ผมมองว่า เหตุที่ กู มึง เป็นคำไม่สุภาพในปัจจุบัน ก็เพราะว่าพื้นฐานทางสังคมไทย เป็นสังคมที่มีการแบ่งระดับของการใช้ภาษา ว่าภาษาระดับสุภาพใช้พูดกับใคร ภาษาระดับธรรมดาใช้พูดกับใคร ภาษาระดับเพื่อนสนิท หรือ ภาษาระดับต่ำเวลาด่ากัน ใช้เมื่อไหร่ เป็นต้น ดังนั้น เราจึงต้องเปลี่ยนคำสรรพนาม ไปตามระดับของภาษาที่เราใช้ ซึ่งลักษณะแบบนี้ จะไม่พบในภาษาในยุโรป เช่น อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส (อาจมีบ้างบางกรณีเช่น ใช้ Vous (คุณ) แทน Tu (เธอ)เวลาพูดกับผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่เสมอไป ถ้าผู้ใหญ่ที่ไม่ถือสาก็ใช้ tu ด้วยได้) ดังนั้น เวลาฝรั่งมันด่ากันก็รู้สึกธรรมดา ไม่ค่อยเจ็บเลย เพราะ แปลคำว่า I เป็น ผม กับ you เป็น คุณ ตลอด 555 ลองเป็นภาษาไทยสิ เปลี่ยน คุณ เป็น มึง มีเรื่องได้เลย
ในอดีต กู มึง เป็นสรรพนามระดับสามัญธรรมดาครับ ผมเข้าใจว่า ใช้พูดกับคนในระดับเดียวกัน หรือระดับต่ำกว่าเท่านั้น ไม่น่าที่จะใช้กับคนที่มีฐานะทางสังคมที่สูงกว่า
เืมื่อสังคมพัฒนา ประชาชนที่ได้รับการศึกษา (คาดว่าตั้งแต่สมัย ร.6 เป็นต้นมา) ก็น่าจะถูกสอนให้ใช้้สรรพนามที่ี่ถือกันว่า "เป็นของคนมีการศึกษา" เช่น ข้าพเจ้า ผม ท่าน คุณ ดังนั้น การใช้คำว่า "กู มึง" มันเลยกลายเป็นภาษาของคนไม่มีการศึกษาไปโดยปริยาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ข้าพเจ้า หรือ กู โดยตัวของคำแล้วไม่ได้บ่งชี้ว่าผู้พูดนั้นมีการศึกษาหรือไม่นะครับ แต่สิ่งที่จะบ่งชี้ก็คือ "การใช้ให้ถูกกาลเทศะ"
เช่น อยู่บ้านใช้ กู กับพี่น้อง ไปโรงเรียนใช้ กู กับเพื่อน อย่างนี้ก็ถือเป็นการใช้ในระดับครัวเรือนระหว่างพี่น้อง และกับเพื่อนฝูง ก็สามารถทำได้ ถ้าสิ่งแวดล้อมมีการใช้คำว่า กู เป็นเรื่องปกติ (บางบ้านถือเป็นเรื่องผิดปกติ อันนี้ก็แล้วแต่พ่อแม่ครับว่าสอนลูกอย่างไร)
แต่ถ้าอยู่ๆ ไปติดต่อราชการ แล้วไปใช้ กู กับเจ้าหน้าที่ อย่างนี้ ถูกมองว่าไม่มีการศึกษาแน่นอน เผลอๆ โดนสวน "มึง" กลับมาอีก 555
พูดถึงสรรพนามในภาษาไทย อันที่จริงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยนะครับ โดยเฉพาะสรรพนามของผู้หญิง ชาวต่างชาติมักสับสนเวลาเรียนภาษาไทย
ผมพบว่า พวกเพื่อนผู้หญิงของผมจะเรียกตัวเองว่า "เรา" หรือ บางคนก็เรียกเอาชื่อเล่นของตัวเองมาเป็นคำสรรพนาม แต่บางคนก็ "กู" ครับ อิอิ
แล้วถ้าเวลาพวกเพื่อนผู้หญิงพูดกับอาจารย์ เห็นใช้กันว่า "หนู" เป็นส่วนใหญ่ น้อยคนที่จะใช้ "ดิฉัน" เพราะจะดูแก่เกินไป
บางคนก็ละที่จะใช้สรรพนามไปเลยก็มี ก็เป็นทางออกที่ดีครับ