อ๊อฟ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 167
SIIT, TU
|
ทำไมเราเรียกคืนก่อนเลือกตั้งว่า "คืนหมาหอน" ครับ
เป็นคำที่รู้กันทั่วไปหรือว่าเป็นชื่อเล่นสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหมาครับ
ขอบคุณมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33479
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 07 ก.พ. 05, 08:23
|
|
คำนี้เกิดมานานหลายปีแล้วค่ะ อาจจะ 20 ปีแล้วมั้ง คืนก่อนเลือกตั้งเป็นโค้งสุดท้าย เพราะงั้นหัวคะแนนจึงต้องวิ่งอัดฉีดเต็มที่กับชาวบ้าน เพื่อให้พรรคของตนแซงโค้งเข้าเส้นชัย ต้องเคาะประตูบ้าน เยี่ยมเยียนชาวบ้านพร้อมด้วย" แรงอัดฉีด" ไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันทั้งเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยือน ทั้งคืน คนโน้นลงบันไดไป คนนี้ก็แวะมา หมาต้องเห่าต้องหอนกันทั้งคืน เพราะมีคนมาเยือนบ้านไม่รู้จบ ไม่ได้นอนกันสงบๆ อย่างคืนอื่นๆ ถึงกลายเป็นสำนวนว่า "คืนหมาหอน"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อ๊อฟ
ชมพูพาน
  
ตอบ: 167
SIIT, TU
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 07 ก.พ. 05, 11:29
|
|
ขอบคุณครับ
ถ้าอย่างนั้น ที่มาของมันก็เกี่ยวข้องกับหมาจริงๆ
(ใครบางคนที่นั่งข้างๆผม เค้าบอกว่า มันเป็นการเปรียบเทียบ เชิงด่านักการเมือง แหม! มั่วจริงๆเลย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 08 ก.พ. 05, 02:44
|
|
ตลกจังค่ะ คนคิดขึ้นมานี่เยี่ยมจริงๆ ดิฉันไม่เคยได้ยินเลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sir.
อสุรผัด

ตอบ: 17
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 19 ก.พ. 05, 00:42
|
|
จริงๆแล้ว พวกหัวะแนนจะแอบวิ่ง ซื้อเสียงตามบ้านต่างๆ ในคืนก่อนวันเลือกตั้งคับ บางบ้านเลี้ยงหมาไว้ เมื่อแอบไปซื้อเสียงก้ต้องแอบๆย่องไป ทำให้หมาหอนไงละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศิษย์อาจารย์ป๋า
อสุรผัด

ตอบ: 1
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 25 เม.ย. 06, 20:52
|
|
เห็นด้วยกับความเห็นที่หนึ่งครับ ผมก็ทราบมาแบบนั้น และในความเห็นที่สี่ ก็เสริมไว้น่าสนใจมากทีเดียว เพราะถ้าหัวคะแนนมากันครึกโครมแบบความเห็นที่หนึ่ง ก็น่าจะกลายเป็นคืนหมาเห่าไป แต่ถ้ามาแบบความเห็นที่สี่บอกไว้ คือแอบๆ มา เพราะกลัวจับได้ว่าทำผิด พอหมาเห็นอะไรหลบๆ ซ่อนๆ ตะคุ่มๆ อาจดูเหมือนผีมากกว่าคน มันเลยหอนครับ ขอบคุณทั้งสองท่านครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว
ชมพูพาน
  
ตอบ: 175
ความสุขที่แท้อยู่ที่ใจ
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 26 เม.ย. 06, 08:50
|
|
แต่ถ้าสมัยนี้หมาคงไม่หอนแล้วละ เพราะนักการเมืองยุคนี้มีหมอผีส่วนตัว อยากจะซื้อเสียงก็ให้หมอผี เสกเงินเข้ากระเป๋าชาวบ้าน หรือไม่ก็เข้าฝันหาเสียงกันเลย ฮิฮิฮิ (อ่านขำๆอย่าทำเครียด)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
111
มัจฉานุ
 
ตอบ: 55
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 28 เม.ย. 06, 12:48
|
|
อีกหน่อยคงไม่หอน เพราะมาบ่อยจนคุ้นหน้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 28 เม.ย. 06, 12:58
|
|
คืนหมาหอนนี่เป็นโรคร้ายของประเทศไทยครับ เป็นอาการต่อเนื่องมาจากโรคร้อยเอ็ดอีกทีหนึ่ง
แต่ปัจจุบันโรคทั้งสองนี่รักษาหายขาดแล้วครับ ด้วยยาชุดขนานวิเศษ เรียกว่าทุจริตเชิงนโยบาย มีหลายตำหรับ กองทุนหมู่บ้านเอย SML เอย.... อันนี้แล้วแต่หมอจะสั่ง บ้านใครบ้านมัน
เดี๋ยวนี้เงินเข้าสู่กระเป๋า voter แบบออนไลน์แล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 28 เม.ย. 06, 13:09
|
|
เล่าฝากไว้เป็นประวัติศาสตร์บัดเดี๋ยวนี้ละกัน เหตุที่หมาหอนเพราะ ในช่วงนั้น การจ่ายเงินซื้อเสียงนี่เป็นระบบประมูลครับ เช่น ผู้ใหญ่เอ๋ง มีเสียงอยู่ในมือ 200 เสียง ใครจะให้เท่าไหร่ก็แจ้งมา ราคาตลาดตอนนั้นประมาณ 50 บาทครับ เพราะง่ายต่อการจ่าย แบงค์ห้าสิบของคุณเริงชัยนี่ทำนักการเมืองกระเป๋าฉีกทีเดียว ก่อนหน้านั้น มีแต่แบงค์สิบกับยี่สิบ ราคามันเลยตกที่สามสิบบาท อย่างเก่งก็สี่สิบ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ก้อคดียี้ห้อยร้อยยี่สิบไงครับ แต่นั่นเป็นรุ่นหมาไม่ต้องหอนแล้ว เพราะแจกตรงสู่มือผู้รับเลย
คืนหมาหอนก็คือการต่อรองจนวินาทีสุดท้าย สมมติว่าผู้ใหญ่เอ๋งตั้งไว้หกสิบ(ลูกบ้านจะได้ครึ่งหนึ่งเป็นอย่างสูง) จะต้องนำเงินมาให้ก่อนเปิดเลือกตั้ง กว่าจะว่าราคาสำเร็จ มักจะราวๆ สองยาม บางทีก็รุ่งสาง ช่วงนั้นหมากำลังสะบาย เห็นเปรตตะคุ่มตะคุ่มมา แกก็หอนสิครับ
ตำนานคืนหมาหอนน่าจะจบ(แต่ยังไม่สิ้น) เมื่อคุณทักษิณแกเข้ามาปฏิรูประบบหาเสียงเมื่อห้าหกปีก่อน โดยใช้ระบบการตลาดสมัยใหม่
เรื่องนี้มีใครทำวิทยานิพนธ์บ้างใหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|