เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
อ่าน: 42845 เจ้าชายนักบิน
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 02 ธ.ค. 03, 17:43

 "ชีวิตเหมือนฝัน" ของคุณหญิงมณีเป็นหนังสือหายาก เนื้อหาสาระน่าสนใจมากเล่มหนึ่งค่ะ  
ในนี้มีคอหนังสือระดับมือโปร  เลยได้อ่านกันแล้วทำให้ดิฉันออกจะจ๋อยลงไปพอสมควรที่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน  แต่เอาเถอะ แข็งใจฟังไปอีกหน่อยละกันค่ะ  ถือว่าเผื่อคนที่ยังไม่ได้อ่าน
คุณหญิงมณี สิริวรสารก็คือหม่อมมณีคนเดียวกันละค่ะ      ตอนนี้ขอตัวไปเรียบเรียงเรื่องของเธอก่อนนะคะ  ก่อนกลับมาเล่าให้คุณพวงร้อยฟัง    
รับรองว่าสีสันยิ่งกว่านิยายค่ะ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 02 ธ.ค. 03, 17:46

 ฮั่นแน่! คุณพวงร้อยตาไวมองเห็น "เครื่องหมาย" ที่ผมทำไว้ แต่ไม่เล่าหรอกครับ แต่ขอบอกว่าลึกลับซับซ้อนกว่าที่คิด ชีวิตคนบางคนยิ่งกว่า soap opera อีกนะขอรับ

คุณเทาชมพู ผมเองยังแวะมาที่นี่เป็นประจำ แต่ด้วยความขี้เกียจ Login เลยนั่งอ่านไปเรื่อยๆ ต้องขออภัยเจ้าบ้านด้วยครับ ที่เอาแต่ด้อมๆมองๆข้ามรั้วอย่างนี้
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 03 ธ.ค. 03, 01:49

 แหม มีอ่อยกันด้วย  แค่นี้ก็อยากฟังต่อจนตัวสั่นแล้วค่ะ  ขออนุโมทนาในความอารีของคุณเทาชมพูที่สละเวลามาเขียนให้คนไม่มีปัญญาหามาอ่านอย่างดิฉันได้อาหารใจยามยากด้วยนะคะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 03 ธ.ค. 03, 13:40

 ยังไม่ทันครบสองเดือน  พระองค์เจ้าจิรศักดิ์กับหม่อมมณีได้ย้อนกลับไปฮันนีมูนรอบสอง   3 สัปดาห์  ในการตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ ไปริเวียร่า
เพื่อทรงพักผ่อนหลังหลังจากรักษาพระองค์ที่ยุโรปจนพระอาการดีขึ้น
การตามเสด็จครั้งนี้เหมือนฝันยิ่งกว่าครั้งแรก เพราะอยู่ในขบวนเสด็จของพระมหากษัตริย์    หนุ่มสาวทั้งสองได้ไปร่วมงานกุศลหรูหราที่มีกษัตริย์เสด็จมาร่วมถึง 4 พระองค์ และงานลีลาศอื่นๆที่งามหรูไม่แพ้กัน  

สมเด็จพระปกเกล้าฯยังทรงพระเมตตาหม่อมมณีด้วยการซื้อนาฬิกาสายเพชรและสร้อยไข่มุก ให้  เพื่อประดับกายไม่น้อยหน้าใคร
และสมเด็จพระนางรำไพพรรณีพระราชทานเสื้อขนสัตว์ให้เธอด้วย

พระองค์จิรศักดิ์และหม่อมมณีย้ายจากแฟลตในลอนดอนไปอยู่บ้านสวยที่เวอร์จิเนียนวอเตอร์  
มีรายได้จากทรัสต์ฟันด์ที่สมเด็จพระปกเกล้าฯทรงตั้งให้พระโอรสบุญธรรม ใช้จ่ายในบ้านเดือนละ 100 ปอนด์  
และยังมีเงินเก็บเป็นเงินก้อนจากทรัสต์ฟันด์ที่จะเรียกมาใช้จ่ายได้ในยามจำเป็น

ชีวิตแสนสุขดำเนินต่อไปจนมณีเริ่มตั้งครรภ์บุตรคนแรก  
สงครามก็เริ่มฉายเงาตึงเครียดขึ้นในยุโรป     นับแต่ค.ศ. 1939

สมเด็จพระปกเกล้าฯจึงทรงย้ายจากลอนดอนมาเช่น คอมป์ตัน เฮาส์อยู่ห่างจากบ้านของพระองค์จิรศักดิ์เพียง 5 นาที  
ครอบครัวก็อยู่ใกล้ชิดกันอย่างอบอุ่นอีกครั้ง

ความสุขในครอบครัวเล็กๆนี้เพิ่มขึ้นอีกเมื่อหม่อมมณีให้กำเนิดบุตรชายคนแรก สมพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯยิ่งนัก
ทายาทของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯได้รับชื่อว่า ม.ร.ว. เดชนศักดิ์   ส่วนนามสกุลคือ
"ศักดิเดชน์ ภาณุพันธุ์"


เรื่องนามสกุล  เป็นเรื่องขมขื่นของสมเด็จพระปกเกล้าฯอีกเรื่อง
หลังสละราชสมบัติ้เสด็จไปประทับที่อังกฤษ  แทนที่จะได้อยู่อย่างสงบ  เพราะไม่กีดหน้าขวางตาใครอีก   ก็กลับถูกบีบคั้นกดดันจากรัฐบาลหลายเรื่องด้วยกัน  

รวมทั้งเรื่องรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามฟ้องร้องต่อศาลว่าทรงขนทรัพย์สินเงินทองออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายและยึดทรัพย์ของพระองค์ท่านรวมทั้งวังศุโขทัยไว้ด้วย ตั้งแต่คดีเพิ่งจะถึงศาล ยังไม่ได้ตัดสินว่าผิดจริง
แล้วยังเรียกร้องให้เสด็จกลับมาแก้คดีในเมืองไทย

แม้เรื่องเล็กๆอย่างนามสกุลของพระนัดดาบุญธรรมก็ยังไม่วายเป็นเรื่องขัดข้องขึ้นมาอีกจนได้
เริ่มแรก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงตั้งนามสกุลสำหรับเชื้อสายพระองค์เองว่า "ศักดิเดชน์"(ณ อยุธยา)
ในเชิงกฎหมายเราก็คงทราบกันแล้วว่าลูกบุญธรรมเป็นผู้มีสิทธิ์ทุกอย่างเท่าลูกจริง  เพราะเหตุนี้นามสกุลใหม่ที่พระราชทานให้
พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯก็มีสิทธิ์จะใช้พอกับพระราชโอรสจริงๆ(ถ้าหากว่ามี)
แต่เมื่อแจ้งไปทางเมืองไทยให้ทราบเป็นทางการ   เรื่องกลับตาลปัตร
ทางคณะผู้สำเร็จราชการกลับตอบมาว่า ไม่สามารถจะทำได้ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯมีนามสกุลเดิมอยู่แล้วคือภาณุพันธุ์   ก็ต้องใช้ภาณุพันธุ์ตามพระบิดาแท้จริง
ทั้งนี้เป็นได้ว่ารัฐบาลไม่่ประสงค์จะให้พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯมีสิทธิ์ในเรื่องต่างๆที่สำคัญ เช่นสิทธิ์ในการสืบสันตติวงศ์   หรือเรื่องอะไรอื่นก็ตามที่เป็นสิทธิ์สืบเนื่องจากสมเด็จพระปกเกล้าฯ
สมเด็จพระปกเกล้าฯทรงแค้นเคืองมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้   จึงได้แต่พระราชทาน ศักดิเดชน์ เป็นส่วนหนึ่งของ ภาณุพันธุ์
พระนัดดาบุญธรรมน้อยๆที่เกิดมาจึงเป็น ม.ร.ว. เดชนศักดิ์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธุ์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 03 ธ.ค. 03, 14:27

ความยากลำบากคืบคลานเข้ามา เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มขึ้นจากเยอรมันบุกโปแลนด์    
อังกฤษเริ่มถูกคุกคามจากภัยสงครามยืดเยื้อไม่มีท่าทีว่าจะจบลงง่ายๆ
คนอังกฤษต้องประหยัดค่าใช้จ่าย  สิ่งต่างๆในตลาดเช่นน้ำมันก็เริ่มขาดแคลน
ครอบครัวเล็กๆของพระองค์เจ้าจิรศักดิ์กับมณีก็ประสบภาวะลำบากกว่าก่อนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ

แต่เรื่องที่เศร้าโศกที่สุดของหนุ่มสาวทั้งสอง คือปีครึ่งต่อมานับแต่ม.ร.ว.
เดชนศักดิ์เกิด     พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เสด็จสวรรคต
หลังจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯสวรรคต  
หน้าที่ดูแลพระองค์ท่านด้วยความรักความเอาใจใส่อย่างเมื่อก่อนนี้ก็พลอยสิ้นสุดลงไปด้วย พระองค์จิรศักดิ์ฯไม่อยากจะทรงอยู่เฉยๆ   จึงสมัครเข้าเป็นนักบินของหน่วยงาน A.T.A  เป็นหน่วยขนส่งทางอากาศของกองทัพอังกฤษ    

หน้าที่ของท่านคือขับเครื่องบินไปส่งที่ท่าเรือ  หรือสนามบิน หรือโรงซ่อม
แล้วแต่ภารกิจที่ได้รับมอบหมายแต่ละครั้ง เป็นงานที่ตรงกับพระทัยรักของท่าน  
แม้หม่อมมณีเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านแค่ไหนก็ไม่อาจจะห้ามปรามได้      สมเด็จพระนางรำไพฯก็ทรงคัดค้าน  เพราะเห็นเป็นเรื่องเสี่ยงตาย
แต่ก็ไม่มีสิ่งใดทำให้พระองค์จิรศักดิ์ฯทรงเปลี่ยนความตั้งพระทัย

พระญาติอีกองค์หนึ่งที่เข้ามาเยือนครอบครัวเล็กๆในระยะนี้   ให้คลายความว้าเหว่ลงได้มาก คือพระเชษฐาแท้ๆของพระองค์จิรศักดิ์
ทรงพระนามว่าพระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์  เสด็จมาเรียนที่อังกฤษ จนจบปริญญาทางสถาปัตยกรรมจากเคมบริดจ์  
ในยามสงครามก็ไม่ได้กลับเมืองไทย  แต่อยู่ที่ลอนดอนและเสด็จมาเยี่ยมพระอนุชาเป็นประจำ  
พี่น้องทรงรักใคร่กลมเกลียวกันดี  พระองค์อาภัสฯเข้ากับน้องสะใภ้ได้ดี

มณีเริ่มตั้งครรภ์บุตรคนที่สองในช่วงที่สามีเป็นนักบิน   คลอดเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 1942 ได้รับชื่อว่า ม.ร.ว. ทินศักดิ์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธุ์

พระองค์อาภัสฯเสด็จมาค้างที่บ้านเป็นเพื่อนด้วยทุกสุดสัปดาห์   พระองค์จิรศักดิ์ทรงห่วงหม่อมมาก ก็เบาพระทัยที่พระเชษฐามาอยู่เป็นเพื่อนด้วย
เหตุการณ์ดำเนินไปด้วยความปกติเรียบร้อยจนถึงเดือนกันยายนปีเดียวกัน
คุณชายทินศักดิ์อายุได้ 5 เดือน   พระองค์จิรศักดิ์ทรงครบรอบพระชนม์ 25 ชันษา  
ทรงออกจากบ้านไปปฏิบัติงานตามปกติ      

หม่อมมณีซึ่งอยู่บ้านพร้อมกับพระองค์อาภัสฯ ก็ได้ข่าวร้ายที่สุดในชีวิตจากหน่วยงาน A.T.A ว่าพระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต ทรงขับเครื่องบินที่จะนำไปส่งที่ท่าเรือ  
ประสบอุบัติเหตุชนภูเขาในเวลาที่หมอกลงจัด สิ้นพระชนม์ทันที

ปิดฉากชีวิตเหมือนฝันระหว่างเจ้าชายนักบิน  และหม่อมสาวสวยของท่าน
หลังสร้างครอบครัวร่วมกันได้เพียง 3 ปี 9 เดือน
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 03 ธ.ค. 03, 22:41

 โอย อ่านแล้วใจหายเฮือกเลยค่ะ  ช่วงนี้นี่  น่าเห็นใจบรรดาเชื้อพระวงศ์จริงๆนะคะ  โดยเฉพาะพระปกเปล้าฯและเจ้านายใกล้ชิดพระองค์ท่าน  ที่ฝ่ายรัฐบาลตามจองล้างจองผลาญไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 04 ธ.ค. 03, 09:35


เกิดอะไรขึ้นกับหม่อมมณีและลูกหลังจากนั้นครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 04 ธ.ค. 03, 15:23

 มันเป็นชีวิตที่เหมือนฝันจริงๆละค่ะ
เราคงจะนึกว่าหลังจากพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯสิ้นพระชนม์กะทันหัน   หม่อมมณีคงลำบากทั้งกายใจ  เป็นม่ายแต่ยังสาว  สมเด็จพระปกเกล้าฯผู้สามารถจะเป็นที่พึ่งได้ก็เสด็จสวรรคตไปก่อนล่วงหน้า
ชีวิตอาจจะพลิกผันไปสู่ความระทมขมขื่น    ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน  จะกลับไปเรียนก็คงไม่ได้แล้ว มีลูกเป็นห่วงผูกคอ  

เปล่าค่ะ   ชีวิตจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น
 หลังจากพระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯสิ้นพระชนม์ ในช่วงนี้เองพระองค์เจ้าอาภัสฯ ผู้ทรงปลอบโยนน้องสะใภ้อย่างดี   ก็สารภาพความในพระทัยว่าทรงหลงรักเธอมาก่อนหน้านี้นานแล้ว  และขอแต่งงานกับเธอเพื่อจะดูแลเธอต่อไป
ด้วยความรักและการทุ่มเทเอาใจใส่  มณีก็ใจอ่อน  เห็นสมควรแต่งงานใหม่กับท่าน

หลังพระองค์จิรศักดิ์ฯสิ้นพระชนม์ได้ 6 เดือน  หม่อมมณีก็สมรสใหม่กับพระองค์เจ้าอาภัสฯ   ต่อจากนั้นมีบุตรหญิงด้วยกัน 1 คนคือ ม.ร.ว. อรมณี  ภาณุพันธุ์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 06 ธ.ค. 03, 13:55

 "ชีวิตเหมือนฝัน"ของหม่อมมณี ภาณุพันธุ์ฯ หรือคุณหญิงมณี สิริวรสาร เป็นหนังสือที่ตั้งชื่อได้เหมาะที่สุด
ชีวิตเธอ"เหมือนฝัน" เป็นชีวิตที่ไม่เคยตกต่ำ มีแต่สวยงามรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป จนบั้นปลายชีวิตก็พรั่งพร้อมด้วยเงินทองเกียรติยศ ยากจะหาคนเทียบได้
ทั้งที่มีมรสุมแรงๆหลายหนในชีวิตที่จวนเจียนจะทำให้เธอจมดิ่งลงไป แต่ก็ไม่ยักจม  กลับรอดมาได้ด้วยดี
อย่างครั้งแรกคือเมื่อพระองค์จิรศักดิ์ฯสิ้นพระชนม์กะทันหัน   เป็นใครเจอเข้าแบบนี้ก็คงแทบล้มทั้งยืน   ชีวิตอาจไม่ฟื้นคืนสู่ความสุขอีกก็ได้
แต่พระองค์อาภัสฯก็ยื่นมือเข้ามาทันเวลา ราวกับสวรรค์ส่งมาให้รออยู่แล้ว

ชีวิตสมรสครั้งที่สองของหม่อมมณี ดำเนินมาได้ 7 ปี   พระองค์อาภัสฯกับเธอกลับมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในกรุงเทพ  ชีวิตก็สุขสบายทุกอย่าง
เธอได้มรดก 2 ต่อ ในฐานะหม่อมของพระองค์จิรศักดิ์ฯ คือมรดกของสมเด็จพระปกเกล้าฯที่ทรงแบ่งให้พระโอรสบุญธรรม
กับมรดกของสมเด็จวังบูรพาฯ พระบิดาองค์จริงของพระองค์จิรศักดิ์ฯ ที่แบ่งกันในระหว่างพี่ๆน้องๆราชสกุลภาณุพันธ์
ที่ดินจำนวน 10 ไร่แปลงหนึ่งที่เธอได้รับมรดก ก็คือที่ดินที่ถนนเพลินจิต  ติดกับโรงแรมไฮแอทเอราวัณ  ไม่รวมมรดกอื่นๆ

บังเอิญโรงเรียนของดิฉันอยู่แถวนั้น     ตอนเด็กๆนั่งอยู่ในหอประชุมมองข้ามกำแพงไป ก็เห็นตัวบ้านชั้นบนของบ้านสวยหลังหนึ่ง   ยังเคยสงสัยว่าเป็นบ้านใคร   จำได้ว่าในช่วงเดือนธันวาคม เจ้าของบ้านนำต้นคริสตมาส หรือ poinsettia ออกดอกสีแดงสด มาตั้งเรียงรายไว้บนระเบียง   ชูดอกไสว สีแดงสดของดอกไม้ตัดกับสีครามอ่อนของท้องฟ้าฤดูหนาว สวยอย่างพรรณนาไม่ถูก จนจำได้ติดตา
บ้านนี้เจ้าของอยู่จนกระทั่งถึงแก่กรรม   ตอนนี้มองข้างหน้ามีอาคารร้านรวงบังอยู่ ไม่ทราบว่ายังอยู่หรือเปล่าค่ะ

ย้อนกลับมาเล่าต่อนะคะ
ชีวิตแต่งงานครั้งที่สองที่พรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศเงินทองไม่แพ้ครั้งแรก ดำเนินมาได้ 7 ปีก็ถึงจุดจบ ด้วยการหย่าร้างกัน
อ่านจากหนังสือ    สิ่งหนึ่งที่ฝังใจหม่อมมณีหรือคุณหญิงมณี(ในภายหลัง)คือเธอยังฝังใจกับความดีงามของสวามีองค์แรกอยู่ไม่คลาย  พระองค์อาภัสฯไม่อาจจะเทียบพระอนุชาของท่านได้ในเกือบทุกด้าน
ต่อมา  เมื่อเธอจับได้ว่าท่านมีสัมพันธ์กับสาวใช้ในบ้าน แล้วแสดงความลุ่มหลง ไม่ยอมเลิก    เธอก็ขอหย่า ไม่คิดจะอดทนหวานอมขมกลืนหรือถือเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายไทย อย่างเมียหลวงอื่นๆ

หลังจากหย่าจากพระองค์อาภัสฯ  ชีวิตของเธอก็เจอมรสุมแรงอีกครั้ง เมื่อเธอหวนกลับไปติดต่อกับคนรักเก่าคนแรกที่รักกันมาตั้งแต่วัยรุ่น
เธอติดต่อกับเขาร่วม 10 ปีด้วยความหวังว่าเขาจะหย่าจากภรรยามาเริ่มชีวิตคู่กับเธอ   แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงครั้งแล้วครั้งเล่า  เธอก็เฝ้าแต่รอด้วยความหวัง
จนแน่ใจว่าเขาไม่มีวันหย่าจากภรรยาแน่ๆ เธอก็ขอเลิกกับเขาเสียเอง
ในจังหวะนี้  สวรรค์ก็ช่วยให้เธอตัดสินใจง่ายดายอีกครั้ง ไม่ต้องเป็นทุกข์อยู่นาน  ด้วยการส่งนายแพทย์หนุ่มโสด รูปหล่อ ร่ำรวย  อายุน้อยกว่าเธอ มาให้หลงรักเธออย่างจริงจัง
ชื่อนายแพทย์ปชา สิริวรสาร

ขอหยุดกลืนน้ำลาย ไล่ความน้อยใจเทวดาให้หมดอีกครั้งนะคะ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 06 ธ.ค. 03, 15:32


โอ้โห คุณหญิงท่านมีความคิดล้ำสมัยคนไทยรุ่นนั้นมากเลยนะคะ   ยังนึกน้อยใจเทวดาตามไปด้วยค่ะ  ที่พระองค์เจ้าจิรศักดิ์มาสิ้นตั้งแต่ทรงพระเยาว์ขนาดนี้  หากทรงมีพระชนม์ยืนยาว  คงได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชาติไทยไม่น้อย  ไม่นับที่ว่า  คุณหญิงท่านคงไม่ต้องฝ่ามรสุมชีวิตขนาดนี้  แต่นับถือท่านจริงๆ  ท่านคงเป็นคนเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมากเลยนะคะ

แปลกนะคะ  คุณหญิงท่านคงเป็นบุคคลที่มีความรู้กว้างขวางมากนะคะ  ต้น poinsettia นึ่นึกว่ารู้จักกันแต่ในหมู่คนอเมริกันเท่านั้นเสียอีกค่ะ  เพราะมันมีแหล่งกำเนิดในเม็กซิโก  คนอเมริกันเองก็เพิ่งรู้จักเมื่อราวๆ คศ ๑๘๒๐ กว่าๆเองค่ะ  หาเจอแต่รูปเล็กๆเอามาฝากด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
นนทิรา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 77


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 07 ธ.ค. 03, 23:53

 ตอนที่อ่าน "ชีวิตเหมือนฝัน" ถึงตอนที่พระองค์อาภัสฯกำลังลุ่มหลงสาวใช้อย่างไม่ยอมเลิก ก็นึกเห็นใจคุณหญิงมณีมากเลยค่ะ ความรู้สึกคล้ายๆกับตอนที่นึกเห็นใจและโกรธแทนแม่เกด (จากเรื่อง "ราตรีประดับดาว") พออ่านถึงตอนที่คุณหญิงมณีตัดสินใจอย่างเฉียบขาด ก็นึกดีใจและยกย่องการตัดสินใจของคุณหญิงจริงๆ

ได้มาฟังเรื่องย่อของคุณเทาชมพู แล้วสนุกจริงๆค่ะ เป็นการทบทวนความสนุกและสาระที่ได้ตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณเทาชมพูอย่านึกว่าเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนเลยนะคะ ดิฉันติดตามอ่านอย่างสนุกเชียว

บ้านหลังนั้นที่คุณเทาชมพูเคยมองข้าวรั้วโรงเรียนไป คิดว่าน่าจะยังอยู่นะคะ ดิฉันเคยนั่งมองอยู่เสมอๆเวลาที่กำลังเบื่อฟังครู (จากห้องแล็บวิทยาศาสตร์ยิ่งมองได้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะคุณเทาชมพู) ยังจำได้ว่าตอนนั้นทาสีเหลืองอ่อนๆเกือบขาว ขลิบด้วยสีขาว ถ้าจำไม่ผิดมีหน้าต่างอย่างที่เรียกว่า French windows มองไปแล้วก็นึกว่าข้างนอกยังดูดีขนาดนี้ ข้างในจะสวยขนาดไหนหนอ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 08 ธ.ค. 03, 08:32

 ดีใจที่มีคนจำความหลังร่วมกันได้ค่ะ คุณนนทิรา  
บ้านทาสีเหลืองอ่อนๆขลิบขาว  สวยเหมือนบ้านหนังสือแบบบ้านของต่างประเทศ  
ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ๆขึ้นเหมือนป่าโปร่ง คล้ายบ้านของผู้ดีอังกฤษที่มีปาร์คส่วนตัวในบ้าน
แต่ว่าตอนนี้ บริเวณนั้นกลายเป็นแหล่งธุรกิจไปหมดแล้ว

คุณพวงร้อยคะ   Poinsettia ในตอนนี้ ตามร้านขายต้นไม้แถวชานเมือง
ใส่กระถางขายแดงสะพรั่งไปหมดเลยค่ะ  ดิฉันซื้อมา10 กระถาง ตั้งไว้ที่ลานข้างนอกห้องทำงานในตอนนี้ มองออกไปเห็นสีแดงสวยสด  
ชวนให้นึกถึงความหลัง  
สมัยเรียน poinsettia แทบไม่เคยเห็นในเมืองไทย   ไม่มีการเพาะชำกันขายกันง่ายดายเหมือนเดี๋ยวนี้  
ดิฉันมาย้อนนึกแล้วชักสงสัยเหมือนกันว่าคุณหญิงมณีอาจจะสั่งต้นหรือกิ่งมาจากเมืองนอกก็ได้  แล้วให้คนสวนทะนุบำรุงอย่างดีให้ออกดอกทันเวลาใกล้ปีใหม่  
เพราะจำได้ว่ามองเห็นทุกปีตอนใกล้ๆคริสต์มาส

ขอกลับเข้าเรื่อง
หม่อมมณีได้รับพระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า  มีคำนำหน้าว่า "คุณหญิง" ในบั้นปลาย    เธอกับคุณหมอปชาใช้ชีวิตคู่ด้วยดี ยืนยาวถึง 23 ปี จนคุณหมอเป็นฝ่ายถึงแก่กรรมไปก่อน
ปัจจุบันคุณหญิงมณี สิริวรสารถึงแก่กรรมแล้วค่ะ

เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2546  ดิฉันได้พบม.ร.ว. เดชนศักดิ์ ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์  ที่เมือง Eastbourne ประเทศอังกฤษ  คุณชายใช้ชีวิตอยู่่ในอังกฤษ
ภรรยาของคุณชาย (เป็นคนไทยค่ะ และสวยจนดิฉันนึกว่าเคยเป็นนางงามหรือดาราหนังมาก่อนหรืออย่างไร)เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยตกแต่งสวยมาก ชื่อ Thai Marina มี 2 สาขา
เป็นภัตตาคารชั้นหรูของเมือง   ลูกค้าแน่นขนัด  ใครไปเที่ยว Eastbourne น่าจะหาโอกาสไปแวะทานอาหาร  รสเหมือนร้านอาหารอร่อยๆในเมืองไทย
Eastbourne เป็นเมืองชายทะเลที่น่าอยู่มาก  เงียบสงบและสวยแบบแหล่งที่อยู่อาศัย   ดิฉันชอบมากกว่า Brighton ซึ่งออกจะใหญ่โตและจอแจ  

วันที่ไปถึงเป็นวันเกิดคุณชายเดชนศักดิ์ ก็เลยฉลองกันครึกครื้นจนล่วงเข้าวันใหม่
คุณชายพูดภาษาไทยได้คล่่องพอสมควร แต่ว่าพูดภาษาอังกฤษได้ถนัดกว่า  
บุตรชายอายุ 17 ชื่อม.ล. ศักดิเดชน์  ศักดิเดชน์ ภาณุพันธ์  กำลังเตรียมตัวจะเข้าออกซฟอร์ดที่คุณย่าเคยเรียนมาก่อน
บันทึกการเข้า
สยาม
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 09 ธ.ค. 03, 12:29

 Thank you so much Khun Taochompoo, I'm very pleased to read this article. Since I'm very interested in Khunying Mani's life for many years. "Cheevit Mhuen Phun" series are my all times favorite books, I've read them many times and there're always somthing new that I get from it, especially for the gratefulness to King Prajadhipok.  Besides, I'm another one that whenever I pass by Chid Lom area, I always look at the beautiful three storeys house which still remain, and remind to Khunying Mani and her stories.  And I'm glad to hear that her cousin will go to Oxford as her did in the past.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 09 ธ.ค. 03, 14:47

 ขอต้อนรับเข้าร่วมวงสนทนาค่ะ  คุณสยาม
ดิฉันเองก็คงจะบอกอะไรเกี่ยวกับบุตรชายหญิงของคุณหญิงมณีมากกว่านี้ไม่ค่อยได้
อ้อ  ในร้านอาหารวันนั้น   ม.ร.ว.อรมณี  ธิดาของเธอมาอยู่ที่นั่นด้วยค่ะ  เธอมาจากออสเตรเลีย  เที่ยวอังกฤษ เยี่ยมพี่ชาย
ส่วนม.ร.ว.ทินศักดิ์เข้าใจว่ายังอยู่ในประเทศไทย    ทราบแต่ว่าเคยเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯ
คุณชายสมรสกับคุณศิริกาญจน์ (ศรีกาญจนา)   หรือคุณป๋ำ   เธอเป็นนักธุรกิจหญิงเจ้าของกิจการกระเป๋าคิปลิง  ที่มีตัวลิงขนปุยห้อยเป็นห่วงติดกระเป๋าอยู่น่ะค่ะ  ฮืฮฮากันสมัยหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นและไม่รุ่น

เมื่อวานผ่านไปทางเพลินจิต  ชะเง้อมองไปก็เห็นบ้านสวยยังตั้งอยู่  แต่บริเวณรอบๆกลายเป็นอาคารร้านค้าไปหมดแล้ว

คุณหญิงมณี เท่าที่อ่านจากประวัติของเธอ เป็นผู้หญิงฉลาดและเข้มแข็ง  ออกจะตรงไปตรงมา  อะไรดีอะไรไม่ดีเธอก็ยอมรับ  คุณสมบัติเหล่านี้คงมีส่วนช่วยให้เธอตัดสินใจได้ถูกในหลายๆเรื่อง และแก้ไขได้ทันในอีกหลายเรื่องเช่นกัน  ชีวิตของเธอถึงดำเนินมาได้ "เหมือนฝัน" ในความเป็นจริง
บันทึกการเข้า
สยาม
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 09 ธ.ค. 03, 18:19

 Thank you very much Khun Taochompoo for your mentioned to me and some additional information. I feel really warm welcomed.
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.1 วินาที กับ 19 คำสั่ง