เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
  พิมพ์  
อ่าน: 121850 วรรคทองในวรรณคดีสุดโปรดของท่าน
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 27 พ.ย. 02, 14:11

 หาหยกมาให้อีกชิ้นหนึ่งค่ะ  อย่าโยนกระเบื้อง
กระเบื้องพอสเลนมันแพง
ถ้าเป็นกระเบื้องจารยิ่งต้องระวังรักษาให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
****************
เทียบทุกคำที่เขียนคือเทียนไข
ผู้เผาไหม้ตัวเองเพื่อเปล่งแสง
ยิ่งค่าความงามเทิดเจิดแจรง
ยิ่งเสียดแทงหัทยางค์ให้ร้างเลย

อย่าให้เหมือนใบศรีที่เบิกขวัญ
พอเสร็จพลันเป็นใบตองนะน้องเอ๋ย
ถนอมหน่อยอย่าลอยร้างไปอย่างเคย
เก็บไว้เชยเมื่อช้ำเช็ดน้ำตา

จาก ใบศรี
ในหนังสือ คำหยาด ของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
บันทึกการเข้า
ทองรัก
พาลี
****
ตอบ: 390

นักวิจัย


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 27 พ.ย. 02, 16:16

 โคลงบทนั้นมาจากลิลิตพระลอค่ะ คุณ Paganini
ไม่ใช่โคลงโลกนิติ
บันทึกการเข้า
caeruleus
ชมพูพาน
***
ตอบ: 155


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 27 พ.ย. 02, 17:26

 ปรียทรรศิกา - พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ ค่ะ

เสียงหงส์ทองร้องระหริ่งหวาน   ดุจะปิยะนริคราญ   ใส่กำไลผ่าน   สบายกรรณ;
เห็นเรือนหลวงเลิดวิไลฉัน   ณตรุและชลอัน   ส่งสง่าสรรพ์   สบายเนตร;
หอมกลิ่นบัวหลวงภิรมเยศ   กมลวิมลเกสร์   ส่งสุคนธ์เศรษฐ์   สบายฆาน;
ลมเย็นรวยรื่นเพราะพัดผ่าน   ชลธิสรสถาน   ถูก ณ กายซ่าน   สบายกาย.
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 28 พ.ย. 02, 08:38

 Fathomed deep through the sea       may be.
Measurable is the sea          in depth.
Scaled can mountains be       in height.
Immeasurable is the depth       this heart of man.

ขอบคุณ คุณเทาชมพูครับ  และขอนำเสนอร้อยกรองเข้าประกวดอีก 1 บทครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 28 พ.ย. 02, 09:01

 ขออนุญาตแปลของคุณถาวภักดิ์ค่ะ
พระสมุทรสุดลึกล้น.....คณนา
สายดิ่งทิ้งทอดมา........หยั่งได้
เขาสูงอาจวัดวา...........กำหนด
จิตมนุษย์นี้ไซร้.............ยากแท้หยั่งถึง

จาก โคลงโลกนิติ
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 28 พ.ย. 02, 10:16

 เอามั่ง

เรื่องทะเลนั้นพี่พอรู้
แต่เรื่องเจ้าชู้มิรู้จะทำฉันใด
หยั่งทะเลพอคะเนดูได้
แต่ความรักเกินครวญใคร่
ลึกเท่าไหร่ มิรู้หยั่งถึง

ท่าฉลอม  โดย  ชาลี  อินทรวิจิตร

อยากทราบว่าที่คุณเถาวภักดิ์ post มาคือคำแปลของโคลงโลกนิติรึเปล่าครับ โดยใครครับ
บันทึกการเข้า
caeruleus
ชมพูพาน
***
ตอบ: 155


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 28 พ.ย. 02, 17:09

 น่าจะเป็นรัชกาลที่ ๖ นะคะ ท่านทรงแปลโคลงโลกนิติไว้หลายบท
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 28 พ.ย. 02, 22:26

 คลับคล้ายคลับคลาว่า โคลงสี่สุภาพภาษาอังกฤษนั่น เหมือนเป็นฝีปากอาจารย์ มรว.เสนีย์ ปราโมช ครับ ท่านชอบเล่นถอดโคลงสี่ไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยคงฉันทลักษณ์โคลงสี่ไทยไว้ด้วย
Fathomed deep though the sea.......may be,
Measurable is the sea...........in depth,
Scaled can mountains be........in height,
Imeasurable is the depth.........this heart of man.

ส่วนของผม ชอบวรรคทองหลายบทมาก ทั้งที่เป็นโคลง กลอน กาพย์ ฯลฯ
อย่าง นาภีแนบนาภี ..... สนิทเนื้อ ก็เคยชอบ แต่นึกไม่ออกแล้วว่ามาจากไหน และบทที่เหลือว่ายังไง ดูรูปหน้าตาน่าจะเป็นโคลงครับ ถ้าเป็นบาทหนึ่งของโคลงก็ควรจะอยู่ในลิลิตพระลอมากกว่าขุนช้างขุนแผน ข้อสำคัญในลิลิตพระลอตอนที่โป๊ที่สุดมีโคลงสองอยู่บทหนึ่งที่เนื้อความใกล้เคียงกัน คือตอนที่พระลอกับพระเพื่อนหรือพระแพงก็ไม่รู้ละ xxx (ติดเรท) กวีบรรยายว่า
...นมแนบนมนิ่มน้อง ท้องแนบท้องโอ่ท้อง อุ่นท้องทรามสงวนฯ
ว้าวววววววว...

เอาอารมณ์อื่นบ้างดีกว่า
อุรารานร้าวแยก.....ยลสยบ
เอนพระองค์ลงทบ....ท่าวดิ้น
(บุ๋งๆๆๆๆๆๆๆ)
วายชิวาตม์สุดสิ้น ....สู่ฟ้าเสวยสวรรค์ฯ
เตลงพ่าย ครับ
บันทึกการเข้า
caeruleus
ชมพูพาน
***
ตอบ: 155


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 28 พ.ย. 02, 22:33

 โอย......โดนจับได้อีกแล้วว่าเรามั่ว  
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 29 พ.ย. 02, 01:29

 หาเป็นไรไม่คุณ caeruleus คุณนิลฯ ท่านดำน้ำได้สลวยมาก ฮ่าๆๆๆๆ  โคลงนั้นเป็นฉากอวสานของยอดคนท่านไหนครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เปิดหูเปิดตาให้กระผมได้รับทราบกลอน(ขอเรียกรวมๆแล้วกันนะ)ดีๆเยอะขึ้น  สังเกตว่าจะมีรสนิยมอยู่ 2 แบบคือ กลอนที่ภาษาสวยงามวิลิศมาหรา  และกลอนที่มีความหมายลึกซึ้งแสดงอารมณ์
ผมชอบแบบหลังมากกว่าครับเพราะว่าภาษานับวันก็จะแปรผันไปกลอนโบราณ ใช้คำโบราณ แม้สูงส่งล้ำค่าแต่ยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจเช่นผมเป็นต้น แหะๆๆ
ถ้าเทียบกับกลอนที่กล่าวถึงอารมณ์ความรู้สึกแม้ภาษาจะเรียบง่ายแต่ชนรุ่นหลังสามารถรับรู้ความในใจของกวีโดยง่าย
กิมย้งกล่าวว่าอารมณ์ของมนุษย์เป็นสิ่งร่วมกันของมนุษยชาติบทประพันธ์ที่กล่าวถึงอารมณ์แม้กาลเวลาผ่านไปยังมีคนซาบซึ้งเสมอเช่นอันนี้

เสียเจ้า
     ๑.เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง     มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทรายฯ
     ๒.จะเจ็บจำไปถึงปรโลก     ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย     อย่าหมายว่าจะให้หัวใจฯ
     ๓.ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์     ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้     ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณฯ
     ๔.แม้แต่ธุลีมิอาลัย     ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตาฯ
     ๕.ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า     ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา     ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอยฯ

อังคาร กัลยาณพงศ์

  จากเวปนี้ครับ
 http://www.geocities.com/thailiterature/ak1.htm
บันทึกการเข้า
caeruleus
ชมพูพาน
***
ตอบ: 155


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 29 พ.ย. 02, 02:24

 ไม่ได้มาจากวรรณคดี แต่ชอบค่ะ

โคลง..สยามานุสสติ
@ รักราช จงจิตน้อม...........ภักดี ท่านนา
รักชาติ์ กอบกรณีย์.............แน่วไว้
รักศาสน์ กอบบุญตรี..........สุจริต ถ้วนเทอญ
รักศักดิ์ จงจิตให้................โลกซร้องสรรเสริญฯ

@ ยามเดินยืนนั่งน้อม.........กะมล
รำลึกถึงเทศตน..................อยู่ยั้ง
เปนรัฏฐะมณฑล...............ไทยอยู่ สราญฮา
ควรถนอมแน่นตั้ง...............อยู่เพี้ยงอวสานฯ

@ ใครรานใครรุกด้าว..........แดนไทย
ไทยรบจนสุดใจ..................ขาดดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล.........ยอมสละ สิ้นแล
เสียชีพไป่เสียสิ้น................ชื่อก้องเกียรติงามฯ

@ หากสยามยังอยู่ยั้ง.........ยืนยง
เราก็เหมือนอยู่คง...............ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง............ไทยอยู่ ได้ฤา
เราก็เหมือนมอดม้วย...........หมดสิ้นสกุลไทยฯ

ขอโทษนะคะที่ยกมาแต่พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ ๖ พอดีมีหนังสืออ้างอิงแค่เล่มเดียว (แล้วก็ชอบโคลงและกลอนของท่านหลายบทมากๆ)
บันทึกการเข้า
ทองรัก
พาลี
****
ตอบ: 390

นักวิจัย


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 29 พ.ย. 02, 08:10

 พอดีมีหนังสือ ลิลิตเตลงพ่ายอยู่ในมือค่ะ
เลยขออนุญาตคุณนิลกังขา ต่อโคลงบทนั้นให้จบนะคะ

อุราราญร้าวแยก...........ยลสยบ
เอนพระองค์ลงทบ.........ท่าวดิ้น
เหนือตอคชซรอนซรบ....สังเวช
วายชีวาตม์สุดสิ้น...........สู่ฟ้าเสวยสวรรค์ ฯ

เป็นบทบรรยายการสิ้นพระชนม์ของพระมหาอุปราชาแห่งพม่า
ในการทำสงครามยุทธหัตถีกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชค่ะ

ในลิลิตเตลพ่ายนี้มีบทชมนกชมไม้ที่ทองรักชอบมากจำได้ขึ้นใจอยู่บทนึงค่ะ บางตอนของโคลบทนี้เคยมีนักประพันธ์ท่านหนึ่งนำมาตั้งเป็นชื่อนวนิยายของท่านด้วยค่ะ มีใครชอบโคลงบทนี้เหมือนทองรักบ้างไหมคะ

สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง............ยามสาย
สายบ่หยุดเสน่ห์หาย.............ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย......................วางเทวศ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า................หยุดได้  ฉันใด ฯ
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 29 พ.ย. 02, 08:11

 มีร้อยกรองอันไหนที่พูดถึงดวงดาว หรือจักรวาลบ้างไหมครับ
ขอผมซักบทเถอะ หวานๆ หน่อยก็ได้ อิอิ
บันทึกการเข้า
ทองรัก
พาลี
****
ตอบ: 390

นักวิจัย


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 29 พ.ย. 02, 08:20

 ตอนนี้นึกได้แต่บทนี้ค่ะคุณจ้อ แถมจำไม่ได้อีกว่าใครแต่ง

นอนนับดาวที่บนฟ้า..........อยากหยิบดาราดวงไหน
เอื้อมไม่ถึงเพราะรู้ว่าไกล...เก็บมาไม่ได้ก็ไม่ตรม

ขอเวลาไปนั่งนึกก่อนนะคะว่ามีบทกลอนหวาน ๆ บทไหนบ้าง
แล้วจะเอามาฝากใหม่ ว่าแต่ว่ามันชักยังไง ๆ อยู่นานถามหาบทกลอนหวาน ๆ เกี่ยวกับดวงดาวแต่เช้านี่น่ะ    
บันทึกการเข้า
ถาวภักดิ์
พาลี
****
ตอบ: 240


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 29 พ.ย. 02, 09:11

 ถูกแล้วครับคุณหลวงนิลฯ  เป็นของอาจารย์เสนีย์ฯ  ความจริงท่านแปลไว้หลายบท  แต่จำติดหัวได้ตอนนี้อยู่บทเดียว

นอกจานี้ยังมีกาพย์ ทำนองเดียวกัน คือ

....สองคนยลตามช่อง.........คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
อีกคนตาแหลมคม..............มองเห็นดาวอยู่พราวพราย

Two men see through bars.
One sees mud.
The other, stars.

ความแปลกอยู่ที่ว่า version ภาษาอังกฤษนั้น แต่งโดยคนไทย  ระหว่างต้องโทษการเมือง  คลับคลาคลับคลาว่าเป็น คดีกบฎบวรเดช  คิดว่าคือ สอ เสฐบุตร

ส่วนผู้แปลเป็นไทยกลับเป็นฝรั่ง คือ บราเธอร์ฮีแลย์ผู้โด่งดังแห่งโรงเรียนอัสสัมชันนั่นเอง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.044 วินาที กับ 19 คำสั่ง