เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 22452 Anastasia:the Mystery of Anna
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 27 มี.ค. 06, 20:17

แกะคำอธิบายของคุณ Andreas จนตาลาย   อ่านไม่เจอว่าโรคฮีโมฟีเลียนี้หายได้ไหม เลยขอถามข้อข้องใจค่ะ

ถ้าซาเรวิชองค์น้อยนี้ไม่หายจากโรคนี้ (เห็นได้จากรัสปูตินถูกตามเข้าไปในวังหลวงหลายครั้งเพื่อรักษา แสดงว่าคงไม่หายขาดแม้ว่ารัสปูตินทำให้เลือดหยุดได้ในแต่ละครั้ง)   พระองค์ก็ต้องสะบักสะบอมหนีเอาชีวิตรอดจากทหาร    
น่าจะมีรอยแผลในการหนีตั้งแต่คืนแรกแล้ว อย่างน้อยก็รอยขูดขีด เลือดออกซึ่งจะทำให้เลือดไหลไม่หยุด

ทำไมถึงไม่มีการเอ่ยถึงสุขภาพของเด็กชายที่สวมรอยเป็นเด็กชาวบ้าน   ว่าพ่อแม่บุญธรรมต้องประคับประคองแค่ไหน  ขนาดในวังยังประคองกันแทบไม่รอด   พ่อแม่ชาวบ้านหรือจะดูแลได้
แต่นี่ดูๆเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปที่แข็งแรงดี

สรุปว่าไม่เชื่อมากกว่าเชื่อค่ะ
บันทึกการเข้า
nuttav
อสุรผัด
*
ตอบ: 8

นิสิต


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 01:20

 หาก คนที่บอกว่าเป็นซาเรวิช ไม่ใช่ซาเรวิช ทั้งๆที่มีการตรวจดีเอ็นเอแล้ว??? จะทำได้ยังไง.... แสดงว่า ใครซักคนที่มีอำนาจต้องการบิดเบือนข้อมูลที่แท้จริง
แล้วที่บอกว่าอีกศพนึงหายไป ซึ่งไม่ใช่เจ้าหญิงอนาสเตเชียอย่างแน่นอน แต่น่าจะเปนเจ้าหญิงองค์อื่น ความเป็นไปได้ที่เจ้าหญิงองค์นั้นจะรอดก็คงน้อยเช่นกัน แต่ที่สำคัญคือ ศพของพระองค์อยู่ที่ไหน???
บันทึกการเข้า
Andreas
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 130


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 01:54

 Dear Khun PinkandGrey

According to what I have read, Hemophilia cannot be completely cured or eliminated from patients since it is genetically involved-disease. As long as persons has this X-link recessive gene expressed Hemophilia, he/she will have bleeding problem for the entire life. Although, thanks to the medical treatment; the persons with Hemophilia can be treated by injecting purified clotting factors to prevent bleeding episodes.

Anyway, concerning your curiosity…I have gone to read the article from the link kindly posted by Khun CH. Personally I kind of believe the DNA testing. Since the article revealed that DAN testing had been performed using Mr. Vasily Filatov’s remain also organs. However, only question I want to ask is “whose original DNA sequence is used to compare with Mr. Filatov’s sequence. If the comparing DNA sequence surely derives from His Imperial Majesty Tsar Nicholas II, then there is no doubt that Mr. Filatov is one of Tsar family members. Additionally I would like to point out that I used “one of family members”…….. I don’t want to use “Son of Tsar” since I have not seen any result of DNA comparison yet…..I need to read more information. Too bad that the book referring to this article has been written in Russia….I can’t read it….

Regards
Andreas
บันทึกการเข้า
Andreas
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 130


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 02:47

 The more I search the better I understand…….



It is very interesting that the following quote is extremely different from what I found out from my search.



“ สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ "ผลสรุป" ทางนิติวิทยาศาสตร์ ภายหลังการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญชาวฟินแลนด์และรัสเซีย โดยการตรวจดีเอ็นเอจากเลือดของบุตรและธิดาของวาสิลี ฟิลาตอฟ ในปี ค.ศ. ๑๙๙๖ แสดงผลว่าพวกเขาเป็นผู้สืบสายโลหิตมาจากราชวงศ์โรมานอฟจริง แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นและเป็นไคลแมกซ์ของเรื่อง คือการที่ครอบครัวฟิลาตอฟร้องขอความเป็นธรรมไปยังศาลโลก ณ กรุงเฮกให้เข้าแทรกแซงในขั้นตอนการพิสูจน์ ในที่สุดรัฐบาลรัสเซียจึงอนุญาตในปี ค.ศ. ๑๙๙๗ ให้มีการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนอวัยวะของนายวาสิลี ฟิลาตอฟ ผู้วายชนม์ จากกระดูก เส้นผม ฟัน และเล็บ ตามระบบนิติเวชวิทยา รวมถึงการคำนวณส่วนประกอบของใบหน้า ตามอายุขัยในวัยต่างๆ ด้วยระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผลปรากฏว่า วาสิลี ฟิลาตอฟ คือบุคคลเดียวกันกับมกุฎราชกุมารอเล็กเซย์ โรมานอฟ(๒)”



Anyway what I found out from at least 2 sites, they said that the genetic testing is not done yet since the Russia Gov. still denies the request to perform Tsar Nicholas II’s DNA testing.  So in this case, there is no original DNA sequence to be compared with Mr. Filatov.



According to a book review by Laurie Edwards (08/26/2002), she pointed out variety of interesting ideas; however the most interesting one is quoted as following



“There's a simple test available now that could identify with near-perfect accuracy whether the decendants of Vasily Filatov are related to the Romanovs. It's what finally proved the illegitimacy of Anna Anderson's claim, after all; we know genetic testing works. This test would prove or disprove Filatov's blood relationship to the unfortunate Royal Family, though it wouldn't necessarily prove Filatov was the Czarevitch Alexei. Petrov weakly blames the Russian government's secretive nature for the failure of Filatov's children and grandchildren to take the tests. That may or may not have been a reasonable excuse before the fall of the Soviet Union; it's no longer a consideration. Still the tests haven't been performed—or at least, the results haven't been disclosed. I can't buy into any of this until there's proof, and this book doesn't provide any.” (http://www.toxicuniverse.com/review.php?rid=10003735)



Also another book review from Mary Schaeffer Conroy, she also pointed out the same thing…. that there is no DNA testing as to compare Tsar Nicholas II and Mr. Filatov.



“Shanfield worked with Gill and Ivanov in identifying the remains of the Romanov rulers, their three servants and their physician, Dr. Botkin, reburied last summer in the Peter and Paul fortress church in St. Petersburg. Shanfield asserts that there is sufficient material for the Y chromosome test. "The Escape of Alexei'' refers to Gill and Ivanov, but in a recent interview, Oleg said he cannot take the test without permission from the Russian government. In the relatively permissive post-Soviet era, this excuse raises a red flag for me.” (http://extras.denverpost.com/books/book445.htm)



Marry also stated that it is quite interesting for Mr. Filatov, who claimed to be Alexei, could live until the age of 84. Most of persons living with hemophilia have short life especially in the past decades.



By the way, what I wanna say is….. there is data conflicting between Article written in Thai and the book reviews…..which one should I believe so?
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 07:55

 ดิฉันเชื่อบทความภาษาอังกฤษค่ะ
คงมีความเข้าใจผิดบางประการในการแปล  
หรือมิฉะนั้นผู้แปลก็อ้างอิงจากเอกสารอื่นที่ระบุว่ามีการตรวจสอบแล้ว

แต่ดิฉันไม่เชื่อว่ามีการตรวจสอบแล้ว  ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าข่าวนี้เงียบเหลือประมาณ
ถ้ามีการยืนยันว่าซาเรวิชรอดตายไปได้ อยู่มาจนแก่   ป่านนี้ข่าวCNN  BBC  รอยเตอร์ ฯลฯ ประโคมข่าวสนั่นหวั่นไหวไปทั่วโลก
มีสารคดี เรื่องราวเบื้อหลัง หลั่งไหลออกมาไม่ขาดสายแล้วละค่ะ

ดิฉันเชื่อว่าเป็นการอ้างของลูกหลานนายอะไรคนนั้น    กรณีแบบนี้มีบ่อย   แล้วก็เงียบไปไม่มีใครสนใจอีก
บันทึกการเข้า
Andreas
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 130


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 08:15

 ต้องรีบมาขยายความครับ....เมื่อตอนกลางวันผมใช้คอมพ์ที่ที่ทำงานเลยไม่สามารถตอบเป็นภาษาไทยได้ครับ



คุยถึงเรื่องการตรวจ DNA คุณ HotChoc เคยบอกไว้ตั้งแต่ความเห็นต้นๆแล้วครับ แต่ผมจะมาขยายความต่ออีกนิดหน่อยว่า มันแตกต่างจากกรณีของ Alexis ครับ



เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อประมาณปี 1990 ทีมนักวิจัยชาวรัสเซียได้ทำการตรวจ Mitochondrial DNA ที่สกัดได้จากโครงกระดูกของกลุ่มคนที่ถูกฝังพร้อมกัน 9 คนที่สุสานแห่งหนึ่ง ผลการตรวจ Mitochondrial DNA พบว่า โครงกระดูกที่เป็นเพศหญิงทั้งสี่ มีความเชื่อมโยงกับ Great Britain's Prince Philip ซึ่งเกี่ยวพันกับราชินี Alexandra อีกที



พูดง่ายๆ ก็คือ เราจะได้รับ Mitochondria มาจากไข่ของแม่ซึ่งเป็นโครโมโซม X ดังนั้นเมื่อเราตรวจ DNA จากไมโตคอนเดรีย เราจะสามารถหาความเชื่อมโยงของโครโมโซม X ได้ครับ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า สี่ในเก้าศพนั้น คือ ราชีนี Alexandra และลูกสาวอีกสามคน .....คงสงสัยว่าแล้วเค้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นราชินี Alexandra คำตอบก็คือ เค้าเปรียบเทียบ Mitochodrial DNA กับเจ้าชาย Phillip อีกทีหนึ่ง (อันนี้ผมไม่ทราบว่าเจ้าชายเป็นอะไรกับราชินีอเลกซานดร้า..เดาว่าน่าจะเป็นพี่ชาย หรือน้องชาย หรืออะไรก็ได้ที่สืบสายจากแม่หรือยายคนเดียวกัน)



ด้วยหลักการเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ก็นำเอา Mitochodrial DNA ของศพที่คาดว่าเป็นซาร์นิโคลัส ไปเปรียบเทียบกับน้องชายของซาร์เอง ด้วยความที่มี mutation เดียวกันซึ่งค่อนข้างจะพิเศษจึงสรุปได้ว่าเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นศพนั้นจึงเป็นซาร์แน่นอน (ผมเดาว่าน่าจะเป็นส่วนที่มี sequence of Hemophilia อยู่ด้วย)



ด้วยเหตุผลที่ผมกล่าวมาข้างต้น นักวิทยาศาสตร์ จึงสรุปได้ว่า ศพทั้งเก้าที่พบในสุสาน ประกอบด้วย ซาร์นิโคลัส ราชีนีอเลกซานดร้า ลูกสาวอีกสามคน อีกสี่คนน่าจะเป็นหมอหลวงและคนรับใช้....ส่วน อนาสเตเชีย และ อเลกซิส หายสาบสูญไปครับ



วกมาที่ประเด็น Alexis นะครับ การที่ผมบอกในตอนกลางวันว่า ยังไม่มีการตรวจ DNA ของพระเจ้าซาร์นิโคลัสเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของคนที่แอบอ้างเป็น Alexis อันนี้ผมอ้างมาจากหลักฐานที่เอามาให้อ่านครับ ซึ่งผมค่อนข้างจะเห็นด้วยครับ เพราะการจะตรวจดูว่าใครเป็นพ่อลูกกันนั้น ต้องตรวจที่โครโมโซม Y ครับ พูดง่ายๆ ว่าจะต้องขุดศพพระเจ้าซาร์ขึ้นมาใหม่ และตรวจหาโครโมโซม Y แล้วเปรียบเทียบกับ นาย Filatov ดูว่ามีความสัมพันธ์กันในระดับไหน อย่างนี้ถึงจะพูดได้เต็มปากครับ ว่าเป็นพ่อลูกกันหรือไม่ ประเด็นนี้ผมค่อนข้างเชื่อว่ายังไม่มีการตรวจ Y-DNA ของซาร์นิโคลัสแน่นอนครับ เพราะอย่างที่บอกดูเหมือนรัฐบาลจะไม่อนุญาตครับ



ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกหลายท่านพยายามยื่นข้อเสนอว่าน่าจะตรวจ DNA แบบอ้อมๆ โดยใช้สมาชิกในครอบครัวของนาย Filatov นั้นแหละครับ....ใครพอจะเดาได้ม้ยครับ ว่าเค้าจะเชื่อมโยงผลลัพธ์กันอย่างไร และใช้โครโมโซม X หรือ Y เป็นหลัก.... ลองเดาดูนะครับ แล้วผมจะมาเฉลยให้ฟัง
บันทึกการเข้า
ศรีปิงเวียง
องคต
*****
ตอบ: 566

เรียนจบแล้ว


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 08:21

 ยังไม่มีการตรวจ Y-DNA ของซาร์นิโคลัสแน่นอนครับ เพราะอย่างที่บอกดูเหมือนรัฐบาลจะไม่อนุญาตครับ
...................................
เรื่องนี้ก็ต้องรอดูต่อไปครับ
ผมเห็นด้วยกับคุณ Andreas เพราะถ้ารัฐบาลรัสเซียยินยอม จะเกิดผลเสียต่อรัฐบาลเองครับ
ขอบพระคุณทุก ๆ ความเห็นครับ
บันทึกการเข้า

ไม่เห็นใครแน่นอน
Andreas
แขกเรือน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 130


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 08:54

 ลืมอ้างแหล่งที่มาของข้อมูลครับ..เอามาให้แล้วครับ
เรื่องการตรวจ mitochondrial DNA
1) http://www.wired.com/news/medtech/0,1286,62529,00.html

2)http://www.westinghousenuclear.com/pdf/E3e_Weedn.pdf

เวปข้างล่าง (3) บอกว่ามีการตรวจ DNA ครั้งที่สอง เพื่อพิสูจน์เป็นพระศพของพระเจ้าซาร์และครอบครัวจริงหรือไม่ หลังจากสรุปว่าใช่ รัฐบาลจึงประกาศยอมรับ ในวันที่ 27th February 1998 และกำหนดพระราชพิธีฝังศพอย่างเป็นทางการ .....(ไม่มีการอ้างถึงการตรวจ DNA เพื่อเปรียบเทียบกับนาย Filatov ตามที่เอกสารภาษาไทยบอกแต่อย่างใด....ขอฟันธงว่าแปลมาผิดได้มั้ยนี่ครับ.....)

3) http://www.serfes.org/royal/burial.htm  
บันทึกการเข้า
pharmaceutical scientist
มัจฉานุ
**
ตอบ: 70


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 19:09

 เำิ่พิ่งได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับ ไม่คิดว่าจะพูดถึงโรค hemophilia กัน
การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคนี้ผมอธิบายในกระทู้นี้ด้วยแผนภาพครับ
http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=20&Pid=48805
ซึ่งการถ่ายทอดโรคนี้ฝ่ายชายจะไม่มียีนแฝงครับ ถ้าจะถ่ายทอดได้คือพ่อต้องเป็น hemophilia เท่านั้น นั่นคือพระสวามีของราชินีวิคทอเรียจะต้องเป็นโรค ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นการถ่ายทอดโรคลงมาในลูกหลานของราชินีวิคทอเรียเองนั้นต้องผ่านมาทางพระนางเองซึ่งมียีนแฝง
บันทึกการเข้า
pharmaceutical scientist
มัจฉานุ
**
ตอบ: 70


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 19:26

 ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ก็อาจเป็นเรื่องน่าแปลกที่คนที่เป็นโรค hemophilia ยังสามารถอยู่รอดและสืบลูกหลานได้ โดยที่ลูกหลานไม่ได้เป็นโรคนี้แต่อย่างใด (อันนี้คิดเอาเองเพราะในข่าวไม่พูดถึงกรณีนี้) เพราะการเอาชีวิตหนีรอดมาได้และอยู่ด้วยความแร้นแค้นยากลำบาก การแพทย์ที่ยังไม่ทันสมัย โดยไม่ทำให้ตัวเองเกิดบาดแผลนับว่าน่าทึ่งมาก
สรุปแล้วผมก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้ว่าจะเป็นความจริงอยู่ดี เพราะดูแค่รูปการณ์นี้โดยไม่ต้องพิสูจน์ด้วยการตรวจ mitochondrial DNA ก็น่าสืบสายกันได้บ้างแล้ว
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 1899



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 21:35

 น่าสงสัยว่าจีนฮีโมฟีเลียนี้มีข้อดีอะไรหรือไม่ครับ

ที่สงสัยเพราะเคยได้ยินว่าจีนธาลัสซีเมียนั้น ทำให้ทนต่อมาลาเรียมากขึ้นน่ะครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 28 มี.ค. 06, 22:49

 เท่าที่เข้าใจ ยีนส์ธาลัสซีเมียที่คุณ CrazyHOrse พูดถึง ไม่ได้หมายถึงทุกคนนะครับ
เพราะในทวีปอาฟริกา ผู้คนจำนวนหนึ่งเป็นโรคมาลาเรีย เนื่องจากมียุงซึ่งเป็นพาหะนำโรคเป็นจำนวนมาก และการสาธารณสุขไม่ดีนัก
แต่ผู้ที่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งมีเม็ดเลือดแดงรูปร่างแปลกออกไปอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้แสดงอาการของโรค จะสามารถทนต่อโรคมาลาเรียได้

ส่วนผู้ที่เป็นธาลัสซีเมียโดยกำเนิด หรือไม่ได้เป็นพาหะของโรคจนติดโรคมาลาเรียก็จะเสียชีวิตไปในที่สุด
แต่สำหรับคนในเขตที่การสาธารณสุขมูลฐานยังไม่เจริญนัก เด็กที่เสียชีวิตตั้งแต่คลอด หรือเสียชีวิตขณะยังเป็นเด็ก ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับ

ถ้านึกไม่ออกว่าเขารับสภาพนั้นกันได้อย่างไร ลองนึกย้อนไปถึงในรั้ววังสมัย รัชกาลที่ ๕ ดูก็ได้ครับ
ว่าเจ้าฟ้า หรือพระองค์เจ้า กี่พระองค์ ที่สิ้นพระชนท์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ หรือยังไม่ทันจะลืมพระเนตรดูโลกด้วยซ้ำไป
พระราชบิดา หรือพระมารดาทั้งหลาย ซึ่งเป็นถึงเจ้าจอมหม่อมห้าม และพระภรรยาเจ้า ก็ทรงรับสภาพและความเป็นไปเช่นนั้นได้ เพราะเป็นเรื่องปกติของสังคมไงครับ



ภาพจาก http://www.med-ed.virginia.edu/courses/path/innes/images/rcdjpegs/rcd%20S%20Bthal.JPEG  ครับ
บันทึกการเข้า
ศรีปิงเวียง
องคต
*****
ตอบ: 566

เรียนจบแล้ว


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 30 มี.ค. 06, 13:23

 ผมเห็นว่า นายวาสิลี น่าจะมีเชื้อสายราชวงศ์โรมานอฟ
แต่ติดปัญหาเรื่องการตรวจโครโมโซมวาย จึงชี้ขาดไม่ได้ว่าใช่มกุฏราชกุมารอเล็กซิสหรือไม่
ถ้าไม่ใช่ แล้วเขาเป็นใครกันแน่?
ป.ล. ขอถามครับว่า โปเจียมที่สืบมาแต่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 จะหาอ่านได้ที่ไหนครับ
เพราะเท่าที่ค้นดูในเอกสารภาษาไทย มักจะไม่กล่าวถึงครับ
บันทึกการเข้า

ไม่เห็นใครแน่นอน
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 30 มี.ค. 06, 18:04

 อ่านเงียบๆ อยู่พักใหญ่ นี้เป็นความเห็นแรกครับ

ขอพูดถึง Anastasia ในแง่ภาพเคลื่อนไหว จากความทรงจำที่หากมีอะไรผิดพลาดไป ขออภัยไว้ก่อน

        นานหลายทศวรรษก่อน มีผู้นำเข้าภาพยนตร์คุณภาพได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล เรื่อง Nicholas and Alexandra แต่ไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ จึงไม่ได้ออกฉายตามโรงในไทย
บางคนจึงต้องอาศัยดูจาก VDO
        soundtrack จากภาพยนตร์เรื่องนี้ คือท่วงทำนองไพเราะของเพลง Too Beautiful To Last จากเสียงของนักร้องดังวันวาน Engelbert Humperdinck

       Anastasia แรกเริ่มเดิมดัง เป็นภาพยนตร์นำแสดงโดยดารามีชื่อในยุคนั้น คือ Ingrid Bergman และ Yul Brynner เคยผ่านตาทางทีวี เมื่อนานโขแล้ว

        Anastasia: The Mystery of Anna เป็นมินิ ซีรีส์ ที่คิดว่าเคยได้ติดตามดู ทางฟรีทีวี เมื่อนานมากพอสมควรแล้ว  ยังจำได้
ถึงภาพนางเอก ในเสื้อผ้าชุดเก่ามอมแมม สูญเสียความทรงจำ
ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และ

         Anastasia  แบบการ์ตูน เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องให้เป็น
เจ้าหญิง มีรัสปูตินเป็นตัวร้ายที่ต้องตายตกไปตอนท้ายเรื่อง แล้วเจ้าหญิงกับเจ้าชายก็ได้คู่กัน  
 
          พอเพียงเท่านี้ก่อนครับ สำหรับความเห็นแรก  พบกันใหม่ ในโอกาสหน้า      
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 19 คำสั่ง