วันนี้มีนิทานมาฝากทุกท่านขอรับ เป็นนิทานที่วันหนึ่งติ๊งต๊องกลับมาจากการเรียนหนังสือ พบว่า มีจดหมายซองสีน้ำตาลสองฉบับส่งมาให้ ติ๊งต๊องดูชื่อที่อยู่ผู้ส่งแล้วอดยิ้มไม่ได้เพราะคิดว่า วันนี้คงมีนิทานแปลกพิศดาร ที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาให้อ่านอีกแล้ว ติ๊งต๊องรีบเข้าไปในห้องเมื่อเปิดจดหมาย พบกระเช้าผลไม้กระดาษสวยงามสองกระเช้าและมีผลไม้กระดาษหลายชนิดที่มีตัวอักษร บอกเล่านิทานที่จะเอามาฝากทุกท่านในที่นี้
ผลไม้แต่ละลูกจะมีอักษรกำกับว่า น้ำคำของละเมอหา ติ๊งต๊องทวนคำในใจแล้วอดคิดถึง ท่านละเมอหาไม่ได้ สำหรับติ๊งต๊องที่ไม่ค่อยจะเต็มสลึงมากนัก ท่านละเมอหา เป็นบุคคลที่ติ๊งต๊องเคารพยกย่องท่านเป็นกวีแห่งโลกลี้ลับ กวีแห่งแดนสนธยา กวีที่ไม่เคยเปิดตัวให้โลกเห็นถึงผลงานเขียนที่มีมากมายเป็นหีบ ๆ
เสี้ยวหนึ่งของโลกนี้ที่มีแต่ความวุ่นวายสับสน แต่เสี้ยวที่ท่านละเมอหาอยู่แม้จะเป็นผืนเดียวกัน แต่ดุจโลกลี้ลับ ห่างไกลจากความวุ่นวายทั้งปวง ดั่งที่ท่านละเมอหา พูดว่า ฟ้าสีฟ้าป่าสีเขียวเสี้ยวเดือนฉาย ติ๊งต๊องเคยถามท่านละเมอหาว่า เหตุใดจึงไม่ส่งงานเขียนของท่านให้โลกได้รับรู้บ้าง
หากแต่ท่านละเมอหาบอกว่า กฏเกณฑ์ของวงการวรรณกรรมมีมาก สู้เขียนไว้ให้ตัวเองอ่านดีกว่า เพราะจะเขียนอะไรก็ได้ ติ๊งต๊องเสียดายมาก แต่ก็อดภูมิใจนิด ๆไม่ได้ที่มีโอกาสได้อ่านผลงานที่แปลกแหวกแนวของท่านละเมอหา......วันนี้ชายโม้มากไปหน่อย เข้าเรื่องเลยดีกว่านะขอรับ อ้อ..นิทานร้อยกรองเรื่องนี้ยังไม่จบ ชายไม่รู้ว่าจบถึงไหน แต่จะพยายามไปขุดสมบัติของท่านละเมอหามาให้อ่านยามว่างนะขอรับ
.........................................................................................................
@บทนำและการเดินทางเข้าสู่คัมภีร์มยุรเวทย์@
ละเมอหาพาฝันที่บรรเจิด
ดุจดั่งเปิดห้องสมุดวิสุทธิ์ศรี
แหล่งข้อมูลของละเมอหาป่าพงพี
ละเมอหาพบที่แคว้นเชียงตุง
พ.ศ.2537
ไม่กล่าวเท็จเมษาสวดพาหุง
ไปธุดงส์พม่าธรรมผดุง
เพื่อหมายมุ่งธรรมา ณ บ้านประหร่องไพร
16-26 เมษายน
เดินดั้นด้นแดนดินถิ่นธรรมไข
จากพระธาตุตุงคำงามวิไล
แล้วผ่านไปสู่ย่านบ้านเอิบช้าง
ทำความเพียรกราบไหว้ไตรสิกขา
ได้พบว่าแหล่งความรู้สู่สรรพสิ่ง
ห้องสมุดส่วนตัวใหญ่จริงจริง
ทำจิตนิ่งกราบพระธุระค้นคว้า
พบผลงานสั่งสมไว้ในอดีต
ดุจสังคีตคอยบรรเลงศาสตร์ภาษา
ธรรมชาติ พงพี สกุณา ดวงดารา
ยังเจิดจ้าเป็นปัจจุบันนิรันดร