เพชรนิลจินดา

[เทาชมพู]

รูปนี้ถ่ายจากเพชรเม็ดเดียวกัน  โดยจัดไฟสีต่างๆล้อมรอบเพชร

[เทาชมพู]

เม็ดนี้เป็นแซฟไฟร์ ที่บางคนแปลว่าไพลิน บางคนแปลว่านิลสีน้ำเงิน(คนละอย่างกับนิลกังขา)ค่ะ ชื่อ Stuart's  Sapphire   ประดับอยู่บนมหามงกุฎอังกฤษ   คู่กับอีกเม็ดคือ St.Edward's Sapphire

[เทาชมพู]

St.Edward's Sapphire

[ทองรัก]

 สวยจังค่ะ ดูแล้วเพลินดี แต่ชาตินี้ (หรือชาติหน้าอีกชาติก็ได้)
คงไม่มีปัญญาเป็นเจ้าของได้แน่ ๆ
อยากเขียนออกความเห้นถึงอาถรรพน์์ของเพชรสักนิดหนึ่ง
 เป็นไปได้ไหมคะ ว่าความโลภของมนุษย์ต่างหากคือที่มาของอาถรรพน์ทั้งหลายแหล่นั่น

[ศศิศ]

 ดูไปก็สวย...โชคดีจังครับที่ได้มาเห็นเพชรสวย ๆ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เพชรกับเขาสักเม็ดหรือเปล่าก็ไม่รู้...ฤๅจะได้แต่ตะบองเพชร..  

ว่าถึงเรื่องอาธรรพ์ของเพชรต่าง ๆ ...ที่ว่ามาจากความโลภของมนุษย์นั้น ผมว่าคงไม่ใช่แต่เพชรหรอกครับ ของมีค่าทุกอย่างแหละครับ ที่มีอาธรรพ์...อันเกิดจากความโลภ ความโลภนำมาซึ่งความหายนะแก่ผู้คนมามากมาย...และยากที่จะขจัดอาธรรพ์ชนิดนี้ให้หมดไป...

ถ้าจะมองอีกอย่าง เหมือนว่าผมจะเคยได้อ่านจากไหนก็ไม่ทราบเหมือนกัน ...จะต่วยตูนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่ว่า "อัญมณี" มีดูดซับพลังงานไว้ได้ดี ความอาธรรพ์อาจจะเกิดจากตัวนี้ก็ได้...เกิดจากแต่ละคนได้สาปแช่งประจุความอาฆาตคำสาปคำแช่งด้วยจิตที่กล้าแข็ง ซึ่งอัญมณีนั้นก็ดูดซับไว้ได้ดี อาธรรพ์จึงส่งผลได้มากดังที่เล่าขานกันกระมังครับ

เฮ้อ...ผมว่าผมไปก่อนดีกว่า ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะเหลวไหลไปทุกที ...

[ป่านแก้วและใยไหม]

 ขอบคุณ คุณเทาชมพูสำหรับรูปทีสวยงามค่ะ
ดิฉันเป็นคนชอบดูของสวยงามค่ะ แต่ไม่นิยมซื้อมาสะสมค่ะ
เพราะราคาค่อนข้างแพงค่ะ
แต่เครื่องประดับเหล่านี้ดูแล้วมีสเน่ห์ค่ะ  

ดิฉันเคยได้ยินคำว่าเพชรตาแมว ไม่แน่ใจว่าทำไม เพชรถึงได้มีชื่อไปเกี่ยวข้องกับตาแมวได้    คุณเทาชมพูมีรูปเพชรตาแมวไหมคะ

[เทาชมพู]

คนไทยโบราณเชื่อว่ามีแมวชนิดหนึ่งตาแวววาวสะท้อนแสงไฟเหมือนเพชร   มองจิ้งจก ก็จะหล่นปุ๊บลงให้ตะครุบ พอตาย  ตาจะกลายเป็นเพชรเรียกว่าเพชรตาแมว แต่มีจริงหรือเปล่าไม่ทราบ ฝรั่งมีพลอยชนิดหนึ่งเรียกว่า cat's eye สีเหลืองมีรุ้งพาดกลางเหมือนตาแมว   ก็คือไพฑูรย์ หนึ่งในนพเก้านี่เองละค่ะ

[เทาชมพู]

 เพชรที่เล่าลือว่าอาถรรพณ์มักมีต้นกำเนิดคล้ายกัน คือเป็นเพชรจากอินเดียที่ถูกยึดบ้าง ถูกขโมยบ้างไปยุโรป
ส่วนที่ขุดเจอเองในเหมืองเพชรแอฟริกา ไม่ค่อยมีข่าวทำนองนี้

ในบรรดาตำนานอาถรรพณ์ เพชรโฮปสีฟ้า อยู่อันดับหนึ่งของเรื่องก่อความวิบัติให้ผู้ครอบครอง เป็นข่าวเริ่มเล่าลือกันเมื่อศตวรรษที่ ๒๐ เองค่ะ
ส่วนประวัติมันมียาวนานก่อนหน้านี้แล้วตั้ง ๓ ศตวรรษเป็นอย่างน้อย
ต้นกำเนิดของโฮปค่อนข้างคลุมเครือ   บางตำนานเล่าว่าเป็นดวงตาหรือเพชรประดับหน้าผากเทวรูปของอินเดียมาก่อน แล้วถูกขโมยไปโดยนาย Tavernier ชาวฝรั่งเศสไปขายให้พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔
ตัวนายคนนี้เป็นคนแรกที่ประสบเคราะห์ ถูกหมาป่ารุมฉีกเนื้อตาย เหตุเกิดหลังขายเพชรไปแล้ว

ในความเป็นจริง   ก็มีคนทำวิจัยค้นประวัติมาว่าแกไม่ใช่หัวขโมยที่ไหนหรอก   แต่เป็นนักค้าเพชร  ไปเจอเพชรเม็ดนี้ที่เหมืองKollur ในเมือง Golconda ประเทศอินเดีย ก็เลยซื้อมา
แล้วแกก็ไปขายพระเจ้่าหลุยส์พร้อมด้วยเพชรอื่นๆอีกหลายเม็ด
ตัวแกอยู่มาจนอายุ ๘๔ แล้วไปตายในรัสเซีย แต่ไม่มีหลักฐานว่าแกตายด้วยโรคอะไรหรือแบบไหน

เพชรสีฟ้าตกเป็นสมบัติกษัตริย์ฝรั่งเศสมาสองรัชกาลด้วยดีไม่มีปัญหา
จนถึงเจ้าของคนที่สามคือพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๖ และพระนางมารีอังตัวแนตต์  ถูกประหารด้วยกีโยตีนทั้งคู่   จึงเป็นจุดแรกของการอ้างว่ามาจากอาถรรพณ์ของเพชรสีฟ้าในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส เพชรอยู่ในจำนวนเครื่องเพชรที่ถูกยึดไปโดยฝ่ายปฏิวัติ  แล้วถูกขโมยหายสาบสูญไปจากฝรั่งเศส
จนปี ๑๘๒๓  จึงไปโผล่ที่ลอนดอน ถูกเจียระไนใหม่ให้เล็กลง  แต่สียังฟ้าเหมือนเดิม
พระเจ้าจอร์ชที่ ๔ แห่งอังกฤษทรงซื้อไป ทั้งที่เป็นกษัตริย์ พระองค์ก็ทรงมีหนี้สินรุงรังท่วมตัว จนเมื่อสวรรคต เพชรก็ถูกขายไปเพื่อชำระหนี้
นี่ก็คือข้ออ้างอีกข้อว่าเจ้าของเพชรจะหายนะ

ราวๆ ๑๙๓๙ เพชรตกมาถึงมือมหาเศรษฐีนายแบงค์ชื่อเฮนรี่ ฟิลลิป โฮป  (ที่มาของชื่อเพชร)
แต่พอได้เพชรมาครอบครอง แกก็ต้องขายกิจการแบงค์ไป
เพชรก็ตกทอดเป็นมรดกไปอีกสามชั่วคน ถึงเหลนชื่อนายฟรานซิส โฮป รายนี้ก็ล้มละลายเพราะเล่นการพนัน
เพชรก็เลยถูกขายทอดตลาด มาถึงมือไซมอน แฟรงเกล พ่อค้าเพชรอเมริกัน
แล้วเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆจนมาถึงร้านคาเทียร์ ขายให้มหาเศรษฐินี อีวาลีน วอลช์ แมคลีน
เธอเป็นอีกคนที่เคราะห์ร้าย  ลูกชายคนแรกประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตเมื่ออายุแค่ ๙ ขวบ
ลูกสาวก็ฆ่าตัวตายเมื่ออายุแค่ ๒๕ สามีมหาเศรษฐีก็ป่วยเป็นโรคจิต ถูกส่งไปอยู่ในโรงพยาบาลสำหรับรักษาคนวิกลจริต จนตาย
อีวาลีนเป็นหนี้สินท่วมตัวจนกระทั่งเมื่อตาย ทายาทจำต้องขายเพชรเพื่อใช้หนี้

เฮนรี่วินสตัน นักธุรกิจเพชรรายใหญ่ของโลกซื้อไปแล้วมอบให้สถาบันสมิธโซเนียน จนทุกวันนี้

ส่วนเพชรโคอินูร์ที่คุณพระนายถาม ก็มีอาถรรพณ์ติดตัวมาว่าชายผู้ได้ครอบครองมันจะต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน
เพราะเพชรเม็ดนี้ตกเป็นสมบัติของกษัตริย์มาหลายองค์  หลายอาณาจักร  แต่ละองค์ก็ได้สู้รบอย่างทรหด แล้วตายกันในสนามรบบ้างแพ้สงครามบ้าง จนกระทั่งมาถึงองค์ที่ครองปัญจาบ
แล้วถูกอังกฤษยึดครอง  นำเพชรไปถวายควีนวิกตอเรีย
ตอนแรกทรงประดับไว้ในเทียร่าอันหนึ่ง  แต่ข่าวลือที่ติดมากับเพชรทำให้ไม่สบายพระทัย  พระสวามีก็เลยให้เจียระไนใหม่ ให้ขนาดเล็กลง กลายเป็นเพชรใหม่แพรวพราวอย่างที่เห็น
อีกอย่างเพราะของเดิมไม่ค่อยมีประกาย  ไม่ถูกใจคนอังกฤษ

มีคำเล่าลืออีกข้อว่า ถ้าผู้ครอบครองเป็นหญิง ถึงจะไม่เป็นอะไร
หญิงที่ได้สวมใส่ก็มีแค่ควีนวิกตอเรีย   ควีนมัมและควีนเอลิซาเบธ  ก็ปลอดภัยดีทั้ง ๓ องค์

มีเกร็ดเล็กๆว่าเจ้าชาย รัชทายาทของปัญจาบ ซึ่งมีสิทธิ์ครอบครองเพชรต่อจากพระบิดา  ได้มาศึกษาที่อังกฤษและเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสเตียน เป็นผู้ยินยอมให้ควีนวิกตอเรียเป็นเจ้าของเพชรนี้ด้วยความเต็มใจ
เจ้าชายเป็นพระสหายสนิทของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๗ พระโอรสของควีนวิกตอเรีย  ทรงอยู่อย่างโอ่อ่าแบบผู้ดีอังกฤษ
แต่บั้นปลายมีชะตากรรมน่าเศร้า คือเป็นหนี้สินรุงรังจนล้มละลาย และตายที่ปารีสอย่างหมดตัว

อ่านพบอีกอย่างว่าผู้ที่อ้างสิทธิ์ครอบครองเพชร นอกจากอินเดียแล้ว  ยังมีผู้นำทาลีบันด้วย   ยื่นคำขาดให้รัฐบาลอังกฤษส่งคืนให้อัฟกานิสถาน  เพราะถือว่าเพชรนี้เคยเป็นสมบัติของอัฟกานิสถานเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะตกไปอยู่ในอินเดีย

[คุณพระนาย]

 ตามมาอ่านตำนานเพชรต่อครับ อ่านแล้วน่าสนใจมากครับ ต้องขอบคุณ คุณเทาชมพูมาก
เพชรตาแมว ผมเคยเห็นแมวไทยที่มีตาเหมือนเพชรเหมือนกัน
เพชรที่มาจากสัตว์เนี่ย นอกจากแมวแล้ว รู้สึกที่ผมเคยได้ยินจะมีช้างด้วยนะครับ
มีเรื่องเล่าว่า ช้างเนี่ย เวลาจะตาย มันจะต้องหนีไปตายในป่าลึก เรียกว่าป่าช้าช้าง แล้วเค้าก็บอกว่า ถ้าใครตามไปเจอป่าช้าช้างได้เนี่ยจะรวยมหาศาล เพราะว่า นอกจากงาช้างแล้ว ที่หัวช้างจะมีเพชรอยู่ด้วย
คือว่าตำนานที่เล่ามาข้างบนนี้ ผมอ่านจากไหนก็จำไม่ได้แล้ว แต่เป็นทำนองนี้ล่ะครับ ใครเคยได้ยิน ช่วยเล่าเสริม หรือถ้าที่ผมเล่ามานี่ผิดก็ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ

[เทาชมพู]

เรื่องช้างดิฉันเคยอ่านแต่เพชรพระอุมา  ตอนจุดจบของไอ้แหว่ง แต่ไม่ทราบว่าป่าช้าช้างมีจริงหรือเปล่า ถ้ามีจริงก็แปลว่าช้างจะต้องดั้นด้นไปตายในที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งเป็นสุสานของพวกมัน    ผิดกับสัตว์อื่นๆ เอาเครื่องเพชรประวัติศาสตร์ มาให้ดูเยอะแล้ว   ต่อไปนี้เอาเพชรสมัยใหม่ ขนาดกำลังดี มาโชว์บ้าง  เผื่อคุณพระนายจะเอาไปหมั้นแม่นกยูง วงแรกเป็นแหวนสไตล์ Art Deco คือยุคต้นๆของศตวรรษที่ ๒๐ค่ะ

[เทาชมพู]

แหวนทับทิม สไตล์ Georgian คือปลายศตวรรษที่ ๑๘ ต่อกับต้นศตวรรษที่ ๑๙ ค่ะ

[เทาชมพู]

วงนี้ชื่อเพราะมาก Eternity ring หรือแหวนชั่วนิรันดร ออกแบบเป็นเพชรฝังเรียงกันรอบวง   ไม่ได้มีเฉพาะด้านหน้าอย่างแหวนแบบอื่นๆ

[เทาชมพู]

Eternity ring อีกแบบหนึ่งค่ะ

[เทาชมพู]

นี่คือแหวนหมั้นกับแหวนแต่งงาน

[เทาชมพู]

แหวนหมั้น เพชรรูปรี หัวแหลมท้ายแหลมแบบนี้ เรียกว่าเพชรมาคีค่ะ