๗๐ พรรษา มหาราชินี

[เทาชมพู]

To give without discrimination (ให้ โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง) คือพระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่พระราชทานแก่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO) จารึกอยู่ด้านหลังของเหรียญซีเรส(Ceres) เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณว่าเป็นพระราชินีที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ให้พ้นจากความยากไร้และความทุกข์ทั้งปวง ทรงพระเจริญ

[เทาชมพู]

สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัสครั้งหนึ่งว่า " พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า" "ยอมเหนื่อย..แต่ละปี  ไม่อยากให้เวลาผ่านไปเฉยๆ   ไปที่ไหนขอให้ได้ผลดีต่อราษฎร" ในแต่ละจุดที่เสด็จพระราชดำเนิน จะมีราษฎรในพื้นที่ และจากอำเภอใกล้เคียงมาเฝ้าฯรับเสด็จกันมากมาย   สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๔-๕ ชั่วโมง ในการพูดคุยซักถามถึงชีวิตความเป็นอยู่จากพวกเขาโดยตรง คราวหนึ่ง ชาวบ้นคนหนึ่งทูลขออ่างเก็บน้ำ เขาทูลว่าถางป่าไปแล้วถึง ๕๐ ไร่   แต่ทำการเพาะปลูกได้เพียง ๕ ไร่ เพราะไม่มีน้ำ เป็นโอกาสให้ทรงอธิบายถึงโทษของการทำลายป่า   รับสั่งว่าต่อไปนี้ถ้าไม่จำเป็น  ขอไม่ให้ตัดต้นไม้  ไม่ให้ถางทำลายแม้แต่วัชพืช   เพราะนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ไม่มีฝน  ไม่มีน้ำ รับสั่งสอนเขาว่า -"การรักษาป่า "คือการรักษาแหล่งเก็บน้ำใต้ดิน -เมื่อฝนตก  ต้นไม้จะช่วยดูดซับน้ำเก็บไว้ทั้งที่ราก  ลำต้น และกิ่งก้าน   ทำให้เกิดความชุ่มชื้น   ซึ่งเมื่อระเหยไปในอากาศ  ไปกระทบกับความเย็นข้างบน   ก็จะตกลงมาเป็นฝนอีก  เวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้ -การตัดต้นไม้...ทำลายป่า..เป็นการลดความชุ่มชื้น   พวกเรามนุษย์นี่เองเป็นผู้ที่ทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล -ประเทศของเราไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ   ไม่มีน้ำละลายจากหิมะ เช่นในประเทศเพื่อนบ้าน    เราต้องอาศัยน้ำจาก "ฝน" เพียงแหล่งเดียว -"น้ำ" เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลก  ไม่ใช่เพชร   เพราะน้ำมีจำกัด  ไม่มีเพิ่มขึ้น -"น้ำคือชีวิต" ไม่มีชีวิตไหนดำรงอยู่ได้ถ้าขาดน้ำ   ทรงย้ำถึงคุณค่า และความหายากของน้ำ ทรงให้ความรู้ว่าป่าและต้นไม้เป็นแหล่งเก็บ   และก่อให้เกิดน้ำตามธรรมชาติ ทรงให้ความหวังว่า ช่วยกันปลูกต้นไม้  ช่วยกันรักษาป่า ผ่านฝนอีกไม่กี่ครั้งก็คงจะมีน้ำบ้างแล้ว ไม่เคยทรงเหน็ดเหนื่อยที่จะรับสั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เพื่อให้ราษฎรที่มีความรู้น้อยเกิดความเข้าใจ จาก หนังสือ "น้ำพระทัยไม่เคยแล้ง" โดย ท่านผู้หญิงมณฑินี  มงคลนาวิน

[เทาชมพู]

อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์มาให้ชมโดยทั่วกันค่ะ

[เทาชมพู]

พระบรมฉายาลักษณ์ ณ เมืองโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๒

[เทาชมพู]

พระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ภาพฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓

[เทาชมพู]

พระบรมฉายาลักษณ์ An Evening on Doi Pui ภาพฝีพระหัตถ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายเมื่อพ.ศ. ๒๕๑๑

[เทาชมพู]

พระบรมฉายาลักษณ์ ภาพฝีพระหัตถ์ Winter Time

[เทาชมพู]

ทรงฉายพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

[เทาชมพู]

พระบรมฉายาลักษณ์ ภาพฝีพระหัตถ์

[เทาชมพู]

พระบรมฉายาลักษณ์  ภาพฝีพระหัตถ์ ทรงฉาย ณ  ภูพาน  พ.ศ. ๒๕๒๔ ชมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ และภาพฝีพระหัตถ์อื่นๆได้ที่  http://kanchanapisek.or.th/kp8/art/fe_photog_lib.html

[ฝอยฝน]

 ทีฆายุกา โหตุ มหาราชินี

 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

[Little Sun]

ทีฆายุกา โหตุ มหาราชินี ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

[ทองรัก]

 ทีฆายุกา โหตุ มหาราชินี

ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

[นิลกังขา]

 Long live HM the Queen.

[ป่านแก้วและใยไหม]

 ทีฆายุกา โหตุ มหาราชินี

ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ