โคลงบทหนึ่งใน นิราศนรินทร์ ถือกันว่าเป็นแบบการแต่งโคลงที่ลง เอก โท สมบูรณ์ครบถ้วนเช่นเดียวกับ "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง" ในลิลิตพระลอ
เหมาะสำหรับท่องจำ เพื่อให้จำรูปแบบโคลงสี่สุภาพได้
คือ
จากมามาลิ่วล้ำ....... ลำบาง
บางยี่เรือราพลาง.... พี่พร้อง
เรือแผงช่วยพานาง...... เมียงม่าน มานา
บางบ่รับคำคล้อง...... คล่าวน้ำตาคลอ
ความเป็นมาของนายนรินทร์ธิเบศร์ ค่อนข้างมืดมนสำหรับคนรุ่นหลัง แม้แต่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพผู้นิพนธ์คำนำของการพิมพ์นิราศเรื่องนี้ไว้ ก็ไม่ทรงพบข้อมูลอื่นนอกจากข้อสันนิษฐานว่า ผู้แต่งเป็นมหาดเล็กชื่อนายอิน ดำรงตำแหน่งมหาดเล็กหุ้มแพร นายนรินทร์ธิเบศร์
ตามที่กล่าวไว้ในโคลง
ส่วนที่ว่าเป็นมหาดเล็กกรมพระราชวังบวรฯในรัชกาลที่ 2 ก็ทรงสันนิษฐานตามเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่กรมพระราชวังบวรฯเคยยกทัพไปศึก
แต่ความเป็นไปของกวีเอกคนนี้ เราแทบไม่รู้อะไรอีกเลย ไม่ว่าท่านเกิดเมื่อไรตายเมื่อไร เป็นลูกหลานใคร
ไม่มีขุนนางเก่าแก่คนไหนจดจำประวัติของนายนรินทร์ธิเบศร์ไว้ พอจะทูลสมเด็จกรมพระยาดำรงฯได้เลย
ผลงานของท่านก็เพิ่งมาค้นพบหลังสมัยของท่านมาก ประมาณรัชกาลที่ 5
ผลงานอื่นๆนอกจากเพลงยาว ที่เชื่อกันว่าท่านแต่ง ก็ไม่มีหลักฐานให้พบอีก
ส่งท้ายด้วยอีกบทค่ะ
ชมแขคิดใช่หน้า.....นวลนาง
เดือนตำหนิวงกลาง..... ต่ายแต้ม
พิมพ์พักตร์แม่เพ็ญปราง.....จักเปรียบ ใดเลย
ขำกว่าแขไขแย้ม......... ยิ่งยิ้มอัปสร
หาอ่านโคลงทั้งหมดได้ที่
http://www.geocities.com/thailiterature/nn.htm