เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3926 แปลว่าอะไรนะ...
อาร์ต viratchada@yahoo.com
บุคคลทั่วไป
 เมื่อ 21 ต.ค. 00, 12:00

จิงโจ้โล้สำเภา แปลว่าไรคะ แล้วมีที่มาจากไหน..
บันทึกการเข้า
รัตนพันธุ์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 18 ต.ค. 00, 00:00

.......คำว่า "จิงโจ้" ในภาษาไทย มีความหมายหลายอย่าง เช่นเรียก แมลงตัวลีบ ขาหน้าสั้น ขาสองคู่หลังยาว เวลาวิ่งไปตามผิวน้ำ จึงดูโย่งเย่ง มักเรียกกันว่า จิงโจ้น้ำ อีกอย่างหนึ่ง เป็นสัตว์ขาหน้าสั้น ขาหลังยาว กระโดดไปได้ไกลๆ ตัวเมียมีถุงที่หน้าท้อง สำหรับใส่ลูก เรียกกันว่า แกงการู (Kangaroo) มีมากในออสเตรเลีย ที่เรามาเรียกว่า จิงโจ้ จะเป็นเพราะเห็น ขาสั้นยาวไม่เท่ากันแบบ แมลงจิงโจ้ ที่เรารู้จักมาก่อน หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ

.....มีคำร้องของ เด็กสมัยโบราณอยู่บทหนึ่งว่า

จิงโจ้เอย  มาโย้สำเภา  หมาไล่เห่า

จิงโจ้ตกน้ำ  หมาไล่ซ้ำ  จิงโจ้ดำหนี.

ได้กล้วยสองหวี.  ทำขวัญจิงโจ้  โห่ฮิ้วๆ



.....จิงโจ้ในบทร้องนี้ จะมีรูปร่างอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่เมื่อ พระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เขียนรูป จิงโจ้โย้สำเภา ตามคำร้องเล่น ของเด็กไว้ด้วย โดยเขียนเป็นรูป สัตว์ประหลาด หรือคนประหลาด สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายถึงรูปนี้ไว้ว่า

......"การที่เอาคำเด็กร้องเล่น มาเขียนเป็นรูปภาพ ที่วัดพระเชตุพน คงเป็นพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นแน่ และเมื่อเขียนรูปภาพแล้ว คงได้ทอดพระเนตร มิใช่รูปเขียนตามอำเภอใจช่าง ที่ช่างเขียนรูปจิงโจ้ หน้าเป็นมนุษย์ ตีนเป็นนกนั้น ต้องมีอะไรเป็นหลักฐานว่า รูปร่างจิงโจ้ เป็นเช่นนั้น"







.....จิงโจ้โล้สำเภา ภาพปิดทองรดน้ำ ประดับอยู่ที่ เชิงบานหน้าต่าง พระอุโบสถ วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม

.....ที่มาของภาพ พจนานุกรมศัพท์ศิลปกรรม โดย ราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๓๐

 



.....ความจริงในสมัยโบราณ คงมี นกชนิดหนึ่งชื่อ จิงโจ้ เพราะมีกลอนว่า "กะลุมพู จับกะล้อพ้อ จิงโจ้ จับจิงจ้อ แล้วส่งเสียง" ช่างเขียน คงนึกรูปร่างจิงโจ้ไม่ออก แต่เมื่อมาโย้สำเภา ก็ต้องมีมือแบบคน แต่ชื่อเป็นนกจิงโจ้ จึงทำตีนเป็นนก

......จิงโจ้ที่โย้สำเภา ในรูปเขียน ที่วัดพระเชตุพนฯ นั้น อยู่ทางหัวเรือ แต่ในตัวเรือ ที่ใช้เครื่องจักรกลสมัยใหม่ ก็ทำจิงโจ้ด้วยไม้ ไว้ใต้ท้องเรือ เป็นที่สอดเพลา ไม่ให้เพลาแกว่ง และเมื่อมีสวะ หรือสิ่งใดครูดใต้ท้องเรือมา ก็จะปะทะกับจิงโจ้ ลอยข้ามไป ไม่ถูกใบพัด ส่วนเรือที่ใช้หางเสือ เช่น เรือกระแชง ก็จะมีจิงโจ้ตัวเล็กๆ ติดที่ท้องเรือ ตรงกับปลายหางเสือ เป็นประโยชน์กันสวะ หรือเชือก ที่จะมาทำให้หางเสือเรือหลุดได้



Copy มาจากบทความ

คำว่า "จิงโจ้" ในภาษาไทย ใช้เรียกอะไรบ้าง

.......ร้อยแปดเรื่องไทย, "ส.พลายน้อย", ตุลาคม ๒๕๔๑, หน้า ๑๒๘-๑๓๑

http://www.design.in.th/children/108thai/index.htm#kangaroo' target='_blank'>http://www.design.in.th/children/108thai/index.htm#kangaroo
บันทึกการเข้า
โอ๊ท
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 21 ต.ค. 00, 00:00

ขอบคุณ คุณรัตนพันธุ์ ด้วยครับ
บันทึกการเข้า
รัตนพันธุ์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 22 ต.ค. 00, 00:00

ยินดีค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.059 วินาที กับ 17 คำสั่ง