The Case of Cottingley Fairies ภาพปริศนานางไม้

[เทาชมพู]

เรื่องนี้ถ้ามีใครเคยอ่านแล้ว  ขอให้ข้ามไปเลยนะคะ ดิฉันเห็นเป็นเรื่องสนุก  ก็เลยเก็บมาเล่าสู่กันฟังค่ะสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านค่ะ เมื่อฤดูร้อน ค.ศ. ๑๙๑๗ (พ.ศ. ๒๔๖๐  ตรงกับช่วงรัชกาลที่ ๖ ของไทย)เกิดเหตุการณ์น่าพิศวงในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในอังกฤษที่แทบจะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน ชื่อ Cottingley อยู่ใกล้Bradford ภายในไม่กี่ปีหลังจากนั้น  หมู่บ้านนี้กลายเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วประเทศ   จากภาพถ่ายปริศนาที่เด็กหญิงชาวอังกฤษสองคนถ่ายมาได้ เด็กหญิงทั้งสองคือฟรานเซส  กริฟฟิธส์ อายุ ๙ ขวบ  กับลูกพี่ลูกน้องวัย ๑๖ ชื่อเอลซี่ ไร้ท์ ฟรานเซสกับพ่อแม่อาศัยอยู่ในแอฟริกาใต้   แต่ในช่วงนั้นแม่พาลูกสาวมาพักอยู่กับพ่อแม่ของเอลซี่ เป็นครั้งแรกที่ฟรานเซสเดินทางมาอังกฤษ  เธอรู้สึกยากจะปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่    สถานที่ที่เด็กหญิงชอบไปปลีกตัวไปเล่นบ่อยที่สุดคือลำธารในป่าละเมาะของหมู่บ้าน   กับเอลซี่ผู้กลายเป็นเพื่อนคู่หู  มิไยแม่ของเด็กหญิงทั้งสองจะห้ามปรามเพราะลูกสาวชอบลงไปลุยน้ำในลำธาร หกล้มทำเสื้อผ้าเปียกปอนบ่อยๆ   ฟรานเซสกับเอลซี่ก็ดื้อไปอีกจนได้ เหตุผลที่เด็กทั้งสองให้กับผู้ใหญ่ก็คือ "หนูชอบไปดูนางไม้แถวนั้น" แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อ  มีแต่ทำให้หัวเสียกันมากขึ้น เพื่อเป็นการยืนยัน   เอลซี่ขอยืมกล้องถ่ายรูปจากพ่อ ไปถ่ายรูปที่ลำธารกลับมาส่งให้ดู     เมื่อพ่อล้างรูปออกมา ก็ปรากฏว่าในภาพถ่ายของฟรานเซส  มีร่างเล็กๆดูประหลาดตา ๕ ร่างชุมนุมกันอยู่ใกล้ตัวเธอ พ่อไม่เชื่อภาพที่เห็น เพราะรู้ว่าเอลซี่เป็นเด็กวาดเขียนเก่ง   เธออาจจะเอากระดาษแข็งตัดเป็นรูปนางฟ้ามาวางไว้ใกล้ฟรานเซส แล้วถ่ายให้ติดเข้าไปด้วยกันก็ได้   แต่แม่กับน้าไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นภาพหลอกลวง  เพราะทั้งสองคนเห็นว่าเอลซี่กับฟรานเซสเป็นเด็กเรียบร้อย  ไม่เคยมีความประพฤติอะไรเสียหายมาก่อน  และนอกจากนี้ สตรีทั้งสองยังเป็นประเภท "ไม่เชื่อ แต่ไม่ลบหลู่"  อีกด้วย ก็เลยไม่ได้ทำอะไรกับภาพนั้น  นอกจากเก็บไว้เฉยๆ

[เทาชมพู]

อีกสองเดือนต่อมา   เด็กหญิงทั้งสองขอยืมกล้องไปถ่ายรูปอีก  คราวนี้ฟรานเซสถ่ายภาพเอลซี่นั่งอยู่ตรงหน้าร่างประหลาดอีกร่างหนึ่ง    เอลซี่บอกว่าเป็นตัว"คนรู"(gnome) ผลก็คือพ่อของเอลซี่ไม่ยอมให้ลูกสาวยืมกล้องไปถ่ายอะไรต่อมิอะไรอีกต่อไป แต่ภาพถ่ายที่ว่าก็อัดซ้ำแล้วแจกจ่ายให้ดูกันในหมู่ญาติมิตรใกล้ชิด

[เทาชมพู]

สองปีต่อมา  ภาพเหล่านี้แทนที่จะเงียบหายไปอย่างที่น่าจะเป็น   กลับมีคนนำไปแพร่ภาพ  ออกไปสู่หนังสือพิมพ์   มีทั้งหมด ๕ ภาพ  อีกสามภาพ เด็กหญิงทั้งสองถ่ายขึ้นภายหลังในปี ๑๙๒๑  ต่อจากนั้นก็ลุกลามเป็นไฟไหม้ป่าไปทั่วประเทศ

[เทาชมพู]

จำนวนคนเชื่อว่าเป็นของจริงและคนไม่เชื่อว่าเป็นของจริงดูเหมือนจะก้ำกึ่งกัน    มีการยืนยันว่าจริงจากผู้เชี่ยวชาญที่ตรวจสอบภาพถ่ายแล้วว่าไม่ได้แต่งฟิล์มขึ้น     พร้อมกันนั้นก็มีการโต้แย้งยันกลับแสดงความไม่เชื่อถือด้วยเหตุผลและหลักฐานหลายๆประการ ว่าเป็นเพียงภาพวาดนางไม้ที่เด็กทำขึ้น แล้วถ่ายรูปเอาเท่านั้น เอลซี่และฟรานเซสปิดปากเงียบ    มีแต่คำยืนยันว่าเธอเคยเห็นนางไม้จริงๆในลำธารในหมู่บ้าน เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ก็เพราะในบรรดาผู้ตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นภาพจริง  ไม่ได้ตบตาคน  ไม่ใช่ภาพตกแต่งขึ้น คือนักเขียนใหญ่ของอังกฤษ เซอร์อาเธอร์ โคแนน ดอยล์  เจ้าของนิยายนักสืบ  "เชอร์ล็อค โฮล์มส์" นอกจากสร้างนักสืบเอกของโลกขึ้นมาแล้ว   ดอยล์สนใจเรื่องวิญญาณ  โลกนี้และโลกหน้า จนถึงกับศึกษาและค้นคว้าอย่างไม่ละลด  เขาเชื่อว่าสิ่งเหนือธรรมชาติมีจริง ภาพถ่ายนางไม้ที่ว่าเป็นภาพที่ดอยล์เชื่อมั่นว่านี่คือข้อพิสูจน์เรื่องนางไม้ ว่ามีตััวจริง   เขากล้าเอาชื่อเสียงตัวเองเป็นพยาน

[คุณพระนาย]

 มารอฟังคุณเทาชมพูเล่าต่อให้จบครับ
ผมทราบแต่ตอนจบของเรื่องแต่ไม่ทราบรายละเอียด
เลยขออ่านรายละเอียดตอนนี้ซะด้วยเลย

[เทาชมพู]

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบภาพ ว่ามีเทคนิกการซ้อนภาพ หรือการแต่งฟิล์มหรือไม่    ผลก็ตรงกันว่า ไม่มี  เป็นภาพถ่ายตรงๆ ง่ายๆ แบบตรงไปตรงมา ทำให้ผู้เชื่อว่าภาพจริง ตีปีกกันใหญ่ เวลาผ่านไป   จนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องก็ล้มหายตายจากไปกันหมด    แต่ภาพนางไม้ยังเป็นภาพแห่งความฉงนฉงายให้ถกเถียงกันมาถึง ๘๐ กว่าปี   ไม่มีใครชี้ขาด จนถึงค.ศ.๑๙๘๒ เอลซี่ซึ่งกลายเป็นคุณยายวัยแปดสิบกว่าปี เพิ่งจะสารภาพว่าภาพถ่ายเหล่านั้น เธอทำขึ้นมาเอง ด้วยการตัดรูปนางฟ้าจากหนังสือนิตยสารเล่มหนึ่งมาตรึงติดให้อยู่กับที่ด้วยเข็มปักผม   แล้วจัดเข้ากลุ่มกัน    ถ่ายพร้อมกับเธอและญาติวัย ๙ ขวบ ฟรานเซสเองก็เพิ่งยอมเปิดปากเช่นกัน ว่าเป็นแผนของทั้งสองคนที่จะใช้เป็นข้ออ้างกับผู้ใหญ่ เพราะถูกห้ามไม่ให้ไปเล่นแถวลำธาร วิธีทำก็ง่ายๆ อย่างที่ว่า    มีทั้งรูปตัดจากแมกกาซีนและภาพที่เอลซี่วาดเอง   นำมาวางประกอบ ถ่ายรูปเข้าเท่านั้น ไม่มีการซ้อนภาพ หรือตกแต่งฟิล์ม   ข้อนี้เองที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนพลาดไป   ทำให้ผลการสอบสวนออกมาไขว้เขว อีกอย่างคือ เด็กทั้งสองเป็นเด็กท่าทางเรียบร้อย   เมื่อสมคบกันเล่นสนุกตบตาผู้ใหญ่ ก็ยืนยันหน้าตายได้หน้าตาเฉย  จนแม่และน้าเองก็ชักเชื่อเข้าเหมือนกัน เมื่อเล่นสนุกกับผู้ใหญ่ได้   เอลซี่กับฟรานเซสก็เล่นสนุกต่อไปกับเพื่อนๆ   ใครจะเชื่อไม่เชื่อทั้งคู่ก็ทำหน้าตาย ยืนยันว่าจริงลูกเดียว  ให้งุนงงกันเล่น ทั้งสองไม่คิดว่าเรื่องจะลุกลามไปใหญ่โต  ถึงกับเป็นข่าวลงนสพ.  มีผู้หลักผู้ใหญ่เชื่อถือกันมาก เมื่อถึงตรงนั้น ทั้งสองก็รู้ว่าไม่มีทางอื่นดีไปกว่าปล่อยเลยตามเลย  ให้เชื่อกันไปดีกว่าบอกความจริงให้หน้าแตก ความลับข้อนี้เก็บเงียบไว้จนเข้าสู่วัยแก่ชรา    ระหว่างนั้น มีบางครั้งบางคราวเมื่อนักข่าวมาสัมภาษณ์   เอลซี่ก็จะพูดจาคลุมเครือให้ตีความกันเล่น   ไม่ยอมสารภาพตรงๆ ใจจริงแล้วทั้งคู่ก็ไม่สบายใจนักที่ต้องกำความลับไว้อย่างนี้ ในภาพทั้ง ๕ ภาพ   ๔ ภาพแรกทั้งสองยืนยันตรงกันว่าเป็นภาพถ่ายจากตุ๊กตากระดาษแข็งที่วาดขึ้น  แต่ภาพที่ ๕    เอลซี่บอกว่าเป็นอย่างเดียวกับภาพอื่นๆคือวาดขึ้น   แต่ฟรานเซสกลับยืนยันว่าเป็นภาพนางฟ้าจริงๆไม่ได้เอารูปกระดาษมาตั้งไว้ เธอยังยืนยันอีกว่า นางฟ้ามีอยู่จริง  เธอเคยเห็นบ่อยๆที่ลำธาร   แม้ว่าภาพเหล่านี่้จะเป็นภาพหลอกคนก็ตาม สิ่งที่ยังไม่มีใครเข้าใจจนบัดนี้คือเหตุใดเซอร์อาเธอร์   ผู้สร้างนักสืบเอกให้สืบหาความจริงได้สารพัด กลับตกเป็นเหยื่อเด็กหญิงชาวชนบทสองคนได้ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่หัวเข็มปักผมที่ปักตรึงตุ๊กตากระดาษโผล่ออกมาให้เห็นกลางลำตัว   เขาก็ยังมองไปว่าเป็นสะดือของคนรู   ทำให้มองไปว่าในโลกของนางไม้  พวกนี้กำเนิดมาอย่างคน  ถึงมีการตัดสายรก จนมีสะดือให้เห็น ข้อนี้กลายเป็นรอยด่างในชีวิตของเซอร์อาเธอร์  ที่บรรดาแฟนหนังสือไม่ค่อยอยากจะเอ่ยถึงกันนัก เอลซี่กับฟรานซิสไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเหตุใดผู้ใหญ่จึงเชื่อเรื่องที่กุขึ้นเป็นตุเป็นตะ เธอยังแถลงให้เจ็บใจเสียอีกแน่ะว่า   ไม่นึกเลยว่าผู้ใหญ่จะเชื่อได้จริงๆกับภาพที่ทำง่ายๆขนาดนี้ ภาพที่ลงในนี้ คือภาพที่ ๕ ชื่อ Fairies Sunbath ค่ะ เป็นภาพนางฟ้าล้วนๆ ไม่มีคนปนอยู่ในภาพ มีผู้วิเคราะห์แล้วว่าเป็นภาพตัดจากกระดาษเอามาตั้งไว้ให้ดู เ

[เทาชมพู]

ส่วนภาพถ่ายภาพแรกที่ฮือฮากันไปทั่วอังกฤษ   ต้นภาพเดิมดูยากอย่างนี้ค่ะ ที่เห็นชัดนั้นหนังสือพิมพ์นำมาทำให้ชัดขึ้น

[paganini]

 อืมมม  ดีครับ  สนุกดี
เด็กๆมีมีจิตนาการเยอะยังงี้แหละ
แต่คุณย่า 2 ท่านนี้มีฝีมือในการตัดกระดาษและวาดรูปมากนัะครับ

[เทาชมพู]

 คุณย่าเอลซี่ ตอนเป็นสาวรุ่น มีฝีมือทางวาดเขียน
ส่วนภาพแรกที่เธอตัดมาตั้งไว้ตรงหน้าฟรานเซส    เป็นภาพผู้หญิงที่ตัดมาจากนิตยสาร  เติมปีกเข้าไปเป็นนางฟ้าค่ะ