เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
อ่าน: 39657 เทพเจ้าของฮินดู
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
 เมื่อ 05 มิ.ย. 02, 07:12


ไปเจอภาพเทพเจ้าของฮินดู ที่ไทยเรารับเข้ามาในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง
เลยเอามาให้ชมกันค่ะ ว่าแตกต่างจากภาพของไทยมากน้อยแค่ไหน
ประเดิมด้วยพระคเณศ (Ganesha)
เทพเจ้าองค์นี้ผิดจากองค์อื่นๆที่รูปร่างเป็นมนุษย์  ตรงที่ท่านมีเศียรเป็นช้าง ร่างเป็นคน
เป็นเทพแห่งความรู้   ศิลปวิทยาการ    เทพแห่งอุปสรรค    ใครมีอุปสรรคบูชาพระคเณศก็จะข้ามพ้นไปได้
เป็นเครื่องหมายของมหาวิทยาลัยศิลปากร และกรมศิลปากร
ในวรรณคดีไทยบอกว่าเป็นโอรสพระอิศวรกับพระอุมา
มีบทละครเรื่อง พระคเณศร์เสียงา เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 09:48


ส่วนภาพนี้คือพระพรหมค่ะ  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 09:50


พระอิศวรกับพระอุมา
พระอิศวร หรือศิวะ ทรงเกล้าผมแต่งหนังเสือแบบโยคี
ทัดพระจันทร์เสี้ยวเป็นปิ่น  มีสายน้ำขาวๆคือแม่พระคงคาอยู่บนผม
ถือตรีศูล
ตรงกับที่วรรณคดีไทยบรรยายไว้ค่ะ  
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 09:52


พระราม พระลักษมณ์ นางสีดา และหนุมาน  
บันทึกการเข้า
สร้อยสน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 143

ลูกจ้าง รัฐวิสาหกิจ


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 12:09

 จำได้ว่าพาหนะของพระคเณศ(หรือพระพิฆเณศ?) เป็นหนูใช่มั้ยคะ ก็แปลกดีนะคะ เพราะตามธรรมดา ธรรมชาติของช้างจะกลัวหนู
รูปของไทยรู้สึกจะมีทีรัดเอวด้วยมังคะ เคยมีใครบอกไม่ทราบว่า พระพิฆเณศชอบขนมต้ม เสวยจนท้องแตกเลยต้องมีสายรัดท้อง(รู้สึกว่าฟังจากคุณย่าน่ะค่ะ)
บันทึกการเข้า
สร้อยสน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 143

ลูกจ้าง รัฐวิสาหกิจ


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 12:21

 อ้อ คุณเทาชมพูคะ ดิฉันได้อ่านห้องสิน พงศวาดารจีน ยุคราชวงศ์เชียวตอ่ราชวงศ์จิว รู้สึกว่าท่านผู้ประพันธ์ภาษาไทย คงชินกับคตินิยม เทพเจ้าฮินดู ก็เลยระบุถึงพระอิศวรเข้าใจว่าแทนเง็กเชียนฮ่องเต้  และกล่าวถึงพญานาคแทนมังกรค่ะตรงนี้เห็นว่าแปลกดีเลยนำมาเรียนให้ทราบเป็นข้อน่าสังเกต  แต่เดาว่าคุณเทาชมพูคงเคยอ่านพงศาวดารชุดนี้แล้ว
บันทึกการเข้า
ทองรัก
พาลี
****
ตอบ: 390

นักวิจัย


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 12:30

 เคยทราบเหมือนคุณสร้อยสนค่ะว่าพระคเณศชอบขนมต้ม ยังจำได้ว่าตอนที่เรียนอยู่ที่ศิลปากร เวลาที่ใกล้สอบที่เทวาลัยพระคเณศจะมีนักศึกษานำขนมต้มมาบูชาเต็มไปหมด (สงสัยจะอธิษฐานด้วยว่าขอให้สอบได้ )
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 13:18

 เคยอ่านพบใน คนแซ่หลี ของอาจารย์สุกิจ นิมมานเหมินท์  ท่านสันนิษฐานว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ก็คือพระอิศวรนั่นเองละค่ะ เป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมจากอินเดียมาจีน
เง็กเซียนฮ่องเต้หมายถึง พระผู้เป็นเจ้าบนภูเขาหยก   หยกในที่นี้สีขาวไม่ใช่เขียวค่ะ

พระอิศวร มีชื่อเรียกอื่นๆหลายชื่อ  หนึ่งในจำนวนนี้ ในโองการแช่งน้ำเรียกว่า พระจอมผาเผือก  หมายถึงพระเจ้าบนภูเขาขาว
เขาขาวหมายถึงเขาไกรลาสน์

นาค มังกร  คือตัวเดียวกันค่ะ  อยู่อินเดียเป็นนาค อยู่จีนเป็นมังกร  แต่มีการดัดแปลงต่อเติมภายหลังจนพฤติกรรมและรายละเอียดต่างกันไป
เรื่องขนมต้ม  ปกติใช้บวงสรวงเทวดาอยู่แล้วค่ะ ถือเป็นของหวานๆ กินแล้วเย็น ไม่ร้อน  ไม่มีเนื้อสัตว์เจือปน

ห้องสินเป็นเกร็ดพงศาวดารจีนที่หาอ่านยากมาก    ดิฉันเคยทำเปรียบเทียบเรื่องอภัยนุราชของสุนทรภู่ซึ่งได้อิทธิพลจากห้องสิน
แม่ทัพฝ่ายดีชื่อเกียงจูแหย ค่ะ
บันทึกการเข้า
Linmou
อสุรผัด
*
ตอบ: 5

ระดับการศึกษา ปริญญาตรี ขณะนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาโท คณะประวัติศาสตร์ วิชาเอกประวัติศ


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 23 พ.ค. 02, 22:20

 เข้ามาอ่านเทพฮินดูด้วยคนค่ะ
ไม่เคยอ่านห้องสิน จึงไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร อยู่ยุคไหน  

แต่เรื่องมังกรนี่ คิดว่าเป็นคนละชนิดกันนาคนะคะ
เคยอ่านหนังสือ "ประวัติศาสตร์จีน" ที่เขียนโดยศ.ป๋ายโซ่วอี๋ ท่านเขียนไว้ว่ามังกรของจีนมีวิวัฒนาการมาจากจระเข้ ดังนี้

"จุดกำเนิดของมังกรคือ เผ่าไท่เฮ่า ซึ่งตั้งรกรากอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำหวยเหอ

เนื่องจากเผ่าไท่เฮ่า(ฟ้าใหญ่ ที่เป็นเผ่าพันธมิตรของชือโหยว เผ่าที่เป็นศัตรูกับเผ่าจักพรรดิเหลือง ซึ่งอยู่ในประวัติศาสตร์เมื่อไม่ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ ปีก่อน)เผชิญคุกคามจากอุทกภัยมาเป็นเวลานาน ด้วยความสามารถอันจำกัด ทำให้พวกเขามิอาจป้องกันภาวะอุทกภัยนี้ได้

 เหล่าจระเข้ที่อาศัยอยู่บริเวณตอนกลางและตอนล่างแม่น้ำแยงซีเกียงจึงกลายเป็นสัตว์ที่ผู้คนกลัวเกรงมากที่สุด เพราะกลัว จึงได้กราบไหว้ มังกรจึงถือกำเนิดจากจระเข้ด้วยประการฉะนี้"

อ่านมาแค่นี้ล่ะค่ะ    
บันทึกการเข้า
คุณพระนาย
มัจฉานุ
**
ตอบ: 85

Graduate Student New Mexico Institute of Mining and Technology, Socorro, NM USA


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 24 พ.ค. 02, 00:42

 มีกระทู้ไหนไม่ทราบ บอกว่ามังกรเป็นสัตว์ผสมที่ผสมมาจากสัตว์หลายชนิดเลยครับ
ส่วนพระคเนศของอินเดียนี่วาดให้ดูหล่อกว่าพระคเนศของไทย
ตำนานพระคเนศ ที่ผมทราบนั้น เสียศรีษะแล้วก็งา นั้นเกี่ยวเนื่องมาจากพระนารายณ์ตลอด
ถ้าจำไม่ผิดพระคเนศ เสียหัวเพราะพระนารายณ์ครับ มีอยู่สองอย่างที่ได้ยินมา อันแรกคือ พระอิศวร มีเรื่องจะต้องการคุยกับพระนารายณ์ ซึ่งพระนารายณ์ท่านเวลาปกติไม่มีเรื่องอะไร ท่านจะบรรทมหลับอยู่ที่เกษียรสมุทรตลอดเวลา อันนี้น่าจะเป็นสาเหตุนึงที่พระนารายณ์ไม่มีลูกเป็นเทพครับ แต่จะมีลูกเวลาอวตารลงไปเกิดเป็นมนุษย์พร้อมกับพระลักษมี
ทีนี้พระอิศวรใช้ พระคเนศซึ่งยังเป็นเด็กอยู่ไปปลุกพระนารายณ์ขึ้น เข้าใจว่าพระคเนศยังเด็กอยู่ ไม่รู้จักฤทธิ์พระนารายณ์ ไปปลุกยังไงไม่ทราบ ไม่ถูกวิธี พระนารายณ์ตื่นขึ้นมา ก็เลยทรงกริ้ว แล้วก็ปล่อย จักรของพระองค์ออกไปทันที โดนหัวพระคเนศขาดไปเลยครับ ทีนี้ ก็เลยต้องไปตามสัตว์ที่เพิ่งตายในวันนั้นมาต่อ แล้วก็ได้หัวช้างนี่แหละครับที่มาต่อ
ทีนี้อีกตำนานที่ได้ยินมา คือ พอพระเคนศ โตขึ้น พระอิศวรกับพระอุมา ก็จะจัดงานโกนจุกให้ลูกชาย แล้วก็จะเชิญ เทวดาใหญ่น้อยทั้งปวงมาร่วมงาน แล้วก็ส่งเทวดาไปเชิญพระนารายณ์มาด้วย แต่ว่าพอไปปลุกพระนารายณ์ขึ้นมา ท่านก็ไม่พอใจเพราะปกติพระนารายณ์จะตื่นนอนเนี่ย ต้องเรื่องใหญ่ จะไปช่วยโลกหรืออะไรทำนองนั้นน่ะครับ พระนารายณ์ก็เลยตรัสมาว่า แค่เรื่องตัดผมของเด็กคนเดียวต้องมาปลุกเรา ถ้าเด็กนี่ไม่มีหัวคงไม่ยุ่งขนาดนี้
ทีนี้วาจาพระนารายณ์นั้น เป็นศํกดิ์สิทธิ สิครับ พูดว่าไม่มีหัวปั้บ หัวพระคเนศ ก็หายไปทันที จะแก้คำพูดคืนก็ไม่ได้
แล้วก็เลยต้องไปหาคนหรือสัตว์ที่เพิ่งตาย ในวันนั้นมาต่อให้ ก็เลยได้ หัวช้างขึ้นมาแทน
ไว้เดี๋ยวมาเล่าเรื่องงา พระคเนศต่อ ครับ ตอนนี้มันยาวแล้ว
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 24 พ.ค. 02, 00:55

 มาสวัสดีแม่นางหลินครับ

เคยเห็นเรื่องจีนเก่าๆ ในภาษาไทยแปลเทวดาจีนเป็นพระอิศวรเหมือนกัน อีกองค์หนึ่งคือพระอินทร์ พงศาวดารจีนรุ่นเก่าตั้งแต่ครั้งสร้างโลก คือเรื่องที่ไทยเรียกว่า ไคเภ็ก นั้น พูดถึงปฐมเทวดาที่สร้างโลกขึ้นดูเหมือนชื่อ คุนต่อเป็งชาน้า และแปลให้ตำแหน่งไว้ด้วยว่าคือ "ท้าวโกสีย์" ก็คือคนแปลลากให้เป็นพระอินทร์ แต่ผมยังค้นไม่เจอว่าไคเภ็กตรงกับตำนานจีนเรื่องอะไร ไม่ใช่เรื่องเจ้าแม่ Nu Wa สร้างโลกซ่อมท้องฟ้าครับคุณหลิน (มีตำนานเรื่องท้องฟ้ารั่ว เจ้าแม่ Nu Wa ต้องปะฟ้า) เป็นเรื่องอะไรก็ไม่รู้
บันทึกการเข้า
สร้อยสน
ชมพูพาน
***
ตอบ: 143

ลูกจ้าง รัฐวิสาหกิจ


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 24 พ.ค. 02, 06:54

 มารอฟังเรื่องพระพิฆเณศต่อค่ะ
งาของพระคเนศต้องมีข้างขวาข้างเดียวใช่ไหมคะ

เคยคุยกันว่า เทพเจ้าของกรีก ก็ดูจะมีส่วนคล้ายเทพเจ้าฮินดู นะคะ อาจจะมีพื้นฐานเดียวกันหมดแต่แตกออกไปเมื่อเวลานานเข้าก็เลยเป็นคนละองค์ไป

ทางจีนมีเทพเจ้าที่หัวเป็นช้างไหมคะ ดิฉันคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นรูปพระคเนศแต่งเสื้อแบบจีนค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 24 พ.ค. 02, 09:02

 ตำนานเรื่องนาค จระเข้ มังกร  มีที่มาเดียวกัน ได้มาจากคำวิเคราะห์ของเสฐียรโกเศศค่ะ  
พอเปลี่ยนสัญชาติไปอยู่คนละประเทศก็ต่อเติมกันภายหลังจนรูปร่างและบทบาทแตกต่างออกไป

เรื่อง ห้องสิน ต้นฉบับขาดหายไปในหน้าต้น   จึงไม่ทราบชื่อผู้แปล ตลอดจนปีพ.ศ. ที่แปล   แต่มีการอ้างถึงไว้ในพงศาวดารจีนเรื่อง เลียดก๊ก  ว่า  หลวงลิขิตปรีชาเจ้ากรมอาลักษณ์เป็นผู้ชำระ     นำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
 
     เนื้อเรื่องของห้องสิน มีอยู่ว่า สมัยปลายราชวงศ์แฮ่  พระเจ้าติวอ๋องเสด็จไปคำนับศาลเจ้าของเทพธิดาหนึงวาสีตามธรรมเนียมที่กษัตริย์ก่อนหน้านี้เคยปฏิบัติมา   พระเจ้าติวอ๋องเห็นรูปเทพธิดาหนึงวาสีงดงามมาก  จึงเขียนโคลงชมเชยว่าถ้าเป็นนางมนุษย์จะรับไปเป็นมเหสีครองเมือง  
เทพธิดาหนึงวาสีโกรธว่าเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น  นางจึงเรียกปีศาจเสือปลา ปีศาจไก่  ปีศาจพิณมา  ให้ไปทำอุบายให้พระเจ้าติวอ๋องลุ่มหลงจนเสียบัลลังก์เป็นการลงโทษ  
ปีศาจเสือปลาจึงไปฆ่านางงามชื่อนางขันกี ซึ่งถูกส่งตัวจากหัวเมืองเข้ามาเป็นนางสนมในวัง แล้วเข้าสิงในตัวนาง  
เมื่อนางเดินทางมาถึงในวัง  พระเจ้าติวอ๋องเห็นนางมีหน้าตางดงามคล้ายเทพธิดาหนึงวาสีก็โปรดปรานมาก  
นางขันกีทำมารยาให้พระเจ้าติวอ๋องลุ่มหลง  สั่งประหารขุนนางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะขุนนางที่ล่วงรู้ว่านางเป็นปีศาจเสือปลา  
นอกจากนี้  ยังยุยงให้ควักนัยน์ตานางเกียงฮองเฮามเหสีเอกจนถึงตาย  อินหองอินเฮาราชบุตรทั้งสองถูกสั่งประหารชีวิต  แต่เทพยดามาช่วยให้หนีไปได้  
หลังจากนั้นแผ่นดินเสื่อมโทรมลงอย่างหนัก  ปีศาจทั้งหลายจับคนในวังกินเป็นอาหาร  บ้านเมืองเดือดร้อน  เกิดศึกสงคราม  
มีผู้วิเศษชื่อเกียงจูแหยเป็นแม่ทัพฝ่ายตรงข้าม  สามารถปราบปีศาจทางฝ่ายนางขันกีได้  จนพระเจ้าติวอ๋องต้องสูญเสียบัลลังก์และสิ้นพระชนม์ในที่สุด   นางปีศาจขันกีก็ถูกเทพธิดาหนึงวาสีลงโทษที่กระทำการชั่วร้ายเกินกว่าเหตุ                                                            

     เรื่อง  ห้องสิน คงจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่กวีไทยร่วมสมัย   และกลุ่มคนที่แปลก็คงเป็นกวีช่วยแต่งวรรณคดีเรื่องอื่นๆด้วย  จึงมีการเอ่ยอ้างถึงใน เสภา ขุนช้างขุนแผน ตอน ๔๓ พลายชุมพลปราบจรเข้เถรขวาด    
กล่าวถึงประชาชนที่มามุงดูการต่อสู้ระหว่างพลายชุมพลกับจระเข้แปลงด้วยความตื่นเต้นที่เห็นอิทธิปาฏิหาริย์พันลึกพิสดาร ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน   จนคนจีนที่มาดูออกปากเปรียบเทียบว่า
 
          เมื่อครั้งเกียงจูแหยแก้กลศึก        ก็รบกันครืนครึกกระบวนผี
     แต่เป็นการนานช้ากว่าพันปี         เราได้เห็นครั้งนี้เป็นบุญตา

ไม่ทราบว่าสำเนียงจีนที่ถอดออกมาในเรื่องนี้เป็นสำเนียงฮกเกี้ยนหรืออะไรคะ
บันทึกการเข้า
อ้อยขวั้น
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

ทำงานบริษัทเอกชน


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 24 พ.ค. 02, 09:41

 เหมือนเคยได้ยินมาว่าพระนารายณ์โกรธอะไรพระคเนศสักอย่าง  เลยตรัสว่า "ไอ้ลูกหัวหาย......."  ศีรษะพระคเนศเลยหายตามคำ  จนต้องไปหาหัวอื่นมาแทน  คนที่ไปหาหัวเดินไปเจอหัวช้างก็เลยเอามาใส่ให้แทน  คล้ายๆ จะมีเวลาเป็นเงื่อนไขด้วยว่าต้องหามาให้ทันเวลาที่จำกัดน่ะค่ะ
บันทึกการเข้า
ศศิศ
พาลี
****
ตอบ: 326


อหังการ์ ล้านนาประเทศ


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 24 พ.ค. 02, 10:03

 เรื่องห้องสิน คงคุ้นกับเรื่อง "นาจา" น่ะครับผมคงได้ดูกันนะครับสำหรับเรื่องนี้ อยู่ในปลายสมัยราชวงศ์ซาง/อิน/อินซาง
"ราชวงศ์ซางมีกษัตริย์ ๓๐ องค์ กษัตริย์องค์สุดท้ายชื่อ พระเจ้าอินโจวหรือโจ้ว (ติวอ๋อง) ซึ่งในประวัติศาสตร์ประณามไว้ว่า เป็นคนโหดร้ายทารุณมาก นิยมการสงคราม และหลงใหลในอิสตรี โดยเฉพาะสนมเอกชื่อ ต๋าจี หรือขันกี ซึ่งเป็นคนวิปริตผิดมนุษย์ คอยยุยงให้โจ้วฆ่าคนเป็นผักปลา สร้างสระเหล้าดงเนื้อขึ้น (เอาน้ำเหล้ามาใส่ในสระ แล้วเอาเนื้อสัตว์มาห้อยไว้ตามต้นไม้) ต่อมา โจวอู่หวัง เจ้าผู้ครองแคว้นโจว ทางตะวันตก ได้ยกทัพมาปราบโจ้วอ๋อง โดยอ้างว่า ได้รับ "อาณัติ" หรือ "เทียนมิ่ง" จากสวรรค์ให้มาปราบ และได้ชัยชนะ โจ้วอ๋องจึงฆ่าตัวตายโดยกระโดดลงกองไฟ แต่จริงๆ แล้ว นักประวัติศาสตร์ยังไม่แน่ใจนัก ว่าโจ้วอ๋องจะโหดร้ายเช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน รวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับต๋าจีด้วย
      เรื่องราวในตอนท้ายราชวงศ์ซางนี้ ได้มีการนำไปแต่งเป็นนิยายหลายเรื่อง หนึ่งในเรื่องนั้นก็คือ "นาจา" นั่นเอง และหนังสือพงศาวดารชื่อว่า "ฮ่องสิน" โดยจะเน้นหนักไปทางอิทธิปาฏิหาริย์เสียมาก"

จาก http://jthai.virtualave.net/liofan/history.htm

ส่วนเรื่องพระพระพิฆเณศ
เคยได้ยินเพิ่มมาอีกเรื่องหนึ่ง คือ ครั้งเมื่อพระแม่อุมา ได้ทรงอาบน้ำ ได้ขัดถูขี้ไคล และทรงเอาขี้ไคลนั้นมาปั้นเป็นกุมารคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ พระพิฆเณศ นั่นเอง (สงกะสัย จะชอบซักแห้ง อาบน้ำทีขี้ไคลมาปั้นได้เลยนิ อิอ) พระแม่อุมา เลยให้ พระพิฆเณศ เฝ้าหน้าห้องประจำ ครั้งหนึ่ง จำไม่ได้ว่าพระแม่กำลังทำอะไรอยู่ ได้สั่งให้พระพิฆเณศ ว่าห้ามให้ใครเข้าพบ
ส่วนพระอิศวรก็ได้มาหาพระแม่ พอดี พระอิศวรก็ไม่ทราบว่า พระพิฆเณศ บุตร (อันเกิดจากขี้ไคล...)ของพระแม่ พระองค์จะเข้าไปหา แต่ถูกพระพิฆเณศห้ามไว้ไม่ให้เข้าไปด้วยความซื่อ
พระอิศวรถูกขัดขวางก็โกรธ จึงบั่นหัว พระพิฆเณศ หัวกระเด็นไปตกที่ไหนไม่ทราบ แต่พอทราบเรื่องราวจากพระแม่ พระองค์จึงออกตามหาหัวที่บั่นนั้น แต่หาอย่างไรก็หาไม่พบ แต่พบช้างเชือกหนึ่ง นอนตายหันหัวไปทางทิศตะวันตก (เขาจึงห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศของคนตาย) จึงตัวหัวช้างนั้น มาต่อ
ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะครับผม เพราะได้ยินมาอย่างนี้เพิ่มอีกแบบหนึ่ง แต่ตำนานข้างบนก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน ๆ
บันทึกการเข้า

- ศศิศ -
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง