เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 8237 นำเที่ยววัดปทุมวนาราม
bookaholic
ชมพูพาน
***
ตอบ: 145


 เมื่อ 22 พ.ค. 02, 13:38

 ขอลองตั้งกระทู้ครับ จะล่มซะอีกหรือเปล่ายังไม่รู้

ใครรู้จักวัดปทุมมั่งครับ
ถ้าไม่รู้จัก   นัดเจอกันที่สยามดิสคัฟเวอรี่  ง่ายดี    
หรือจะไปรอผมที่สยามเซนเตอร์ก็ได้

จากตรงนั้นสมมุติว่าเราจะเดินไปเวิร์ลเทรดด้วยกัน   ก็พากันยกกลุ่มเดินผ่านโรงแรมสยามอินเตอร์
พ้นจากนั่นปั๊บ ก็คือวัดปทุมวนาราม    ตะนี้สังเกตเห็นยังครับ   มีวัดอยู่ตรงนี้วัดนึง

ผมเคยเข้าไปนั่งเล่นในวัดนี้สมัยเรียน เพราะร.ร.เก่าอยู่ไม่ไกล  เดินไปก็ถึง   เป็นวัดเงียบๆ ไม่ค่อยมีคน   สบายดีมีต้นไม้ใหญ่  ไม่ค่อยร้อน

ถ้าใครนั่งยานเวลาของโดเรมอนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 4 จะพบว่าตรงสยามเซนเตอร์กับรอบๆแถวนั้นเป็นทุ่งนาสลับป่านอกกำแพงเมือง   จะเหมือนปี 2002 ก็ตรงมีคลองแสนแสบ ซึ่งขุดแล้วตั้งแต่รัชกาลที่ 3  

สมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงสถาปนาวัดนอกกำแพงเมือง เป็นวัดฝ่ายธรรมยุต ขึ้น 2 วัดคือวัดบรมนิวาส   กับวัดปทุมวนาราม  บางทีก็เรียกว่าวัดสระปทุมหรือวัดสระ เฉยๆ
วัดปทุมวนารามสมัย 150 กว่าปีก่อน เป็นวัดป่า รอบๆมีสระบัว เกาะและละเมาะไม้ครึ้ม   พระเจ้าอยู่หัวโปรดที่จะเสด็จประพาสมาแถวนี้ เพื่อสำราญพระอิริยาบถ  

มีผู้คนอาศัยอยู่นอกกำแพงเมืองน้อยมาก   เพราะการคมนาคมยังลำบาก     ชาวบ้านแถวสยามเซนเตอร์และสยามสแควร์เป็นพวกลาวล้านช้างซึ่งถูกกวาดต้อนมาในรัชกาลที่ 3 หลังชนะศึกเจ้าอนุวงศ์แล้ว
(ก็ศึกวีรกรรมย่าโมอ่ะครับ)

สมัยโน้นตรงข้ามกับสมัยนี้    ถ้าเจ้านายของบ้านเมืองสมัยก่อนเกิดมาเห็นว่าสมัยนี้ กว่าจะเข้าไปในอีกประเทศนึงได้  ต้องขอวีซ่า สเตทเม้นท์จากแบ๊งค์  ทรานสคริป   เผลอๆสัมภาษณ์ที่สถานทูตกันแทบปางตาย แล้วไม่ให้ไปซะอีก  ท่านคงหัวร่อกันฟันหัก

เพราะสมัยท่าน  ชอบนักหนาให้คนจากอีกดินแดนเข้ามาในอยู่อาณาจักรของตัว   ก็ไม่ค่อยจะมีใครอยากมา  
ต้องไปทำศึก พอชนะ ก็ออกเพอมาเน้นท์วีซ่าฟรี แถมกรีนคาร์ด   เอาประชาชนในดินแดนที่แพ้สงคราม มาอยู่กับตัวด้วย   ให้ทำมาหากินไปชั่วลูกหลานไม่ต้องกลับบ้านเดิม  

สมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงสร้างวังเล็กๆชื่อวังสระปทุมไว้บริเวณนี้  พร้อมคลองระบายให้น้ำเข้าชื่อคลองอรชร   พระราชทานนามว่าตำบล
ปทุมวัน  
ส่วนวัด  ทรงสร้างพระราชทานสมเด็จพระเทพศิรินทราฯ  พระมเหสี

วัดนี้มีเจ้าอาวาสคนแรกเป็นชาวล้านช้าง  เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านแถวนั้นเป็นอย่างดี
ที่สำคัญใครชอบศิลปะไทย  ควรดูภาพผนังโบสถ์  วาดด้วยศิลปินสมัยรัชกาลที่ ๔  เป็นภาพสะท้อนให้เห็นความเป็นอยู่ สมัยนั้น
ที่สำคัญหาได้ที่เดียวคือเรื่องราวของศรีธนนไชยเชียงเมี่ยง   วาดเอาไว้ครับ
เป็นสื่อความเข้าใจระหว่างวัดกับชาวบ้านได้ดี เพราะเรื่องนี้ล้านช้างรู้จักกันมาแต่เดิม

ฝีมือวาดภาพของศิลปิน  แตกต่างจากสมัยรัชกาลที่ ๓   ตรงที่เริ่มเห็นเค้าศิลปะตะวันตกกลายๆ
มีรูปตึกแบบฝรั่ง ทหารฝรั่ง เรือสำเภาฝรั่งเข้ามาปะปนในบ้านเรือนและผู้คนไทยๆ
อีกอย่างคือเริ่มใช้ perspective มีภาพระยะใกล้ไกลขึ้นมาหน่อยๆแบบฝรั่ง
ภาพยังค่อนข้างดีไม่ชำรุดมากนัก สีสันยังสวย   ถ้าสนใจศิลปะไทยก็หาโอกาสไปชมกันบ้างนะครับ
บันทึกการเข้า
อ้อยขวั้น
มัจฉานุ
**
ตอบ: 60

ทำงานบริษัทเอกชน


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 พ.ค. 02, 22:17

 ขอบคุณค่ะ  เคยทำงานแถวๆ นั้นเกือบสองปี  ผ่านหน้าวัดนี้ไปมาทุกเช้าเย็น  แต่ไม่เคยแวะเข้าไปเลยค่ะ  แหะๆ  
บันทึกการเข้า
นวล
อสุรผัด
*
ตอบ: 13


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 05 พ.ค. 02, 00:36

ตามมาอ่านเจ้าค่ะ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 05 พ.ค. 02, 07:05

 ยินดีที่ได้เจอคุณบุ๊ค(จะให้เรียกเฮียบุกแหลกดีมั้ยเนี่ย เหอๆๆ)ที่เรือนไทยค่ะ

ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังค่ะ  ทำให้เข้าใจชื่อสถานที่ต่างๆแถวนั้นได้ดีขึ้น  เพราะเคยเรียนหนังสือแถวๆนั้น  เค้าเรียกตึกอรชร  เพิ่งมาโยงเข้ากันนี่เองว่า  คงตั้งตามชื่อคลอง(ที่หายไปแล้ว)นั่นเอง
บันทึกการเข้า
bookaholic
ชมพูพาน
***
ตอบ: 145


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 05 พ.ค. 02, 17:24

 มีครูมาฟัง เล่นเอาเย็นวาบๆไปตามสันหลัง
คุณพวงร้อย  บุกดีครับ แต่แหลก แหะๆ ไม่ค่อยดี
คลองอรชร เคยอยู่ริมถนนอังรีดูนังต์หรือไงเนี่ยละครับ แต่ไม่เหลือรอยมานานแล้ว

ใกล้ๆวัดเคยมีวังของกรมขุนเพชรบูรณ์ พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ ๕ แต่ว่ารื้อไปแล้วครับ  เจ้านายพระองค์นี้สำเร็จดนตรี เล่น Harp จากอังกฤษ
แต่พระชนม์สั้นราวๆ ๓๐ ได้   เราเคยไม่ค่อยรู้เรื่องราวท่านเท่าไหร่
บันทึกการเข้า
อำแดงริน
อสุรผัด
*
ตอบ: 22

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 05 พ.ค. 02, 20:23

 คลองน่าจะอยู่ริมถนนอังรีดูนังต์นะคะ
แต่ไม่ทันเห็นค่ะ ตอนไปอยู่แถวนั้น ยังทันแค่ตึกอรชร
แต่ก็ใกล้รื้อแล้ว  
บันทึกการเข้า
นนทิรา
มัจฉานุ
**
ตอบ: 77


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 06 พ.ค. 02, 14:48

 วังของกรมขุนเพชรบูรณ์ฯ เคยอยู่บริเวณที่เป็นเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ปัจจุบันค่ะ หลังจากรื้อตัวตำหนักออกแล้ว พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา พระธิดาในกรมขุนเพชรบูรณ์ฯก็โปรดให้ย้ายตัวตำหนัก 3 หลังไปปลูกใหม่ที่ถนนงามวงศ์วานซอย 2 ค่ะ เรียกกันว่าตำหนักประถม หลังจากที่พระองค์หญิงสุทธสิริโสภาสิ้นพระชนม์ไป ตำหนักประถมก็ตกทอดเป็นของม.ร.ว.สุนิดา กิติยากร พระธิดาในพระองค์หญิงสุทธสิริโสภา ฮาร์พจุฑาธุชจากอังกฤษก็เก็บรักษาไว้ที่ตำหนักประถมเช่นกัน

เดือนมกราคมของทุกปี คุณหญิงสุนิดาจะจัดงานตำหนักประถม และเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมตำหนักทั้งสามหลังรวมทั้งฮาร์พจุฑาธุชด้วยค่ะ

คุณ book นำเที่ยววัดปทุมวนารามอยู่ดีๆ ดิฉันพาเลาะไปไกลถึงงามวงศ์วานซะแล้ว
บันทึกการเข้า
bookaholic
ชมพูพาน
***
ตอบ: 145


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 06 พ.ค. 02, 21:47

 อยากไปงามวงศ์วานซะแล้วดิครับ
กรมขุนเพชรบูรณ์ จำได้แต่พระนามเดิม   เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก   ผมไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเจ้านายพระองค์นี้
สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ หรือเปล่าครับ    จำได้แต่ว่าพระเจ้าน้องยาเธอสิ้นกันรวดเร็วมาก ตามๆกันไปถึง ๖ พระองค์ในรัชกาลที่ ๖
ผมเคยดู เอ๊ะ ฟังดิ   ฟัง Harp เพราะมากครับ   เดี๋ยวนี้ยังมีใครไปเรียนอีกหรือเปล่าน้อ
บันทึกการเข้า
คุณพระนาย
มัจฉานุ
**
ตอบ: 85

Graduate Student New Mexico Institute of Mining and Technology, Socorro, NM USA


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 00:13

 ขอโทษครับ มาสายไปหน่อย อ้าวเพิ่งตามมาทันวัดปทุม จะไปฟังดนตรี ที่งามวงศ์วานกันซะแล้วเหรอขอรับ
เอ่อ คำถามครับ Harp นี่หน้าตาเป็นยังไงหรือเป็นเครื่องดนตรีแบบไหนเหรอขอรับ
ผมมาช้าไปหน่อยเพราะคุณบุ๊ค แกเล่นนัดแถวสยามผมเดินไปแถวนั้นทีไร หลงทุกที เดินไม่ถูก ตามันลายไปหมด มองซ้ายมองขวาจนเมื่อยคอ
บันทึกการเข้า
caeruleus
ชมพูพาน
***
ตอบ: 155


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 06:02

 one of my friend at school is playing harp ka - she was about 5 ft tall - don't ask me how she manged to get to the lowest note

it's very hard instrument (and expensive) so, at a guess, I think that's why it's not such a popular instrument ka. although it sounds gorgeous ยิ้ม
บันทึกการเข้า
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1012

ทำงานราชการ


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 06:15

 Welcome krab Khun Book.



I guess you can call harp "Pin Farang" krab Khun Pranai. It's a string instrument, a BIG one.
บันทึกการเข้า
ทองรัก
พาลี
****
ตอบ: 390

นักวิจัย


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 09:04

มีรูป Harp มาฝากคุณพระนายค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 09:30

คุณทองรักมี harp หลายแบบดูเพลินเลยค่ะ
ดิฉันมีภาพคนเล่นharp มาเสริมอีกทีค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 09:31


เวลาออกวง ก็จะแต่งตัวโก้แบบนี้
บันทึกการเข้า
ทองรัก
พาลี
****
ตอบ: 390

นักวิจัย


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 07 พ.ค. 02, 10:05

 รูปหนุ่มกับ Harp ของคุณเทาชมพูรูปหลังนี่ดูเท่จังค่ะ สงสัยคงเพราะเธอตัวสูงเกือบเท่า Harp กระมังคะ
ทองรักเคยอ่านบทความในนิตยสาร "ดิฉัน" ฉบับหนึ่งเมื่อนานมาแล้วค่ะ เขาบอกว่าในเมืองไทยตอนนี้มีคนเล่น Harp เป็นประมาณ 2-3 คน ถ้าจำไม่ผิดคนหนึ่งเป็นทหารเรือค่ะ  
นี่ถ้าคุณ Book กลับมาอีกรอบนึงจะต้องงงแน่เลย ที่เราพากระทู้เธอเดินเรื่อยเปื่อยออกนอกวัด ไปเข้าวัง แล้วก็วกกลับมาที่วง (ดนตรี) ซะแล้ว    
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.042 วินาที กับ 19 คำสั่ง