เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
อ่าน: 121600 เจ้าวังปารุสก์
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 28 พ.ย. 03, 16:26

 แก้ข่าวครับ
ไม่ใช่บัลเล่ต์บอลชอย แต่เป็นคณะบัลเลต์รัสเซียเหมือนกัน คณะไหนผมก็จำชื่อไม่ได้
เขาจะเปิดแถลงข่าวงานนี้ วันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. นี้แหละครับ ท่านที่สนใจ โปรดติดตามรายละเอียดได้ครับผม

ผมสงสัยว่าผมจะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ช่วงนั้น ดังนั้นคงจะอดดูบัลเลต์นี้ เสียดาย สงสัยเหลือเกินว่ารัสเซียคนไหนหนอ จะเต้นเป็นปรินซ์จักรพงษ์?
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 29 พ.ย. 03, 02:20

 โห เค้าเอาไปแต่งเล่นบัลเล่ต์เชียวเหรอคะ  อยากดูมั่งจริงๆ  คณะบัลเล่ต์อีกกลุ่มนึงที่เคยได้ยินก็เป็นกลุ่ม เคียรอฟ รึไงเนี่ยะค่ะ  บอลชอยเค้าชอบเล่นเรื่องพวกคลาสสิคมากกว่า  

จะคอยเปิดหูเปิดตารอดูว่าจะมีใครเอามาจัดที่นี่บ้าง  แต่คงยากน่าดูเหมือนกัน  ขอบคุณคุณนิลกังขาที่เอามาบอกค่ะ
บันทึกการเข้า
รตา
แขกเรือน
อสุรผัด
*
ตอบ: 39


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 12 ม.ค. 04, 15:51

 เข้ามาคุยเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ ช้าหน่อยเพราะไม่ค่อยได้เข้าเวบนี้นัก

เกิดวังปารุสก์เป็นหนังสือที่ดิฉันชอบมาก อ่านเล่มนี้แล้วเลยอ่านต่อไปถึงหนังประวัติศาสตร์อีกเล่มนึงของพระองค์จุล เล่มหนาๆหน่อยนะคะ จำชื่อได้ว่า สยามประเทศ เป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยเริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัยเรื่อยมา

เมื่อตอนเดือนธันวาคม ก็ไม่ลังเลเลยค่ะที่จะตีตั๋วดูบัลเล่ต์เรื่องแคทยาและเจ้าฟ้าสยาม ก่อนไปก็คว้าหนังสือเรื่องนี้มาอ่าน ทวนความจำอีกครั้ง เขียนโดยคุณหญิงนริศราและคุณไอรีน ฮันเตอร์ ดีใจที่รัสเซียนำเอาประวัติศาสตร์และชีวิตรักโรแมนติกไปทำเป็นบัลเล่ต์ เขาทำฉากได้สวยงามมากจริงๆ โดยเฉพาะฉากหิมะตก

ที่คุณนนทิราปรารภว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่คุณหญิงนริศรามีพี่เลี้ยงคนไทย ทำให้คุณหญิงรักษาความเป็นไทยได้อย่างเต็มเปี่ยม ดิฉันพอทราบเรื่องราวมาบ้าง เลยนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

คุณหญิงนริศรานั้นเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนจิตรลดา รุ่นเดียวกับทูลหม่อมจุฬาภรณ์ เธอไปๆมาๆอังกฤษและกรุงเทพ พอมากรุงเทพฯก็เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ ด้วยความที่ไปๆมาๆเรียนขาดบ้าง พระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานครูจากโรงเรียนไปสอนเสริมให้ที่วังจักรพงษ์ ท่าเตียนค่ะ

สำหรับฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ดาราชื่อดังที่เป็นบุตรชายของคุณหญิงนั้น ก็เคยเรียนอนุบาลที่จิตรลดาเหมือนกัน ดิฉันจำได้ตอนเด็กๆเราเรียกเด็กฝรั่งผมทอง ตัวเล็กๆ พูดไทยได้ชัดเจนว่า น้องเล็ก ค่ะ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 14 ม.ค. 04, 13:56

 ขอบคุณคุณรตามากค่ะ  เป็นอย่างนี้นี่เอง  ที่ว่าคุณหญิงพูดภาษาไทยได้ชัดเจนนั้น  ลำพังแต่มีครูไทยไปสอนที่อังกฤษ  ก็ไม่คิดว่าจะพูดได้ชัด  และใช้ภาษาไทยได้คล่องหรอกค่ะ  ถ้าไม่กลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยด้วยตอนเด็กๆ  เพราะคิดว่าการหัดภาษาให้คล่อง  ต้องทำกันตอนเด็กๆ  และต้อง immerse ไปในสังคมนั้นด้วย  คือต้องมีคนรอบกายพูดอยู่ด้วย  แม้แต่เด็กไทยที่มาเกิดที่นี่  อยู่บ้านพ่อแม่คนไทยพูดไทยต่อกัน  และพูดไทยต่อเด็ก  เด็กก็ยังไม่คล่องเลยค่ะ  เพราะลำพังพ่อแม่พูดให้ฟังเท่านั้นยังไม่พอเลยค่ะ  

และก็เป็นเกร็ดน่ารู้อีกอย่างหนึ่ง  ที่แสดงให้เห็นว่า  ในหลวงท่านทรงมีความผูกพันกับพระองค์จุลฯ และครอบครัวอยู่  จำได้ว่า  ใน เกิดวังปารุสก์  พระองค์จุลฯท่านทรงสนิทสนมและมีสายสัมพันธ์เหนียวแน่นกับสมเด็จพระราชชนก  ทรงอ้างถึงพระราชชนกด้วยความรักความเคารพอย่างสูงส่งในทุกบททุกตอนด้วยค่ะ  ดีใจที่สายวงศ์ของพระองค์ท่าน  ยังผูกพันกับสังคมไทยอย่างไม่จืดจางอยู่ค่ะ
บันทึกการเข้า
V_Mee
สุครีพ
******
ตอบ: 1436


ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 13 พ.ค. 05, 11:31

 ขออนุญาตย้อนไปกล่าวถึงเรื่องลำดับการสืบราชสันนติวงศ์ที่เริ่มกันที่
"...นอกจากนี้ ทรงมีพระบรมราชโองการลงวันที่ ๒ กันยายน ๒๔๘๖ ถึงเสนาบดีวัง เกี่ยวกับองค์รัชทายาท ที่จะสืบสัตติวงศ์ต่อจากพระองค์ท่าน (ขณะนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสุวัฒนาพระวรราชเทวี กำลังทรงพระครรภ์ ยังไม่แน่ว่าจะเป็นพระราชโอรสหรือพระราชธิดา)
พระบรมราชโองการมีความตอนหนึ่งว่า ดังนี้
"...ให้ข้ามหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัช ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนเพชรบูรณ์อินทราไชยนั้นเสียเถิด เพราะหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัชมีแม่ที่ไม่มีชาติสกุล เกรงว่าจะไม่เป็นที่เคารพแห่งพระบรมวงศานุวงศ์...

เมื่อสิ้นรัชกาลที่ 6 พระอนุชาร่วมพระราชชนนี เหลือแต่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ประชาธิปกกรมขุนสุโขทัยธรรมราชาพระองค์เดียว ซึ่งเป็นพระอนุชาองค์สุดท้อง
มีหลานลุงสององค์ คือ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ กับหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัช โอรสของกรมขุนเพชรบูรณ์อินทราไชย (ต่อมาเลื่อนขึ้นเป็นพระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช)

น่าสังเกตว่า แม้พระองค์จุลและหม่อมเจ้าวรานนท์ อยู่ในฐานะ "หลานลุง" ของสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เท่ากัน
แต่โปรดให้ตัดหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัชออกไปจากลำดับการสืบสันตติวงศ์ เพียงองค์เดียว ไม่มีการรวมพระองค์จุลว่าอยู่ในข่าย"ถูกตัดออก" ด้วย

ก็อาจจะมองได้ว่าทรงมีสิทธิ์ในการสืบสันตติวงศ์ด้วย ในสายตาของทูลกระหม่อมลุง
การมีแม่เป็นนางต่างด้าว ไม่อยู่ในข้อห้าม ถือว่าห้ามแต่มีชายาเป็นนางต่างด้าวเท่านั้น ถ้าถือว่าการมีแม่เป็นต่างด้าวอยู่ในข้อห้ามน่าจะบอกไว้ชัดแล้ว

ในข้อ 2 เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ และพระองค์จุล อยู่ในคุณสมบัติตามข้อนี้ทั้งสองพระองค์
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าถือตามข้อ 2 ว่าพระอนุชา อยู่ในลำดับมาก่อน ราชสมบัติก็ย่อมตกอยู่กับสมเด็จพระปกเกล้าฯ ก่อนพระองค์จุล..."

เริ่องพระราชบันทึกที่อ้างถึงตอนต้น  ตรงนี้ขอแก้วันที่และปี พ.ศ. นะครับ  น่าจะเป็นพระราชพินัยกรรมลงวันที่  ๑๕  กันยายน  ๒๔๖๘ มากกว่าครับ   ส่วนเรื่องที่มีพระบรมราชโองการให้รัชกาลที่ ๗ ทรงรับรัชทายาทในกรณีที่พระเนางเจ้าสุวัทนา ประสูติพระราชธิดา  โดยให้ข้ามพระองค์เจ่าจุลจักรพงษ์ไปนั้น  มีคำตอบในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ครับ ที่ทรงตั้งทูลกระหม่อมจักรพงษ์ พระบิดาของพระองค์จุลเป็นรัชทายาทโดยโปรดให้ทูลกระหม่อมให้สัคย์สาบาลไว้ว่า หากได้ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินจะไม่ให้พระองค์จุลเป็นรัชทายาทโดยเด็ดขาด  

เรื่องการมีชายาเป็นนางต่างด้าวนี้  พระยาปฏิพัทธภูบาล เคยเล่าไว้ว่า  เมื่อครั้งรับพระบรมราชโองการรัชกาลที่ ๕ ไปคอยรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (รัชกาลที่ ๖) ที่ประเทศญี่ปุ่นคราวเสด็จกลับจากทรงศึกษานั้น  ในระหว่างที่ประทับที่ประเทศญี่ปุ่น  พระเจ้าจักรพรรดิได้ทรงมีพระดำริที่จะถวายเจ้าหญิงญึ่ปุ่นให้เป็นพระชายา  แต่ล้นเกล้าฯ ไม่ทรงทรงรับ  และทรงตอบปฏิเสธแบบนักการทูตว่า เป็นธรรมเนียมต้องได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อนจะทรงตัดสินพระทัยโดยลำพังไม่ได้  และได้โปรดมีพระบรมราชาธิบายพระราชทานแก่ข้าราชบริพารไทยที่ไปรับเสด็จว่า ที่ต้องทรงตอบปฏิเสธนั้นเกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงของชาติ  หากทรงมีพระมเหสีเป็นนางต่างด้าวแล้ว  เกิดมีเหตุบาดหมางกันขึ้นตามธรรมดาของสามีภรรยา  แล้วเกิดภรรยาบอกไปทางบ้านเมืองของจัวให้ส่งเรือรบเข้ามาปิดอ่าว  ก็จะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน  ดังตัวอย่างที่ทรงเห็นมาในประเทศยุโรป  จึงทรงระวังเรื่องนี้มาก  อีกประการเรื่องที่ทูลกระหม่อมจักรพงษ์ทรงมีหม่อมแคทยานั้น  รัชกาลที่ ๕ ก็ไม่ทรงยอมรับแคทยาเป็นสะใภ้รสมทั้งพระองค์จุลก็ไม่ทรงรับเป็นพระนัดดาตราบจนสวรรคต  หากแต่รัชกาลที่ ๖ ทรงพระเมตตาพระองค์จุลฯ เป็นการส่วนพระองค์ต่อมาจึงยกขึ้นเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า  แต่ไม่ทโปรดให้รวมไปถึงทายาท  ทายาทของพระองค์จุลจึงเป็นเพียงหม่อมราชวงศ์  ไม่ได้เป็นหม่อมเจ้าดังเช่นพระโอรส พระธิดา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทั้งหลาย

เรื่องการสืบราชสันนติวงศ์ต่อจากรัชกาลที่ ๖ ลงมานั้นขอให้อ่านในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ จะมีคำตอบชัดเจนครับ  โดยเฮพาะในเรื่องพระชัยนวโลหะรัชกาลที่ ๕  ซึ่งทรงกล่าวถึงว่า รัชกาลที่ ๕ ทรงกำหนดลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไว้  ซึ่งไม่ตรงกับที่มีการกล่าวอ้างกัน
บันทึกการเข้า
ดาวกระพริบ
อสุรผัด
*
ตอบ: 9


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 13 พ.ค. 05, 23:01

 เคยได้ยินว่า การที่พระองค์จุลฯ ท่านจะสมรสกับหม่อมลิสบา
ร.7 ก็ทรงไม่พอพระทัยนักนะคะ  พระองค์เหมือนมีรับสั่งว่า จะทำความผิดแบบเดียวกับพ่อของเธออีกหรืออย่างไร

ชีวิตท่านดูน่าเศร้านะคะ เพราะเหมือนจะไม่ได้รับการยอมรับจากพระญาติเท่าไหร่ และยิ่งเป็นทายาทคนเดียว ยิ่งเหงามากขึ้นไปอีกด้วย
บันทึกการเข้า
Lepus
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 18 พ.ค. 05, 02:24

 เพิ่งเห็นกระทู้นี้ครับ

ในสามัคคีสารฉบับที่ 1/2547 (ออกมาไล่ๆ กับกระทู้นี้พอดี กอง บก. ได้อ่านกระทู้นี้หรือเปล่าก็ไม่รู้) มีบทสัมภาษณ์ ม.ร.ว. นริศรา จักรพงษ์ ครับ (พร้อมรูปสี) เอามาฝากพี่พวงร้อย กับ อ.เทาชมพู ละกันครับ

>
ชีวิตที่น่าสนใจของ ม.ร.ว. นริศรา จักรพงษ์ (สามัคคีสาร ฉบับที่ 1 ประจำปี 2547. สามัคคีสมาคม ในพระบรมราชูปถัมภ์)

เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ ม.ร.ว. นริศรา จักรพงษ์ พระธิดาองค์เดียวของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ อนุญาตให้เข้าสัมภาษณ์ในเช้าวันหนึ่งที่ร้านลานนา (Lanna, 3 Denbigh Road) ภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยผ้าไหมสีสันต่างๆ และมีของกระจุกกระจิกที่น่ารักมากมาย ม.ร.ว. นริศรา (หรือน้าศา) ได้กล่าวภายหลังว่าเป็นของที่นำมาจากเมืองไทยทั้งนั้น ส่วนชั้นใต้ดินจะเป็นสำนักงานของน้าศา ซึ่งถ้ามองจากข้างนอกร้าน จะไม่ทราบว่ามีสำนักงานอยู่ในร้านเลย

ถ้าดูผิวเผินหลายคนอาจคิดว่า น้าศาเป็นฝรั่งที่พูดภาษาไทยได้คล่อง "ถึงหน้าจะออกฝรั่ง แต่ก็มีเชื้อไทยถึง 1 ใน 4 นะคะ" น้าศากล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม "ต้องขอเล่าก่อนว่า ทางฝั่งท่านพ่อนั้น ทูลกระหม่อมปู่ (สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ) ทรงอภิเษกกับย่า (หม่อมคัทริน) ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ส่วนทางฝั่งแม่ก็มีเชื้อสาย English Scottish"

ขอทราบประวัติของน้าศาคร่าวๆ ค่ะ

น้าเกิดที่อังกฤษ แต่โตที่ทั้งไทยและอังกฤษใช้ชีวิตสองประเทศมาตลอด ตอนอยู่เมืองไทยได้เข้าเรียน ที่โรงเรียนจิตรลดา ต่อมาก็มาเข้าเรียนที่ Cornwall ชีวิตตั้งแต่มัธยมจะอยู่ที่อังกฤษเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาก็เข้าเรียนระดับอุดมศึกษาด้านภาษาจีน แต่ไม่ชอบ เลยเปลี่ยนมาเป็นประวัติศาสตร์ศิลป์แทน ต่อมาแต่งงาน มีลูกชายหนึ่งคนคือ จุลจักร จักรพงษ์ (หรือฮิวโก้) ได้เปิดพิพิธภัณฑ์ของเล่น แต่ชีวิตไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่จึงตัดสินใจกลับเมืองไทยพร้อมลูกชาย

ช่วงที่กลับมาอยู่เมืองไทย น้าศาได้ทำอะไรบ้างคะ

ช่วงนั้นน้าได้สอนประวัติศาสตร์ศิลป์ที่มหาวิทยาลัยศิลปาการ และสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนจิตรลดา น้าได้ทำงานกับทางทหารเป็นโครงการป้องกันตัวเองตามชายแดน โครงการนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากทาง สหรัฐอเมริกา ซึ่งน้าเองก็ต้องเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อไปดูค่ายต่างๆ ตามชายแดนรวมถึงหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากผู้อพยพเข้ามา นอกจากนี้น้าก็ได้เริ่มทำหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทย มีสำนักพิมพ์คือ สำนักพิมพ์ริเวอร์บุ๊คส์ (Riverbooks) เดิมชื่อสำนักพิมพ์พิษณุโลกซึ่งตั้งตามพระนามทูลกระหม่อมปู่

ทราบมาว่าน้าศาให้ความสนใจเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมาก

ใช่ค่ะ น้าได้ตั้งมูลนิธิโลกสีเขียว (Green World Foundation, GWF) ซึ่งเป็นศูนย์ที่ให้การศึกษา และข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม จะมีหนังสือ "โลกสีเขียว" ออกทุกๆ 2 เดือนมีการฝึกทักษะในการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่สาธารณชนไทย และโครงการต่างๆ เช่นที่แม่น้ำปิง มีโครงการคุณภาพของน้ำ โดยใช้แมลงเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวบ้านสามารถทำเองได้ ทั้งมูลนิธิโลกสีเขียวและสำนักพิมพ์ริเวอร์บุ๊คส์ตั้งอยู่ในบ้านจักรพงษ์(เดิมเป็นวังของทูลกระหม่อมปู่) แต่ตอนนี้เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลและเปิดให้คนนอกเข้าพักด้วย คล้ายๆ Bed and Breakfast น้าเองก็ไม่ได้โฆษณาอะไร ก็มีแค่ปากต่อปากหรือบางทีก็มาขอถ่ายนำไปลงหนังสือบ้างเท่านั้น

ชีวิตในอังกฤษเป็นอย่างไรบ้างคะ

หลังจากกลับไปอยู่เมืองไทยช่วงนั้น ก็มีโอกาสได้พบกับ คุณกอสวัสดิ์ สวัสดิวัฒน์ ทอมสัน ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษจึงทำให้เข้าใจอะไรได้มากกว่า ตอนนี้ลูกชายคนที่สองคือ ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์ หรือน้องกู้ อายุ 12 ปี สามารถพูดได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เค้ามีความฝันที่อยากจะทำหนังเกี่ยวกับพี่เล็กของเค้า (ยิ้ม) ส่วนที่ร้านลานนา น้าได้ขายของราคาไม่แพงนักซึ่งสามารถนำไปเป็นของขวัญได้ ของในร้าน เอามาจากประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ สำนักงานข้างล่างจะเป็นที่ที่น้ามานั่งทำงานพวกเขียนหนังสือ

พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงเคยเป็นสภานายกของสามัคคีสมาคมฯ ในปี พ.ศ. 2473 ท่านเคยเล่าอะไ
บันทึกการเข้า
Lepus
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 18 พ.ค. 05, 02:26


ภาพประกอบครับ  
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 18 พ.ค. 05, 12:47

 ขอบคุณคุณหมอ มากที่สุดเลยค่ะ  ที่อุตส่าห์ไปหามาให้อ่าน  ดีใจจริงๆค่ะที่มีโอกาสได้อ่านแล้วยังได้เห็นรูปท่านอีกด้วย  พอดีช่วงนี้คุณเทาชมพูก็ไม่อยู่ด้วยค่ะ  ไว้กลับมาแล้วคุณเทาชมพูคงยินดีที่ได้เห็นบทสัมภาษน์นี้ด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
ส้มสีน้ำเงิน
อสุรผัด
*
ตอบ: 2

เรียนที่ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา


ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 25 ก.ค. 05, 22:28

 อยากรู้ว่าตอนนี้หนังสือเรื่องเกิดวังปารุสมีขายที่ไหนบ้างคะ หาซื้อมาตั้งนานแล้วยังหาไม่ได้เลยค่ะ
บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 26 ก.ค. 05, 00:11

 สำนักพิมพ์ริเวอร์บุคครับ

เล่มใหญ่ปกแข็ง กระดาษเนื้อดี พร้อมภาพประกอบ ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับหนังสือเล่มอื่นที่อยู่ในมาตรฐานเดียวกันครับ


ปล. เหมือนโฆษณาขายเลย อิๆ
บันทึกการเข้า
ส้มสีน้ำเงิน
อสุรผัด
*
ตอบ: 2

เรียนที่ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา


ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 26 ก.ค. 05, 01:01

 ขอคุณคุณ ติบอ มากนะคะที่แนะนำให้
บันทึกการเข้า
ฟ้าหม่น
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 28 ก.ค. 05, 10:22

 รบกวนขอที่อยู่ ของสำนักพิมพ์ริเวอร์บุค หรือ website ด้วยค่ะ
( ถ้าจะให้ดีขอเป็น website นะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ)
บันทึกการเข้า
ดารากร
อสุรผัด
*
ตอบ: 47

นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 31 ก.ค. 05, 01:39

 สำนักพิมพ์ริเวอร์บุค อยู่ที่วังจักรพงษ์น่ะค่ะ  สำนักงานอยู่ติดถนน(ดิฉันจำชื่อถนนไม่ได้) อยู่ไม่ห่างจากท่าเตียนเท่าไรค่ะ
บันทึกการเข้า
sareela
อสุรผัด
*
ตอบ: 8


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 16 ส.ค. 05, 11:40

 เราพึงซื้อมาเมื่อวานนี้เองที่ B2S Fashion Island ราคา 895 บาทยังเหลืออีก2-3เล่มแนะ ลองสอบถามที่สาขาใกล้บ้านซิ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.081 วินาที กับ 19 คำสั่ง