นก็ลงมือเกี้ยวนางทันที ตอนแรกนางดารา ก็อิดเอื้อนตามประสาหญิง แต่ยังไงไม่รู้ สรุปว่านางดาราหอบผ้าหอบผ่อน ตามพระจันทร์ไปเฉยเลย ไม่ต้องทำฝุ่นคลุ้งแล้วลักไปเหมือนครุฑลักกากีครับงานนี้
เอาล่ะต่อ นางดารากับพระจันทร์ก็หนีตามกันไป พระพฤหัสออกมาไม่เห็นเมีย ก็เพ่งดูเห็นเลยว่าเกิดอะไรขึ้น พระพฤหัสตอนแรก ไม่อยากให้เอิกเกริก ก็ไปหาพระจันทร์ เพื่อขอเมียกลับมาดี ๆ พระจันทร์นั้น หลงนางดารามาก ไม่ยอมคืน อาจารย์กับศิษย์เลย ต้องขาดกัน พระพฤหัสก็เลยไปหาพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ในหมู่เทวดาและทวยเทพให้ไปบังคับให้พระจันทร์คืนนางดารามา หรือไปจัดการกับพระจันทร์  ฝ่ายพระจันทร์ ก็ไม่ยอมแพ้ ไปขอความช่วยเหลือพระศุกร์ พระศุกร์นั้น ไม่ถูกกับพระพฤหัสอยู่แล้วเลยยอมช่วย ระดมลูกศิษย์เหล่าอสูร มารบกับเหล่าเทพ เกิดเป็นสงคราม ระหว่างเทพกับอสูรอีก ชะรอยว่าสงครามคราวนี้จะเกิดง่ายไป พระพรหม และพระอิศวร ท่านเห็นว่ามันไร้สาระ เลยลงมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย พระพรหม ก็ตัดสินให้นางดารากลับไปอยู่กับพระพฤหัส ตามเดิม แต่จันทรเทพ บอกว่า นางดารากำลังมีลูกของตน อยู่ คือพระพุทธ (ผมไม่แน่ใจว่าพระพรหม หรือพระอิศวรท่านตัดสินยังไง) แต่สุดท้ายนางดาราก็ต้องกลับไปหาพระพฤหัส จะเห็นนะครับว่า เทวดานี่ไม่ถือเลย เมียถูกคนอื่นเอาไปอยุ่จนมีลูก ก็ไม่ว่าอะไรเอาไปอยู่กันต่อได้อีก แต่พระพฤหัส นั้นแค้นพระจันทร์มาก จึงฟ้องต่อพระพรหมว่า พระจันทร์ทำการครั้งนี้ เป็นความผิดนัก แย่งเมียของอาจารย์ตนเอง เป็นเหตุให้เกิดสงคราม ขอให้ลงโทษพระจันทร์ ด้วยการไม่ให้มีสิทธิ เข้าร่วมประชุมในสภาของเหล่าเทพ ซึ่งพระพรหม ท่านก็ตกลงเห็นด้วย
แล้วก็แยกย้ายกันกลับไป พระจันทร์ คราวนี้จ๋อยกว่า ตอนโดนสาปให้ซูบตายซะอีก เพราะว่า ตนเองมีหน้าที่ส่องแสงในเวลากลางคืนแล้วก็ถือว่าเป็นเทพ ชั้นแนวหน้า แต่กลับโดนลงโทษไม่ให้เข้าประชุม แล้วจะรายงาน ผลงาน ยังไง โอกาสขอขั้นเงินเดือนก็ไม่มี แถมยังเสียหน้าอีก พระอิศวร ท่านยังไม่กลับ ก็เดินยิ้มเข้ามาบอกว่า เป็นไงล่ะ คราวนี้เจ้าโดนหนักนะ พระจันทร์ รีบอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจาก พระอิศวรทันที
งานนี้พระอิศวรก็ทรงออกจะลำเอียงที่ยอมช่วย แต่ก็อ้างว่า ถ้าจันทรเทพ ไม่เข้าประชุม เหล่าทวยเทพ มันก็จะมีปัญหาเพราะจันทรเทพ มีหน้าที่อยู่ในตัว จะปลดก็ไม่ได้ พระอิศวรเลยบอกว่าจะช่วย ว่าแล้วก็หยิบจันทรเทพ ขึ้นปักไว้ที่มวยผม แล้วบอกว่า ต่อไปนี้ เราจะทัดเจ้าเป็นปิ่น เพื่อเข้าประชุมทวยเทพ รับรองว่าไม่มีใครกล้าหือ หรือว่าที่เจ้าเข้าประชุม เพราะเจ้าเป็นปิ่นของพระศิวะ
จบล่ะครับ ขาดตกบกพร่องยังไง ก็ขออภัย ถ้ามี้วลาว่าง ๆ ผมจะหาโอกาสเล่าเรื่อง อื่น ๆ ที่จำได้อีกนะครับ
บันทึกการเข้า
ทิด
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 28 ต.ค. 00, 19:35

ขอนอกเรื่องสักนิดนะครับ แต่ไปไม่ไกลนัก เรื่องที่ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกรณีพิพาท
ระหว่างพระจันทร์กับพระพฤหัสนี่แหละครับ งานนี้เป็นสงครามระหว่างเทพ
เรียกว่า "เทวาเทวะสงคราม" คือหมายถึงเทพตีกัน เหล่าอสูรมีเอี่ยวบ้างเล็กน้อย
จำได้ว่าเคยอ่านจากการตูนไทยเล่มละบาทสมัยก่อน ความยาวสองเล่มจบ
รู้สึกสนุกน่าสนใจ ต่อมาได้อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือ "เทวกำเนิด"
ถ้าจะว่าไปแล้วงานนี้พระจันทร์ผิดเต็มประตูครับ มีอย่างที่ไหนไปปิ๊งเมียของครู
บันทึกการเข้า
เด็กนอกดอทคอม
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 29 ต.ค. 00, 02:28

อยากฟังเรื่องพระศิวะมีคอดำด้วยครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.044 วินาที กับ 19 คำสั่ง