เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
  พิมพ์  
อ่าน: 121853 วรรคทองในวรรณคดีสุดโปรดของท่าน
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 120  เมื่อ 09 ก.ค. 05, 21:31

 มากราบขอโทษท่านสมาชิกทุกท่านที่เผลออ่านไปแล้วครับ

อย่างที่อาจารย์เทาชมพูว่าไว้ล่ะครับ
คนละคนกัน ผมเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคของผมเองครับ เขินเลย 555+


คนละคนครับ สายสกุลบางช้าง กับ สกุลภมรมนตรี รึเปล่าครับ


ขอโทษอีกครั้งนะครับ มาอ่านอีกรอบ (ตอนนี้) เขินตัวเองเลยครับ
บันทึกการเข้า
kenkorn
อสุรผัด
*
ตอบ: 35

อาจารย์พิเศษ


ความคิดเห็นที่ 121  เมื่อ 14 ก.ค. 05, 20:42

 เราเชื่อผีจึงรับนับถือผี
มีผีดีผีร้ายผีหลายเหล่า
ทั้งผีสางคางแดงผีแฝงเงา
พร้อมผีเรือนผีเหย้าเผ้าอารักษ์
(เนาวรัตน์ฯ)

ใจร้ายแฮะต่อหน่อยก็ไม่ได้
บันทึกการเข้า
นิรนารี
อสุรผัด
*
ตอบ: 37

Niranaree


ความคิดเห็นที่ 122  เมื่อ 20 ก.ค. 05, 20:00


โคลง๔

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง.........อันใด พี่เอย
เสีงย่อมยอยศใคร ...........ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับไหล...........ลืมตื่น ฤาพี่
สองพี่คิดเองอ้า ...............อย่าได้ ถามเผือ ฯ

เป็นวรรคทอง
ในบทกวีนิพนธ์ตำราวรรณคดีเรื่อง ลิลิตพระลอ
บันทึกการเข้า
คำฝอย
มัจฉานุ
**
ตอบ: 64

เรียน


ความคิดเห็นที่ 123  เมื่อ 20 ก.ค. 05, 22:25

 นิจจาเจ้าวันท้องน้องพี่อา
พี่จำหน้าเนื้อน้องได้ทุกแห่ง
นิจจาเอ๋ยช่างกระไรมาแปลกแปลง
เอามือคลำแล้วยังแคลงอยู่คลับคล้าย
เจ้าลืมนอนซ่อนพุ่มประทุ่มต่ำ
เด็ดใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ้าย
แต่กินหมากเจ้าอยากพี่ยังคลาย
แขนซ้ายคอดแล้วเพราะหนุนนอน
เจ้ามาได้ผัวดีมีทรัพย์มาก
จึงลืมเลือนเพื่อนยากแต่เก่าก่อน
หลงลมขุนช้างมันช่างวอน
.................................

วรรคสุดท้ายลืมค่ะ ที่จำมาได้ก็กระท่อนกระแท่น
มาจากขุนช้างขุนแผน ตอนที่ขุนแผนจะเข้าไปลักตัวนางพิม ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 124  เมื่อ 21 ก.ค. 05, 07:26

 นิจจาเจ้าวันทองน้องพี่อา
พี่จำหน้าเนื้อน้องได้ทุกแห่ง
นิจจาใจช่างกระไรมาแปลกแปลง
เอามือคลำแล้วยังแคลงอยู่คลับคล้าย

เจ้าลืมนอนซ่อนพุ่มกระทุ่มต่ำ
เด็ดใบบอนช้อนน้ำที่ไร่ฝ้าย
พี่เคี้ยวหมากเจ้าอยากพี่ยังคาย
แขนซ้ายคอดแล้วเพราะหนุนนอน

เจ้ามาได้ผัวดีมีทรัพย์มาก
จึงลืมเลือนเพื่อนยากแต่เก่าก่อน
หลงเชิงชุนช้างช่างชะอ้อน
กอดท่อนซุงสักสำคัญคน

ค่ะ

บทนี้เป็นโวหารตัดพ้อต่อว่าที่เฉียบคมมาก
เป็นที่จดจำกันมามากที่สุดบทหนึ่งในขุนช้างขุนแผน
ฝีพระโอษฐ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ยอดเยี่ยมจริงๆ

คำว่า เจ้าเคี้ยวหมากพี่อยากเจ้ายังคาย
แสดงความโรแมนติคกันสุดๆ คือคายชานหมากให้กัน
สมัยนี้คงกินไม่ลงก็จริง
แต่สมัยก่อน  แม่ทัพที่จะออกไปรบ จะรับชานหมากพระราชทาน
ไปเคี้ยวเป็นขวัญกำลังใจ
ถือกันว่าเป็นการพระราชทานด้วยความไว้วางพระทัยสูงสุด
บันทึกการเข้า
ดารากร
อสุรผัด
*
ตอบ: 47

นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 21 ก.ค. 05, 22:36

 แช่มชื่นรื่นร่มพนมพนัส
สิ้นวิบัติไพรีไม่มีข้อง
อิงแอบแนบเนื้อนวลละออง
หนุนแต่ขอนไม้รองสำราญใจ

ไร้ฟูกถูกเนื้อวันทองอ่อน
เหมือนนอนเตียงทองอันผ่องใส
เพลินฟังวังเวงเพลงเรไร
พิณพาทย์ไพรกล่อมขับสำหรับดง

เมื่อสิ้นแสงเทียนประทีปส่อง
ก็ผ่องแสงจันทร์กระจ่างสว่างส่ง
บุปผาชาติสาดเกสรขจรลง
บุษบงเบิกแบ่งสะบัดบาน

เรณูนวลหวนหอมมารวยริน
ประพายพัดประทินกลิ่นหวาน
เฉื่อยฉิวปลิวรสสุมามาลย์
ประสารสอดกอดหลับระงับไป

จากขุนช้างขุนแผนตอนขุนแผนลุแก่โทษค่ะ
บันทึกการเข้า
ครูหมูอ้วน
อสุรผัด
*
ตอบ: 11

โรงเรียนสุราษฎร์ธานี


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 24 ก.ค. 05, 21:24

 สารนี้นุชแนบไว้..........ในหมอน
อย่าแม่อย่าควรเอา........อ่านเหล้น
ยามนอนนาฎก์เอานอน...เป็นเพื่อน
คืนค่ำฤๅได้เว้น............ว่างใด

กำศรวลศรีปราชญ์
บันทึกการเข้า
ศสา
อสุรผัด
*
ตอบ: 13

กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล


ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 25 ก.ค. 05, 19:56

 งามทรงวงดั่งวาด
งามมารยาทนาดกรกราย
งามพริ้มยิ้มแย้มพราย
งามคำหวานลานใจถวิล
...กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง...
บันทึกการเข้า
ศสา
อสุรผัด
*
ตอบ: 13

กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล


ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 25 ก.ค. 05, 20:04

 ...แม้มิได้เป็นซามุไร         ก็จงพอใจที่เป็นสมุนเขา
แม้มิได้เป็นดอกซากุระ      ก็อย่ารังเกียจที่จะเป็นดอกไม้อื่น
แม้มิได้เป็นถนน               ก็จงพอใจที่จะเป็นบาทวิถี
แม้มิได้เป็นดวงตะวัน         ก็ยินดีที่จะเป็นดวงดาว
อันว่าภูเขาไฟฟูจีนั้นสวย     แต่ภูเขาลูกอื่นก็มิได้ด้อยค่า
ไม่ว่าจะเป็นอะไร              จงพอใจ และเป็นให้ดีที่สุด

...ดร.เกียรติวรรณ  อมาตยกุล...
บันทึกการเข้า
คำฝอย
มัจฉานุ
**
ตอบ: 64

เรียน


ความคิดเห็นที่ 129  เมื่อ 26 ก.ค. 05, 18:29

 ไม่แน่ใจว่าในเรื่อง ขุนช้างขุนแผน เป็นต้นกำเนิดสำนวนไทยบางสำนวน หรือ มีสำนวนไทยอยู่ก่อนแล้วถูกกวีหยิบยกมาใช้ในบทประพันธ์ ที่ดิฉันจำได้คือ ตอนที่นางวันทองตัดพ้อขุนแผน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นตอนที่ขุนแผนมาพาหนี แล้วเธอก็เกิดแง่งอน กันระหว่างทั้งสองฝ่าย จำได้ว่านางวันทองกล่าวว่า " อดน้ำแล้วสิเลี้ยวมากินตม"  และตอนที่ขุนแผนรำพึงว่า " เหมือนกินน้ำเห็นปลิงทุกสิ่งไป" แต่จำกลอนทั้งหมดไม่ได้เสียแล้วล่ะค่ะ
บันทึกการเข้า
เตียบ่อกี้
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 130  เมื่อ 19 ส.ค. 05, 20:10

 "โฉมควรจักฝากฟ้าฤาดิน  ดีฤา
เกรงเทพไท้ธรณิน  ลอบกล้ำ
ฝากลมเลื่อนโฉมบิน  บนเล่า ณ แม่
ลมจะชายชักช้ำ  ชอกเนื้อ เรียมสงวน"
"เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม  ถึงพรหม
พาหมู่สัตว์จ่มจม  ชีพม้วย
พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม  ทบท่าว
หากอกขนิษฐานี้ช่วย  พี่ไว้จึ่งคง"

นิราศนรินทร์
บันทึกการเข้า
Mr.B
อสุรผัด
*
ตอบ: 2

กรุงเทพฯ


ความคิดเห็นที่ 131  เมื่อ 20 ส.ค. 05, 21:26

 ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง  
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ
สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืนฯ
วรรคนี้อ่านแล้วชอบมากๆ จากนิราศภูเขาทองของสุนทรภู่ครับ
(นิราศภูเขาทองของสุนทรภู่ได้ชื่อว่าป็นนิราศที่สั้นที่สุดแต่ไพเราะที่สุดครับ)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 132  เมื่อ 21 ส.ค. 05, 09:54

กระทู้นี้ยาวมากแล้วค่ะ   บางท่านอาจจะโหลดข้อความได้ลำบาก
ขอเชิญไปต่อที่กระทู้นี้ ซึ่งยังสั้นอยู่ พอจะโหลดได้สะดวก

 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=19&Pid=16554

ขอจบกระทู้นี้ไว้แค่นี้นะคะ
บันทึกการเข้า
สลักทองคล้องอำไพ
อสุรผัด
*
ตอบ: 4

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม


ความคิดเห็นที่ 133  เมื่อ 08 ธ.ค. 05, 21:09

 ผมหน้าใหม่นะครับแต่ขอส่งนี่มาก่อนกลอนนะครับ( กลอนจะมาทีหลัง )    
บันทึกการเข้า
สลักทองคล้องอำไพ
อสุรผัด
*
ตอบ: 4

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม


ความคิดเห็นที่ 134  เมื่อ 08 ธ.ค. 05, 21:09

 ความกลัว มิใช่ความรัก
การเกาะอิงพึ่งพิงผู้อื่น ก็มิใช่ความรัก
ความอิจฉาริษยา ก็มิใช่ความรัก
การครอบครองเป็นเจ้าของ
และการวางอำนาจเหนือ ก็มิใช่ความรัก
ความต้องการที่จะรับผิดชอบและหน้าที่  มิใช่ความรัก
ความสงสารตัวเอง ก็มิใช่ความรัก
ความปวดร้าวที่มิได้รับความรัก ก็มิใช่ความรัก
ความรัก มิใช่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเกลียด
เช่นเดียวกับความอ่อนน้อมถ่อมตน
ก็มิได้เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับความทระนง...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 19 คำสั่ง