เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 16493 ถึงลับตัวแต่ก็ชื่อ...: สุนทรภู่ ๒๑๘ ปี
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 27 มิ.ย. 04, 09:28


อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว
ถึงลับตัวแต่ก็ชื่อเขาลือฉาว
เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว
เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร

(เพลงยาวถวายโอวาท)

วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๓๒๙ คือวันเกิดของมหากวีแห่งรัตนโกสินทร์  
ปีนี้ก็ครบ ๒๑๘ ปีแล้วค่ะ

ขอเชิญรำลึกถึงท่านอีกครั้งหนึ่ง ด้วยบทกลอนที่จำกันได้  
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 09:24

ขอแจมคนแรกเลยละกันครับ
ร่วมรำลึกด้วยบทโรแมนติกบทนี้ครับ

ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร    ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร     ขอพบพานพิสวาทมิคลาดคลา

แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ     พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา     เชยผกาโกสุมปทุมทอง

เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่             เป็นราชสีห์สิงสู่เป็นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง   เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 09:34

อ้าว คุณจ้อมาแล้ว กำลังบ่นเชียวว่า ยังไม่มีใครแวะมาทักทาย    
ขอยกกลอนของท่านมาลงเป็นที่ระลึก  
ถ้าใครจะนึกอยากช่วยผสมโรงด้วยก็เชิญ
ด้วยความยินดีค่ะ


แง่คิด
เชิงบริหารธุรกิจ

แม้นจะเรียนวิชาทางค้าขาย
อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาศัย
จะซื้อง่ายขายดีมีกำไร
ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา

เชิงเศรษฐกิจ

อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก
ทำเกี่ยวแฝกมุงป่าพาฉิบหาย
ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย
อย่ามักง่ายเงินทองของสำคัญ

เห็นผู้ดีมีทรัพย์ประดับแต่ง
อย่าทำแข่งวาสนากระยาหงัน
ของตัวน้อยก็จะถอยไปทุกวัน
เหมือนตัดปันต้นทุนสูญกำไร

เชิงจริยธรรม

หนึ่งว่าอย่าลักเอาของเขาอื่น
มาชมชื่นฉ้อฉลคนโกหก
หนึ่งทำชู้คู่เขาเล่าลามก
จะตายตกในกระทะอเวจี
หนึ่งสูบฝิ่นกินสุรามุสาวาท
ใครทำขาดศีลห้าสิ้นราศี
ใครสัตย์ซื่อถือมั่นในขันตี
จะถึงที่พระนิพพานสำราญใจ
อย่าโกรธขึ้นหึงสาพยาบาท
นึกว่าชาติก่อนกรรมจะทำไฉน
เหมือนดุมวงกงเกวียนอันเวียนไป
อย่าโทษใครนี่เพราะกรรมจึงจำเป็น
ประการหนึ่งซึ่งขาดพระศาสนา
ทั้งโลกาเกิดทุกข์จึงยุคเข็ญ
ซึ่งจะกลับดับร้อนให้ผ่อนเย็น
ก็ต้องเป็นไมตรีปรานีกัน  
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 12:59

 สวัสดีค่ะ  นึกอยู่นาน  เพราะเคยจำได้เยอะแยะ  แต่เดี๋ยวนี้นึกไม่ออกเลย  ความทรงจำชักลางเรือน  ตอนนี้จำได้แต่บทนี้ค่ะ  ถ้าเพี้ยนไปขออภัยด้วยนะคะ

โอ้นิจจาตัวเราก็เท่านี้
ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย
...

ต่อไม่ออกแล้วค่ะ
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 13:47

 .......
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคื่น
.......

มาคารวะหนึ่งจอกขอรับ
บันทึกการเข้า
นิรันดร์
องคต
*****
ตอบ: 522


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 14:06

 เอามาฝากคุณพวงร้อยครับ

.....มาถึงบางธรณีทวีโศก .......... . ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น
โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ....... . ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร
เมื่อเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้ ....... ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย
ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ . เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา

ไปดูเต็ม ๆ ได้ที่
 http://203.144.136.10/service/mod/heritage/nation/nirad/nirad.htm

เผื่อนึกครึ้ม ๆ จะท่องจำเล่นอีกครั้ง
หรือฝากเจ้าตัวเล็กช่วยกันอนุรักษ์มรดกไทยครับ

บทกวีสุนทรภู่เรื่องแรกที่ผมเรียนน่าจะเป็นกาพย์พระไชยสุริยา
...
ระวังตัวกลัวครูหนูเอ๋ย  ไม้เรียวเจียวเหวย กูเคยเข็ดหลาบขวับเขวียว
หันหวดปวดแสบแปลบเสียว หยิกซ้ำช้ำเขียว อย่าเที่ยวเล่นหลงจงจำ
บอกไว้ให้ทราบบาปกรรม เรียงเรียบเทียบทำ แนะนำให้เจ้าเอาบุญ
...
สนใจเรื่องเต็ม ๆ หาอ่านได้ที่นี่ครับ
 http://library.riu.ac.th/webdb/images/nong2.htm  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 15:35

 มีอีกบท มาฝากค่ะ

เป็นสตรีมิใช่ชายเสียดายศักดิ์
จะปลูกรักเรรวนหาควรไม่
อันความดีมีอยู่ดูจำไว้
อย่าพอใจรักชั่วให้มัวมอม
จะมีคู่ก็ให้รู้ปรนนิบัติ
จงซื่อสัตย์สุจริตจิตถนอม
อย่าคิดร้ายย้ายแยกทำแปลกปลอม
มโนน้อมเสน่หาต่อสามี

ดิฉันเคยอ่านกาพย์พระไชยสุริยาเอาเมื่อเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแน่ะค่ะ
ไม่เคยเรียนสมัยมัธยม  
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 15:48

 นึกทบทวนได้อีก จากพระอภัยมณี แต่ไม่รับรองว่าจะถูกต้องทั้งหมด  ท่านใดเห็นผิดตรงไหน ก็รบกวนแก้ไขด้วยนะครับ

...แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
มนุษย์นี้มีรักอยู่สองสถาน
คือบิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนควรคิดเห็นจึ่งเจรจา...
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 28 มิ.ย. 04, 23:26

 ขอบคุณอาจารย์นิรันดร์สำหรับลิ้งค์ค่ะ  เป็นเว็บที่ดีมากเลย  น่าชื่นชมที่มีคนทำมารักษามรดกทางวรรณกรรมนะคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 29 มิ.ย. 04, 07:57

 ตามหลังคุณพวงร้อยมาติดๆ อีกคน  ขอบคุณอาจารย์นิรันดร์ ค่ะ  
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 29 มิ.ย. 04, 14:58


จากพระอภัยมณีอีกตอนหนึ่งครับ  คราวนี้เป็นเครื่องรางเก่าแก่แต่โบราณ

...ประการหนึ่งซึ่งตราพระราหู
เป็นของคู่ขัตติยาเทวดาถวาย
เป็นตราแก้วแววเวียนวิเชียรพราย
แต่เช้าสายสีรุ้งดูรุ่งเรือง
ครั้นแดดแข็งแสงขาวดูพราวพร้อย
ครั้นบ่ายคล้อยเคลือบสีมณีเหลือง
ครั้นค่ำช่วงดวงแดงแสงประเทือง
อร่ามเรืองรัศมีเหมือนสีไฟ
แม้นเดินหนฝนตกไม่ถูกต้อง
เอาไว้ห้องหับแห่งตำแหน่งไหน
ไม่หนาวร้อนอ่อนอุ่นละมุนละมัย
เข้าชิงชัยแคล้วคลาดซึ่งศาสตรา
แต่ครั้นนี้ท้าวมิได้เอาไปศึก
เพราะท้าวนึกห่วงพระแม่แน่หนักหนา
ด้วยเป็นหญิงทิ้งไว้จึงให้ตรา
ไว้รักษาสารพันอันตราย.........

ไม่เคยเห็นแบบแก้ววิเชียรตามท้องเรื่อง คงเป็นเพราะไม่ใช่ขัตติยา มีวาสนาครอบครองแต่แบบดินเผาดังในภาพ ท่านอาจารย์ที่มอบให้บอกว่าเป็นของหริภุญชัย แตกกรุพร้อมพระดินเผาที่เรียกกันว่าพระนางสิขี พิจารณาตามแบบนักโบราณค(ไม่มี)ดี เดาว่าเป็นศิลปยุคทวารวดี

ซึ่งก็ดูเข้าท่าอยู่(ตามประสาคนชอบเข้าข้างตัวเอง) ด้วยเหตุที่เป็นยุคสมัยของศรัทธาความเชื่อผสมผสานคาบเกี่ยวระหว่างพุทธและพราหมณ์

ในแง่ของพุทธก็เป็นถึงพระโพธิสตว์ที่มีลำดับถัดๆมาไม่กี่องค์ที่จะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้าหลังพระศรีอาริย์ ระบุอยู่ในคัมภีร์อนาคตวงศ์ มีพระนามเต็มว่าอสุรินทรราหู มีร่างกายใหญ่มากจนไม่กล้ามาเฝ้าพระพุทธองค์(พระสมณโคดม) เกรงจะเป็นการปรามาสเพราะสูงค้ำ พระพุทธองค์จึงเสด็จไปโปรดด้วยพระวรกายเนรมิตให้ใหญ่กว่า

ในแง่ของพราหมณ์ พระราหูเป็นเทพพระเคราะห์ฝ่ายนักเลงโต ก๊กเดียวกับพระเสาร์ คู่ต่อสู้เทพแห่งสงครามอย่างพระอังคาร โดยมีสายพันธุ์เป็นอสูรที่ไม่ยอมก้มหัวให้พวกเทพ ได้ลุยเดี่ยวไปกินน้ำอมฤต พระนารายณ์ยังปราบไม่ได้ เพียงถูกจักรตัดไปครึ่งองค์

ดูทั้งสองแง่ก็นับว่านับว่าบุญญาธิการและฤทธิ์เดชสูงส่ง น่าอัญเชิญบารมีมาปกปักรักษาโดยแท้ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายพราหมณ์
บันทึกการเข้า
นิรันดร์
องคต
*****
ตอบ: 522


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 29 มิ.ย. 04, 14:59

 ตอนผมเริ่มเรียนเขียนอ่านได้
คุณยายของผมได้ท่องกาพย์พระไชยสุริยาให้ฟัง
และก็จดเอาจากคำบอกของยายครับ
คุณยายผม ท่านเรียนหนังสือน้อย สักประมาณ ป.2-3 ประมาณนี้
แต่ท่านมีความจำเป็นเลิศ
เพียงนิดเดียวที่ท่านผม นับว่าเป็นการปลูกฝังความเป็นคนรักภาษาไทยให้ผมเป็นอย่างยิ่ง
ต่อมา เป็นนักเรียนวิทยาศาสตร์ ผมก็ยังแอบไปลักเรียนวิชาประวัติวรรณคดีของนักเรียนศิลป์
ตอนนี้ ท่านเสียไปกว่ายี่สิบปีแล้ว
ยังระลึกถึงท่านเสมอ
ดีใจที่มีคนเอากาพย์พระไชยสุริยาขึ้นบนเน็ต อยากระลึกตอนไหนก็หาอ่านได้ทันที

ขอบคุณสำหรับดอกไม้ สวยมากครับ
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 29 มิ.ย. 04, 15:16

 กว่าจะเรียนแม่กดจนเจนจบใช้เวลานานไหมครับ
บันทึกการเข้า
นิรันดร์
องคต
*****
ตอบ: 522


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 29 มิ.ย. 04, 17:39

 ขึ้นกดบทอัศจรรย์
ที่ว่าเจนจบนี่
คุณถาวภักดิ์หมายถึงท่องได้หรือหมายถึงบทอัศจรรย์ครับ    
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 29 มิ.ย. 04, 19:39

 เด็กสมัยผมนี่ไม่รู้จักเลยครับว่า กาพย์พระไชยสุริยา เกี่ยวกับอะไร ... พูดแล้วอายจัง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 19 คำสั่ง