เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8
  พิมพ์  
อ่าน: 117051 ก็อสสิปนอกกำแพงวัง
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 25 ต.ค. 04, 10:51

พระพันปี เป็นคำที่ชาววังเรียกพระชนนีของพระเจ้าแผ่นดินค่ะ  ความหมายของคำ ตรงกับพระพันวสา  หรือพันวัสสา หรือพันวษา

คำว่า พระพันวษา ใช้เป็นคำกลางๆ เรียกพระเจ้าแผ่นดินได้ด้วย ในสมัยกรุงศรีอยูธยา     เห็นหลักฐานได้จากเรื่องขุนช้างขุนแผน ว่าเรียกกษัตริย์ในเรื่องว่าพระพันวษา
ในตอนต้นรัตนโกสินทร์   สมเด็จพระอมรินทราฯ ในรัชกาลที่ 1  ก็เรียกกันว่าพระพันวสา (ในเอกสารต่างๆสะกดแตกต่างกันไป ไม่ลงตัวแน่นอน) ส่วนพระนามอย่างเต็มยศนั้นมาถวายกันทีหลังเมื่อสิ้นพระชนม์ไปแล้ว

ตามความเข้าใจของดิฉัน    คำทั้งสองนี้ไม่ได้กำหนดแน่นอนลงไป แต่รวมความแล้วอาจเป็นพระมเหสีของพระเจ้าแผ่นดินในรัชกาลก่อน   พระชนนีของพระเจ้าแผ่นดินในรัชกาลหลังจากนั้น ก็ได้      สมเด็จพระศรีสวรินฯ แม้ว่าไม่ได้เป็นพระราชชนนีของรัชกาลที่ 6   แต่ก็ทรงอยู่ในฐานะพระมเหสีพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5     เป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  พระองค์แรก  และต่อมาก็เป็นพระอัยกีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  จึงได้รับการยกย่องเป็นสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ

ส่วนพระพันปี หรือพระพันปีหลวง เป็นพระราชชนนีของพระเจ้าแผ่นดิน  เห็นได้จากสมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ ข้อนี้ชัดอยู่แล้ว
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 25 ต.ค. 04, 20:12

 ขอบคุณครับอาจารย์
แล้วเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศล่ะครับอยากทราบเรื่องราวเกี่ยวกับท่านบ้าง พอดีผมไปงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต มาน่ะครับไปยืนอ่านมานิดนึงว่า
อัครมเหสีหมายเลขของ ร.5 องค์ก่อนคือพระนางสุนันทากุมารีรัตน์แต่ทรงสิ้นพระชนม์ซะก่อน  อืม  จริงรึเปล่าครับ ผมไม่ค่อยเชื่อหนังสือที่เขียนๆกันทั่วไปเท่าไหร่ ถ้าจำไม่ผิด ทั้ง 4 ตำแหน่งมีศักดิ์เท่ากันไม่ใช่เหรอครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 08:11

 เรื่องของเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเป็นเรื่องยาว    เหมาะจะตั้งกระทู้ใหม่เมื่อกระทู้นี้จบแล้วค่ะ    อาจจะเล่ารวมไปในกระทู้สมเด็จพระศรีสวรินฯ ที่ติดหนี้คุณพวงร้อยไว้นานแล้ว
พระมเหสีเทวีในรัชกาลที่ 5 มีมากกว่า 4 ค่ะ  บางพระองค์ ก็สิ้นพระชนม์ไปก่อนปลายรัชกาล     บางองค์ในตอนแรกไม่ได้มีการสถาปนาพระยศกันอย่างชัดเจนเป็นทางการ    มาสถาปนาภายหลัง บางองค์ก็เลื่อนพระยศขึ้นก็มี
4 ตำแหน่งที่คุณ paganini  ถาม คงหมายถึงในปลายรัชกาลที่ 5 ต่อถึงรัชกาลที่ 6   ขอเรียงลำดับดังนี้ค่ะ
1)  สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
2) สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี
3) สมเด็จพระนางเจ้าปิตุฉาเจ้า  สุขุมาลมารศรี
4) พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎ  ปิยมหาราชปดิวรัดา
ที่จริง  สมเด็จพระศรีสวรินทิรา ทรงอยู่ในอันดับหนึ่งเมื่อตอนกลางๆรัชกาล เพราะทรงเป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารพระองค์แรก    แต่เมื่อเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสิ้นพระชนม์กะทันหัน  ตำแหน่งเลื่อนไปอยู่ที่พระราชโอรสที่มีอาวุโสรองลงไป  คือเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ   ซึ่งประสูติแต่สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี หรือพระพันปี
พระราชชนนีจึงเลื่อนขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทน   ต่อมาก็ได้ดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ  สำเร็จราชการแทนพระเจ้าอยู่หัวเมื่อเสด็จยุโรป  ก็ถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งชัดเจน
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 09:11

 ขอบพระคุณมากค่ะคุณเทาชมพู  ตามแต่สะดวกนะคะ  ของดีๆคุ้มค่าแก่การรอคอยเสมอค่ะ

เรื่องเสด็จประพาสยุโรปนี่  ดิฉันเคยอ่านพระราชหัตถเลขาที่ทรงมีถึงเจ้าฟ้าหญิงนิภานภดล ตั้งแต่เด็กๆก็ยังจำได้หลายตอนเลยค่ะ  ไม่ทราบว่า เจ้าฟ้าหญิงเกือบจะได้ตามเสด็จไปด้วย  แต่ไม่ได้ไปเพราะเรื่องเจ้าจอม มรว สดับ  น่าเสียดายแทนท่านจริงๆเลยนะคะ

ขอเรียนถามข้อนึงค่ะ  ว่า   พระวิมาดาเธอ  นี่มีเชื้อสายจากทางไหนคะ  เป็นพระน้องนางพระองค์หนึ่งด้วยหรือเปล่า  ดิฉันจำไม่ได้เสียแล้วค่ะ  นึกไม่ออกจริงๆว่าท่านเป็นใคร
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 11:00

พระประวัติย่อๆมีดังนี้ค่ะ
พระวิมาดาฯ ทรงมีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าสาย  ลดาวัลย์ เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมื่นภูมินทรภักดี  (พระองค์เจ้าลดาวัลย์  ต้นราชสกุลลดาวัลย์ ณ อยุธยา ) พระราชโอรสในรัชกาลที่ 3
พระชนก ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัว  รับสั่งว่าท่านไม่มีสมบัติข้าวของเงินทองจะถวาย  ก็ขอถวายลูกหลานแทน พระธิดาสององค์ก็ได้เป็นพระอรรคชายา คือ พระวิมาดาฯ และพระอรรคชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์  องค์หลังนี้สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ปี 2430

พระวิมาดาฯ ทรงมีตำแหน่งสำคัญมากในวัง   คือควบคุมดูแลห้องพระเครื่องต้น(หมายถึงห้องครัว) ของเสวยคาวหวานอยู่ในความดูแลของท่าน     ในพ.ศ. 2431  โปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็นพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์  กรมขุนสินีนาฎ

พระวิมาดาฯทรงมีพระราชโอรสและธิดา 4 พระองค์คือ
1) พระองค์เจ้าชายยุคลทิฆัมพร  ต่อมาเฉลิมพระยศขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร  กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์
2) พระองค์เจ้าหญิงนภาพรจำรัสศรี  ต่อมาเฉลิมพระยศเป็นเจ้าฟ้า  องค์นี้สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ ไม่ทันทรงกรม
3) พระองค์เจ้าหญิงมาลินีนพดารา  ต่อมาเฉลิมพระยศเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนศรีสัชชนาลัยสุรกัญญา
4) พระองค์เจ้าหญิงนิภานภดล  ต่อมาเฉลิมพระยศเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนอู่ทองเขตขันตติยนารี
เจ้าฟ้าทั้ง 4 พระองค์  เรียกกันว่าเจ้าฟ้าชั้นโท    คือมิได้เป็นเจ้าฟ้าตั้งแต่ประสูติ    ถ้าเป็นเจ้าฟ้าตั้งแต่ประสูติชาววังเรียกว่าทูลกระหม่อม    เจ้าฟ้าชั้นโทเรียกว่าสมเด็จชาย หรือสมเด็จหญิง)
อย่างเจ้าฟ้านิภานภดล  ชาววังเรียกว่าสมเด็จหญิงน้อย

พระวิมาดาฯเป็นพระองค์แรกที่ตั้งโรงเลี้ยงเด็กขึ้นในประเทศไทย ในรัชกาลที่ 5   เพื่อเป็นพระกุศลประทานพระธิดาที่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ทรงพระเยาว์   ที่ทำการอยู่ตรงตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง  รับเด็กกำพร้าและเด็กยากจนมาเลี้ยงดูอย่างดี  สอนให้เล่าเรียนเขียนอ่าน  ทำกับข้าว  ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ มีวิชาติดตัวทั้งหญิงและชาย  เด็กเหล่านี้หลายคนเมื่อเติบโตก็ได้เข้ารับราชการ มียศเป็นขุน หลวง พระ พระยา กันหลายคน

สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2472  ได้รับพระราชทานโกศทองใหญ่ อันเป็นพระโกศสำหรับทรงพระบรมศพ พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินี
บันทึกการเข้า
นนทิรา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 77


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 13:42

 ดิฉันเคยอ่านพบว่า สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถทรงทูลขอพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 ให้การสืบสายรัชทายาทตกอยู่ในสายพระราชโอรสที่ประสูติในสมเด็จพระศรีพัชรินทรฯก่อนที่จะตกกลับไปสายอื่น คือจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธแล้ว ให้สืบต่อที่พระอนุชาร่วมพระชนนี

จะทูลขอเมื่อไรก็จำไม่ได้แน่ชัดค่ะ ไม่ทราบจะเป็นหลังจากที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นควีนรีเจนท์ระหว่างเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกหรือเปล่า

คุณเทาชมพูทราบรายละเอียดของเหตุการณ์นี้ไหมคะ และไม่ทราบว่าสมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ ซึ่งทรงโศกเศร้าเสียพระทัยเป็นอันมากจากการเสียพระราชโอรสองค์โตจะทรงรู้สึกอย่างไร เพราะยังทรงมีพระราชโอรสอยู่อีก คือสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 14:43

 เคยได้ยินมาสั้นๆตรงกับคุณนนทิราเล่าค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าหลังจากทรงเป็นสมเด็จรีเยนต์แล้วหรือยัง   แต่ว่าหลัง พ.ศ. 2347 แน่นอน เพราะปีนั้นเป็นปีที่เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

สมเด็จพระศรีสวรินทิราฯ หลังจากสูญเสียพระราชโอรส ก็ทรงอยู่แต่ในพระตำหนักเป็นส่วนใหญ่   พระสุขภาพไม่สู้ดีนัก   แปรพระราชฐานไปพักที่ศรีราชาอยู่พักใหญ่  

คุณนนทิราพูดถึงสมเด็จเจ้าฟ้าชายมหิดล  ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2434  ขณะนั้นพระชนม์แค่ 3 พรรษาเท่านั้นเองละค่ะ   ทรงมีพระเชษฐาที่เป็นเจ้าฟ้าเช่นกันอีกตั้งหลายพระองค์

ถ้าเป็นการเรียงลำดับอาวุโสตามพระชนมายุ  ตามแบบเก่าละก็   หากว่าเกิดเหตุอะไรกับสมเด็จพระบรมฯพระองค์ที่สอง    ผู้อยู่ในลำดับต่อไปคือสมเด็จเจ้าฟ้าชายบริพัตรสุขุมพันธ์   กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี  ทรงอ่อนกว่าเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธประมาณ 6 เดือน แต่นับพ.ศ. แล้วเป็นคนละปีกัน

การทูลขอในข้อนี้ ก็เท่ากับข้ามเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์ฯไปโดยปริยาย

ถ้าลำดับอายุกันต่อไปอีกก็จะได้แก่พระราชโอรสในสมเด็จพระพันปีทั้งนั้น  ก่อนจะมาถึงเจ้าฟ้ามหิดล
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 14:54

ขอกลับมาถึงเรื่องกรมหลวงชุมพรนะคะ
ข่าวลือเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับรัชกาลที่ 6 คือ ความขัดแย้งระหว่างพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระเจ้าพี่ยาเธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์      จนมีการเล่าเติมเสริมต่อกันไปอีกมาก
แต่ในความเป็นจริง  ไม่ใช่การขัดแย้งแบบตัวต่อตัวระหว่างเจ้านายสองพระองค์นี้   แต่เป็นเรื่องที่ก่อหวอดขึ้นมาโดยลูกน้อง  แล้วมีผลกระทบไปถึงนายของทั้งสองฝ่าย

ก่อนอื่นขอเท้าความถึงพระประวัติของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์  หรือ "เสด็จเตี่ย" ที่กองทัพเรือให้ความเคารพนับถืออย่างสูง
ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   ประสูติก่อนเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ หรือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเพียงสิบกว่าวันเท่านั้นเอง  
ประสูติจากเจ้าจอมมารดาโหมด บุนนาค
พระนามเดิมคือพระองค์เจ้าชายอาภากรเกียรติวงศ์  เมื่อเจริญพระชนม์ขึ้นได้เสด็จไปศึกษาวิชาทหารเรือที่ประเทศอังกฤษ   กลับมาทรงรับราชการอยู่ในกองทัพเรือ จนได้เป็นเสนาบดีกระทรวงทหารเรือในรัชกาลที่ 6   สิ้นพระชนม์เมื่อพ.ศ. 2466  ก่อนสิ้นรัชกาลที่ 6 เพียงสองปี

เรื่องที่เป็นชนวนความขัดแย้ง   เริ่มตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 5 เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช   ประทับอยู่ที่วังสราญรมย์  
ทรงโปรดการเล่นโขนละคร ก็ทรงรับมหาดเล็กใหม่ๆเข้ามาฝึกเป็นตัวโขนตัวละคร    มหาดเล็กเหล่านี้บางคนก็เป็นลูกผู้ดีมีตระกูล บางคนเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาแต่หน่วยก้านดี มีแววทางนาฏศิลป์  พวกแรกมักอยู่ในระเบียบดี ไม่มีปัญหา   แต่พวกหลัง บางคนนิสัยดี  แต่มีบางคนซ่าส์ถือว่าเป็นถึงมหาดเล็กของเจ้านายใหญ่ เลยคึกคะนองไม่ค่อยจะเกรงใคร

วันหนึ่ง  นักเรียนนายเรือหนุ่ม 2 คน ซึ่งก็เป็นศิษย์ของกรมหลวงชุมพรฯ  แต่งตัวชุดยูนิฟอร์มขาวสุดเท่   เดินสมาร์ทผ่านไปทางถนนสนามไชย   ผ่านพวกมหาดเล็กหนุ่มๆกลุ่มใหญ่ที่กำลังเตะฟุตบอลกันอยู่

นักเรียนนายเรือหนึ่งในสองชื่อจือ (หรือเจือ สหนาวิน  ต่อมาได้เป็นนาวาตรีหลวงจบเจนสมุทร์) ได้เขียนบันทึกเรื่องนี้เอาไว้   ดิฉันเล่าจากบันทึกของท่าน

พอมหาดเล็กเห็นนักเรียนนายเรือสองคนเดินอกผายไหล่ผึ่งผ่านไป   หยุดทำความเคารพธงชาติตอนหกโมงแล้วก้าวผึ่งผายออกเดินพร้อมกัน   ก็เกิดอยากแซวขึ้นมา  ในจำนวนพวกซ่าส์ก็เกิดมีหัวโจก ส่งเสียงเป็นจังหวะ ว่า หนึ่ง หนึ่ง หนึ่งสอง ตามจังหวะก้าวเดิน
นักเรียนนายเรือเห็นมหาดเล็กมาลูบคม ก็เอาจริงขึ้นมา   จึงเกิดถามทำนองต่อว่ากัน   ถามกันไปถามกันมาไม่มีใครยอมรับ ก็เลยเกิดเป็นมวยหมู่ขึ้นมาระหว่างนักเรียนนายเรือ 2 คนและมหาดเล็กหลายสิบ
ชกต่อยกันชุลมุนอยู่พักใหญ่   มหาดเล็กตะโกนให้ทหารยามหน้ากระทรวงกลาโหมจับนักเรียนนายเรือ   ทหารยามไม่กล้าจับ   มีนายทหารคนหนึ่งเห็นเหตุการณ์ก็ร้องบอกให้นักเรียนนายเรือหลบหนีไปเสียเพราะว่ากำลังของอีกฝ่ายมากกว่า   นักเรียนนายเรือทั้งสองก็เลยแหวกพวกมหาดเล็กซึ่งไม่กล้าทำอะไรจริง  กลับบ้านไปได้
ปรากฏว่านายจือได้รับบาดเจ็บ หน้าบวมปากเจ่อไปตามระเบียบ    แต่ก็ไปเรียนหนังสือต่อได้ไม่ถึงกับบาดเจ็บสาหัส  ความทราบไปถึงผู้บังคับการโรงเรียน น.ต. หลวงพินิจจักรพันธุ์(สุริเยศ อมาตยกุล ภายหลังเลื่อนขึ้นเป็นพระยาสาครสงคราม) เรียกตัวไปตักเตือน  ให้ทำรายงานเสนอขึ้นไป    แต่ก็แค่นั้น เพราะดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร
 
ต่อมา 3-4 เดือนเรื่องที่นึกว่าจบกันไปแล้วก็กลับลุกลามเป็นเหตุใหญ่โต    มหาดเล็กกลุ่มนั้นไปทูลฟ้องสมเด็จพระบรมฯ ว่าถูกนักเรียนนายเรือมาข่มเหงถึงหน้าวัง    สมเด็จพระบรมฯก็กริ้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนของกรมหลวงชุมพรฯ มารังแกมหาดเล็กของพระองค์ท่าน  จึงทรงทำเรื่องกราบบังคมทูลให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงทราบ
เมื่อกรมหลวงชุมพรฯ ทรงทราบ  สืบสาวราวเรื่องหาข้อเท็จจริงได้แล้วก็ไปเฝ้ากรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชวนกันเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว  กราบทูลว่าในความเป็นจริง มีนักเรียนนายเรือแค่ 2 คนเท่านั้น แต่มหาดเล็กหลายสิบคน   ใครข่มเหงใครกันแน่  
ไม่มีกฎหมายที่ไหนออกว่าคนน้อยข่มเหงคนมาก   กรมหลวงราชบุรีฯก็ทรงสนับสนุนว่าเป็นความจริง   ทั่วโลกไม่มีกฎหมายว่าคนน้อยข่มเหงคนมาก  มีแต่คนมากข่มเหงคนน้อย

พระเจ้าอยู่หัวก็เลยทรงหันพระพักตร์ไปทางสมเด็จพระบรมฯ รับสั่งว่า
" พ่อโตก็ไม่ควรเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มากล่าวให้เป็นเรื่องเป็นราว เสียเวลา"

นายจือก็เลยรอดพ้นจากความผิด   เรียนจบเข้ารับราชการในกองทัพเรือ  เข้าวังได้ใกล้ชิดกับพระโอรสธิดาที่ทรงพระเยาว์  จนกระทั่งชราก็เขียนบันทึกเรื่องนี้ไว้ให้รู้กันสำหรับคนรุ่นหลัง
บันทึกการเข้า
Marty
อสุรผัด
*
ตอบ: 8


ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 16:06

 มาแสดงตัวเป็นครั้งแรกครับ ติดตามอ่านมานานพอสมควรแล้ว มีประโยชน์มากเลยครับ
คิดว่าเรื่องความขัดแย้งระหว่างในหลวงรัชกาลที่ 6 กับกรมหลวงชุมพรฯ คงยังไม่จบแค่นี้
รอฟังคุณเทาชมพูเล่าต่อครับ
บันทึกการเข้า
วิรงรอง
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 18:15

 ขอบคุณค่ะคุณเทาชมพูที่เล่าเรื่องกรมหลวงชุมพรให้ฟัง
แต่ไหนแต่ไรตั้งแต่อ่านพระราชนิพนธ์ที่ทรงแปลเชคสเปียร์และบทละครอื่นๆ ก็ให้สนใจใคร่รู้เรื่องในสมัยนั้น ด้วยคิดว่าเป็นสมัยคาบตะวันตกตะวันออก  น่าพิศวง
ขอบคุณค่ะ    
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 26 ต.ค. 04, 19:41


มาทักทายคุณ Marty ค่ะ

เรื่องของกรมหลวงชุมพรฯยังมีอีก  รอหน่อยนะคะ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 27 ต.ค. 04, 00:51

 ตามมาอ่านช้าหน่อย ขออภัยด้วยค่ะ  ขอบคุณคุณเทาชมพูสำหรับรายละเอียดของพระวิมาดาฯด้วยค่ะ  ไม่ทราบว่า  สมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร  เป็นพระชนกของ พระองค์เจ้า เฉลิมพรทิฆัมพร อนุสรมงคลการ ใช่มั้ยคะ  ขออภัยดิฉันจำชื่อพระองค์ชายใหญ่ไม่ได้ค่ะ
บันทึกการเข้า
นนทิรา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 77


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 27 ต.ค. 04, 01:51

 พอดีผ่านมา ตอนนี้ที่เมืองไทยก็ดึกแล้ว เลยขออนุญาตตอบพี่พวงร้อยค่ะ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร และพระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ เป็นพระโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพรค่ะ และพระชนนีคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล (พระธิดาในสมเด็จวังบูรพา)

เสด็จพระองค์ชายใหญ่ กลาง และเล็ก ล้วนสิ้นพระชนม์แล้วทั้งสิ้นค่ะ

กำลังรอฟังเรื่องราวตอนต่อไปของกรมหลวงชุมพรฯจากคุณเทาชมพูนะคะ  กรมหลวงราชบุรีฯก็ดูเหมือนมีเรื่องขัดแย้งในหมู่เจ้าพี่เจ้าน้องอยู่เหมือนกันใช่ไหมคะ คงเป็นอย่างที่คุณเทาชมพูว่าน่ะค่ะ ครอบครัวใหญ่ขนาดนี้ เรื่องกระทบกระทั่งย่อมมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 27 ต.ค. 04, 09:37

 ขอบคุณมากค่ะ คุณนนทิรา ไม่น่าลืมพระนาม พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้เลย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 28 ต.ค. 04, 11:20

ขอโยงต่อไปอีกเรื่องว่า  นอกจากมีเรื่องกับนักเรียนนายเรือแล้ว   มหาดเล็กของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ยังเคยไปมีเรื่องกับนายทหารรักษาพระองค์ที่วังสวนดุสิตด้วย  ในปลายรัชกาลที่ 5
สมเด็จพระบรมโอรสธิราชฯ ทูลฟ้องต่อพระเจ้าอยู่หัว ว่าทหารรักษาพระองค์รังแกมหาดเล็ก  
ผลการไต่สวน ตรงกันข้ามกับนักเรียนนายเรือ    ทหารรักษาพระองค์ถูกสอบสวนว่าผิดจริง  ก็เลยถูกเฆี่ยนต่อหน้าแถวทหารที่กระทรวงกลาโหม แล้วปลด
ผู้เฆี่ยน คือเสนาบดีกลาโหม  พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ( พระองค์เจ้าชายจิรประวัติวรเดช  ต้นราชสกุล จิรประวัติ ณ อยุธยา) ตามพระบรมราชโองการของพระเจ้าอยู่หัว

หลังจากทหารบกถูกเฆี่ยนแล้ว  ก็เลยไม่ถูกกันระหว่างทหารกับมหาดเล็ก   เป็นความขุ่นข้องที่ยาวนาน จนทหารหนุ่มกลุ่มหนึ่งคิดก่อการกบฏขึ้นในรัชกาลที่ 6 เรียกว่ากบฏ ร.ศ. 130  แต่ว่าไม่สำเร็จ  ถูกจับติดคุกระนาว
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 19 คำสั่ง