เรือนไทย

         เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงเลวร้ายเหมือนสายฟ้าฟาด สั่นคลอนทำลายศรัทธาในความดีงาม
ของมนุษยชาติจนจิตตก

www.hrw.org (http://www.hrw.org)

         หนึ่งในหนทางของการเยียวยายกสภาพจิตนั้นก็คือ
         การมองหาความดีงามในความเลวร้ายที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ จากผู้คนที่ยังอยู่หลัง ที่ร่วมกัน
แสดงออกถึงพลังแห่งความสมัครสมานร่วมกันปันน้ำใจ มอบกำลังใจพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
และเต็มใจ
         สมาชิกของสังคมที่บอบช้ำต่างพร้อมช่วยกันประคับประคองให้ผู้สูญเสียลุกขึ้นก้าวเดินต่อไป
ช่วยดึงจิตที่ตกให้ขยับขึ้นมาในช่วงวิกฤตนี้ ก่อนที่กาลเวลาจะทำหน้าที่ช่วยรักษาบาดแผลทั้งกายและ
ใจต่อไป

           ในขณะเดียวกัน สังคมออนไลน์ก็ได้เกิดความร่วมมือร่วมใจในการโพสท์ภาพและข้อความ
ด้วยสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและจิตใจของผู้สูญเสีย มีการโพสท์ภาพ,ข้อความเพื่อให้กำลังใจและ
ระมัดระวังการโพสท์ภาพผู้เสียชีวิตโดยไม่เซนเซอร์

         ในภาคส่วนสังคมโลก, ต่างประเทศต่างประณามการกระทำครั้งนี้ และที่หนึ่งซึ่ง
น่าหยิบยกมากล่าวถึงก็คือ คำพูดของนายกฯ ออสเตรเลียที่ได้กล่าวในสภาเมื่อวันก่อนว่า

                “Australians should continue to go to Thailand because the object of
the sorts of people who let off bombs in crowded cities is to scare us from being
ourselves and we should never be cowed or intimidated by that,”

www.theaustralian.com.au (http://www.theaustralian.com.au)

           อีกสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งมนุษย์ในยามทุกข์ทนหลายคนมองหา นั่นก็คือ เพื่อนร่วมชะตากรรม
เดียวกัน เพื่อนที่จะช่วยแบ่งปันปรับทุกข์หรือช่วยปลุกปลอบจิตใจให้กัน ทั้งยังช่วยเป็นตัวอย่างให้เกิด
มีกำลังใจเมื่อได้เห็นผู้อื่นกลับฟื้นดีวันดีคืนขึ้นมา

            บังเอิญที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 10 ปี และเพิ่งมีพิธีรำลึกถึง 7/7 Bombings ที่ลอนดอนไปเมื่อ
เดือนที่แล้ว ขอนำบางส่วนของเหตุการณ์หลังวันที่ 7 เดือน 7 ที่ชาวลอนดอนพร้อมใจกันแสดงถึงซึ่ง
พลังอันเข้มแข็งที่จะฝ่าฟันวิกฤตนั้นไปด้วยกัน
จาก http://www.huffingtonpost.co.uk/ (http://www.huffingtonpost.co.uk/)

           วันที่ 6 กรกฎาคม 2005 ชาวลอนดอนเฉลิมฉลองชัยที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก
2012

            เช้าวันรุ่งขึ้น 7 กรกฎาคม  2005 เวลา 8.49 มหานครลอนดอนสะท้านสะเทือนด้วยระเบิด
ฆ่าตัวตายที่ไม่มีใครเคยประสบพบมาก่อน แรงระเบิดก่อความเสียหายร้ายแรงที่สุดนับจากระเบิด
สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

สื่อสิ่งพิมพ์รายงานข่าว

ภาพความสูญเสีย

พร้อมคำประกาศกร้าว

       ขณะเกิดเหตุระเบิด พ่อเมืองลอนดอนตอนนั้นอยู่ที่สิงคโปร์เพื่อรับฟังผลการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพ
โอลิมปิค ที่นั่น London mayor Ken Livingstone ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่ลงท้ายด้วยประโยค
ประทับใจจนปัจจุบันว่า

                "Whatever you do, however many you kill, you will fail."

           ส่วนนายกฯ Tony Blair นั้นอยู่ในการประชุมกลุ่ม G8 summit ที่ Gleneagles, Scotland
ก็ได้กล่าวโดยลงท้ายด้วยข้อความว่า

                Whatever they do, it is our determination that they will never succeed in
destroying what we hold dear in this country and in other civilised nations throughout
the world.

จาก bbc.co.uk

          แรงระเบิดชะงักงันมหานครให้หยุดนิ่ง เครือข่ายโทรศัพท์ติดขัด ขนส่งมวลชนชัทดาวน์ แต่
ในวันต่อมาผู้คนก็เริ่มกลับมาใช้รถไฟใต้ดิน
           บาดเจ็บแต่ไม่ยอมแพ้ แม้ยังหวั่นต่อเหตุการณ์ร้ายที่อาจจะตามมา แต่ชาวลอนดอนไม่ระย่อ
ท้อทดจนหมดแรงเพราะความกลัวหรือถูกครอบงำด้วยความเกลียดโกรธ

ประกาศตอนท้ายใต้ดิน ขอความร่วมมือรายงานจนท.หากพบเห็นสิ่งของน่าสงสัย

            นสพ.ฉบับวันที่ 8 กรกฎาคมนำเสนอแต่ข่าวเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายที่ได้กลบเกลื่อน
เลือนลบความยินดีปรีดาแห่งชัยชนะที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิค
            ชีวิตยังดำเนินต่อไปไม่หยุดนิ่ง ชาวลอนดอนยังคงสัญจรไปทำงาน

              ที่บริเวณสถานี King's Cross มีประกาศตามหาสมาชิกในครอบครัวที่สูญหาย
Miriam Hyman ได้จากคนที่รักเธอไปในเหตุการณ์นี้

           บรรยากาศภายในท่อ บางคนอ่านข่าวที่(ไม่อ)ยากจะเชื่อว่าเป็นจริงจากหนังสือพิมพ์
บางคนมองไกลออกไปเบื้องหน้า จนท.ท่อแนะนำผดส.บางคนให้อยู่ที่บ้านแต่พวกเขาปฏิเสธ

          สาย Central Line ยามชั่วโมงเร่งด่วน ในตู้นี้มีผู้โดยสารผู้หาญกล้าเพียงลำพัง

            พนักงานร้าน Marks & Spencer ติดประกาศหน้าร้านว่าให้บริการเหมือนเคย

          ในขณะที่ 52 ชีวิตสูญสิ้นไป มีวีรบุรุษเกิดใหม่อีกนับร้อย หนึ่งในนั้นคือ Paul Dadge
ที่ได้ให้การช่วยเหลือเหยื่อระเบิดที่บาดเจ็บด้วยแผลไฟไหม้บริเวณใบหน้า

จาก http://www.expressandstar.com (http://www.expressandstar.com)

         ภาพใบหน้าของเหยื่อสาว Davinia Turrell ถูกปิดด้วยผืนผ้าสำหรับแผลไฟไหม้ได้กลายเป็น
ภาพสัญลักษณ์แห่งความโหดร้ายน่าสะพรึงของเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้น
         5 ปีต่อมาหลังการรักษา เธอได้เปิดเผยใบหน้าหลังผ้าผืนนั้นต่อสื่อมวลชน

จาก http://www.bbc.com (http://www.bbc.com)

             อีกหนึ่งในเหล่าวีรบุรุษคือเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานหน่วยฉุกเฉิน
             ตำรวจตรวจตราอารักขาความสงบเรียบร้อยตามท้องถนน ท่ามกลางบรรยากาศหวาดว่าอาจจะ
มีการโจมตีอีกครั้ง  
             นายกฯ แบลร์ให้สัญญาว่าจะจัด "the most intense police and security service action
to make sure that we bring those responsible to justice"

          นายตำรวจวางช่อดอกไม้ใกล้จุดเกิดเหตุรถบัสระเบิดที่  Tavistock Square

            ชาวลอนดอน บ้างวางช่อดอกไม้ บ้างเขียนข้อความไว้อาลัย,ปลอบใจผู้สูญเสีย
พวกเขาได้รับการชื่นชมต่อการรับมือกับโศกนาฏกรรมเมือง หยุดโศกเศร้าเพื่อหันมามองและ
จดจำเพื่อนร่วมเมืองผู้ตกเป็นเหยื่อ ในขณะเดียวกันก็เข้มแข็ง,ไม่หวาดหวั่นจนหมดแรง
            นายกฯ แบลร์ กล่าวชื่นชม "the stoicism and resilience of the people of London"
ยามต้องเผชิญเหตุการณ์นองเลือด

.

ขอบคุณคุณหมอ SILA อย่างยิ่งค่ะ  
ถือโอกาสใช้พื้นที่ตรงนี้ จารึกผลงานและน้ำใจของวีรบุรุษนิรนาม ในเสื้อกาวน์สีเดียวกับสมาชิกประจำหลายท่านในเรือนไทยนี้  และท่านอื่นๆที่พอรู้ข่าวก็ตรงเข้ามาช่วยกันคนละไม้ละมือ   จนอุปสรรคหลายอย่างลุล่วงไปได้ในคืนวิกฤตนั้น และคืนต่อๆมา

น้ำใจของคนไทย เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก
สื่อเยอรมันชื่นชมคนไทยเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเหตุระเบิด



พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ผู้อำนวยการหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า ได้โพสเฟซบุ๊ค Ittaporn Kanacharoen หัวข้อ "ฮีโร่" ยามรัตติกาล ระบุว่า เมืองไทยยังมีคนดีๆ มากกว่าคนเลวนะ ขอคารวะจิตใจของคนไทยที่ไม่เพิกเฉยยามบ้านเมืองยามมีปัญหา

คืนที่ผ่านมา(17 ส.ค.) เป็นคืนที่ยาวนานของคนหลายคนทั้งผู้ประสบภัย ทั้งครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งรอคอยความหวังว่าจะรักษา ญาติพี่น้องให้กลับมาเหมือนเดิมได้ และ คืนที่ยาวนานของแพทย์ พยาบาลจำนวนมากที่ช่วยเหลือ กู้ชีพคนป่วยทุกคน :โดยผู้ในหน้าที่อยู่เวรทุกโรงพยาบาล เป็นที่ทราบดีว่ามีน้อยเกินกว่าจะดูแลผู้ประสบภัยจำนวนมากพร้อมๆกัน

แต่มีแพทย์อีกกลุ่มหนึ่ง ที่หลังสิ้นเสียงระเบิดมุ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลของตนเองทั้งที่ไม่ได้ถูกร้องขอ ไม่ได้อยู่เวร เพื่อเข้าไปช่วยกันดูแลคนไข้ ด้วยจิตอาสา ในยามที่คนไข้มากมายโกลาหล ราวจลาจลด้วยคนจำนวนมาก ทั้งผู้ป่วย ญาติ จนท. ผู้สื่อข่าว ตำรวจ ท่ามกลางเสียงร้องเจ็บปวด เสียงโหยหวน อาลัย ร่ำไห้เสียใจการจากไปของคนรัก เสียงตามหาญาติตนเองที่หาย
ไป..บรรยากาศน่าหดหู่ใจยิ่งนัก

แพทย์อาสาเหล่านี้ทำให้แทบทุกโรงพยาบาลมีคนทำงานพอ มีจำนวน"หมอ"มากกว่าคนไข้ และยังช่วยกันคนละไม้ละมือ ปั้มหัวใจ ปั้มเลือด คุมเครื่องช่วยหายใจ ส่งสารพัดแล็บ เจาะท้อง เจอะปอด จนส่งคนไข้ไปผ่าตัด หรือเข้าตึก หลายคนต้องนั่งปั้มเลือดสู้กับช๊อกถึงเช้า เพียงให้คนไข้อยู่รอด บ้างก็นั่งเฝ้าคนไข้อาการหนักปรับตามอาการทุก15นาที บางส่วนต้องไปผ่าตัด และดมยาสลบในห้องผ่าตัด ทั้งที่ไม่มีเวร จนถึงใกล้รุ่งเช้า สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ปกติและคนเหล่านี้ก็ สลายตัวไปเมื่อแสงอรุณมาเตรียมกลับไปทำงานในหน้าที่ของตนเองต่อ โดยหลายคนไม่ได้นอน และไม่ต้องการเป็นข่าวใดๆ

ผมขอขอบคุณ พี่ๆน้องๆหมอกลุ่มนี้ครับ ถ้าไม่มีท่านเป็นเงาเบื้องหลัง ห้องฉุกเฉินต่างๆคงไม่สามารถรับคนไข้หนักจำนวนมาก เช่นเมื่อคืนได้แน่นอน ขอไปเอารูปบางร.พ.ที่ท่านถ่ายกันตอนจบภารกิจแอบ
มาลงนะครับ แต่คงไม่ครบทุกคนและไม่ได้ทุกโรงพยาบาล เพียงยืนยันว่าที่กล่าวมามีตัวตนจริง

ท่านคือ "ฮีโร่"ยามรัตติกาลของ"คนไข้"
 (http://www.youtube.com/watch?v=qVKwl90sBic[/url)

จิรนันท์ พิตรปรีชา

ได้มาจาก FB แต่ไม่ทราบของใครค่ะ

ชัย ราชวัตร

"คณะทำงานโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ข้อความรณรงค์ #StrongerTogether เพื่อให้กำลังใจประเทศภายหลังจากเกิดเหตุุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะ โดยเป็นธงชาติไทยและภาพเมืองในมุมสูง พร้อมข้อความว่า "OUR HOME OUR COUNTRY TOGETHER STRONGER"ทีมโฆษกสำนักนายกฯระบุว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นคนคิดขึ้นมาเองข้อความ "OUR HOME OUR COUNTRY TOGETHER STRONGER" สามารถแปลกเป็นภาษาไทยว่า "เราจะเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน เพราะที่นี่คือ บ้านของเรา ประเทศไทยของเรา""
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/social/378468353/ (http://www.nationtv.tv/main/content/social/378468353/)

 :D

 :D

น้ำใจคนไทยในยามวิกฤต  อีกรายหนึ่งค่ะ

(ต่อ)

แม้เหตุระเบิดแยกราชประสงค์เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรง แต่ในอีกมุมเหตุดังกล่าวก็ได้ทำให้เห็นถึงน้ำใจของผู้คนที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสายในการเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หนึ่งในนั้นคือบรรดาอาสาสมัครที่ทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาจีน.......

อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/report/383003 (http://www.posttoday.com/analysis/report/383003)

ทำบุญ5ศาสนาฮือฮา"พระอาทิตย์ทรงกลด"เหนือราชประสงค์
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D5%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AE%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C (http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D5%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AE%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C)

เวลา 07.00 น.(21 ส.ค.) ที่แยกราชประสงค์ บริเวณลานเซนทรัลเวิล์ด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเสริมสร้างมงคลเมือง ทำบุญศาสนา 5 ศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทและนิกายมหาญาณ อิสลาม ซิกข์ คริสต์ พราหมณ์ฮินดู โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะทูต ประชาคมราชประสงค์และประชาชนเข้าร่วมงาน

พล.อ.ประวิตร และผู้ร่วมงาน ได้ทำการสักการะท้าวมหาพรหม ขณะที่นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์อ่านบทกวี และผู้ร่วมงานได้ร่วมวางดอกไม้เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่ผู้วายชนม์ และคณะนักเรียนร้องเพลงสามัคคีชุมชุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างพิธีดำเนินอยู่ เหนือท้องฟ้าได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด ทำให้เป็นที่ฮือฮาแก่ผู้มาร่วมงาน.

ความรู้สึกของชาวจีนที่มีต่อคนไทยเมื่อเห็นภาพระดมช่วยเหลือผู้ประสบเหตุระเบิด

เหตุการณ์ระเบิดที่หน้าศาลท้าวมหาพรหม เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2015 ทำให้พี่น้องชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตและบาดจำนวนมาก  ในส่วนของชาวต่างชาตินั้น มีทั้งครอบครัวชาวจีนมาเลเซีย ชาวจีนฮ่องกง และ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่

       หลังเหตุการณ์  มีการเผยแพร่ภาพที่คนไทยร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในเว็บต่างประเทศ  ทำให้คนต่างชาติเห็นและซาบซึ้งในความกล้าหาญ ความเสียสละของคนไทยในยามวิกฤตชีวิต

       ภาพนี้เป็นภาพหนึ่งที่โพสต์ในเพจโปรโมทการท่องเที่ยวในไทย（เพจของคนฮ่องกงที่แนะนำแหล่งท่องเที่ยวในไทย) ได้ลงภาพนี้และบรรยายภาพว่า

 
       網上圖片：大批泰人去紅十字會捐血，在本地的朋友可以的話請去支持嗎？

       " คนไทยจำนวนมากพร้อมใจกันไปไปบริจาคเลือด  ถ้าเป็นไปได้อยากเชิญชวนเพื่อนๆ (ชาวฮ่องกงและชาวจีนทั่วไป) ที่อยู่ในเมืองไทยไปร่วมสมทบสนับสนุน "

       อ่านบทความเต็มได้ที่นี่ค่ะ

http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2015/08/19/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2015/08/19/entry-1)

          รวมบางภาพจากเหตุการณ์บันทึกไว้ในกระทู้นี้ครับ

แหล่งภาพ - adobotalkph.com dailymail.co.uk telegraph.co.uk scmp.com
qatarscoop.com nationmultimedia.com

          พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยไม่หวาดว่าอาจมีระเบิดลูกที่สอง,สามตามมา

           จนท.ฉุกเฉินดูแลผู้บาดเจ็บ ณ ที่เกิดเหตุ

          ก่อนนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลใกล้เคียง

           หน่วยเก็บกู้พิสูจน์หลักฐาน ในชุดที่(เขาบอกว่า) ถ้าโดนระเบิดอย่างจังก็ไม่รอดแต่
ช่วยให้ศพสวย

            อาสาสมัครล่าม มารวมตัวกันที่โรงพยาบาลตำรวจ

           ผู้คนมากมายมารอบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย

                       Live to Tell (the Tale)

              คำขวัญประจำตัวเตือนใจผู้สื่อข่าวภาคสนาม ณ จุดเกิดเหตุ

(ในภาพเป็นรายงานข่าวในห้องส่ง ThaiPBS พร้อมภาพจำลองเหตุการณ์)

             ศาลพระพรหมช่วงเช้าและเย็นหลังคืนเกิดเหตุระเบิด

          ผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ หลายคนยังอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงฝันร้าย
            
             วันนี้นสพ. The Nation เสนอสกู๊ปเรื่อง การซ่อมแซมองค์พระพรหมซึ่งช่างจาก
กรมศิลปากรได้เริ่มงานตั้งแต่วานนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไม่กี่วัน
          งานครั้งนี้นับว่ายังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายครั้งใหญ่เมื่อ 9 ปีก่อน ที่คราวนั้น
หมู่ช่างต้องใช้เวลานานร่วม 2 เดือนในการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนต่างๆ ขององค์พระพรหมที่ถูกฆ้อน
ทุบกระจัดกระจาย

.

              เช้าวันนี้(14 ม.ค. 2559) อ่านคอลัมน์ พาสปอร์ตรอบโลก ตอน มารยาทอังกฤษ(4)
โดย คุณบ๊อบ บุญหด
              คุยเรื่องมารยาทการสนทนากับชาวอังกฤษ ช่วง 'ตลกแบบอังกฤษ'  โดยได้กล่าวถึง
ตลก(ร้าย) ของชาวอังกฤษ เมื่อตอนที่เกิดเหตุระเบิดในกรุงลอนดอนครั้งนี้มาประกอบ

ขอเชิญทัศนา ครับ

และ วันนี้ เกิดเหตุโจมตีกรุงจาร์กาตา

http://www.bbc.com/news/live/world-asia-35309116 (http://www.bbc.com/news/live/world-asia-35309116)

ปี 2016  เปิดศักราชด้วยเรื่องน่าเศร้า  ภัยสงครามใกล้ตัวเข้ามาทุกทีแล้ว
ขอให้วิญญาณผู้บริสุทธิ์ ไปสู่สุคติค่ะ

เป็นข่าวทั้งในและนอกประเทศ  

           Thailand steps up security after warning of Bangkok bomb plot

theguardian.com      

 :-X

             เมื่อวันศุกร์ 21 ตุลาคมที่ผ่านไป มีรานงานข่าวเรื่องการพบวัตถุต้องสงสัยใน
สถานีรถไฟใต้ดิน North Greenwich ทางลอนดอนตอนใต้ ที่ได้นำไปสู่การควบคุมตัว
ชายหนุ่มวัย 19 ปี เพื่อสอบสวนและสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งต่อมาตำรวจก็ได้
ตรวจพบระเบิดประกอบเองในโรงรถของบ้านพักของเขา
             ทางการได้จัดพนักงานและตำรวจคอยดูแลสถานที่และขอให้ประชาชนให้
ความร่วมมือในการคอยสอดส่องรายงานเมื่อเกิดเหตุน่าสงสัย

(express.co.uk, metro.co.uk)

น่ากลัวขึ้นทุกวัน

facebook  fakebomb

          เมื่อเวลาประมาณ 20 น. ของเมื่อคืนนี้(27 ธ.ค. 2559) เฟซบุ๊คได้ส่งคำแจ้งเตือนความปลอดภัย
หรือ Facebook Safety Check ไปที่ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในระบบว่าอยู่ในกรุงเทพฯ หลังระบบของเฟซบุ๊ก
"ทราบ" ว่า เกิดระเบิดขึ้นในกรุงเทพฯ หรือ "The Explosion in Bangkok, Thailand" จากนั้นให้รายงาน
ตัวว่าปลอดภัยหรือไม่ จนสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมาก
          จากการตรวจสอบจากสำนักงานเฟซบุ๊กในสิงคโปร์ พบว่าเป็นการผิดพลาดของระบบ เฟซบุ๊กที่อ้างอิง
ข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเป็นข้อมูลเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ ระบบบกพร่องที่ไม่มีเจตนา
          เว็บไทยรัฐรายงานว่า เฟซบุ๊กกำลังเร่งตรวจสอบระบบ เบื้องต้นพบว่าเป็นการดึงข้อมูลข่าวเก่าปี 2558
มาอ้างอิงเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพมหานครจากเว็บไซต์ http://bangkokinformer.com/ ซึ่งเว็บดังกล่าว
ได้นำรายงานจากบีบีซี ในเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 มานำเสนอข่าวอีกครั้งโดย
เปลี่ยนแปลงวันที่เป็นวันที่ 27 ธันวาคม 2559

ิิ(BBC Thai)    

อดคิดไม่ได้ว่าน่าจะเป็นฝีมือแฮคเกอร์  ฟังน่าเชื่อมากกว่าระบบรวนขึ้นมาเฉยๆ

ล่าสุด มีข่าวชี้แจงดังนี้ค่ะ

https://www.beartai.com/news/it-thai-news/141606https://www.beartai.com/news/it-thai-news/141606

facebook ชี้แจง แจ้งเตือน Safety Check ในไทยถูกต้องแล้ว โดยอิงเหตุระเบิดปิงปองที่ทำเนียบ

หลังเฟซบุ๊กทำคนไทยทั้งกรุงเทพแตกตื่นว่าเกิดเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร จนเปิดระบบ Facebook Safety Check เพื่อยืนยันความปลอดภัยของผู้ใช้ในช่วงคืนวันที่ 27 ธันวาคม ล่าสุดฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊กประเทศไทยชี้แจงการแจ้งเตือนในไทยนั้นถูกต้องแล้ว โดยอ้างอิงเหตุการณ์ขว้างระเบิดปิงปองที่ทำเนียบวานนี้ และเป็นการเปิดใช้ระบบแจ้งเตือนโดยบุคคลที่สาม ไม่ใช่ทางเฟซบุ๊กเอง

การตรวจสอบความปลอดภัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทยหลังเหตุการณ์ขว้างระเบิดปิงปองนั้น เป็นไปตามการกระตุ้นการทำงานของฟีเจอร์การตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งเฟซบุ้ควางใจให้บุคคลที่สามเป็นผู้ยืนยันในเหตุการณ์ที่เกิดขี้น และให้ชุมชนเป็นผู้ใช้เครื่องมือนี้ในการแชร์กับเพื่อนๆ และครอบครัว
โฆษกของเฟซบุ๊ก

ดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊กกล่าวถึงการทำงานของ Facebook Safety Check ว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเฟซบุ๊กยกหน้าที่การแจ้งเตือนนี้ให้แก่องค์กรภายนอกที่ใกล้ชิดพื้นที่เป็นผู้แจ้งเตือน หลังจากนั้นระบบจะตรวจสอบกับข่าวที่อยู่ในเฟซบุ๊กก่อนที่ Safety Check จะเริ่มทำงาน

ข่าวระเบิดปิงปองเกิดตอนเช้า แต่ Safety Check ทำงานตอนเย็นวันที่ 27

อย่างไรก็ตามฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊กปฏิเสธที่จะให้รายชื่อว่าใครหรือองค์กรใดที่รับหน้าที่แจ้งเตือนภายในประเทศไทย และเมื่อตรวจสอบข่าวระเบิดปิงปองที่ทำเนียบ พบว่าข่าวนี้เกิดขึ้นในเช้าของวันที่ 27 ธันวาคม แต่ระบบ Safety Check ทำงานในช่วงค่ำของวันที่ 27 ธันวาคม และเมื่อกดข้อมูลเพิ่มเติมในขณะที่แจ้งเตือน กลับไม่พบข่าวระเบิดปิงปองในแหล่งข่าวที่เฟซบุ๊กอ้างอิงเลย ซึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊กก็ขอกลับไปหาคำตอบเรื่องนี้ต่อไป


ข่าวที่เฟซบุ๊กอ้างอิงในเหตุระเบิด ไม่มีการพูดถึงระเบิดปิงปองเลย

ข่าวข้างบนนี้จริงหรือหลอกก็ไม่ทราบนะคะ
ขอคุณหมอ SILA หรือคุณหมอเพ็ญ เช็คให้ด้วย

          เมื่อคืนดูข่าว,ผู้เชี่ยวชาญ(จำนามไม่ได้) อธิบายประมาณว่า เฟซบุคใช้ปัญญาประดิษฐ์
(Artificial Intelligence) ในการทำงานบริการดูแลผู้ใช้เฟซนับพันล้านคน เมื่อมีการกระตุ้น
ระบบแจ้งเตือน(จากข่าวหรือเหตุอื่น?) ปัญญาประดิษฐ์ก็จะทำงานตามขั้นตอนที่เซ็ทไว้
(ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น, ในกรณีนี้, ปัญญาประดิษฐ์นี้คงจะประมวลข้อมูลได้ไม่มีประสิทธิภาพพอทำให้
เกิดการแจ้งเตือนที่เคลื่อนคลาด)
 

ในกรณีนี้ ปัญญาประดิษฐ์(ทำงาน)อ่อนมาก    ข่าวสารผิดๆมันส่งกันทุกคนวันละเป็นล้านๆครั้ง   ยังรอดมาได้  มาจอดเอากับข่าวอะไรไม่รู้ละค่ะ

            BBC Thai รายงานข่าวต่อ

       ... The Verge เว็บไซต์ด้านเทคโนโลยี รายงานว่า "เฟซบุ๊กถูกอัลกอริทึมของตนเองหลอกให้เข้าใจผิด"
โดยชี้ว่า ระบบส่งคำแจ้งเตือนความปลอดภัย ของเฟซบุ๊กถูกกระตุ้นให้ทำงานอย่างผิดพลาดหลังจากได้รับข่าวเท็จ
จำนวนมากว่า "เกิดระเบิดขึ้นในกรุงเทพฯ"

            เฟซบุ๊กได้แถลงปกป้องเทคโนโลยีอัลกอริทึมของตนเอง โดยชี้แจงว่า คำเตือนที่ออกมาเมื่อวานนี้ถูกกระตุ้น
จากข่าวที่ชายคนหนึ่งปีนหลังคาธนาคารออมสินภายในรั้วทำเนียบรัฐบาล พร้อมโยนประทัด..

            สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟซบุ๊กถูกวิจารณ์กรณีทำนองนี้ เพราะเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
เฟซบุ๊กได้แถลงขออภัยผู้ใช้งาน หลังจากความบกพร่องในระบบทำให้มีการออกคำแจ้งเตือนความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทั่วโลก
จากกรณีระเบิดฆ่าตัวตายในปากีสถาน

            โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีในกรุงเทพฯ บอกว่า บีบีซีและสื่อมวลชนที่น่าเชื่อถือต่าง ๆ มักใช้ความระมัดระวัง
เป็นพิเศษในการรายงานข่าวเหตุการณ์ทำนองนี้ และรายงานเฉพาะข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ข่าวเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ครั้งนี้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเพราะผู้คนเห็นลิงก์ข่าวของบีบีซีเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่
ย่านราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 พ่วงมากับคำแจ้งเตือนความปลอดภัยครั้งนี้       

http://www.bbc.com/thai/thailand-38450870?ocid=socialflow_facebook

จากคำอธิบาย แสดงว่า
1. มีเหตุการณ์ "ปาระเบิดปิงปองในกรุงเทพ"
2. ผู้คนเริ่มแชร์ข่าว "ระเบิดปิงปองในกรุงเทพ" ผ่านทาง Facebook
3. ระบบของ Facebook เริ่มพบการแชร์คำว่า "ระเบิด" และ "กรุงเทพ" บ่อยครั้ง จนถึงระดับความถี่ที่กำหนดไว้
4. โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ ไม่สามารถแยก "ระเบิดปิงปอง" ออกจาก "ระเบิดแบบวินาศกรรม" ได้ มันจึงเริ่มกระบวนการตามขั้นตอนที่ตั้งไว้
5. ระบบส่งคำแจ้งเตือนภัยออกไป
 

             ปี 2016 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้เป็นวาระครบ 75 ปีการสิ้นสุดของ  the Blitz in London
(ดูกระทู้ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5984.345)

            Jim Dyson ช่างภาพของ Getty Images ได้ตระเวนไปยังสถานที่ต่างๆ ในมหานครลอนดอน
เพื่อบันทึกภาพปัจจุบันของสถานที่นั้นแล้วนำมาซ้อนทับรวมกับ(ส)ภาพสถานที่แห่งนั้นที่ถูกระเบิดทำลายใน
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ได้เป็นภาพที่ชวนมองให้ตรองตรึก, นึกถึงความเปลี่ยนแปลงไม่คงที่, การเกิด
เสื่อมดับ, การผ่านความสูญเสียในอดีตสู่การฟื้นคืนใหม่ในปัจจุบันด้วยความหวังกำลังใจที่จะก้าวต่อไป

http://www.theatlantic.com/photo/2016/05/london-during-the-blitz-then-and-now-photographs/481851/

...an eastward view, down the Thames towards smoke rising from fires in Surrey docks,
following the first German air raid of the London Blitz on September 7, 1940.
The present-day scene is a view of Tower Bridge taken on April 25, 2016.

A bus is left leaning against the side of a terrace in Harrington Square, Mornington
Crescent, in the aftermath of a German bombing raid on London in the first days of
the Blitz, on September 9, 1940. The scene is overlaid on a present-day image of
housing near Mornington Crescent on April 21, 2016...

..an area near St Pancras Station in London showing the damage caused by a German air
raid on September 19, 1940, overlaid on a view of the British Library beside St Pancras
hotel on May 3, 2016..

Then: September 14, 1940, a crater and damaged railings outside Buckingham Palace,
London, after the explosion of a German bomb dropped in an air raid the previous day.
Now: Tourists gather outside Buckingham Palace on April 26, 2016.

Then: Soldiers help to clear the debris of Bank Underground Station, in front of
The Royal Exchange in London, the morning after receiving a direct hit during the Blitz.
Now: The same scene at Bank junction in front of the Royal Exchange on April 25, 2016.

Then: May 3, 1941, bomb damage in London's Leicester Square caused by German air raids.
Now: A view of the Vue cinema in Leicester Square on May 1, 2016.

Then: A blaze in the Negretti and Zambra building at Holborn Circus, London, after
a German bombing raid. Now: The same scene at Holborn Circus on May 1, 2016.

Then: The interior of Westminster Abbey after a German bombing raid, in May 1941.
Now: A view of the choir and altar of Westminster Abbey, on January 13, 2015.

Then: A police officer and a soldier inspect the aftermath of a German air raid, Portman Street,
London, on September 19, 1940. Now: The same scene at Portman Sreet near Marble Arch,
on April 21, 2016, in London, England.

แถมภาพปัจจุบันซ้อนย้อนอดีตสงครามโลกครั้งที่สอง,รวบรวมนำเสนอโดย buzzfeed

Les Braves Omaha beach, Normandy, France.

D-day, Normandy, 1944

ส่วนภาพนี้จากแคนาดา

           ‘Wait For Me, Daddy’, taken in New Westminster, Canada, in 1940.

    taken by Claude Dettloff, a photographer for the Vancouver Daily Province.
The photograph became one of the most famous images in Canadian history.’
   
รับชมเพิ่มเติมที่
https://www.buzzfeed.com/matthewtucker/spinetingling-pictures-of-war-ghosts-from-the-past?utm_term=.goZ3jKN8k6#.pgqaQEMydD

7 ม.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนกราดยิงกลางอาคารสนามบินนานาชาติฟอร์ท ลอเดอร์เดล ฮอลลิวูด ในฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันศุกร์ (6ม.ค.60) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย หลังเกิดเหตุ คนร้ายถูกจับตัว ทราบชื่อภายหลังว่า นายเอสเตบาน ซานติอาโก และพบบัตรประจำตัวทหาร แต่ไม่ชัดเจนว่า เป็นของเจ้าตัวหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้รายละเอียดข้อสันนิฐานเกี่ยวกับแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย

รายงานระบุว่า มือปืนโดยสารเครื่องบินจากแคนาดาเที่ยว มายังสนามบินฟอร์ท ลอเดอร์เดล พร้อมปืนในกระเป๋าที่ผ่านจุดตรวจ ก่อนจะมีรับสัมภาระ และเดินเข้าห้องน้ำเพื่อบรรจุกระสุนปืน และเปิดฉากกราดยิงบริเวณพื้นที่รับสัมภาระ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้น มือปืนได้โยนอาวุธทิ้ง และนอนราบกับพื้นจนกระทั่งถูกควบคุมตัว

แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ออกมาระบุเหตุกราดยิงดังกล่าว โดยไม่ยืนยันว่า เป็นก่อการร้าย

                วันนี้ได้เห็นคลิปเหตุการณ์สังหารโหดเผยแพร่ทางเน็ทจาก

https://www.buzzfeed.com/talalansari/fort-lauderdale-airport-shooting-video?utm_term=.dc6RxWneMv#.sdWkORmjaQ

           เหยื่อสังหารรายหนึ่ง Steve Frappier รอดตายมาเล่าถึงนาทีชีวิตสุดระทึกได้ด้วยสิ่งนี้

https://www.buzzfeed.com/jimdalrympleii/man-saved-by-his-laptop-during-fort-lauderdale-airport-shoot?utm_term=.hk0WvX2pgL#.kweG6z31lD

The backpack saved my life

           เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในมหานครลอนดอน เมื่อวานนี้เวลาบ่าย 2:40 ตามเวลาในลอนดอน
เริ่มต้นที่สะพาน Westminster (แผนผังเหตุการณ์จาก cnn) ผู้ร้ายขับรถข้ามสะพาน Westminster
ชนผู้คนและจนท.ตำรวจบนสะพานแล้วมุ่งหน้าไปยังอาคาร Houses of Parliament    

        ตำรวจได้กระทำวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อการร้ายซึ่งปรากฏว่ามีเพียงหนึ่งเดียวในมือถือมีด
(telegraph.co.uk)

           ยอดผู้เสียชีวิตรวมสี่คน(รวมผู้ก่อการ) และบาดเจ็บอีกยี่สิบ
(telegraph.co.uk)

           อังกฤษเบร็กสิทแต่การก่อการร้ายนั้นไร้พรมแดน

          bbc รายงานข่าวมีผู้เสียชีวิตเพิ่มรวมเป็นห้าราย และลงคลิปภาพหญิงสาวตกจากสะพาน
ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากเหตุการณ์นี้

https://www.facebook.com/bbcnews/videos/10154508972792217/?ocid=socialflow_facebook

           bbc สรุปเหตุการณ์ ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน แถลงว่า ชายที่เชื่อว่าก่อเหตุโจมตีมีชื่อ
ว่า คาลิด มาซูด วัย 52 ปี เกิดในเมืองเคนต์ ประเทศอังกฤษ และอาศัยอยู่ในเขตเวสต์มิดแลนด์ส
           เขาไม่ใช่บุคคลที่อยู่ในการสอบสวนของหน่วยข่าวกรอง แต่เคยกระทำผิดฐานทำร้ายร่างกาย
หลายครั้งในอดีต ไม่เคยมีข้อมูลข่าวกรองว่านายคาลิด มาซูด มีแผนจะก่อเหตุโจมตีครั้งนี้มาก่อน แต่
รู้ว่าชายผู้นี้เคยทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และความผิดเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของสังคมโดย
เมื่อปี 2003 เขาถูกตัดสินให้มีความผิดฐานครอบครองอาวุธมีด แต่เขาไม่เคยถูกตัดสินว่าผิดในข้อหา
เกี่ยวกับก่อการร้ายมาก่อน

           เหยื่อผู้เสียชีวิตสามคน ได้แก่ พลตำรวจ คีธ พาล์มเมอร์ที่โดนแทง, เคิร์ต ค็อชรัน นักท่องเที่ยว
ชาวอเมริกัน ซึ่งมาฉลองครบรอบการแต่งงาน 25 ปีที่ลอนดอน เมลิสสา ภรรยาของเขาได้รับบาดเจ็บ
สาหัสและ ไอชา เฟรด ซึ่งทำงานที่วิทยาลัยดีแอลดีลอนดอน เสียชีวิตหลังจากถูกผู้ก่อเหตุขับรถชน

           เช่นเดียวกับเหตุการณ์ระเบิดลอนดอนเมื่อหลายปีก่อน(7 กรกฎาคม  2005), เหตุก่อการร้าย
โจมตีครั้งนี้ก็ไม่อาจหยุดชาวลอนดอนได้

http://www.bbc.com/thai/international-39365141?ocid=socialflow_facebook

ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป

เกิดเหตุก่อการร้ายทีไร  คนตายมักจะเป็นประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เสมอ
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

เวลาวันผ่านไปไม่เคยหยุดนิ่ง,รวมทั้งสิ่งนี้  "การก่อการร้าย" ที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในประเทศต่างๆ
แถบตะวันตก

(buzzfeed.com,euobserver.com,independent.co.uk,mirror.co.uk,radionz.co.nz,
thelantern.com,usatoday.com,youtube.com)

              หลังเหตุการณ์ car attack เมื่อ 22 มีนาคมที่ผ่านไปในลอนดอนแล้ว

              7 เมษายน คนร้ายขับรถบรรทุกที่ขโมยมาพุ่งเข้าใส่ห้างสรรพสินค้าริมถนนในย่านช็อปปิ้งใจกลาง
กรุง Stockholm ทำให้มีผู้เสียชีวิตสี่(-ห้า)คนและบาดเจ็บนับสิบ

และ latest but not last

        เมื่อวานนี้ที่กรุงปารีส, ผู้ก่อการร้ายยิงปืนเข้าใส่รถตำรวจที่จอดอยู่บนถนน Champs-Elysees ทำให้
เจ้าหน้าที่เสียขีวิตสองราย

         ย้อนไปตั้งแต่ปี  2010  กลุ่มผู้ก่อการร้าย Al Qaeda ได้ชี้นำชักชวนให้เหล่าสมาชิกหันมาใช้
ยานพาหนะเป็นอาวุธในการโจมตี และในช่วงไม่กี่ปีมานี้กลุ่ม Islamic State ก็ได้โพรโมทวิธีการนี้
อย่างหนัก โดยเพิ่งมีการใช้สื่อ online magazine นำเสนอวิธีการนี้ไปเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว
 
ลำดับเหตุการณ์ก่อการร้ายปี 2016

               มกราคม, กรุง Istanbul นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน 12 คนเสียชีวิตจากระเบิดฆ่าตัวตาย
ตามด้วย     ระเบิดฆ่าตัวตายอีกครั้งในอิสตันบูล,ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปห้าราย ในเดือนมีนาคม
               และเดือนเดียวกันนี้ที่กรุง Brussels เกิดระเบิดฆ่าตัวตายในสนามบินก่อนที่จะตามมาด้วย
ระเบิดในรถไฟที่สถานีอันพลุกพล่านทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
               มิถุนายน นายตำรวจและคู่ชีวิตถูกสังหารในย่านชานกรุง Paris และที่กรุง Istanbul
(อีกแล้ว) ผู้บริสุทธิ์ 45 คนถูกสังหารในการโจมตีสนามบินนานาชาติ Ataturk    
               เดือนถัดมา กรกฎาคม เกิดเหตุที่ Nice, ฝรั่งเศส รถบรรทุกพุ่งเข้าชนฝูงชนที่กำลังเฉลิมฉลอง  
วัน Bastille ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 86 ราย และ ชายสองคนสังหารพระอาวุโสที่โบสถ์แคธอลิคใน Normandy

ที่ Nice

           ตุลาคม, เด็กหนุ่มอายุ 16 ถุกแทงหลายแผลจนเสียชีวิตที่ Hamburg
           ต่อมาที่ Ohio State University เดือนพฤศจิกายน, ผู้ก่อการร้ายขับรถพุ่งเข้าชนผู้คน
บนทางเท้าแล้วตามด้วยการใช้มีดมุ่งเข้าแทงเหล่านักศึกษา

และส่งท้ายปีก่อน
            ที่นคร Berlin ในเดือนธันวาคม, ผู้ก่อการขับรถบรรทุกสินค้าพุ่งเข้าไปในตลาด Christmas
ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไป 12 ราย

         ทบทวน รายการก่อการร้ายในปีที่ผ่านมาและปีนี้ จากเว็บอ้างอิง(usatoday.com) แล้ว
พบว่า เว็บนั้นไมได้รวมเหตุการณ์นี้ด้วย นั่นคือ

           2017 Saint Petersburg Metro bombing

           เหตุระเบิดในรถไฟใต้ดินของนคร Saint Petersburg เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2017 ส่งผลให้มี
ผู้เสียชีวิตซึ่งรวมทั้งผู้ก่อเหตุรวมเป็น 15 ราย
           ผู้ก่อการที่ถูกจับได้ในเวลาต่อมาเป็นประชากรรัสเซียเชื้อสาย  Uzbek เกิดที่ Kyrgyzstan
ก่อนเกิดเหตุ ISIS ได้ออกประกาศเชิญชวนให้สาวกก่อการในกรุงมอสโควแต่เกิดเหตุจริงที่นครเซนต์ฯ นี้
ในช่วงที่ประธานาธิบดีปูตินเดินทางมาเยือน(บ้านเกิด)

ความกลัวเริ่มจางหาย ก่อการร้ายเริ่มมาใหม่  บีบีซีรายงานข่าวเมื่อ 27 เมษานี้ว่า
 
          มีการจับกุมชายคนหนึ่งฐานต้องสงสัยเตรียมก่อการร้าย หลังตรวจพบว่าชายวัย 20 ปีตอนปลาย
ผู้นี้พกพาอาวุธมีดหลายเล่มบริเวณใกล้กับอาคารรัฐสภาอังกฤษ โดยเป็นปฏิบัติการจับกุมหลังจากตำรวจ
ได้รับข่าวกรอง

(เครดิท bbc thai,mirror.co.uk,telegraph.co.uk)

           เมื่อคืนนี้ก่อนเวลาประมาณ 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในอังกฤษ,เกิดเหตุระเบิดที่หอแสดงคอนเสิร์ต
ในเมืองแมนเชสเตอร์ เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามการก่อการร้ายเขตตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ระบุว่า
มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการก่อการร้าย
           ยอดผู้เสียชีวิตรวม 19 ศพ และบาดเจ็บกว่า 50 ราย
           บางรายงานกล่าวว่าเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย และมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่าระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดผสมตะปู

            เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังจากการแสดงคอนเสิร์ตโดยนักร้องสาวชาวอเมริกัน Ariana Grande
            หอแสดงดนตรีแห่งนี้ว่ามีชื่ออย่างเป็นทางการว่า MEN Arena เป็นสถานที่จัดแสดงดนตรีในร่ม
ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองโดยบรรจุผู้ชมได้ราว 18,000 คน

ภาพจากคลิปถ่ายภายในหอแสดงหลังเกิดเหตุระเบิด

        เฟซบุค bbc thai เสนอ scoop ย้อนรอย 5 เหตุร้าย ใน สหราชอาณาจักร

http://www.bbc.com/thai/international-40011333?ocid=socialflow_facebook

เหตุโจมตีลอนดอน 7 ก.ค. 2005 (ชื่อของกระทู้นี้)

เหตุโจมตีท่าอากาศยานกลาสโกว์ 30 มิ.ย.2007

เหตุสังหาร ลี ริกบี 22 พ.ค. 2013

ฆาตกรรม ส.ส.โจ ค็อกซ์ 16 มิ.ย. 2016

เหตุโจมตีเวสต์มินสเตอร์ 22 มี.ค. 2017

บีบีซีรายงานข่าว

          เมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่นในลอนดอน,เกิดเหตุก่อการร้าย 2 ครั้ง ที่สะพานลอนดอนบริดจ์และ
โบโรห์มาร์เก็ต (ส่วนเหตุที่เกิดในย่านวอกซ์ฮอลไม่เกี่ยวเนื่องกัน)

          ที่สะพานลอนดอนบริดจ์, เกิดเหตุรถตู้สีขาวขับพุ่งชนคนเดินเท้า 5-6 คน โดยอย่างน้อยสี่คน
ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.
 
          และ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าได้เกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตลาดโบโรห์มาร์เก็ตซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน
มีรายงาน คนถูกแทงในจุดดังกล่าว แหล่งข่าวสายตำรวจเปิดเผยกับบีบีซีว่าขณะนี้กำลังติดตามผู้ต้อง
สงสัยอย่างน้อยสามคนซึ่งอาจพกอาวุธ

           เหตุร้ายสามเหตุการณ์ต่อเนื่องกันในกรุงลอนดอนนี้ มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน

 :'(

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.คืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น (หรือ 04.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย) เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายขับรถตู้ไล่ชนผู้คนบนสะพานลอนดอน บริดจ์ 5 - 6 คน โดยในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 4 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และในจำนวนคนเจ็บมีผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสรวมอยู่ด้วย 2 คน

จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังตามมา และเห็นผู้ก่อเหตุ 3 คน วิ่งลงจากรถตู้พร้อมกับถือมีดไล่แทงคนบนถนน รวมถึงบริเวณหน้าตลาดโบโรห์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นย่านร้านอาหารและบาร์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายการก่อการร้าย

ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน แถลงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พกอาวุธ ได้เข้าประชิดตัวผู้ต้องสงสัย และยิงผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตภายใน 8 นาที โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกแทงขณะที่พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่อาการไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 48 คน ทั้งหมดถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล 5 แห่ง ในกรุงลอนดอน

ขณะที่ช่างภาพแกเบรียล ซิออตโต สามารถจับภาพตำรวจขณะยิงผู้ต้องสงสัย 2 คน ลงไปนอนกับพื้นที่หน้าผับ Wheatsheaf ในย่านโบโร่ มาร์เก็ต เอาไว้ได้ ซึ่งจากภาพพบว่า 1 ในคนร้ายได้พกระเบิดในกระเป๋าที่คาดไว้กับตัว ซึ่งดูคล้ายกับพยายามจะก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย แต่ตำรวจตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นของปลอมเท่านั้น

ด้านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน เชื่อว่า ขณะนี้มีผู้เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีลอนดอนเพียง 3 คน แต่ยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมจากการสืบสวนด้วย และว่าขณะนี้หน่วยงานตำรวจก่อการร้ายกำลังทบทวนแผนป้องกันเหตุร้ายในช่วงหลายวันต่อจากนี้ โดยคาดว่าจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกเดินตรวจความเรียบร้อยตามท้องถนนในกรุงลอนดอน

นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเหตุก่อการร้ายโจมตีลอนดอน ที่มีผู้เสียชีวิต 7 คน โดยกล่าวว่า จะเริ่มเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งต่อไปในวันจันทร์ และยืนยันกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป 8 มิ.ย.นี้

นางเมย์ ระบุในแถลงการณ์ตอนหนึ่งว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนขวัญ และว่าอังกฤษอดทนมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกำจัดต้นตอแนวคิดการก่อการร้ายในประเทศให้สิ้นซาก และว่าทางพรรคอนุรักษ์นิยม พรรคแรงงาน และพรรคเอสเอ็นพี ได้ประกาศระงับการรณรงค์หาเสียงชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่สะพานเวสต์มินสเตอร์ เมื่อเดือน มี.ค.โดยในครั้งนั้นกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้อ้างความรับผิดชอบ พร้อมปลุกระดมให้เหล่าสาวกร่วมกันก่อเหตุโจมตีให้มากขึ้นอีกระหว่างเดือนรอมฏอน ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สื่อต่างชาติหลายสำนักยอมรับว่า เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากไม่มีรายงานข่าวกรองที่เจ้าหน้าที่ล่วงรู้มาก่อนหรือมีสัญญาณเตือนอื่นใด การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ นับจากเหตุระเบิดโจมตีหลังคอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์ ที่มีผู้เสียชีวิต 22 คน และเกิดขึ้นไม่ถึง 3 เดือน หลังมีผู้ก่อการร้ายขับรถพุ่งชนคนที่หน้าอาคารรัฐสภา และแทงตำรวจเสียชีวิตในย่านเวสต์มินสเตอร์

การก่อการร้ายดังกล่าวยังเรียกเสียงประณามจากผู้นำทั่วโลก อาทิ ฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมธิการยุโรป และประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่ระบุจะยืนอยู่เคียงข้างอังกฤษ และแสดงความเสียใจต่อเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงประธานาธิบดีจัดติน ทรูโด ของแคนาดา ที่ระบุว่า กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ส่วนโฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เรียกคณะทำงานด้านความมั่นคงเข้าพบหลังเหตุการณ์ในกรุงลอนดอน โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแก่สื่อมวลชน แต่ทรัมป์เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับอังกฤษ หลังระบุว่าเหตุการณ์ก่อการร้ายดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความจำเป็นต่อการห้ามชาวมุสลิมจาก 6 ชาติ และผู้ลี้ภัยเดินทางเข้ามาในสหรัฐ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์ก สั่งเสริมกำลังหน่วยต่อต้านก่อการร้ายในพื้นที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน เช่น จตุรัสไทมส์สแควร์ และบริการขนส่งมวลชนต่างๆ หลังเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงลอนดอน โดยในปัจจุบัน สหรัฐยังไม่ได้รับข่าวกรองจะมีการก่อเหตุในนิวยอร์ก

กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ประกาศข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายในกรุงลอนดอน เช่น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่จัดคอนเสิร์ต และสถานที่จัดการหาเสียงของพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้งใหญ่ของอังกฤษในวันที่ 8 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยควรระวังและหลบหนีทันทีที่พบสัญญาณผิดปกติ

เช่นเดียวกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน แจ้งเตือนคนไทยในอังกฤษ ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางสัญจร และการเดินทางไปยังพื้นที่สาธารณะพร้อมทั้งให้ความสนใจติดตามข่าวสาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการสหราชอาณาจักร

 http://www.naewna.com/inter/273715

จาก nytimes.com

attack Memes จาก me.me/t/attack?s=new

และ

เพียงแค่สองคืน, ข้ามมหาสมุทรข้ามทวีปมาเครือจักรภพตอนใต้, บีบีซีรายงานข่าว

          เมล์เบิร์นสอบสวนเหตุจับตัวประกันเข้าข่าย "ก่อการร้าย"

          เมื่อคืนวันจันทร์ (5 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ตำรวจนครเมลเบิร์นพร้อมอาวุธครบมือ เดินทางไปยัง
อพาร์ตเมนท์ที่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้น และพบชายคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่บริเวณทางเดิน
ขณะที่ชายอีกคน ชื่อนายยาคุบ คาเยร์ อายุ 29 ปี ได้จับหญิงรายหนึ่งเอาไว้ในอาคาร และโทรศัพท์
หาสถานีโทรทัศน์ว่ากำลังลงมือก่อเหตุในนามของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม หรือไอเอส

           ตำรวจ 3 นายได้รับบาดเจ็บจากการยิงปะทะกับนายคาเยร์ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิต ส่วนตัวประกัน
ได้รับความช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย

            ชายผู้ก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายกรณี และอยู่ในระหว่างการคุมประพฤติหลังพ้นโทษ
จำคุกจากคดีที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน โดยเมื่อคืนนี้เขาได้นัดพบกับหญิงที่ตกเป็นตัวประกันผ่านบริการหาเพื่อน

            ไอเอสได้ออกมากล่าวอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่ตำรวจออสเตรเลียปฏิเสธว่าไม่พบหลักฐาน
ความเชื่อมโยงระหว่างผู้ก่อเหตุกับกลุ่มดังกล่าว และ
             นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยืนยันว่า จะยังไม่ปรับระดับเตือนภัยก่อการร้ายของออสเตรเลีย ซึ่ง
ขณะนี้อยู่ที่ระดับ "มีความเป็นไปได้"

จากทวีปออสเตรเลียกลับมายุโรป

                  2017 Notre Dame attack

                เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นราว 16:30 น.,ที่ด้านนอกมหาวิหาร Notre Dame
ชายคนหนึ่งได้เข้าจู่โจมทำร้ายจนท.ตำรวจด้วยค้อน พร้อมกับตะโกนว่า "c'est pour la Syrie"
(this is for Syria) จนท.ตำรวจได้ยิงชายคนนั้นเข้าที่หน้าอกแล้วจึงนำส่งโรงพยาบาล ต่อมา
ทางการได้เปิดเผยข้อมูลว่าชายคนนั้นเป็นนักศึกษามาจาก Algeria

ในปีนี้, ได้เกิดเหตุก่อการร้ายในฝรั่งเศสมาก่อนหน้านี้รวม 3 ครั้ง ได้แก่
               Louvre knife attack เมื่อ 3 ก.พ.
               Orly airport attack เมื่อ 18 มี.ค. และ
               Champs-Elysées attack เมื่อ 20 เม.ย.

(timesofisrael.com)

          เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา, เกิดเหตุรุนแรงที่ Finsbury Park ในย่าน north London
รถแวนคันหนึ่งได้พุ่งเข้าชนกลุ่มศาสนิกชนมุสลิมที่บริเวณด้านนอกมัสยิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
และบาดเจ็บอีก 8 คน บางรายเป็นการบาดเจ็บจากการถูกแทง
          ผู้ต้องหาเป็นชายวัย 48 ปี มีรายงานระบุว่าเขาร้องตะโกนว่า เขาต้องการฆ่าชาวมุสลิมทุกคน

หลังเหตุรุนแรง, ชาวมุสลิมบางคนมานั่งสวดภาวนาบนทางเท้าริมถนนที่เกิดเหตุ

(telegraph.co.uk)

          เหตุการณ์ร้ายคล้ายกันแต่เกิดขึ้น ณ อีกฟากฝั่งแอตแลนติค ที่บริเวณมัสยิดแห่ง All Dulles Area
Muslim Society ใน Sterling, Virginia สหรัฐอเมริกา,เวลา 3:40 น.ของเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ผ่านไป
          ระหว่างทางที่มุสลิมวัยทีนมุ่งหน้าสู่มัสยิด, ชายหนุ่มวัย 22 ปี ขับรถมาจอดแล้วลงจากรถมาโต้เถียง
กับกลุ่มมุสลิม 15 คน,จากนั้นจึงขับรถพุ่งเข้าใส่วัยรุ่นกลุ่มนั้นจนกระเจิงไป
          หลังจากนั้นไม่นานนัก, ที่ลานจอดรถชายคนนั้นยังใช้ไม้เบสบอลล์ไล่ตีวัยรุ่นกลุ่มนั้นอีก คราวนี้มี
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นเด็กสาววัย 17 ปีถูกลากตัวขึ้นรถไปทำทารุณกรรมต่อจนเสียชีวิตแล้วร่างถูกนำไป
ทิ้งในบ่อใกล้อพาร์ทเมนท์ที่พักของผู้ก่อเหตุ
          ตำรวจท้องที่ยังไม่สรุปว่าแรงจูงใจให้ก่อเหตุครั้งนี้มาจากเรื่องเชื้อชาติ, แต่อาจเป็นกรณีความแค้น
เคืองเรื่องการใช้ถนน

(washingtonpost.com)

              กลับมายุโรป, เมื่อคืนวานนี้ที่สถานีรถไฟ Brussels Central Station ตอนเวลาประมาณ
8:30 p.m เกิดเหตุการณ์ผู้ต้องสงสัยหมายก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตหลังจากที่
เขาได้จุดชนวนทำให้เกิดการระเบิดขึ้นเล็กน้อย
             ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าชายคนนี้พยายามที่จะเข้าไปในสำนักงานพร้อมกับกระเป๋าเดินทางแบบ
ล้อลากก่อนที่จะทำการจุดระเบิดขึ้นที่บริเวณอื่นในเวลาต่อมา อีกคนหนึ่งเล่าว่าเขาได้ยินเสียงระเบิดขึ้น
สองครั้งก่อนแล้วตามด้วยเสียงผู้ก่อการร้ายตะโกนว่า Allahu Akbar(Arabic for “God is great”)*

*วิกกี้บอกว่า - แปลว่า อัลลอหฺ (พระเจ้า) ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นชื่อเพลงชาติของประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยม
ประชาชนอาหรับลิเบีย เพลงนี้เดิมเป็นเพลงปลุกใจเพลงหนึ่งของอียิปต์

           ข้ามกลับไปสหรัฐอเมริกา, วานนี้มีรายงานข่าวเหตุก่อการร้ายที่ Bishop International Airport,
Michigan เมื่อเช้าวันพุธ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา
           คนร้ายเป็นชาย(ชาวแคนาดา,ชื่ออาหรับ) วัย 50 ปี ได้ตะโกน(เช่นกัน)ว่า  "Allahu Akbar"
ก่อนที่จะใช้มีดแทงจนท.ตำรวจบริเวณลำคอแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง,ยังสามารถจับผู้ก่อเหตุกดลงบนพื้นได้

           ทั้งนี้มีรายงานว่า IS ได้เผยแพร่แนวทางก่อการร้ายแก่เหล่าสาวกหมาป่าบุกเดี่ยวว่า ให้ใช้วิธีการก่อ
การร้ายโดยใช้รถบรรทุกและมีดเป็นอาวุธ

ข่าวสะเทือนขวัญที่อเมริกา ยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติ    วันนี้ (1 ก.ค. 2560 )ก็เกิดอีกแล้ว
คราวนี้มือปืนเป็นคุณหมอ
Doctor fatally shoots 1, wounds 6 at NYC hospital before killing himself

New York (CNN)A doctor opened fire with an assault rifle Friday inside a New York City hospital where he used to work, killing a woman and wounding six people before turning the gun on himself, law enforcement officials said.

The shooting started a little before 3 p.m. ET at the Bronx-Lebanon Hospital. The 972-bed facility is one of the largest providers of outpatient services in New York.
Police said somebody called 911 to report a man with a gun on the 16th floor.
Police converged on the scene and officers found the gunman dead of a self-inflicted gunshot wound on the 17th floor, New York City Police Commissioner James O'Neill said at a news briefing.
Henry Bello
Henry Bello
The man was wearing a white lab coat and carrying ID and his firearm was nearby, O'Neill said.
The shooter, Henry Bello, was a "disgruntled (former) employee" who worked at the hospital from August 2014 to February 2015, a hospital spokesman said. Errol Schneer told reporters that Bello resigned before he was to be fired.
Schneer said Bello likely did not know any of the people he shot, but that police are investigating the matter.
The body of a female doctor was found close to the gunman's body, O'Neill said. The woman's name was not immediately released.
Sridhar Chilimuri, Physician-in-Chief at the hospital, said the victim was shot at random.
Six people were wounded on the 16th floor, and five -- who are hospital staff members -- are in serious condition from gunshot wounds. They are all in the intensive care unit, Chilimuri said.
Another person, who was already a patient, was injured and is in stable condition.

คุณหมอเคยเป็นอดีตแพทย์ประจำร.พ.แห่งนี้  แต่ได้ลาออกเมื่อ 2 ปีก่อน  วันร้ายคืนร้ายก็พกปืนกลับมาบุกยิงกราดที่ร.พ. แล้วยิงตัวตาย

http://edition.cnn.com/2017/06/30/us/new-york-hospital-shooting/index.html

         รายงานข่าว ได้ลงรูปผู้ต้องหาเป็นนายแพทย์ผิวสีมีประวัติเคยก่อเหตุ 'เพศ''ภัย'ต่างๆ
(sexual assault, burglary,fare-jumping and public urination) ในที่ทำงาน
         จนท.กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์สะเทือนใจจากการใช้ความรุนแรงในที่ทำงาน, ไม่เกี่ยว
ข้องกับเหตุก่อการร้าย (tragic incident of workplace violence and had no links to terrorism)

          เทเลกราฟ รายงานข่าว เกิดเหตุชายรัวปืนเข้าใส่ผู้คนบริเวณด้านนอกของมัสยิดใน Avignon,
Provence ฝรั่งเศส เมื่อเวลาราว 10.30pm ของคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
          ผู้ก่อเหตุเป็นชายจำนวนสองนายหรือมากกว่า, ในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนแปดราย
         
          ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน, ก็ได้เกิดเหตุการเกือบรุนแรงบริเวณหน้ามัสยิดย่านปริมณฑล Creteil กรุงปารีส
ชายคนหนึ่งซึ่งต่อมาปรากฏว่าเป็นชาวอเมริกันได้พยายามขับรถพุ่งเข้าชนผู้คนที่นั่นแต่โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับ
บาดเจ็บ

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067349
Eight people have been injured in a shooting outside a mosque in southern France, officials have confirmed.

Worshippers leaving the Arrahma mosque in Avignon were approached by two hooded suspects at about 22:30 local time (21:30 GMT) on Sunday.

The suspects, carrying a handgun and a shotgun, arrived in a Renault Clio before opening fire on the crowd, La Provence newspaper reports.

Police said they were not treating the incident as a terrorist attack.

Four people were wounded outside the mosque and a family of four - including a seven-year-old girl - also suffered injuries from shrapnel while in their apartment, located some 50 metres away, La Provence said, citing a source.

คนร้ายสองคนใส่ถุงคลุมหัวเป็นไอ้โม่ง   มีอาวุธทั้งปืนสั้นปืนยาว ลงจากรถมายิงกราดผู้คนไม่เลือกลูกเด็กเล็กแดง
ตำรวจยังไม่ลงความเห็นว่าเป็นผู้ก่อการร้าย   ??? ???   

             หลังจากเหตุก่อการร้ายรายสัปดาห์เงียบหายไปนานพอประมาณ ในที่สุดเหตุการณ์เดิมๆ
ก็เริ่มกลับมา เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นี้ ที่ North Barmbek ของ Hamburg

             ชายวัย 26  ปี เกิดใน UAE(บ้างว่า  Saudi Arabia) ลี้ภัยมาอาศัยอยู่ในเยอรมันนีได้
ก่อเหตุในซุปเปอร์มาร์เก็ตโดยการใช้มีดแทงผู้คนพร้อมตะโกนประโยคเดิม "Allahu Akbar"
(God is Greatest) เหยื่อผู้เสียชีวิตเป็นชายเยอรมันวัย 50 ปี และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย
             ผู้เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งไล่ตามและช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้
(voanews.com)

            ซิดนีย์, ออสเตรเลีย เมื่อวันเสาร์ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา จนท.ต่อต้านการก่อการร้ายได้บุกเข้า
ย่านชานเมืองแล้วสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยสี่รายและวัตถุที่สามารถนำมาประกอบเป็นระเบิดที่ทางการ
เชื่อว่าจะถูกแอบนำขึ้นไปก่อการร้ายบนเครื่องบิน
            สืบเนื่องจากเหตุการณ์นี้, สนามบินในออสเตรเลียต่างก็ได้เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย
ส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้าลง
            อย่างไรก็ดีความคุกคามจากการก่อการร้ายการในออสเตรเลียยังคงอยู่ในระดับเดิมนั่นคือ
probable
(Daily Mail)

ข่าวนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการก่อการร้าย หรือคนเสียสติก่อเหตุกันแน่
เหยื่อคืออาคารสถานกงสุลจีนในนครลอสแองเจลิส   ถูกกระหน่ำไปหลายนัดโดยฝีมือชายไม่ทราบชื่อ   ก่อนเจ้าตัวจะสังหารตัวเอง
ยังดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

LOS ANGELES, Aug 1 (Reuters) - A man opened fire at the Chinese consulate in Los Angeles on Tuesday morning, then took his own life in his nearby car, police said.

There were no other injuries in the shooting, which took place at about 6 a.m. before the consulate was open for the day, said Officer Michael Lopez of the Los Angeles Police Department.

“Numerous rounds impacted the Chinese consulate,” Lopez said.

Authorities did not immediately identify the man and had few other details about the incident. — REUTERS

ฝรั่งเศสเจออีกแล้ว   รถยนต์ไล่ชนทหาร นอกกรุงปารีส   บาดเจ็บหก สาหัสสอง

https://www.youtube.com/watch?v=nuINUezrj0E

มองลัทธิคลั่งชาติที่อเมริกาแล้วย้อนมามองที่บ้านเรา

เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม สำนักข่าวเอพีรายงานเหตุการณ์ช็อกท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างชาวอเมริกัน เมื่อมีรถยนต์วิ่งฝ่าฝูงชนที่ชุมนุมต่อต้านกลุ่มคลั่งชาติ ในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๑ ราย บาดเจ็บ ๒๖ คน คนขับรถคันดังกล่าวถูกจับกุมในเวลาต่อมา

https://youtu.be/j7exCjTR5Ac

กลุ่มขวาจัดประท้วงการปลดทิ้งอนุสาวรีย์นายพลโรเบิร์ต อี. ลี นายทหารฝ่ายใต้ผู้มีบทบาทในสงครามกลางเมืองอเมริกา ส่วนอีกกลุ่มมาประท้วงกลุ่มขวาจัดอีกที ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_471397

https://www.facebook.com/pipob.udomittipong/posts/10155593383441649

คุ้นๆ

ภาพบนเหตุการณ์ที่เวอร์จิเนียครั้งนี้ ภาพล่างจากหนังเรื่อง django unchained

     เรื่องประท้วงนี้คุณหมอ SILA คงเข้าใจดี  แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์อเมริกา  อาจจะเวียนหัวอยู่บ้างว่ามันประท้วงอะไรกันสับสนอลหม่าน   มีทั้งฝ่ายประท้วงการย้ายอนุสาวรีย์  ฝ่ายที่มาประท้วงฝ่ายประท้วง  และฝ่ายที่มาประท้วงพวกประท้วงฝ่ายประท้วงอีกที
     จุดเริ่มต้นอยู่ที่ว่าอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นเป็นเกียรติแก่นายพลโรเบิร์ต อี. ลี   ผู้นำรัฐฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมืองของอเมริกา  ซึ่งเป็นศึกระหว่างบรรดารัฐทางเหนือและบรรดารัฐทางใต้  เพราะรัฐทางใต้ไม่ยอมเลิกระบบทาสตามคำสั่งของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอร์น  แต่กลับประกาศแยกตัวออกจากสหรัฐอเมริกา 
     นายพลลีเป็นผู้นำรัฐทางใต้ที่ต้องการคงสภาพระบบทาสเอาไว้   เป็นคนรบเก่งมาก แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ก็เลยพ่ายแพ้แก่กองทัพของรัฐฝายเหนือ นำโดยนายพลแกรนท์   ซึ่งอาภัพทำนองเดียวกับดยุคแห่งเวลลิงตันผู้ชนะศึกจักรพรรดินโปเลียน   คือชนะศึกก็จริงแต่ดังสู้คนแพ้ไม่ได้
       เวอร์จิเนียเป็นบ้านเกิดของนายพลลี     เมื่อเขาตายไป ที่นี่ก็สร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้เป็นที่ระลึกที่เมืองชาร์ล็อตสวิลล์     ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อทางเทศบาลของเมืองเกิดไม่เห็นด้วยกับสัญลักษณ์อันเป็นที่ระลึกถึงระบบทาส   ก็เปลี่ยนชื่อสวนสาธารณะที่ตั้งของอนุสาวรีย์  และจะย้ายรูปปั้นออกไป 
      ในรัฐทางใต้อย่างเวอร์จิเนีย  ชาวบ้านที่ยังภูมิใจในนายพลลีมีอยู่มาก  พวกนี้รวมพลประท้วงการย้ายอนุสาวรีย์     พอพวกนี้ประท้วงได้  ชาวบ้านอีกพวกที่ไม่เห็นด้วยก็ยกพลมาประท้วงพวกนี้อีกที  จากนั้นก็ฮือกันมาอีกหลายกลุ่มไม่รู้ใครเป็นใคร  และกำลังจะลามไปเป็นการเมืองระดับชาติ   

            เท่าที่นึกได้ Ku Klux Klan ผ่านหู,ผ่านตาในหนังเรื่องวิมานลอยที่ผู้แต่ง Margaret
Mitchell เขียนถึงพวกสามเคนี้มีบทบาทเป็น กลุ่มชายผิวขาวเฝ้าระวังสั่งสอนชายผิวดำที่หมายจะ
ล่วงละเมิดทางเพศนางเอกของเรื่อง - สการ์เล็ท
            ส่วนหนังเก่าที่ฉายภาพโหดของสามเคที่จำได้คือหนังเก่าปี 1979 เป็นมินิซีรี่ส์ทีวีแต่ตัดมา
ฉายเป็นหนังโรงในบ้านเรา
            หนังเป็นที่จดจำเนื่องจากนำแสดงโดย แบล็คซุเปอร์แมน - Muhammad Ali และ Kris
Kristofferson(นักร้อง,นักแสดง)
            ยังจำได้ฉากในหนังเมื่อพวกสามเค - เจ้าของที่ดินเดิมร่วมมือกับอดีตทหารฝ่ายใต้ สวมชุดขาว
หมวกคลุมศีรษะ,หน้า ถือปืนและคบเพลิงออกอาละวาดกวาดล้างคนดำรวมทั้งคนขาวที่ยากจนที่ประกอบ
อาชีพทำไร่ร่วมด้วยช่วยกัน

      ในการประท้วงครั้งล่าสุดนี้  มีข่าวว่าพวก KKK หรือ Klu Klux Klan ก็มาร่วมวงกับเขาด้วย     พวกนี้ในชีวิตประจำวันก็เป็นประชาชนคนผิวขาวธรรมดานี่เอง  ประกอบอาชีพต่างๆอยู่ในสังคมตามปกติ      แต่มีอุดมการณ์ขวาจัด เป็นพวกยกย่องเชิดชูคนผิวขาวอย่างสุดโต่ง  ว่าเจริญมีวัฒนธรรม เป็นชาวอารยะเหนือกว่าคนผิวดำ ซึ่งเคยเป็นทาสมาก่อน      พวกนี้จะคอยสอดส่องพฤติกรรมของคนผิวดำว่าทำอะไรผิดบ้าง แล้วบางครั้งก็รวมตัวกันเป็นตุลาการศาลเตี้ยจับคนดำแขวนคอเสียเอง 
     KKK ถือกำเนิดในรัฐทางใต้     ผลุบโผล่ๆอยู่ในยุคสมัยต่างๆ  ล้มหายตายจากไปแล้วก็รวมตัวเกิดใหม่ขึ้นมาอีกค่ะ
     ในยุคนี้ คุณทรัมเปตแกขวาจัด      พวกนี้อาจจะฮึกเหิมขึ้นมาอีกก็ได้   ต้องจับตาดูให้ดี

KKK,  Roughneck,  Redneck

ผมไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในรัฐ Tennessee เลยได้มีโอกาสสัมผัสกับสังคม ผู้คนและปรัชญาแนวคิดของกลุ่นคนในสามคำเรียกขานข้างต้น   

KKK เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์และความคิดเหมือนๆกัน ซึ่งโดยพื้นฐานก็คือ คนผิวขาวเท่านั้นที่เป็นชนชั้นผู้ปกครอง

Roughneck เป็นคำที่ใช้เรียกผู้คนที่มีนิสัยเป็นนักเลงโตหรืออันธพาล

Redneck เป็นคำที่ใช้เรียกคนบ้านนอก

ดูจะเป็นคำเรียกขานที่มีความหมายแยกกันชัดเจนดี   แต่ในความเป็นจริงแล้ว สังคมและการกระทำของคนในกลุ่มสามคำเรียกขานนี้สื่อไปในเรื่องเดียวกันคือ White Supremacy  ซึ่งจะเห็นได้ทั่วประเทศและในทุกระดับชนชั้น  จะดีก็อยู่อย่างหนึ่งคือ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสีผิว แต่เขาก็ละเว้นพวกคนสีผิวอ่อนเช่นพวกเรา 

หากเราใช้ความสังเกต เราก็พอจะจำแนกผู้คนเหล่านั้นได้จากลักษณะจำเพาะบางอย่างที่ปรากฎตั้งแต่หัวจรดเท้า

(buzzfeed.com,voa ไทย, globalnews.ca,บีบีซีไทย, zimbio, getty images)

            มองเหตุการณ์จากความขัดแย้งรุนแรงข้างต้นซึ่งสะท้อนภาพ,ผลของลัทธิแนวคิด คนขาวสุดยอด,
สุดโต่ง(white supremacy) ที่เป็นประเด็นร้อนแรงในอเมริกา, ประเทศเสรีประชาธิปไตยพี่ใหญ่ในโลกหล้า
คุกรุ่นมาตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว มาท่องเน็ทมองต่อ

             อีกหนึ่งกลุ่มหลักของผู้นิยมลัทธิขาวสุดโต่งนี้(นอกจากพวกสามเคดังที่ได้กล่าวไปแล้ว) นั่นคือ
กลุ่มลัทธินิยมนาซี(ใหม่)
    
             อเมริกันชนส่วนใหญ่ของประเทศ(แน่นอน) เป็นผิวขาว White (Americans) สูงสุดด้วยสัดส่วน
ราว 70+% และในส่วนคนขาวนี้จำแนกได้เป็น  German Americans มากสุด 16.5% ตามด้วย Irish
Americans 11.9% และ English Americans 9.2%
(ตัวเลขจากแหล่งข้อมูลต่างๆ แตกต่างกันไปบ้าง, ข้างบนเป็นจากวิกกี้)

             ย้อนไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ได้เกิดการรวมกลุ่มทางการเมืองของอเมริกันชนผู้มีอุดมการณ์
Nazi Germany รวมตัวกันทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์และรณรงค์แนวความคิดนี้ บางกลุ่มถึงขนาดจัดค่าย
นาซีภาคฤดูร้อนสำหรับเด็กๆ

ชาวเยอรมัน-อเมริกันแสดงท่านาซีสลุตแก่เด็กหนุ่มสวมชุดนาซีที่เดินแถวใน Camp Siegfried เมื่อปี 1937

         จุดพีคของลัทธินาซีนิยมนี้อยู่ที่เดือนกุมภา ปี 1939 เมื่อกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า German American Bund
ได้จัดงานชุมนุมชนนิยมนาซีราว 20,000 คนที่ Madison Square Garden มหานครนิว ยอร์ค แต่เมื่อสงครามโลก
ครั้งที่สองอุบัติขึ้น, กลุ่มชนพวกนี้ก็สลายหายไป

จนท.ตำรวจเข้าระงับเหตุการปะทะกันระหว่างฝูงชนที่ต่อต้านกับผู้รณรงค์ลัทธินิยมนาซีที่ Madison Square Garden

            ก่อนที่จะกลับมาใหม่

นาซีใหม่ซัดกับผู้ประท้วงต่อต้านเมื่อปี 1969

            รีเทิร์นมาเมื่อแนวคิดคนขาวสุดโต่ง(white supremacy) ได้ถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาใหม่ไล่ตาม
แนวคิดสิทธิพลเมือง(civil rights)

สมาชิกสามเคและนาซีร่วมกิจกรรมรณรงค์ที่ Chicago's Marquette Park ในเดือนกันยาปี 1988

ผู้ประท้วงต่อต้านผิวสีเข้าขวางกลุ่มชนที่จะทำร้ายนาซีใหม่ใน Ann Arbor, Michigan มิ.ย. ปี 1996

สิงหาปี 2009, นาซีใหม่ชุมนุมประท้วงใกล้กับบริเวณจัดพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ Illinois Holocaust Museum
และ Education Center

และ  กลุ่มคนขาวสุดโต่งรวมตัวกันถือคบเพลิงและเดินตะโกนก้องร้องว่า  "white lives matter"(สามเค)
& "Jews will not replace us!"(นาซีใหม่) เป็นการตอบโต้ต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านการเหยียดผิว
ที่เรียกตัวเองว่า Black Lives Matter ที่ ม. Virginia, Charlottesville เมื่อ 11 สิงหา 2017

ผู้ประท้วงถือธงสมาพันธรัฐฝ่ายใต้(confederate) และธงนาซีที่ Emancipation Park,Charlotteville,
Virginia 12 สิงหา 2017

         ธง และ รูปปั้นของนายพลทหารแห่งสมาพันธรัฐใต้เป็นประเด็นขัดแย้งที่น่าจะเป็นชนวน
ให้เกิดการประท้วงต่อไป

         เมื่อปี 2015 มีการเรียกร้องให้ปลดธงสมาพันธรัฐอเมริกาทั่วประเทศ หลังจากผู้นิยมแนวคิด
คนผิวขาวเป็นใหญ่คนหนึ่งก่อเหตุกราดยิงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน 9 คนที่โบสถ์ในเมืองชาร์ลสตัน
รัฐเซาท์แคโรไลนา และ       
         ปัจจุบันทั่วสหรัฐอเมริกา มีรูปปั้นในลักษณะนี้อยู่อย่างน้อย 709 ชิ้น ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุน
เห็นว่ารูปปั้นเหล่านี้เป็นการให้เกียรติประวัติศาสตร์สงครามกลางเมือง แต่ฝ่ายที่คัดค้านเห็นว่าเป็น
สัญลักษณ์ของการเหยียดเชื้อชาติและสีผิว ทั้งยังเป็นการเฉลิมฉลองระบอบทาส         

รูปปั้นนายพลโรเบอร์ท อี ลี ที่รัฐแมรีแลนด์และเคนทัคกีถูกโค่นลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลัง
เหตุการณ์ที่ชาร์ล็อตส์วิลล์เมื่อวันเสาร์
นอกจากนี้ยังมีการโค่นรูปปั้นนายพล นาธาน เบดฟอร์ด ฟอเรสท์ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มสามเค
ผู้มีส่วนในการสังหารหมู่ทหารผิวดำ ในเมืองเดอแรม นอร์ทแคโรไลนา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
เช่นกัน

ล่าสุด   เกิดเหตุก่อการร้ายโดยใช้รถเป็นอาวุธที่บาร์เซโลนา คร่า 13 ชีวิต และบาดเจ็บอีกหลายสิบ

         รถแวนพุ่งเข้าใส่ฝูงชนในย่านรัมบลาส เมืองบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของสเปน
ตำรวจับผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน แต่คนขับหลบหนีไปได้ และสามารถสังหารคนร้ายได้ 1 คน ขณะขับรถพุ่ง
ชนด่านตำรวจในอีกจุดหนึ่งของนครบาร์เซโลนา
          มาร์ก เอสปาร์เซีย นักศึกษาวัย 20 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา บอกกับบีบีซีว่า
"มีเสียงดังเกิดขึ้น และทุกคนก็วิ่งไปหาที่กำบัง มีผู้คนจำนวนมาก หลายครอบครัว(ที่จุดเกิดเหตุ) นี่เป็น
หนึ่งในจุดที่มีไปเที่ยวชมมากที่สุดในบาร์เซโลนา"

ถัดมาอีกหนึ่งวัน,ข้ามน้ำไปฟินแลนด์ คราวนี้ใช้มีดเป็นอาวุธ

              บ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นที่เมือง Turku ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟินแลนด์ มือมีดไล่แทงผู้คน
ในบริเวณ market square ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองคนและบาดเจ็บหกราย ส่วนคนร้ายถูกจนท.ยิงที่ขาแล้วจับ
กุมตัวได้ ขณะนี้ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเป็นเหตุก่อการร้ายหรือไม่

(telegraph.co.uk)

          นอกจากนี้ที่สเปน, แปดชั่วโมงหลังการก่อการร้ายครั้งแรก ได้เกิดเหตุรถออดี เอ3 พุ่งชนคน
เดินถนนในเมืองแคมบริลส์ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศและอยู่ห่างจากนครบาร์เซโลนาไปทางตะวันตก
เฉียงใต้ราว 110 กม.
          คนร้ายได้ขับรถคันหนึ่งพุ่งใส่กลุ่มคนในช่วงเช้าตรู่วันศุกร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน เป็นตำรวจ
1 นาย สื่อสเปนรายงานว่ารถยนต์ของคนร้ายพลิกคว่ำ จากนั้นคนร้ายได้ออกมาจากรถและเปิดฉากยิงใส่ตำรวจ

          คนร้าย 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้บางคนสวมเข็มขัดระเบิด ถูกตำรวจยิง ทำให้คนร้ายเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
4 คน ส่วนอีก 1 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
          ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถคุมสถานการณ์ได้ และทำลายระเบิดที่ผูกติดอยู่กับตัวคนร้ายเป็นที่เรียบร้อย
ก่อนที่จะทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นของปลอม

อ่านรายงานเต็มที่

http://www.bbc.com/thai/international-40971417?ocid=socialflow_facebook

สองเหตุการณ์รูปแบบเดิมที่สองเมืองหลวงในวันเดียวกัน
(telegraph.co.uk)

             ชายวัย 30 ปีใช้มีดจู่โจมทำร้ายนายทหารในกรุง Brussels ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับตะโกน
ประโยคสัญญลักษณ์ว่า "Allahu Akbar" (God is Greatest) เช่นเคย เมื่อวันศุกร์ 25 สิงหาคมที่
ผ่านมา ทั้งนี้ทหารคนอื่นที่อยู่บนถนนได้ทำการสังหารชายผู้นี้ในเวลาต่อมา
             ทางการระบุว่า ผู้ก่อการร้ายเป็นพวกฝักใฝ่ไอเอสและปฏิบัติการแบบหมาป่าเดี่ยว

            ต่อมาในคืน(วัน)เดียวกันที่ลอนดอน, ชายวัย 26 ปีพร้อมดาบยาว 4 ฟุต,ตะโกนถ้อยคำเดิม
ว่า Allahu Akbar ถูกจนท.ตำรวจรุมจับกุมที่บริเวณหน้าพระราชวัง Buckingham มีผลทำให้จนท.ได้
รับบาดเจ็บ(ไม่มาก) 3 ราย

http://www.bbc.com/news/uk-41278545
รถไฟใต้ดินของลอนดอนโดนวางระเบิด   ที้  Parsons Green District Line station   ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน
บาดเจ็บกันระนาว

สาวเอมม่ายังดวงดี  รอดชีวิตมาได้ ไม่ได้รับบาดเจ็บ   แต่เธอก็คงขวัญหนีดีฝ่อกับภาวะเฉียดตาย ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในบ้านเมือง
คือเช้าออกจากบ้านไปทำงาน  ไม่รู้จะมีชีวิตกลับมาบ้านได้ในตอนเย็นหรือเปล่า   จะหลบเลี่ยงก็ไม่รู้จะเลี่ยงไปทางไหน

บีบีซีไทย รายงานข่าว

             ชายวัย 18 ปีถูกจับตัวในเมืองโดเวอร์จากการต้องสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายระเบิดโจมตี
รถไฟใต้ดินที่สถานีพาร์สันส์ กรีน ในกรุงลอนดอนของอังกฤษในวันศุกร์  15 ก.ย. เวลา 8.20 น. ตามเวลา
ท้องถิ่นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 30 คน ส่วนใหญ่ได้รับการรักษาจากการบาดเจ็บเล็กน้อย
             เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าระเปิดถูกตั้งเวลาไว้ แต่แฟรงก์ การ์ดเนอร์ ผู้สื่อข่าวด้านความมั่นคงของบีบีซี ระบุว่า
ระเบิดดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ทำงานเต็มที่ ถ้ามันทำงานตามที่ผู้ก่อเหตุตั้งใจ จะทำให้ทุกคนที่อยู่โดยรอบระเบิด
เสียชีวิต และทำให้ผู้ที่อยู่ในตู้รถไฟนั้นทุกคนพิการ
            ระดับการเตือนภัยคุกคามการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักร ถูกปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุด นั่นหมายความว่า
อาจจะเกิดเหตุโจมตีขึ้นในเวลากระชั้นชิด       

           ส่วนที่ปารีส ก็เกิดเหตุก่อการร้ายแนวเดิมอีก, รายงานข่าววันที่ 15 ก.ย. ระบุว่า ชายคนหนึ่ง
พร้อมมีดในมือร้องตะโกนว่า Allah ในขณะที่พุ่งเข้าทำร้ายนายทหารชาวฝรั่งเศสที่บริเวณสถานีรถไฟ
ใต้ดิน Chatelet ตอนเวลา 6.30 น.
           ตำรวจพร้อมอาวุธสามารถจับกุมชายคนนั้นไว้ได้ ส่วนนายทหารผู้นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ               
dailymail.co.uk

เหตุระเบิดรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนครั้งล่าสุด เป็นเหตุก่อการร้ายในอังกฤษครั้งที่ ๕ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ ๓๐ คน เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สะท้อนถึงความล้มเหลวของหน่วยข่าวกรองและเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในการรับมือกับภัยก่อการร้าย ท่ามกลางสถานการณ์ที่กลุ่มคนที่เคยเดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มติดอาวุธไอเอสในซีเรียและอิรัก กำลังทยอยเดินทางกลับบ้าน หลังกลุ่มไอเอสพ่ายแพ้ในหลายเมือง

ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษระบุว่า นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ จนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ๓๗๙ คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึงร้อยละ ๖๘ และผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในข้อหาก่อการร้ายมีถึง ๒๐๔ คน เพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง ๑ใน ๓ ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังระบุว่า นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นต้นมา ทางการอังกฤษพบแผนก่อการร้ายถึง ๑๙ ครั้ง เฉพาะตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบแผนก่อการร้ายถึง ๖ ครั้ง หรือเฉลี่ยเดือนละ ๑ ครั้ง

ซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เหตุก่อการร้ายในอังกฤษเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือ การที่กองทัพซีเรียและอิรักสามารถรุกคืบและยึดคืนเมืองสำคัญที่กลุ่มไอเอสประกาศสถาปนาเป็นรัฐอิสลามคืนได้ ทำให้ผู้ถือสัญชาติอังกฤษที่เคยเดินทางไปร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกลุ่มไอเอสในซีเรียและโมซุล ตัดสินใจเดินทางกลับอังกฤษ โดยข้อมูลล่าสุดของสหภาพยุโรประบุว่า ประมาณครึ่งหนึ่งถึง ๓ ใน ๔ ของชาวอังกฤษ ๘๕๐ คนที่เดินทางไปยังซีเรียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้ยังนับเป็นว่าเป็นส่วนน้อย ในจำนวนผู้ที่เข้าข่ายต้องจับตาทั้งหมด

https://news.voicetv.co.th/world/524617.html

http://edition.cnn.com/2017/09/15/opinions/london-bomb-shashank-joshi-opinion/index.html

ย้อนกลับมาที่อเมริกา   ศึกระหว่างสีผิวยังไม่จาง
http://www.naewna.com/inter/292703

ประท้วงใหญ่ หลังอดีตตำรวจเซนต์หลุยส์พ้นผิด
วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560, 09.50 น.

ชาวเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีของสหรัฐ ออกมารวมตัวประท้วงเป็นวันที่สอง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ผู้พิพากษารัฐมิสซูรีตัดสินให้อดีตตำรวจผิวขาวเมืองเซนต์หลุยส์พ้นผิดในคดียิงชายผิวดำเสียชีวิตเมื่อปี 2554

ผู้ชุมนุมประมาณ 600 คนพากันเดินขบวนไปตามท้องถนนในเมืองเซนต์หลุยส์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นพร้อมกับตะโกนว่าไม่มีความยุติธรรม ไม่มีสันติภาพ และชีวิตคนผิวดำก็มีค่า หลังจากนั้นในช่วงเย็นมีผู้ออกมาชุมนุมอีกราว 300 คน ผู้ประท้วงบางส่วนขว้างก้อนหินและขวดน้ำ ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้สเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วงหลายราย และเกิดการตะลุมบอนกันในหลายจุด มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 33 คน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจล 11 นายได้รับบาดเจ็บระหว่างสกัดไม่ให้ผู้ประท้วงเคลื่อนขบวนไปยังทางหลวง

ชาวเมืองเซนต์หลุยส์ออกมาแสดงความไม่พอใจเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากศาลตัดสินให้นายเจสัน สตอกลีย์ อดีตตำรวจผิวขาววัย 36 ปีพ้นผิดในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกรณีที่ทำให้นายแอนโธนี ลามาร์ สมิธ ชาผิวดำวัย 24 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 นายสตอกลีย์อ้างว่านายสมิธขับรถหลบหนีขณะเขาจะเข้าไปจับกุมในคดียาเสพติด เขาและคู่หูจึงได้ยิงเพราะคิดว่านายสมิธมีปืน นายสมิธถูกยิง 5 นัดเสียชีวิตคารถ และพบปืนในรถ อัยการแย้งว่า ตำรวจจัดฉากเพราะพบแต่ดีเอ็นเอของนายสตอกลีย์บนปืน ผู้พิพากษาชี้ว่า อัยการไม่สามารถพิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยอันมีเหตุผลว่าเป็นการฆาตกรรมหรือแม้แต่การฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และศาลไม่เชื่อคำแย้งของอัยการที่ว่าตำรวจจัดฉากวางปืนไว้ในรถนายสมิธ เพราะเป็นเรื่องผิดปกติมากหากนักค้าเฮโรอีนในเขตเมืองจะไม่พกอาวุธ

ก่อนหน้านี้มีตำรวจสหรัฐพ้นผิดมาแล้วหลายคนในคดีทำให้ประชาชนเสียชีวิต เช่น คดีตำรวจยิงนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำวัย 18 ปี เมื่อปี 2557 ที่เป็นชนวนเหตุประท้วงรุนแรงหลายวันในเมืองเฟอร์กูสัน คดีตำรวจรัดคอนายเอริก การ์เนอร์ วัย 43 ปี จนขาดอากาศหายใจที่นครนิวยอร์กในปีเดียวกัน คดีนายเฟรดดี เกรย์ วัย 25 ปี คอหักในรถตำรวจในปีถัดมา

เรื่องนี้ข่าวต่างประเทศก็ให้ข้อมูลไม่มากไปว่านี้เท่าใดนักครับ ผมลองคุยกับเพื่อนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ความว่า คดีนี้เป็นการไต่สวนสาเหตุการตาย เนื่องจากตามกฎหมายอาญาของมลรัฐนั้น ก็เหมือนกฎหมายไทยเราคือ หากมีกรณีตายจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ก็ต้องมีการไต่สวนครับ

คดีนี้ ปรกติเป็นคดีที่ต้องใช้ลูกขุน (Jury) แต่เนื่องจากเป็นคดีอาญาซึ่งมีโทษจำคุกเกินกว่า 6 เดือน ผู้ต้องหาสามารถร้องขอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาข้อเท็จจริงแทนได้ (เพื่อนผมอธิบายทับศัพท์มาว่า ขอ Waive ซึ่งผมไม่รูัว่าจะแปลว่าอะไร)

จากคำให้การของจำเลย (ตำรวจ) บอกว่า เห็นผู้ตายในลานจอดรถร้านขายไก่ทอด จึงพยายามเข้าจับกุม ผู้ตายขับรถหนี ตนจึงไล่ตามไปและตัดสินใจพุ่งชนรถของผู้ตาย ตนได้ยินผู้ตายพูดก่อนลงจากรถว่า "I'm going to kill this mother f_cker" เมื่อจำเลยเดินไปที่รถของผู้ตาย เห็นผู้ตายมีปืน จึงทำการยิงเพื่อป้องกันตัว

อัยการค้านว่า ปืนที่พบไม่มี DNA ของผู้ตายอยู่เลย และ VDO ในรถตำรวจระหว่างที่จำเลยเดินไปจับกุมก็ขาดหายไปราว 15 วินาที ทำให้ไม่น่าเชื่อว่า คำให้การของจำเลยเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ตายจะเป็นความจริง

ผู้พิพากษาในคดีนี้ ตัดสินโดยบอกว่า ท่านทำงานมา 30 ปี ไม่เคยเห็นผู้ค้ายาคนใดไม่พกปืน จึงพิพากษาให้จำเลยพ้นผิดฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน   

          วานนี้เกิดเหตุก่อการร้ายแนวเดิมในประเทศเดิม(ฝรั่งเศส) อีกครั้ง

Marseille 'terrorist' attack

             คนร้ายอายุราว 25-30 ปีใช้มีดไล่แทงผู้คนบริเวณสถานีรถไฟเซนต์ชาร์ลส์ ในเมืองมาร์แซย์ของฝรั่งเศส
ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นหญิง ส่วนคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตแล้ว
             แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่า คนร้ายได้ตะโกนว่า "Allahu Akbar" (พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่) เช่นเคย
        
จนท.ตำรวจตรวจสอบร่างหลังจากถูกยิงลง

และข้ามฟากมาเกิดเหตุที่

Edmonton, Canada terror attack

            ผู้ก่อการร้ายวัย 30 ปีขับรถฝ่าเครื่องกีดขวางพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงก้าวออกจาก
รถพร้อมอาวุธมีดในมือมุ่งเข้าแทงจนท.(ได้รับบาดเจ็บไม่รุนแรงถึงชีวิต) ก่อนที่จะวิ่งหนีไปแล้วถูกจับกุมตัว
ได้ในเวลาต่อมา รายงานข่าวระบุว่าตรวจพบธง IS ภายในรถของผกก.ร้าย

คลิปบันทึกเหตุการณ์

https://www.youtube.com/watch?v=wp9A5GPnEOs

ได้ข่าวว่าลอนดอนเมื่อวานนี้ก็ป่วน   ผู้คนถูกต้อนออกจากสถานี   ตำรวจกระจายกำลังกันเต็มไปหมด   ในที่สุดไม่พบอะไร
ก็โล่งอกไปอีกวันค่ะ
ถ้าอยู่ลอนดอน คงประสาทเสียทุกวัน

ข้ามทวีปมาที่อเมริกา   มือปืนยิงกราดเข้าไปในงานแสดงดนตรีที่ลาสเวกัส  ตาย 20 บาดเจ็บนับร้อย

Las Vegas Shooting Near Mandalay Bay Kills at Least 20
A gunman in a Las Vegas hotel opened fire Sunday night at a concert outside, sending thousands of people fleeing as SWAT units searched for the attacker. At least 20 people were killed and more than 100 others injured, hospital officials said.

The shooting happened near the Mandalay Bay Resort and Casino. Video posted online showed the country singer Jason Aldean performing outside the hotel at Route 91 Harvest, a country music festival, interrupted by the sound of automatic gunfire. The music stopped, and concertgoers ducked for cover. “Get down,” one shouted. “Stay down,” screamed another

https://www.nytimes.com/2017/10/02/us/las-vegas-shooting.html

ล่าสุด จำนวนผู้เสียชีวิตเลย 50 ไปแล้ว และบาดเจ็บกว่า 400 คน  มือปืนวัย 64  ชื่อ Stephen Paddock  ยิงกราดลงมาจากชั้น 32 ของโรงแรม
https://twitter.com/cnnbrk/status/914854003963555840?ref_src=twsrc%5Egoogle%7Ctwcamp%5Eserp%7Ctwgr%5Etweet

            ก่อนที่กระทู้จะตกหน้าแรกไป,ได้เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งล่าสุดในใจกลางย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก
วานนี้เมื่อราว 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

             คนร้าย,ชาวอุซเบกิสถานซึ่งเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯเมื่อปี 2010, ใช้รถกระบะสีขาวที่เช่ามา ขับพุ่งเข้า
ชนคนขี่จักรยานและคนเดินถนนจำนวนมาก ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังเดินทางกลับบ้านและมีกลุ่มเด็กที่กำลังฉลอง
เทศกาลฮาโลวีนผ่านไปมา
             หลังจากได้ขับรถไล่ชนผู้คนไปตามทางระหว่างถนนเวสต์ สตรีท กับถนนฮิวสตัน สตรีทระยะหนึ่ง รถกระบะ
คันดังกล่าวได้ชนเข้ากับรถโรงเรียนอย่างแรง ทำให้มีผู้ใหญ่และเด็กบนรถโรงเรียนบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 4 คน จากนั้น
คนร้ายได้ถือปืนพกสองกระบอกลงมาจากรถ พร้อมร้องตะโกนว่า "พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่" ก่อนจะถูกตำรวจยิงเข้าที่ท้อง
และถูกจับกุมตัวไว้ในที่สุด
              มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 คน และบาดเจ็บสาหัสอีกอย่างน้อย 11 คน

(บีบีซี ไทย)

น่ากลัวมากค่ะ
http://www.tnews.co.th/contents/373793

คนร้าย อาศัยอยู่ในอเมริกา มีเมียมีลูก 3 คน   ดำเนินชีวิตเงียบๆปกติ   วันร้ายคืนร้ายก็ก่อการร้ายขึ้นมาเฉยๆ  โดยไม่มีประวัติ ไม่มีเบาะแสอะไรให้ CIA  ระแคะระคาย
การทำงานแบบ lone wolf   เช่นนี้ก่อความปวดหัวให้ทางการบ้านเมืองมาก   เพราะป้องกันยาก สืบร่องรอยที่จะเชื่อมโยงกับขบวนการก็ยาก    ที่สำคัญคือลงทุนน้อย   แต่เขย่าขวัญสั่นประสาทประชาชนได้ผลอย่างกว้างขวาง

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ

หน้าตาคนร้าย เซฟูลโล ไซปอฟ วัย 29 ปี ชาวอุซเบกิสถานที่ลี้ภัยไปอยู่ในอเมริกาตั้งแต่ปี 2010

เหตุร้ายนี้เข้าทางคุณทรัมเปต ที่ฝังใจกับนโยบายเข้มงวดคนขอวีซ่าเข้าอเมริกา โดยเฉพาะจากตะวันออกกลางอยู่แล้ว

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ฉวยโอกาสหลังเกิดเหตุโจมตีนิวยอร์กเรียกร้องให้สภาคองเกรสแก้กฎหมายคนเข้าเมืองให้มีความเข้มงวด ยกเลิกโครงการวีซ่าซึ่งเปิดทางให้ตีนผีชาวอุซเบกเข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ พร้อมขู่จะส่งชายหัวรุนแรงรายนี้ไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงที่อ่าวกวนตานาโม

ส.ว. ชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครต กล่าวหา ทรัมป์ ว่ากำลังใช้ความโศกเศร้าของคนในชาติมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ก็โต้กลับว่า ชูเมอร์ เองนั่นแหละที่จะต้องรับผิดชอบกับเหตุโจมตีซึ่งคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ในนิวยอร์กไป 8 ราย เนื่องจากเป็นคนผลักดันโครงการวีซ่าซึ่ง “เซฟุลโล ไซปอฟ” คนร้ายชาวอุซเบกิสถาน ใช้เดินทางเข้าสหรัฐฯ

ทรัมป์ ระบุวานนี้ (1 พ.ย.) ว่ากำลังพิจารณาส่งตัว ไซปอฟ ไปคุมขังที่เรือนจำทหารซึ่งตั้งอยู่ภายในฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในอ่าวกวนตานาโมของคิวบา โดยเรือนจำแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น “คุกมหาโหด” ที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยพยายามสั่งปิดแต่ก็ไม่สำเร็จ และยังไม่เคยมีการส่งนักโทษไปที่นั่นอีกเลยตั้งแต่ปี 2008

ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ทรัมป์ กำลังพิจารณาประกาศให้ตีนผีรายนี้เป็น “นักรบฝ่ายศัตรู” ซึ่งจะทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์ทางกฎหมาย

ทรัมป์ ประณาม ไซปอฟ ว่าเลวเหมือน “สัตว์” และยังวิจารณ์กระบวนการยุติธรรม ที่สหรัฐฯ ใช้จัดการกับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายว่า “น่าขำ”

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือน ม.ค. ทรัมป์ พยายามขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมายออกจากสหรัฐฯ ไปให้มากที่สุด และจำกัดการรับผู้อพยพถูกกฎหมายเข้าประเทศ

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุว่า ไซปอฟ เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2010 ผ่านโครงการวีซ่าความหลากหลาย (diversity visa program) ซึ่งมุ่งให้ถิ่นพำนักแก่พลเมืองของประเทศที่มีประวัติการอพยพเข้าอเมริกาค่อนข้างน้อย

ทรัมป์ เอ่ยย้ำจุดยืนที่ตนประกาศไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงจนกระทั่งได้เป็นประธานาธิบดีว่า กฎหมายคนเข้าเมืองที่เข้มงวดคือปราการด่านแรกที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโจมตีลักษณะนี้ขึ้น

“ผมจะเสนอไปยังคองเกรสทันทีให้เริ่มลงมือปิดโครงการที่ว่านี้เสีย” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบขาว

“เราจะต้องเข้มงวดกันมากขึ้น ต้องฉลาดขึ้น และเพลาๆ เรื่องความถูกต้องทางการเมือง (political correctness) ลงหน่อย ทุกวันนี้เราแคร์เรื่องความถูกต้องทางการเมืองจนไม่กล้าทำอะไรแล้ว”

โครงการวีซ่าความหลากหลายจะคัดเลือกผู้สมัครปีละ 50,000 คนที่จะได้รับวีซ่าและได้เป็นผู้พำนักถาวรในที่สุด ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องถูกตรวจสอบประวัติ ก่อนได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์ เสนอให้ใช้เกณฑ์การออกวีซ่าที่เน้น “คุณสมบัติ” เพื่อคัดกรองเอาแต่ประชากรที่มีทักษะสูง และยุติการโยกย้ายแบบลูกโซ่ (chain migration) ซึ่งผู้อพยพถูกกฎหมายมักจะทำเรื่องขอพาญาติๆ เข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ด้วย

https://mgronline.com/around/detail/9600000110807

จาก ลาส เวกัส, เกิดเหตุการณ์รุนแรงคล้ายกันตามมา
 
             เมื่อวานนี้ที่ห้าง Walmart ใน Thornton,Colorado เวลา 18:27 น. ชายผิวขาววัยกลางคน
เดินเข้ามาทางประตูหน้าของห้างแล้วใช้ปืนยิงสุ่มเข้าใส่ผู้คน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จากนั้นจึงขับรถ
หนีไป
             ยังไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการก่อการร้าย

จนท.ทวีทภาพผู้ต้องสงสัยและพาหนะที่ใช้ในการหลบหนี

Thornton เป็นเมืองผ่าน  ชานเมืองเดนเวอร์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ    ไม่มีอะไรเป็นจุดเด่น  เนื้อที่ประมาณ 95 ตารางกิโลเมตร 
ชีวิตคนที่นี่ก็เรียบๆ ง่ายๆ เหมือนคนส่วนใหญ่  ตามแบบของคนในรัฐเกษตรกรรม
เกิดเรื่องสะเทือนขวัญขึ้นมาแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นก่อการร้าย หรือมนุษย์โรคจิตก็ตาม   ก็เป็นสัญญาณเตือนให้ตระหนักว่า ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกแล้วค่ะ

            เหตุการณ์รุนแรงล่าสุดในอเมริกาอุบัติขึ้น(อีกแล้ว) เมื่อวานนี้เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ที่โบสถ์ First Baptist Church ในเมือง Sutherland Springs,Texas
            ผู้ก่อเหตุเป็นชายผิวขาวสวมชุดสีดำและเสื้อเกราะกันกระสุน ได้ใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมยิงเข้าใส่ผู้คน
จากด้านนอกแล้วบุกเข้าไปกราดยิงต่อด้านในโบสถ์ ก่อนที่จะหลบหนีไปหลังจากที่มีประชาชนคนหนึ่งในนั้น
ใช้ปืนของตัวเองยิงตอบโต้
             จนท.ติดตามรถยนต์ของคนร้ายที่ขับหนีไปจอดอยู่หลังจากชนกับสิ่งกีดขวาง พบว่าคนร้ายได้เสีย
ชีวิตแล้วจากการถูกยิง สื่อรายงานว่าคนร้ายคือ Devin Patrick Kelley วัย 26 ปี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยัน
             เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 26 ราย และบาดเจ็บอีกราว 20 ราย(อายุตั้งแต่ 5 - 72 ปี)

พูดยังไม่ทันขาดคำ   ก็เป็นความจริง
ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกแล้ว    แม้แต่ในโบสถ์ วันอาทิตย์
ขอให้วิญญาณผู้เคราะห์ร้ายไปสู่สุคติ

นี่มันลัทธิเอาอย่าง   หรือว่าฆาตกรทั้งหมดอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน?

ผู้ว่าการรัฐเทกซัสให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการสังหารหมู่ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ
คนร้ายเสียชีวิตจากกระสุนปืน หลังจากขับรถหนีไปได้ 8 ไมล์   ไม่แน่ว่ายิงตัวเองหรือว่าถูกยิงจากผู้เห็นเหตุการณ์
นายคนนี้เคยทำงานในกองทัพอากาศมาก่อน    เคยขึ้นศาลทหารมาแล้วข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยาและบุตร

 ในจำนวนเหยื่อ ๒๖ คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลยนี้   ครอบครัวฮอลคัมบ์ประสบเคราะห์ร้ายที่สุด คือสูญเสียสมาชิกไปถึง ๓ เจนเนอเรชั่นด้วยกัน 
คริสตัล กำลังท้องแก่ได้ 8 เดือนเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง และลูกน้อยอีก 3 คน   ส่วนลูกอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ
พ่อสามีของเธอถูกยิงตายในการสังหารหมู่ครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับภรรยาและลูกชายอีกคน
หนึ่งในเหยื่อกระสุน คือยายของภรรยาของฆาตกรรายนี้ 

การซื้อขายอาวุธปืนที่ทำได้ง่ายดาย จนบัดนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไขกฎหมาย  ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องอยู่กันแบบหวาดผวา  ไม่รู้แม้แต่ว่าอยู่บ้านในวันใดก็จะเจอเข้าบ้างหรือไม่

ประเทศเก่า, เรื่องเศร้าครั้งใหม่

             เช้าวานที่ร.ร. ประถมศึกษา ใน Tehama County ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Sacramento, California
ขณะที่นักเรียนและคุณครูกำลังจะเริ่มต้นการเรียนการสอนประจำวัน
             ชายคนหนึ่ง(ซึ่งทางการยังไม่เปิดเผยชื่อ) พร้อมอาวุธปืนได้บุกเข้าไปในร.ร.แล้วกราดยิงเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
โดยไม่เลือกหน้าเป็นเวลา 45 นาทีวิกฤต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ก่อนที่จนท.ตำรวจจะได้ทำการสังหารมือปืนในเวลา
ต่อมา

sfgate.com

          บีบีซีไทย รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า มือปืนใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติและปืนพกรวม 3 กระบอกกราดยิงใน
สถานที่หลายแห่งในเมืองเล็ก ๆ ชื่อแรนโช เทฮามา
          เหตุเกิดจาก "ความรุนแรงในครอบครัว" ที่บ้านหลังหนึ่ง ก่อนที่มือปืนจะออกจากบ้าน เข้าไปในโรงเรียน
ประถมแล้วเริ่มยิงผู้คนอีกครั้ง
          ชาวเมืองเทฮามาผู้หนึ่งบอกสื่อท้องถิ่นว่า เพื่อนบ้านของเขาเป็นมือปืน และขโมยรถกระบะของเขาไปก่อ
เหตุด้วย โดยมือปืนรายนี้ชอบซ้อมยิงปืนหลายร้อยนัดต่อครั้ง และเขาเคยแจ้งตำรวจไปหลายครั้งว่า "ชายคนนี้เป็นบ้า"
ซึ่งทำให้ถูกขู่ว่าจะทำร้าย

ข่าวเพิ่มเติม
http://sanfrancisco.cbslocal.com/2017/11/14/rancho-tehama-northern-california-fatal-shooting/

ดูรูปการณ์แล้ว มือปืนน่าจะคลุ้มคลั่งไล่ฆ่าคนมาตลอดทางที่ชิงรถเพื่อนบ้านขับมา      ทางโรงเรียนได้ยินเสียงปืนมาแต่ไกล ก็เลยวิ่งไปล็อคประตูหน้าอาคารเรียนเสียทัน
ผู้ใหญ่ตาย 4 เด็กนักเรียนไม่มีใครเสียชีวิต  แต่มีเด็กบาดเจ็บ เพราะนั่งรถแม่มาส่งที่ร.ร.ในเวลาเกิดเหตุพอดี   แม่บาดเจ็บสาหัส

สหรัฐอเมริกาเจอเหตุร้ายรายวัน อย่างไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก   เป็นเหตุสุดวิสัยอย่างที่นักการเมืองและตำรวจต่างก็ป้องกันไม่ได้

ความฝันอันสูงสุดของเด็กอเมริกันวันนี้  ;D

อีกครั้ง,ยังคงเป็นที่อเมริกา
       
            เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่โรงเรียน Aztec high school ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในชนบทของรัฐ New Mexico
เมื่อเช้าวานนี้
            มีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง 2 รายและอีกหนึ่งรายเป็นนักเรียนผู้ต้องสงสัยก่อเหตุซึ่งจนท.ยังไม่ได้ให้ข้อมูล
เพิ่มเติม

ยังเป็นประเทศเดิม,

             เช้าตรู่วันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นที่ชุมทางรถบัส New York's Port Authority 
ใกล้ย่าน Times Square เกิดเหตุระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่รุนแรงห้ารายและหนึ่งชายผู้
ต้องสงสัยวัย 27 ปี ข้อมูลระบุว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชาวบังคลาเทศเข้ามาอาศัยในอเมริกาหลายปีและ
ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
             ชายผู้นี้ผูกระเบิดชนิดโลวเทค pipe bomb บรรจุตะปูไว้กับตัวแล้วทำการจุดชนวนระเบิด
หมายให้เป็นระเบิดฆ่าตนและคนอื่น เคราะห์ดีที่ระเบิดไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สาหัส

เห็นกระทู้นี้เด้งขึ้นบนสุดของหน้าทีไร ใจหายทุกที เพราะแสดงว่ามีการสังหารหมู่เกิดขึ้นอีกแล้ว

เรื่องในโรงเรียน Aztec high school  ตอนนี้มีรายละเอียดแล้วว่า มือปืนเป็นอดีตนักเรียนเก่าที่ออกไปก่อนเรียนจบ ทำงานที่ปั๊มน้ำมัน
อายุเพียง 21 ปี ชื่อ William Atchison เป็นหนุ่มน้อยหน้าซื่อๆ ที่ไม่มีใครคิดว่าจะกลายเป็นฆาตกรบ้าคลั่ง  
จากหลักฐานที่ค้นพบ ใน thumb drive ที่เจ้าตัวพกติดตัวไว้    วิลเลียมซื้อปืนพกมา 2 กระบอก  กระสุนอีกเป็นจำนวนมาก   ตั้งใจจะบุกเข้าไปยึดห้องเรียนจับนักเรียนเป็นตัวประกัน  แล้วยิงทิ้งให้เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ  หลังจากนั้นเขาตัดสินใจว่าจะฆ่าตัวตายก่อนถูกตำรวจจับ
เช้าวันที่เกิดเหตุเขาก็แต่งตัวเหมือนเป็นนักเรียนจะไปโรงเรียน เพื่อไม่ให้ใครสงสัย  เดินเข้าไปในโรงเรียนเมื่อตอนแปดโมงกว่าเล็กน้อย  
ตรงห้องทางเดินระหว่างห้องเรียน    วิลเลียมเจอนักเรียนชายคนหนึ่งเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ เขาก็ยิงเด็กหนุ่มคนนั้นตายทันที    จากนั้นเด็กสาวอีกคนเดินมาตามทางเดินแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เขาก็ยิงเธอตายเป็นรายที่สอง  เหยื่อทั้งสองคนนั้นไม่รู้จักวิลเลียมมาก่อน เขาก็ไม่รู้จักเหยื่อ  เอาเป็นว่าเขายิงคนที่ผ่านเข้ามาในสายตา เหมือนเด็กเอาหนังสติ๊กยิงนกยิงหนู
จากนั้น วิลเลียมไล่ยิงตู้ล็อคเกอร์ที่เก็บของของนักเรียนที่เรียงอยู่ข้างทางเดิน    เสียงปินดังก้องเข้าไปถึงห้องเรียนใกล้สุด ทำให้ครูตระหนักว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นมาแล้ว ก็ปิดล็อคประตู สั่งเด็กให้หลบ   วิลเลียมยิงประตูหลายนัดจะเข้าไปให้ได้  แต่ไม่สำเร็จ
ตอนนั้นเสียงกึกก้องดังไปถึงภารโรง ก็รีบตะโกนขอความช่วยเหลือว่ามีคนร้ายพกอาวุธเข้ามา     ทำให้วิลเลียมเห็นท่าไม่ดี ก็เลยหนี แล้วยิงตัวตายไปดังที่วางแผนเอาไว้

ส่วนนักเรียนทั้งหมดรอด  เพราะสติและไหวพริบของครูกับภารโรง  ป้องกันเหตุร้ายที่จะกลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วประเทศหากว่าวิลเลียมทำได้สำเร็จตามแผน

นี่คือข้อความที่วิลเลียมบันทึกเอาไว้ล่วงหน้า  ก่อนจะลงมือก่อเหตุสังหาร

คนร้ายถูกจับได้แล้วค่ะ ชื่อ Akayed Ullah อายุ 27 ปี   ก่อการนี้เพียงลำพัง(lone wolf) เขาเป็นชาวบังคลาเทศที่อพยพเข้าไปอยู่ในอเมริกาตั้งแต่ปี 2011   ไม่มีประวัติอาชญากรรม

*

ช่วงเทศกาลวันหยุด,เฉลิมฉลอง  แต่เหตุร้ายไม่มีวันหยุด ข้ามลงมาที่
(cnn, news.com.au)

            Melbourne, Australia วานนี้เวลาบ่าย 4.40 น.  ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุคนร้ายขับรถ
Suzuki 4WD พุ่งเข้าชนผู้คนมากมายที่ Flinders Street Station ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย,
หนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนวัยก่อนเข้าเรียนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะมีอาการสาหัส

            คนร้ายซึ่งถูกจับกุมตัวได้เป็นชายชาวออสเตรเลียเชื้อสาย Afghan วัย 32 ปีที่มีประวัติการใช้
สารเสพติด,ความรุนแรงและมีปัญหาสุขภาพจิตกำลังรับการรักษาอยู่ (ยัง) ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงกับ
เหตุก่อการร้าย
            นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ,จนท.ยังได้จับกุมชายอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังบันทึกภาพเหตุการณ์นี้และ
ตรวจพบมีดสามเล่มในกระเป๋าของเขา (ยัง)ไม่พบความเกี่ยวข้องกันระหว่างชายทั้งสอง

เสียวสันหลังอยู่เหมือนกันค่ะว่า เทศกาลปีนี้จะเป็นเทศกาลเลือด ณ มุมใดมุมหนึ่งของโลก  ในเมืองใหญ่ๆด้วย 
ตอนนี้ไปโผล่ที่ออสเตรเลีย
ขอแสดงความเสียใจกับผู้เคราะห์ร้ายด้วยค่ะ

มาจริงๆ
ระเบิดในซูเปอร์มาเก็ต ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก    ทำเอาบาดเจ็บระนาวไปอย่างน้อย 10 คน

At least 10 people were injured Wednesday by an explosion at a supermarket in St. Petersburg, Russia's second-largest city and the site of a deadly subway bombing this year. The Investigative Committee, the nation's top investigative agency, said a device containing 200 grams (7 ounces) of explosives went off at a storage area for customers' bags. It said the device was rigged with shrapnel to cause more damage. No one has claimed responsibility for the explosion at a branch of the Perekresto
http://dailyme.com/story/2017122700002090

         นายกฯ ปูตินให้ข่าวว่า ระเบิดครั้งนี้ที่ supermarket ใน St. Petersburg เป็นเหตุก่อการร้าย
และยังบอกอีกด้วยว่าจนท. สามารถขัดขวางการก่อเหตุร้ายอีกที่หมายหนึ่งได้สำเร็จ ในขณะที่ยังไม่มี
กลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผลงานของตน
(techguava.com)

อ่านพบข่าวนี้ตั้งแต่เมื่อวาน   แต่ไม่อยากทำลายบรรยากาศปีใหม่ก็เลยยกยอดมาวันที่ 2 ค่ะ
เหตุสาดกระสุนฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างบ้าคลั่งเกิดขึ้นอีกแล้วในอเมริกา    ครั้งนี้เกิดขึ้นในรัฐโคโลราโด ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเงียบสงบมาก  เป็นรัฐเกษตรกรรมที่วิวงาม อากาศบริสุทธิ์ และผู้คนเป็นเกษตรกรอยู่กันเงียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรโลดโผน
แต่เหตุแบบนี้ก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากเคยเกิดมาแล้วไม่นานมานี้เอง

https://www.nytimes.com/2017/12/31/us/colorado-deputies-shooting.html

ตอนเริ่มต้นมันก็เป็นแค่เหตุการณ์เล็กๆ คือตอนเช้ามืด มีคนในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองเล็กๆชานเมืองเดนเวอร์ ชื่อ Highlands Ranch โทร.แจ้งนายอำเภอผู้มีหน้าที่รักษาความสงบแบบเดียวกับตำรวจ ว่าเกิดเหตุ "ไม่สงบ" ขึ้น    เหตุที่ว่านี้จะเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่เพื่อนบ้านทะเลาะกัน  ผัวเมียตีกันหัวร้างข้างแตก    นายอำเภอและผู้ช่วยก็ตรงไประงับเหตุ
ปรากฏว่าพอเข้าไปก็เจอกระสุนสาดออกมาเป็นร้อยนัด  แบบไม่ทันตั้งตัว  ทำเองผู้ช่วยนายอำเภอรายหนึ่งเสียชีวิต   ส่วนมือปืนถูกวิสามัญตายคาที่เกิดเหตุ
และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นถูกลูกหลงบาดเจ็บไปอีกสองคน แต่อาการไม่สาหัส

ยังคงเป็นที่อเมริกา, ในคืนส่งท้ายปีเก่า ณ บ้านหลังหนึ่งใน Monmouth County,New Jersey

           หนุ่มน้อย autistic วัย 16 ปีได้ก่อเหตุน่าสลดโดยการใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติยิง พ่อ,แม่,พี่สาว
และเพื่อนบ้านหญิง เสียชีวิตทั้งหมดรวม 4 ราย ส่วนพี่ชายและปู่(หรือตา) ซึ่งอยู่ในบ้านด้วยขณะเกิดเหตุ
ไม่ได้รับอันตรายใดๆ
           ทางการยังไม่ได้ระบุถึงเหตุจูงใจในการกระทำของเขา ในขณะที่เพื่อนบ้านกล่าวถึงหนุ่มน้อยผู้ก่อเหตุนี้
ว่า เป็น “the nicest kid in the world.”         

ที่อเมริกา,เช่นเคย

         เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น 8:00 น. เกิดเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียน Marshall County High School
ที่เมืองเกษตรกรรม Benton,รัฐ Kentucky มีผู้เสียชีวิตสองรายเป็นเด็กหญิงและเด็กชายวัย 15 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็น
เด็กหนุ่มวัย 15 ปีเช่นกัน ยังไม่มีการระบุถึงเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้

          ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ในนิว ยอร์ค ก็เกิดเหตุยิงกันในย่าน Midtown street จากบริเวณหน้าร้าน
Herald Square Spirits liquor store เมื่อเวลาบ่าย 4:45 น. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ผู้ต้องสงสัยเป็น
ชายสองคนๆ หนึ่งเป็นคนยิง ชายทั้งสองนี้ได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับชายอีกคนหนึ่งก่อนที่จะมีการยิงใส่กัน ถูกคู่กรณี
1 และอีก 2 รายเป็นผู้เคราะห์ร้ายโดนลูกหลง

ผ่านปีใหม่มาได้ 22 วัน พอถึงวันที่ 23   เหตุสยองในโรงเรียนก็เกิดขึ้นมาอีกครั้ง     ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่เห็นวิธีแก้ไข
หรือเยียวยา

เวลาเช้า ก่อนโรงเรียนเข้า  เด็กชายวัย 15 พกปืนสั้นเดินเข้าร.ร.  แล้วลั่นกระสุนใส่เพื่อนร่วมร.ร. แบบไม่เลือกเป้าหมาย   เพื่อนนักเรียนหญิงขาดใจตายทันที   นักเรียนชายอีกคนถูกยิงสองนัดเข้าที่หัว  ไปตายที่โรงพยาบาล  มีบาดเจ็บอีก 18 คน
เด็กนักเรียนนับร้อยกรีดร้อง วิ่งหนีตายกันกระจัดกระจายออกจากร.ร.ไปตามถนน    ตำรวจมาถึงในเวลาไม่กี่นาที  แต่ความสูญเสียครั้งนี้ก็จะเป็นฝันร้ายของเมืองต่อไปอีกหลายปี
ข่าวยังไม่เปิดเผยชื่อ และสาเหตุที่ลงมือของมือปืนค่ะ   แต่เท่าที่ทราบ  เขาถูกจับกุมได้

ที่อเมริกา,อีกแล้ว!

          เด็กหญิงวัย 12 ปี ก่อเหตุยิงเพื่อน 2 คน ที่โรงเรียนในลอสแอนเจลิส
          วานนี้,เมื่อ 8:55 น.ตามเวลาท้องถิ่น(23:55 น.เวลาไทย) ที่โรงเรียน Salvador Castro Middle School
เหยื่อเป็นเด็กชายอายุ 15 ปีถูกยิงที่ศรีษะ "อาการอยู่ในขั้นวิกฤตแต่คงที่" ส่วนเด็กหญิงอายุ 15 ปี ถูกยิงที่ข้อมือ และ
มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกสามคนอายุระหว่าง 11 ถึง 30 ปี
          เจ้าหน้าที่ยังไม่ระบุถึงมูลเหตุจูงใจการก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการจับกุมเด็กหญิงผู้ก่อเหตุ

http://abcnews.go.com/US/teens-shot-los-angeles-middle-school-suspect-custody/story?id=52770205

          14 กุมภาพันธ์วานนี้กลายเป็นวันฝันร้ายในฟลอริดา เมื่อเกิดเหตุกราดยิงในร.ร. high school
ที่ Parkland, Florida เมื่อเวลาประมาณบ่าย 3 โมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 รายส่วนใหญ่เป็น
เด็ก ตัวมือปืนเป็นศิษย์เก่าชายวัย 19 ปีที่โดนไล่ออก  

        (อดีตจนท. CIA และ FBI,ปัจจุบัน) นักวิเคระห์ข่าวของ CNN กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ขณะพูดถึง
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้

https://www.youtube.com/watch?time_continue=12&v=oXGvEBqgq5c

     เท่าที่อ่านพบข่าว  มือปืนรายนี้ชื่อ Nikolas Cruz   เป็นนักเรียนในร.ร.นี้มาก่อนจะถูกไล่ออกเพราะประพฤติผิดระเบียบวินัย     เขาไปสมัครเข้าร.ร.มัธยมปลายอีกแห่งหนึ่ง แต่ก็ย้อนกลับมาที่ร.ร.เดิมพร้อมด้วยปืนที่ไปซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย
     เพื่อนบ้านให้การว่า นิโคลัสมีนิสัยชอบล่าสัตว์เล็กๆน้อยๆ ชอบยิงไก่ ยิงนกยิงกระรอกซ้อมเป้าอยู่เป็นประจำ  ในอืนสตาแกรมเขาก็ลงภาพตัวเองในท่าถือปืน
    วันเกิดเหตุ  เขาเข้ามาในร.ร. ตอนบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียนกำลังเข้าชั้นเรียนกันเต็มร.ร.   นิโคลัสก็ปิดสัญญาณเตือนภัยไฟไหม้  ไม่ให้ใครไปส่งสัญญาณเตือนภัยได้ จากนั้นก็เริ่มกระหน่ำยิงเพื่อนนักเรียนด้วยกันไม่นับ   ผู้เสียชีวิตมีโค้ชฟุตบอลรวมอยู่ด้วยคนหนึ่ง  รวมคนตายไป 17 คน
    ส่วนสาเหตุ นักเรียนหญิงวัย 17 คนหนึ่ง ให้การว่า ก่อนหน้านี้นิโคลัสทะเลาะวิวาทกับแฟนใหม่ของอดีตแฟนสาว ซึ่งเลิกรากันไปเพราะเขาทำร้ายร่างกายเธอ   ข้อนี้อาจจะเป็นสาเหตุของการสังหารหมู่ครั้งนี้

  ภาพล่างนี้คือภาพในอินสตาแกรมที่เขาโพสถึงตัวเอง

เด็กหนุ่มหนีไม่รอด ตำรวจจับตัวไว้ได้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์มีสารแสดงความเสียใจในเหตุการณ์นี้
แต่ถึงกระนั้น ก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอยู่ดี  แม้จะมีการพูดและกระตุ้นกันหลายครั้งหลายคราวในสภา
สงสารหัวอกพ่อแม่ และลูกๆทุกวัยตั้งแต่ประถมไปจนมัธยมปลาย   ว่าเช้าขึ้นมาลูกออกไปโรงเรียน ก็ไม่รู้ว่าตอนเย็นจะได้กลับมาพบพ่อแม่อีกหรือเปล่า 
ความรู้สึกนี้น่าจะแพร่กระจายไปทุกรัฐ และทุกเมือง  เพราะเหตุร้ายมีสิทธิ์เกิดได้ทุกแห่ง เท่าเทียมกัน

ล่าสุด ลุงทรัมเปตออกมาแถลงวิธีแก้ปัญหาสังหารหมู่กันในโรงเรียนแล้วค่ะ

https://www.reuters.com/article/us-usa-guns/u-s-students-protest-gun-laws-trump-considers-arming-teachers-idUSKCN1G51QY

ดูจากข่าวหลายๆข่าว    ทรัมป์เห็นว่า ที่การสังหารมันรุนแรง เด็กตายกันทีละมากๆ เพราะตำรวจหรือหน่วยป้องกันภัยอะไรทั้งหลายในเมืองนั้นมาถึงช้าเกินไป   เรียกว่ามาไม่ทันการว่างั้นแหละ
ก็เลยเห็นว่าจะติดอาวุธให้ครู  หรือให้มีรปภ.ติดอาวุธประจำตามร.ร.ต่างๆ  เกิดเหตุปุ๊บระงับปั๊บได้ทันควัน

แต่ทรัมป์ก็ไม่ได้แตะต้องแก้ไขพ.ร.บ.ปืน    ในฟลอริดา อนุญาตให้คนอายุครบ 18 แล้วสามารถซื้อหาปืนมาครอบครองได้   
กลับไปใช้วิธีให้ครูดวลปืนกับมือปืนแทน

          หนึ่งในดราม่าอย่างหนักจากเหตุการณ์ครั้งนี้คือ เรื่องราวของฮีโร่น้อย
 
          Peter Wang นักเรียนวัย 15 ปี และเป็นสมาชิกน้องใหม่ของ Army Junior Reserve Officer
Training Corps ของร.ร. ความฝันตั้งแต่รู้ความของเขาคือการเข้าศึกษาต่อในร.ร.นายร้อย West Point

           ปีเตอร์จากไปเยี่ยงฮีโร่เมื่อเขาเสียสละตนเป็นคนคอยง้างประตูเปิดไว้เพื่อให้คนอื่นๆ ได้หลบหนีไป
           West Point ได้ให้เกียรติและยกย่องวีรกรรมอันกล้าหาญของเขาโดยการรับเขาเป็นสมาชิกของ
West Point Class of 2025

ในพิธีฝังศพเมื่อวันที่ 20 ก.พ. หีบบรรจุร่างของเขาได้รับการคลุมด้วยธงชาติสหรัฐอเมริกา

 :'(

     ลุงทรัมป์ออกมาประกาศนโยบายติดอาวุธครูตามร.ร.ไว้สู้กับมือปืนวัยรุ่นที่บุกยิงเพื่อนนักเรียนด้วยกันตายเกล่ื่อน ครั้งแล้วครั้งเล่า     เรียกว่าข่าวของลุงยังอุ่นๆอยู่ไม่ทันเย็น   ครูร.ร.มัธยมนายหนึ่งในโรงเรียน Dalton High School  ก็ขังตัวเองไว้ในห้องเรียนว่าง แล้วยิงเปรี้ยงออกไปทางหน้าต่าง
   เคราะห์ดีไม่โดนใคร ตัวเขาเองก็ไม่ได้ลั่นกระสุนใส่ตัวเองหรือคนอื่น  เลยปลอดภัยกันทุกคน เว้นแต่นร.หญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อเท้าตอนวิ่งหนี     
   แต่เราก็คงพอวาดภาพได้ว่า ทางร.ร.ชุลมุนวุ่นวายประสาทเสียกันขนาดไหน  กว่าตำรวจจะเอาตัวครูไปสงบสติอารมณ์ได้

   ก็เลยเป็นข่าวให้ผู้คนออกมาโวยวายกันถึงนโยบายติดอาวุธของลุงแก    ว่ามันจะกลายเป็นเพิ่มความสะดวกง่ายดายแก่ฆาตกรที่เป็นครูด้วยหรือเปล่า     นอกเหนือจากการจำหน่ายปืนอย่างเสรีให้วัยรุ่นเอาไปฆ่าหมู่กันแล้ว
https://edition.cnn.com/2018/02/28/us/georgia-dalton-high-school-teacher-gunfire/index.html

ยังไม่ทันข้ามสัปดาห์  ก็ยิงกันตายในสถานศึกษาอีกแล้ว
คราวนี้ลูกชายวัย 19  ยิงพ่อแม่ตายในหอพักของมหาวิทยาลัย Michigan University
ยังจับตัวมือปืนรายนี้ไม่ได้

https://nypost.com/2018/03/02/gunman-at-large-after-two-shot-at-central-university-michigan/

            รายงานข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมตัวได้แล้วเมื่อช่วงเช้าวานนี้

เหตุการณ์นี้เป็นเพียงส่วนยอดเขาที่ได้ "เป็นข่าว" ในขณะที่ยังมีเคสอื่นๆ ไม่เว้นในแต่ละวัน,ในประเทศ
อันกว้างใหญ่ไพศาลนี้

แวะเวียนดูรายงานเหตุความรุนแรงจากการใช้ปืนได้ที่ GUN VIOLENCE Archive

http://www.gunviolencearchive.org/last-72-hours

รองเท้า 7,000 คู่ ตัวแทนเหยื่ออาวุธปืนในสหรัฐฯ

         Avaaz จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงจากอาวุธปืนขึ้น ด้วยการนำรองเท้าราว 7,000 คู่
ไปวางเรียงที่สนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตันดีซี เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา

https://goo.gl/AmRqhs

คลิปจาก RUPTLY

https://www.youtube.com/watch?v=s7Mitu5FXno

ภาพ CBS News

หลังกิจกรรมราวหนึ่งสัปดาห์ต่อมา,เกิดเหตุเยาวชนเสียชีวิตจากกระสุนปืนอีกแล้ว

             เช้าวานนี้,ช่วงก่อนเข้าเรียน,ที่ร.ร. Great Mills High School, Maryland ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตันดีซี
ที่จัดกิจกรรม
             Austin Wyatt Rollins วัย 17 ปีใช้ปืนยิงน.ร.หญิงวัย16 ปีผู้เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อนจน
ได้รับบาดเจ็บขั้นวิกฤต ก่อนที่จะยิงเข้าใส่ผู้เคราะห์ร้ายอีกรายเป็นเด็กชายวัย 14 ปี
             การ์ดของร.ร.ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับผู้ก่อเหตุแล้วต่อมาพบว่าผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตลงโดยยังไม่
เป็นที่แน่ชัดว่าจากกระสุนของการ์ดหรือเขาฆ่าตัวตาย

ก่อนหน้านี้,ช่วงบ่ายวันเสาร์,ที่ MONROE COUNTY, Mississippi เด็กชายวัย 9 ขวบได้ก่อเหตุใช้ปืนยิงที่
ศีรษะของพี่สาววัย 13 ปีจนเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุการทะเลาะแย่งชิง Joystick ที่ใช้เล่นเกม

ร.ร. Great Mills High School, Maryland

        กลับมายุโรปอีกครั้งยังประเทศเดิม, ฝรั่งเศส, วานนี้ก่อนเที่ยงที่เมือง Trebes ชายเชื้อสายมอร็อคโค วัย 26 ปี
สาวก IS ก่อเหตุปล้นรถยนต์และยิงผู้ขับบาดเจ็บ,ผู้โดยสารเสียชีวิตจากนั้นจึงบุกเข้ายึดร้าน supermarket แล้วจับ
ตัวประกันไว้พร้อมยื่นข้อเสนอแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายโจมตีปารีส
        ผู้ก่อการร้ายยังได้ยิงผู้โดยสารในรถที่แล่นผ่านมาทำให้บาดเจ็บถึงเสียชีวิตจากนั้นยังยิงตัวประกันจนเสียชีวิตอีก 2 ราย
ก่อนที่จะถูกสังหารโดยจนท.จู่โจมในที่สุด

REUTERS

วีรบุรุษจุติ

bbc thai

              วีรบุรุษจากเหตุการร้ายข้างบน พ.ต.ท. อาร์โนด์ เบลทาร์ม วัย 45 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ยอมเสียสละ
ตนเป็นตัวประกันแทนที่หญิงผู้หนึ่งซึ่งถูกคนร้ายจับตัวไว้เป็นโล่มนุษย์ เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล เนื่องจากได้รับ
บาดเจ็บสาหัสหลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษบุกเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งเพื่อยุติเหตุจับตัวประกัน
              นายเจอราร์ด โคล์ลอมบ์ รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศสแถลงว่า พ.ต.ท. เบลทาร์ม เสียชีวิตจากบาดแผล
ที่ได้รับในเหตุการณ์ดังกล่าว "เขายอมตายเพื่อประเทศชาติ และฝรั่งเศสจะไม่มีวันลืมวีรบุรุษผู้นี้" นายโคล์ลอมบ์กล่าว

              ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวสรรเสริญความกล้าหาญของ พ.ต.ท. เบลทาร์ม
ว่า ได้ช่วยให้สถานการณ์วิกฤตกรณีเหตุกราดยิงและจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเมืองเทรเบส์ทางตอนใต้ของประเทศคลี่คลายลง

ขอให้วิญญาณนายตำรวจผู้กล้า ไปสู่สุคติ ค่ะ

ในอเมริกา หลังจากเด็กนักเรียนถูกสังหารหมู่ไม่เว้นสัปดาห์     คนอเมริกันก็ทนไม่ไหวกับกฎหมายอาวุธปืนเสรี   ยิ่งลุงทรัมเปตประกาศแก้ปัญหาด้วยการติดอาวุธให้ครูเอาไว้สู้กับมือสังหาร    ชาวอเมริกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตลูกๆพวกเขามากขึ้น
ตอนนี้ เริ่มมีการเดินขบวนประท้วงกฎหมายอาวุธปืนแล้ว   ชื่อว่า " March for Our Lives" 
ผู้ก่อตั้งคือเด็กนักเรียนมัธยมที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ใน Stoneman Douglas High School ใน  Parkland, รัฐFlorida
ผู้นำเป็นเด็ก 5 คนชื่อ David Hogg, Alex Wind, Emma González, Cameron Kasky, และ Jaclyn Corin, ก่อตั้งการประท้วง ที่พวกเขาให้ชื่อว่า "March For Our Lives" โดยขยายผลกว้างไปทั่วประเทศ   ต่อต้านการใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธปืน

https://edition.cnn.com/2018/03/24/us/march-for-our-lives-latest/index.html

วันนี้ ยูทูป รับเคราะห์
คนร้ายซึ่งเป็นสตรีบุกเข้ากระหน่ำยิงพนักงานของสำนักงานยูทูป ที่เมืองซานบรูโน คาลิฟอร์เนีย
บาดเจ็บไปสาม   ส่วนมือปืนยิงตัวตาย

http://sanfrancisco.cbslocal.com/2018/04/03/youtube-shooting-san-bruno-shooter-dead/

(เพิ่มเติม)
                   เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงโดยการใช้ปืนอีกครั้งในฝั่งตะวันตกของอเมริกา แดนเสรีมีปืนได้ง่าย
             เมื่อวันอังคาร(วานนี้) ที่สำนักงานใหญ่ YouTube ใน Northern California
             มือปืนเป็นหญิงสาวก่อเหตุยิงเหยื่อที่บริเวณด้านหน้าคาเฟใน YouTube campus ทำให้มีผู้ได้รับ
บาดเจ็บสามราย ส่วนตัวผู้ก่อเหตุเสียชีวิต(คาดว่า) จากการยิงตัวตาย
             มูลเหตุจูงใจยังไม่ชัดเจนแต่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุรู้จักมักคุ้นกับชายซึ่งเป็นหนึ่งเหยื่อลูกกระสุน

            รายงานข่าวล่าสุดกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุ Nasim Aghdam วัย 39 ปี ไม่ได้รู้จักกับเหยื่อกระสุนมาก่อน
เป็นการกราดยิงผู้คนที่ผ่านมาด้วยความโกรธแค้นต่อยูทูบที่กลั่นกรองช่องยูทูบของเธอจนมำให้มีผู้เข้าชมน้อย           

เป็นความวู่วามที่น่ากลัวมาก    เพราะระเบิดความโกรธที่มีต่อองค์กรไปลงที่ผู้คนซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร    เพียงแต่จังหวะไม่ดี  ไปอยู่ในสถานที่ที่ผู้ก่อเหตุตัดสินใจลงมือ
หวังว่าจะรอดตายทั้ง 3 คนนะคะ

สังคมนี้มีผู้คนที่เปราะบางทางอารมณ์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่    ยิ่งมีหนทางประหัตประหารเป็นการระบายอารมณ์ โดยหาอาวุธมาใช้ง่ายมาก     สังคมก็ยิ่งไม่ปลอดภัย
ค.ห.ก่อนเคยบอกว่าพ่อแม่เป็นห่วงไม่รู้ว่าลูกออกจากบ้านไปร.ร. เย็นนี้จะได้กลับมาเห็นกันไหม     ตอนนี้ต้องเพิ่มว่า ลูกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อแม่ที่ตอนเช้าออกจากบ้านไปทำงาน   เย็นนี้จะกลับบ้านมาหาลูกได้ตามปกติหรือไม่

อ่าคอลัมน์ปัญหาชีวิตของฝรั่งเมื่อสองสามวันก่อน   ครูเขียนไปถามนักตอบปัญหา ว่านักเรียนอายุ  7 ขวบ ในชั้นเรียนโกรธเพื่อนและครู ก็พูดออกมาว่า "จะเอาปืนมายิงให้ตาย" แค่นี้ครูก็ขวัญบิน  รีบไปปรึกษาผอ.รร.  กับผู้บริหารอื่นๆ แต่ไม่มีใครเห็นเป็นเรื่องซีเรียส  บอกว่าเด็กเล็กๆก็พูดเรื่อยเปื่อยไปยังงั้นเอง   เธอก็เลยเขียนมาถาม
สะท้อนว่า ขวัญของคนอเมริกันในทุกอาชีพ  เสียไปแล้ว

กลับมายุโรป

           วานนี้, เกิดเหตุรถบรรทุกขนาดเล็กพุ่งเข้าชนกลุ่มคนเดินถนนในเขตเมืองเก่าของเมืองมุนสเตอร์
ทางภาคตะวันตกของเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และบาดเจ็บอีกราว 30 คน

http://www.bbc.com/thai/thailand-43681907?ocid=socialflow_facebook

คนขับปลิดชีวิตตัวเองในรถด้วยค่ะ
ทางการยังไม่เปิดเผยผลการสอบสวน ถึงสาเหตุและแรงจูงใจ

ย้อนกลับสหรัฐ,

                  เช้าตรู่วานนี้ที่ ร้าน Waffle House ใน Antioch, Tennessee

                  หนุ่มวัย 29 ปี ขับรถพิค อัพมาถึงร้านตอนราวตี 3:30 แล้วใช้ปืน AR-15 กราดยิงใส่ผู้คนที่ร้าน
แห่งนี้ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไป

                  ทางการระบุว่า ผู้ต้องสงสัยทำงานก่อสร้างและเคยมีประวัติเครียด,กังวล,อารมณ์ร้อนถึงขนาดเคยนำปืนนี้
ออกมากวาดแกว่งต่อหน้าผู้ร่วมงาน นอกจากนี้ยังเคยมีประวัติถูกจับในข้อหาพยายามรุกล้ำเขตหวงห้ามใน White House

เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถึงชีวิตเป็นพนักงานของร้านและผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 4 ชีวิต,ทุกคนอยู่ในวัย 20 กว่าปี

คนร้ายชื่อ Travis Reinking น่าจะมีอาการป่วยทางจิต  Delusional disorder ค่ะ
ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี   ตำรวจยังจับตัวไม่ได้

เหตุการณ์ร้ายแรงต่อเนื่องในทวีปอเมริกาเหนือ,คราวนี้ขยับขึ้นไปที่แคนาดา

               บ่ายวานนี้ที่ Toronto เกิดเหตุคนขับรถแวนจงใจพุ่งเข้าชนผู้คนบนทางเดินเท้าริมถนน Yonge Street
เป็นระยะทางยาวราว  1 ไมล์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 10 ราย และบาดเจ็บอีก 15
               ตำรวจจับกุมชายวัย 25 ปีผู้ก่อเหตุได้ภายใน 30 นาทีหลังจากได้รับการแจ้งเหตุ

โลกใบนี้อยู่ยากขึ้นทุกทีๆ เว็บไซท์ bbc : https://goo.gl/KzU3SS
 
          รายงานข่าวว่า ผู้ก่อเหตุความรุนแรงที่ โตรอนโต แคนาดา เรียกตัวเองว่าเป็นชาว กบฎอินเซล
Incel Rebellion (incel - involuntary celibate) ผู้โสดสดซิงโดยไม่สมัครใจเพราะไม่มีใครสนใจ
พวกเขามีเป้าหมายหรือเหยื่อเป็นบรรดาชายและหญิงที่พวกเขารู้สึกว่าไม่สามารถจะเทียบเคียงหรือเอื้อม
ถึงได้ Chads และ Stacys คือคำที่เขาใช้เรียกเป้าหมายชายหญิงเหล่านี้

ล่าสุด,(คง) ไม่ใช่สุดท้าย

                เมื่อคืนวันเสาร์ ณ ย่านแสงสี Opéra district กรุงปารีส เกิดเหตุความรุนแรง เมื่อชายหนุ่มผู้ตะโกนคำเดิม
ว่า "Allah Akbar" ใช้มีดทำร้ายผู้คนจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ก่อนที่จะถูกวิสามัญฆาตกรรมใน
เวลาต่อมาโดยจนท.ตำรวจที่มาถึงภายในไม่กี่นาที
                ผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 21 ปี,เกิดใน Chechnya และเป็นสมาชิกกลุ่ม IS

(และ ใกล้บ้านเรา,วานนี้  เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์สามแห่งในอินโดนีเซีย ตาย 9 คน เจ็บอย่างน้อย 35)

http://www.bbc.com/news/world-asia-44104887

ความประหลาด(และน่าสยอง)ของการสังหารด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในอินโดนีเซียก็คือ มือสังหารที่เป็นคู่สามีภรรยา ๒ คู่ พาลูกเล็กๆและลูกวัยรุ่นของตัว ให้พกระเบิดมาลงมือด้วย
เด็กหญิงวัย 9 ขวบในจำนวนนี้รอดชีวิต

สังหารหมู่รายสัปดาห์เกิดขึ้นในอเมริกาอีกแล้ว
ถ้าเป็นหนังหรือละคร มันก็เป็นเรื่องซ้ำๆ เป็นก๊อปปี้เดียวกัน  แทบว่าจะลอกเนื้อเรื่องก่อนๆมาใส่ลงไปได้ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อผู้แสดงเท่านั้น
คราวนี้  เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมซานตา เฟ (Santa Fe High School) ในรัฐคาลิฟอร์เนีย   นักเรียนชายวัย 17 ชื่อ Dimitrios Pagourtzis  ขโมยปืนพกกับปืนรีวอลเวอร์ของพ่อติดตัวมาจากบ้าน  เดินเข้าโรงเรียนแล้วกระหน่ำยิงเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ตายไป 10 คน และบาดเจ็บอีก 10 คน
สิ่งที่น่าช็อคที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ดิมิทริออส เป็นเด็กเรียนดีมาก่อนสมัยอยู่ม.ต้น    ปัจจุบันอยู่ในทีมฟุตบอลของร.ร.   นิสัยส่วนตัวเป็นคนขรึมๆ ไม่ก้าวร้าว  ไม่กร่าง    เพื่อนบ้านให้การเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเด็กปกติอย่างเด็กทั่วไป  ไม่เคยมีปัญหา  เพื่อนนักเรียนด้วยกันก็ไม่มีใครคิดว่าวันหนึ่ง เพื่อนที่เงียบๆและไม่มีเรื่องราวกับใคร  จะไล่ยิงกราดเพื่อนและครูตายไปถึง 10 คน ก่อนยอมมอบตัวกับตำรวจ 
เขายังบอกอีกว่า  ตั้งใจจะฆ่าตัวตายเมื่อยิงเพื่อนๆตายไปแล้ว  แต่พอถึงเวลาเข้าจริง กลับใจไม่แข็งพอจะปลิดชีวิตตัวเอง
 

ก่อนหน้านี้  เด็กหนุ่มคนนี้โพสรูปเสื้อยืดในเฟซบุ๊คส่วนตัว   มีคำว่า  Born to Kill  (เกิดมาเพื่อฆ่า) พิมพ์อยู่บนเส้ื้อ

เป็น Santa Fe High School ใน Texas ครับ

ขอบคุณค่ะ    ไปจำว่าอยู่ในคาลิฟอร์เนีย

คิมิทริออสยังสารภาพอีกว่า เขาเลือกยิงแต่เพื่อนที่เขาไม่ชอบ   ถ้าเป็นคนที่ชอบเขาก็เว้นชีวิตไว้    คำตอบนี้น่าจะสะท้อนให้เห็นความกดดันที่ได้รับในร.ร.ไม่มากก็น้อย

จนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่า กระแสสังหารรายสัปดาห์ในร.ร.ทั่วอเมริกาจะป้องกันได้ด้วยวิธีใด    ไม่มีใครชี้ชัดได้ถึงสาเหตุ   และก็ไม่มีใครบอกวิธีการแก้ปัญหาได้     ปืนที่ซื้อกันง่ายดายก็ยังซื้อกันง่ายเหมือนเดิม   ในกรณีนี้  เด็กหนุ่มยังไม่ถึงวัยจะซื้อปืน   เขาก็ขโมยมาจากพ่อได้ แสดงว่าพ่อเก็บไว้หละหลวมอยู่เหมือนกัน

มีหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อ  We Need to Talk About Kevin( 2011 )  พยายามตอบโจทย์เหตุการณ์ทำนองนี้ค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=9vMlJH_Etl8

เหตุร้ายประจำสัปดาห์ ยังไม่หมดไปจากโรงเรียน และชีวิตประจำวันของผู้คน ในสหรัฐอเมริกา
คราวนี้เกิดที่ Noblesville West Middle School ในรัฐ Indiana   เป็นโรงเรียนมัธยมต้น  หมายความว่านักเรียนอายุ 11-14 เท่านั้น
เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 09.00 น. ของวันที่ 25 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น   นักเรียนชายคนหนึ่งขออนุญาตครูออกไปนอกชั้นเรียน   แล้วกลับเข้ามาพร้อมด้วยปืนสั้น 2 กระบอก  เพื่อจะยิงเพื่อนนักเรียน
ครูสอนวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในชั้น โดดเข้าแย่งปืน จึงถูกยิงเข้า 3 นัด ที่แขน สะโพกและลำตัว บาดเจ็บสาหัส  กระสุนยังไปโดนเด็กนักเรียนหญิงวัย 13 ปีเข้าอีกคน บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

คนร้ายลงมือตามลำพัง   ยังไม่ทราบแรงจูงใจ  แต่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว
หมายเหตุ  ขอให้สังเกตว่าในกรณีนี้ คนร้ายเป็นเด็กชายอายุยังไม่ถึง 15 ด้วยซ้ำไป

https://www.youtube.com/watch?v=aAKcMdv_24s

https://www.youtube.com/watch?v=J0A1k87JxbY

เรื่องร้ายอีกเรื่องที่เกิดขึ้นติดๆกัน แต่คนละรัฐ คือ โอคลาโฮมา    คราวนี้เกิดในร้านอาหารชื่อ Louie’s Grill & Bar, เป็นร้านอาหารริมทะเลสาป ในเมือง Oklahoma City ประมาณหกโมงเย็น  คือเวลาที่ผู้คนกำลังกินอาหารในร้านกันอยู่
คนร้ายวัย 28 ชื่อ Alexander C. Tilghman, เดินเข้าไปยืนขวางประตูทางเข้า  แล้วสาดกระสุนเข้าใส่ลูกค้าในร้านไม่ยั้ง  ทำเอาบาดเจ็บไป 3 คน   
เหตุร้ายคราวนี้จบไม่เหมือนครั้งก่อนๆ   เพราะว่ามีผู้ผ่านมา เห็นเหตุการณ์เข้า 2 คน   พอดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น  ต่างคนต่างก็วิ่งไปรถของตน หยิบปืนที่เก็บไว้ในรถออกมา ยิงคนร้ายตายคาที่
ตำรวจบอกว่าคนร้ายรายนี้ไม่น่าจะมุ่งยิงใครเป็นส่วนตัวในร้านอาหาร และไม่เคยทำงานที่นี่มาก่อน  เรียกว่าเลือกร้านเป็นเป้าหมาย แล้วก็ยิง ยิง ยิง ไม่เลิอกหน้า  ก่อนจะถูกจบชีวิตเสียทันจะสังหารโหดได้มากกว่านี้ 

จากการสอบสวน คนร้ายน่าจะมีอาการทางจิต ประเภทประสาทหลอน

สถิติจาก http://www.gunviolencearchive.org/ รวบรวมเหตุความรุนแรงจากปืนของปีนี้ในอเมริกา

และแผนที่เกิดเหตุ, อุบัติการณ์ในย่านตะวันออกกลับมากกว่าดินแดนพิชิตตะวันตกในอดีต
(How the West Was Won)

มีคนตั้งข้อสังเกตว่า  คดีเด็กนักเรียนพกปืนเข้าไปสังหารโหดในโรงเรียน ในอังกฤษไม่มี  ในประเทศยุโรปอื่นๆก็ไม่ได้ยินข่าวนี้
ทำไมอเมริกามีกันไม่ยั้ง   เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก    ไม่มีใครป้องกันได้
สงสัยว่าแต่ละประเทศแตกต่างกันอย่างไร   การศึกษา? การอบรม?  ยาเสพติด?  หรือการจำหน่ายอาวุธ?   

บางส่วนจากบางเว็บที่กล่าวถึงเรื่องนี้ ครับ

cnn.com       Why the US has the most mass shootings

         There are more public mass shootings in the United States than in any other country in the world.
         .. people have a greater chance of dying in mass shootings if they're at work or at school.
         There are an estimated 270 million to 310 million firearms in circulation in US. With the American
population at 319 million, that breaks down to nearly one firearm for every American.
  
          The copycat phenomenon is more acute in the United States because guns are more accessible than
in other countries.
          Americans typically favor more gun ownership after such incidents.
          Americans are growing in their desire for fame, and there is no doubt that that there is an association
between media coverage that these offenders get and the likelihood that they will act.
          The fame-seeking rampage shooters will attempt to kill even more victims.

https://goo.gl/2cDzjo

washingtonpost

               Americans have a disproportionate number of guns (at least 300 million, about one per person),
especially handguns and semiautomatic weapons.
 
               we're much more lax about who can buy and keep weapons, and it's harder for children and adults
to access mental health services.

               United States is the only country where there are so many guns, and where violence against students
— children mostly — is almost routine.

https://goo.gl/oA2wci

คำตอบลงมาที่อาวุธปืน ที่ซื้อหากันได้อย่างเสรี     เด็กๆหยิบปืนที่เก็บไว้ในบ้านมาใช้กันง่ายมาก    พ่อจำนวนมากก็ชวนลูกชายไปซ้อมยิงปืน เป็นกีฬาลูกผู้ชายอีกด้วย
ส่วนความปรารถนาจะเป็นคนดังนั้น  เป็นส่วนหนึ่งของ American dream  ที่เด็กและเยาวชนถูกฝังหัวว่าคนทุกคนมีสิทธิ์จะประสบความสำเร็จ  มีชื่อมีเสียง  ได้เท่ากัน   
ถ้าไม่เก่งพอจะประสบความสำเร็จเป็นคนดังได้อย่างนักกีฬา นักร้อง ดารา    บางคนก็ฆ่าเพื่อนร่วมโรงเรียนแบบไม่ยั้ง เพื่อจะได้เป็นข่าวไปทั่วประเทศ

น่าเศร้ามากค่ะ

กลับมาที่เบลเยี่ยมอีกครั้ง

           ตอนสายวานนี้,เกิดเหตุก่อการร้ายโดยชายคนหนึ่งได้ยิงตำรวจหญิงเสียชีวิต 2 ราย และผู้ที่สัญจรผ่านจุด
เกิดเหตุ 1 คน ในเมืองลีแยช ทางภาคตะวันออกของเบลเยียม ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าได้ยินชายคนนี้ตะโกนวลีเดิม
"Allah Akbar" เช่นผู้ก่อเหตุครั้งก่อนๆ
           จนท.ตำรวจได้กระทำวิสามัญฆาตกรรมชายผู้นี้ และได้พบว่าเขาเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดแล้วได้รับการปล่อย
ตัวออกมาเมื่อ 1 วันก่อนก่อเหตุ คาดว่าเขาอาจเริ่มมีความคิดแบบหัวรุนแรงขณะอยู่ในเรือนจำ
            

ยิงกราดในสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นอีกแล้ว
คราวนี้เกิดในแอนนาโปลิส   รัฐเมรี่แลนด์  ผู้ร้ายเป็นชาย บุกเดี่ยวเข้าไปในสำนักงานหนังสือพิมพ์แคปิตอล กาเซตต์ ใช้ปืนสั้นกระหน่ำยิงคนทำงานในออฟฟิศ เสียชีวิตไป 5 คน
ยังไม่ทราบแรงจูงใจ
https://www.youtube.com/watch?v=Ha9-gEArm7g

fb bbc.com/thai

             ผู้ต้องสงสัยเป็นชายผิวขาว,อายุประมาณ 30 ปีเศษ อาศัยอยู่ในรัฐแมริแลนด์ถูกรวบตัวในที่เกิดเหตุโดย
ไม่ได้ต่อสู้แต่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือใด ๆ กับเจ้าหน้าที่ แหล่งข่าวบอกว่าชายผู้นี้ได้ทำลายลายนิ้วมือตนเองเพื่อ
มิให้ตรวจสอบได้ว่าเป็นใคร

จิมมี เดบัทส์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์แคปิตอล กาเซ็ตต์ ทวีตข้อความว่า

กราดยิงอีกแล้ว คราวนี้เมืองที่ถูกหวยคือโตรอนโต ประเทศแคนาดา
มือปืนยิงกราด ผู้หญิงตาย 1  ประชาชนบาดเจ็บอีก 13  ยังไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนมือปินถูกยิงตายขณะยิงสู้กับตำรวจ

https://www.telegraph.co.uk/news/2018/07/23/toronto-shooting-multiple-people-shot-canadian-city/

bbc thai รายงานข่าว

           โทรอนโต: มือปืนก่อเหตุกราดยิง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

            เหตุโจมตีเกิดขึ้นบนถนนแดนฟอร์ธในช่วงคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นช่วงที่พลุกพล่าน
ไปด้วยผู้คน ชายผิวขาวนำปืนพกออกมากราดยิงพุ่งเป้าโจมตีร้านกาแฟหรือร้านอาหารอย่างน้อย 2 แห่ง
            มีผู้หญิงเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 13 คน ในจำนวนนี้ 1 คนบาดเจ็บสาหัส
ส่วนมือปืนถูกสังหารระหว่างการยิงปืนตอบโต้กัน แรงจูงใจในการก่อเหตุยังไม่ชัดเจน

https://www.bbc.com/thai/international-44921174?ocid=socialflow_facebook

             สุดสัปดาห์ที่ผ่านไปในช่วงเวลา 6 นาฬิกาเย็นวันศุกร์ ถึง เช้ามืด 5 นาฬิกาวันจันทร์
เกิดเหตุการณ์ยิงใส่ผู้คนโดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ชีวิตในพื้นที่ต่างๆ ของนครชิคาโก

           จำนวนเหยื่อการยิงครั้งนี้แตกต่างกันไปในรายงานต่างๆ โดย chicago.suntimes.com รายงาน
จำนวนเหยื่อดังนี้ - 3 รายในคืนวันศุกร์, วันเสาร์ 14 ราย, วันอาทิตย์ 48 ราย และ 6 รายตอนเช้ามืดวันจันทร์

แผนที่เหตุการณ์ยิง

เป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญสั่นประสาทที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติการก่ออาชญากรรม
จนบัดนี้ยังไม่มีข่าวว่าตำรวจจับคนร้ายได้

https://www.youtube.com/watch?v=guYH4AajYGM

กราดยิงผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไปอีกแล้ว เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2018   ที่เมืองแจ๊คสันวิลล์  รัฐฟลอริดา

เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้น ระหว่างการแข่งขันวิดีโอเกม ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การค้าชื่อ Jacksonville Landing Complex,
อยู่ๆผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่งชื่อนายเดวิด แคทซ์ วัย 24 ปี  จากรัฐเมรี่แลนด์ก็ควักปืนออกมายิงกราด   โดนผู้ร่วมแข่งขันตายไป 2 คน  แล้วหันปากกระบอกปืนมาจ่อยิงตัวเอง
https://edition.cnn.com/2018/08/26/us/jacksonville-madden-shooting/index.html

            มือปืนซึ่งยิงตัวเองตายหลังการกราดยิงผู้คนรายนี้เป็นหนุ่มวัย 24 จาก Baltimore,Maryland
เคยมีประวัติเป็นผู้ป่วยด้วยปัญหาทางจิตจนต้องเข้ารับการรักษาในวัยทีน
          พยานในเหตุการณ์เล่าว่า มือปืนซึ่งเคยเป็นแชมป์ของรายการนี้แต่ปีนี้กลายเป็นผู้แพ้รู้สึกไม่พอใจและ
ได้แสดงท่าทางอาการประหลาดๆ ก่อนที่จะใช้ปืนยิงใส่ผู้ร่วมแข่งขันคนอื่นๆ

สถานที่การแข่งขัน video game ที่ Jacksonville, Florida

และ เช่นเคย เหตุการณ์ครั้งนี้ได้จุดประกายการแก้ไขกฎหมาย สิทธิครอบครองปืน ในอเมริกา 

         มีการบัญญัติสิทธิในการครอบครองปืนของชาวอเมริกันได้อย่างเสรีนับตั้งแต่ประกาศเอกราชจากอังกฤษ
สิทธิและแนวคิดนี้ถูกส่งผ่านมายังสังคมอเมริกันในปัจจุบัน

         จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของ Gun Violence Archive พบว่า สหรัฐอเมริกามีจำนวนยอดผู้เสียชีวิตจาก
อาวุธปืนนับตั้งแต่ปี 1968-2015 มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามทั้งหมดที่สหรัฐฯ เข้าร่วมถึง 9%

         ข้อมูลจาก UNODC The United Nations Office on Drugs and Crime (2012) ยังพบว่า สหรัฐฯ มี
อัตราการเสียชีวิตของพลเมืองจากอาวุธปืนสูงถึง 29.7%  เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของผู้คนจากอาวุธปืนทั่วโลก
โดยมากกว่าแคนาดาถึง 6 เท่า และมากกว่าเยอรมนีหนึ่งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วด้วยกันถึง 16 เท่า

         สมาคมไรเฟิลแห่งชาติสหรัฐฯ และการครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกัน ทำให้การผลักดัน
ให้เกิดการแก้ไขกฎหมายที่จำกัดสิทธิในการครอบครองปืนของพลเมืองสหรัฐฯ เป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอาจนำไปสู่บทสรุปการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อีกด้วย

อ่านต่อที่    https://thestandard.co/united-states-gun-law/

ว่างเว้นข่าวเหตุการณ์กราดยิงไปสองเดือน,

           เกิดเหตุมือปืนบุกเข้ากราดยิงใส่โบสถ์ชาวยิวในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.
ตามเวลาท้องถิ่นวันเสาร์ (27 ต.ค.) ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนกำลังประกอบพิธีทางศาสนา
           รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตหลายราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ในจำนวนนี้ 3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เห็น
เหตุการณ์ระบุว่า คนร้ายเป็นชายผิวขาวอาวุธครบมือ และยังไม่ทราบเหตุจูงใจในการก่อเหตุแต่มีรายงานว่าคนร้ายใช้
ถ้อยคำในเชิงเหยียดเชื้อชาติขณะก่อเหตุ

https://www.bbc.com/thai/international-46002700?ocid=socialflow_facebook

เพิ่งหายใจทั่วท้องได้ 2 เดือน   กลับมาสู่ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอีกแล้ว

ล่าสุด เกิดเหตุร้ายซ้ำซากอีกแล้ว
เมื่อห้าทุ่มยี่สิบนาทีของคืนวันพุธที่ 7 พย. 2018 (ตามเวลาท้องถิ่น)มือปืนบุกเดี่ยวเข้าไปในไนท์คลับแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัย ที่ Thousand Oaks คาลิฟอร์เนียใต้   ขณะที่มีนักเที่ยวแออัดกันอยู่ในนั้นหลายร้อยคน
นายคนนี้กราดยิงไม่เลือก ทำเอานักเที่ยวหนุ่มสาวตายไป 12 คน  บาดเจ็บอีกเยอะ   ผู้ช่วยนายอำเภอตายไป 1 คน  มือปืนเองก็ตายไปด้วยเป็นรายที่ 13
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า นายคนนี้ชื่อ Ian David Long เป็นอดีตนาวิกโยธินที่มีอาการทางประสาทมาก่อน

https://www.youtube.com/watch?v=-ZIfUln5Juc

เมื่อเที่ยงวันจันทร์ (ตามเวลาท้องถิ่น) เกิดการยิงกราดกันขึ้นอีกที่โรงพยาบาล Mercy ในชิคาโก   มือปืนยิงแพทย์หญิง   เภสัชกรประจำบ้าน (pharmacy resident)ซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย เพียงแต่เดินออกจากลิฟต์มาพอดี
และตำรวจ ตายทั้ง 3 คน
ส่วนมือปืนเองก็ตายด้วย แต่ไม่มีรายละเอียดว่าถูกวิสามัญหรือฆ่าตัวตาย


https://www.youtube.com/watch?v=_Ds26k0AwGI

ติดตามข่าวว่า  
          
                มือปืน Juan Lopez เคยมีปัญหาในที่ทำงาน(เดิม) จนถูกให้ออกจาก Chicago Fire Department
academy แล้วเขาขู่ว่าจะกลับมาก่อการยิงที่นั่นเมื่อ 5 ปีก่อน
                Dr. Tamara O’Neal ผู้ตายเป็น"คู่ขอถอนหมั้น" จากโลเปซที่กลับมาทวงคืนแหวนหมั้น

ภาพจาก chicagotribune - Michael Sheldrake hangs memorial bunting at 2nd District headquarters
the day after Chicago police Officer Samuel Jimenez was killed at Mercy Hospital, on Nov. 20, 2018.

เมื่อวันพฤหัสที่ 22 พฤศจิกายน 2018  ตามเวลาท้องถิ่นของรัฐอลาบาม่า (ก็คือวันศุกร์ของไทย)  เกิดการยิงกันที่ศูนย์การค้า ชื่อ the Riverchase Galleria  มือปืนเป็นชายวัย 21 ชื่อ Emantic Fitzgerald Bradford, Jr. 
รายงานข่าวบอกว่านายคนนี้มีปากเสียงกับชายวัย 18  ก็ควักปืนออกมายิงอีกฝ่ายไม่นับ  กระสุนถูกเหยื่อ 2 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส   นอกจากนี้กระสุนยังไปโดนเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่ออกมาซื้อของกับแม่ อีกคนหนึ่งด้วย   ได้รับบาดเจ็บที่หลัง
ส่วนมือปืนก็ถูกเจ้าหน้าที่ยิงตายในที่เกิดเหตุ

https://edition.cnn.com/videos/us/2018/11/23/alabama-shopping-mall-shooting-gallagher-newday-vpx.cnn/video/playlists/top-news-videos/

จลาจลปารีสลุกเป็นไฟ ! ม็อบเสื้อกั๊กเหลืองบุกประตูชัย-ร้านหรู ปะทะตร.
จลาจลปารีสลุกเป็นไฟ ! ม็อบเสื้อกั๊กเหลืองบุกประตูชัย-ร้านหรู ปะทะตร. มาครงประณามอีกรอบ
จลาจลปารีสลุกเป็นไฟ – เอพี รายงาน สถานการณ์ปั่นป่วนอีกครั้งในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. จากการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง ต่อต้านมาตรการขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ที่ปะทะตำรวจและทำลายร้านค้าหรูกลางกรุง จนเกิดความเสียหายไปทั่ว รวมถึงที่ประตูชัย เป็นการประท้วงที่เกิดความรุนแรงที่สุดในรอบสิบปี

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_1901131

ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ

เกิดอะไรขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส !? เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้เสื้อกั๊กสะท้อนแสงเป็นสัญลักษณ์ ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล โดยบอกว่านโยบายขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลของรัฐบาล เป็นการบริหารงานที่ผิดพลาด ส่งผลต่อค่าครองชีพของประชาชนในประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ลาออกจากตำแหน่ง

ทำไมต้องขึ้นภาษีน้ำมันดีเซล ??

ประเทศฝรั่งเศส มีนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทน โดยเฉพาะการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในปี ๒๐๑๗ ที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศแผนนำประเทศไปสู่พลังงานทดแทน

ไม่ว่าจะเป็น…

การหยุดให้ใบอนุญาตสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน
การตั้งเป้าจะปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินให้ได้ภายในปี ๒๐๒๒
การตั้งเป้าจะห้ามขายรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในปี ๒๐๔๐

ซึ่งการขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่พวกเขาหวังว่าจะทำให้คนในประเทศหันไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น

เสียงจากผู้ประท้วง…

ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่ฝรั่งเศสอยู่ที่ประมาณลิตรละ ๕๖ บาท เมื่อมองไปที่ตัวเลขราคาน้ำมันดีเซล ตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดีเซลในฝรั่งเศสสูงขึ้นไปแล้วเกือบ ๒๕ % และนโยบายล่าสุดที่ประกาศขึ้นภาษีน้ำมันอีกลิตรละ ๒.๕๐ บาทหลังจากวันปีใหม่ปี ๒๐๑๙ ซึ่งพอมีข่าวออกมาก ก็เหมือนฟางเส้นสุดท้ายของหลาย ๆ คน จนเกิดกระแสความไม่พอใจไปทั่วประเทศฝรั่งเศส ผู้ประท้วงมองว่านั่นคือนโยบายที่ทำให้ “ค่าครองชีพ” ของชนชั้นรากหญ้าแพงขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลโดยตรงไปถึงเหล่าเกษตรกร คนใช้แรงงาน หรือผู้อยู่อาศัยในแถบชนบท แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะรักสิ่งแวดล้อม แต่ก็รับไม่ได้ถ้านโยบายด้านสิ่งแวดล้อม จะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก โดยมองว่าแนวคิดของรัฐบาลเป็นเรื่องที่มองไปยังอนาคตอย่างเดียว โดยไม่สนใจความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น นำมาสู่การประท้วงในหลาย ๆ เมืองของประเทศ มีการรวมตัวตามสถานที่สำคัญ ปิดถนนเส้นหลักของเมืองเล็ก ๆ เพื่อกดดันรัฐบาล รวมถึงการเข้าไปประท้วงบริเวณ “ประตูชัยฝรั่งเศส” และถนนสายช็อปปิ้ง “ฌ็องเซลิเซ่” ในเมืองปารีสด้วยเช่นกัน

เป้าหมายในอนาคต vs ชีวิตจริงในปัจจุบัน

หากเรามองไปตอนที่นโยบายเหล่านี้ออกมา ฝรั่งเศสได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วโลก (โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์)ในด้านความพยายามนำพาประเทศไปสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แต่.. ต้องอย่าลืมว่านั่นคือเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า แม้ภาษีน้ำมัน จะทำให้น้ำมันแพงขึ้น จนคนมองว่าการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าน่าจะดีกว่าในระยะยาว แต่ความจริงก็คือ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมเปลี่ยนได้ในทันที และเชื้อเพลิงอย่างน้ำมันดีเซลนั้น ก็เป็นต้นทุนสำคัญอย่างหนึ่งของภาคการผลิต ถ้าดีเซลแพงขึ้น สินค้าต่าง ๆ ก็พร้อมจะขึ้นราคาตามไปด้วย จนส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คือ “ปัญหา” ที่จะเกิดขึ้นระหว่างทางในการเดินไปยัง “เป้าหมาย” ที่รัฐบาลมองไว้

https://www.billionaireth.com/fuel-tax-protest-in-france/

 ;D

https://youtu.be/MI5UqcjLJB8

If pictures could talk,
what would they say?

If pictures could talk,
what would they tell us?

They tell us.....

ในวิกฤตยังมีสิ่งดีอยู่
ไม่มีผู้ถือโอกาสฟาดหัวหาง
กองทัพยังอยู่เย็นเป็นที่ทาง
ทุกสิ่งวางบนระบอบอันชอบธรรม

ผู้นำอายุน้อยจากฝรั่งเศส แคนาดา นิวซีแลนด์ เป็นอันว่าโดนลองของ (หรือต้องการลองของ) ไปแล้ว 1 ประเทศ พี่จัสตินของผมดูไว้ด้วยนะ


น่าติดตามว่าเรื่องนี้จะจบแบบไหน ใครยอมถอย...ถอยแล้วได้ผลลัพท์อย่างไร บางทีในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล อาจปรับปรุงใช้งานกับประเทศไทยได้ก็เป็นได้

ประธานาธิดีมาครงยอมถอยแล้ว

https://workpointnews.com/2018/12/05/%E0%B8%9D%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3/

รัฐบาลฝรั่งเศส ล้มเลิกแผนขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากประชาชนประท้วงหนักถึง 3 สัปดาห์ ทำให้กระทบภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวกรุงปารีส โดยล่าสุดยอดจองโรงแรมช่วงเทศกาลคริสต์มาส ลดลงร้อยละ 15-20

https://news.thaipbs.or.th/content/276129
นร.ฝรั่งเศสจุดไฟประท้วง 100 แห่ง ค้านระบบสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

นักเรียนโรงเรียนกว่า 100 แห่งทั่วประเทศฝรั่งเศส ประท้วงปิดโรงเรียน และพากันจุดไฟเผาด้านนอก เพราะไม่พอใจระบบการสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

นักเรียนชั้นมัธยมปลายราดน้ำมันเป็นทางยาวแล้วจุดไฟบริเวณด้านหน้าโรงเรียน เพื่อแสดงความคัดค้านระบบการสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส
เปิดเผยว่า นักเรียนโรงเรียนระดับมัธยมปลายประมาณ 100 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้ง กรุงปารีส เมืองลียง และ ออร์เลอ็อง ประท้วงจุดไฟเผาหน้าโรงเรียน และนอกโรงเรียนยังมีรถยนต์พลิกคว่ำและถูกเผาไหม้ ซึ่งโรงเรียนบางแห่งถูกนักเรียนปิดล้อมเอาไว้ ขณะที่ บางแห่งถูกนักเรียนแทรกแซงไม่ให้มีการเรียนการสอน

การประท้วงของนักเรียนทั่วประเทศ เกิดขึ้นหลังมีการชุมนุมประท้วงคัดค้านนโยบายการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงของ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส จนเกิดเหตุจลาจล และทำให้ นาย มาครง ตัดสินใจชะลอแผนการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงออกไปอีก 6 เดือน

ปารีสวันที่ 8 ธันวาคม
ภาพจาก msn.com

ดูวิดีโอได้ที่นี่ค่ะ
https://www.theguardian.com/world/video/2018/dec/08/gilets-jaunes-police-clash-with-protesters-amid-clouds-of-teargas-video

 ;D

https://youtu.be/3xkwZk44VQs

ู^
^
ขอบคุณค่ะคุณเพ็ญชมพู

สถานการณ์ในปารีสเข้าขั้นวิกฤติ
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีสประกาศเตือนคนไทย  ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมายังกรุงปารีสหากไม่มีเหตุจำเป็น

ได้จาก FB  ค่ะ

จ. 10/12/2018, 17:24
ฝรั่งเศสวันนี้ เกิดตีกัน อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนในสมัยนี้ คนเราถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกันแล้วออกมาไล่ฆ่ากัน ขนาดสถานทูตไทยในกรุงปารีส ออกแถลงการณ์ขอร้องคนไทยอย่าไปนครปารีสตอนนี้ ลองอ่านที่คุณ กมล กมลตระกูล ท่านเขียนไว้เราจะเข้าใจยิ่งขึ้น ต้องขอขอบคุณคุณกมลที่เขียนทำให้เราชัดเจน ด้วยที่ได้อธิบายอย่างชัดเจน

ปารีสวันนี้
กมล กมลตระกูล
๙/๑๒/๖๑

ข่าวล่าส่งจากคนไทยใน Paris
เดี่ยวนี้.....ดังนี้ ครับ

ร้านค้าเขต​ 8ème ​Champs-Elysées, Saint Honoré เขต.  ​ 9​ème ​Boulevard​ Haussmann, 4ème BHV, Hôtel de Ville, 15ème Montpanass, 13ème Places d'Italie ปิด
เพื่อนหลายท่านถามเรื่องที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ผมขออธิบายยาวหน่อยดังนี้ครับ
ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสเชื่อต่างกันในเรื่องภาวะโลกร้อน
ทรัมป์ไม่แคร์ แถมมีพฤติกรรมสนับสนุนการใช้พลังงานจากฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน
ส่วนมาครง คิดเรื่องการลดภาวะโลกร้อนด้วยการให้ประชาชนคนฝรั่งเศสลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

มาครงคิดวิธีการลดภาวะโลกร้อนอยู่มากมายหลายโครงการ หนึ่งในโครงการนั้นก็คือ การเก็บภาษีคาร์บอนเพิ่มกับคนที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนซึ่งหมายถึงคนที่ใช้น้ำมันกับรถยนต์
ใครที่ติดตามข่าวการประท้วงในฝรั่งเศสจะเห็นว่ามีหลายภาพที่คนพ่นสีเขียนว่า
'มาครง = หลุยส์ที่ 16’
ข้อความนี้น่าจะโยงถึงนโยบายของมาครง ที่กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดภาษีบริษัทห้างร้านและลดภาษีภาษีทรัพย์สิน จากเดิมร้อยละ 33 ให้เหลือร้อยละ 25 โดยมาครงอ้างว่าต้องการให้บริษัทหรือคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจมีกำไรมากขึ้น จะได้รับคนทำงานเพิ่มขึ้น
ผู้ประท้วงต่างคิดว่านี่คือนโยบายช่วยคนรวย
มาครงปฏิรูประบบเงินบำนาญผู้สูงอายุ ซึ่งผู้คนเหล่านั้นแก่แล้ว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทว่าในอดีตได้ผู้สูงวัยเหล่านี้เคยก่อร่างสร้างความมั่งคั่งให้กับฝรั่งเศส มาครงจะปฏิรูปเพื่อลดความช่วยเหลือผู้สูงอายุ เพราะต้องการลดการขาดดุลงบประมาณลง 6 หมื่นล้านยูโร เพื่อไม่ให้ใช้งบประมาณขาดดุลเกิดร้อยละ 3 ของจีดีพีตามนโยบายของสหภาพยุโรป
ค่าครองชีพในกรุงปารีสสูงปรี๊ด คนที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางอยู่ลำบาก
ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงอพยพจากอาร์รงดิสม็องหรืออำเภอต่างๆ ของปารีสไปอยู่ต่างจังหวัด

การมีชีวิตในแคว้นอัลซาส อากีแตน โอแวรญ์ บูร์กอญ ฟร็องช์-กงเต ฯลฯ ไม่มีการขนส่งสาธารณะมากเหมือนในกรุงปารีส ส่วนใหญ่จึงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งรถยนต์ก็ต้องใช้น้ำมัน
การที่มาครงขึ้นภาษีน้ำมันทำให้ผู้คนเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น
เมื่อคนฝรั่งเศสถามว่า คุณเก็บภาษีเพิ่มได้เงินมากขึ้นอีก 1.5 ล้านล้านบาท คุณจะนำเงินนี้ไปทำอะไร นายมาครงตอบว่า ข้าพเจ้าจะนำไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
มาครงจะเอาภาษีที่เก็บจากคนใช้น้ำมันไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
มาครงลดภาษีให้คนรวยจึงมีงบประมาณน้อยลง จากนั้นก็มาขึ้นภาษีจากคนจนที่ต้องออกไปจากกรุงปารีสเพราะสู้ค่าครองชีพไม่ไหว
ผู้คนจึงออกมาใส่ "เสื้อกั๊กสีเหลือง" ประท้วงกันไปทั่วประเทศ

รัฐบาลฝรั่งเศสบอกว่าการประท้วงครั้งนี้ทำโดยมืออาชีพ เพื่อให้เกิดความไม่สงบและเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินสาธารณะ
คำพูดที่ว่า "พวกประท้วงเป็นมืออาชีพ" เป็นการโยนน้ำมันลงไปในกองไฟ เพราะคนที่ออกมาประท้วงครั้งนี้เป็นพลังประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีเรื่องของฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา
ผู้คนจากพรรคฝ่ายซ้าย ไม่ว่าจะพรรคคอมมิวนิสต์ สังคมนิยม พลังสาธารณรัฐและพลเมือง สีเขียว ฯลฯ 
หรือผู้คนจากพรรคฝ่ายขวาอย่างพรรครวมพลังมวลชน พลังเพื่อฝรั่งเศส พลังสาธารณรัฐแห่งชาติ ฯลฯ
ต่างออกมาประท้วงอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

https://www.theguardian.com/world/2018/dec/11/strasbourg-shooting-in-eastern-france

มือปืนไล่ยิงผู้คนตามถนน ที่ตลาดคริสต์มาส ในเมืองสตราส์บูร์ก  มีคนบาดเจ็บ 12  คน  ตายไป 3 คน
ในจำนวนนี้มีคนไทยด้วย  เป็นนักท่องเที่ยว ชื่ือนายอนุพงษ์ สืบสมาน อายุ 45 ปี   
ส่วนผู้ร้ายถูกยิงบาดเจ็บแต่หนีไปได้  ทางการรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร

เหตุร้ายนี้ทำให้ฝรั่งเศสยกระดับเตือนภัยก่อการร้ายขึ้นสู่ระดับสูงสุด

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า         
   
             ผู้ต้องสงสัยชื่อ Cherif C วัย 29 ปี มีประวัติอยู่ในรายชื่อเฝ้าระวังของทางการ ขณะนี้ยังหนีลอยนวล
และ ข่าวที่น่าเสียใจจาก telegraph.co.uk บอกว่า

             One eyewitness, who tried unsuccessfully to resuscitate a Thai tourist shot by the gunman,
said: “I though it was just firecrackers but it turned out to be actual gunshots.
             “I saw one person lying there, a tourist from Thailand accompanied by his wife or girlfriend
was unhurt. We tried resuscitation efforts for 45 minutes. We dragged him into a restaurant close by
and we tried our best to bring him back to life with CPR but it seemed that that was futile.”

ล่าสุด มือปืนถูกตำรวจวิสามัญไปแล้ว

https://www.channelnewsasia.com/news/world/strasbourg-gunman-shot-dead-by-french-police-11030502

เหตุการณ์ประท้วงที่ปารีสทำให้นึกถึงภาพ Liberty Leading the People ของ Eugene Delacroix มาแต่แรก
และคาดว่าน่าจะมีการปรับนำมาใช้ในงานนี้
ถึงวันนี้มีภาพการ์ตูนเลียนแบบผลงานชิ้นแล้วนั้นโดย Andrzej Krauze

ข่าววิจารณ์การเมืองชี้ตรงกันว่า มันเกิดจากนโยบายที่ผิดพลาดของปธน.มาครง  ที่อุ้มคนรวยและผลักภาระให้คนจน
แม้ว่าพยายามแก้ไขด้วยการขึ้นค่าแรง และไม่เก็บภาษีผู้สูงอายุ  ก็ไม่รู้ว่าจะทันความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่
ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ

         ที่ Takeshita Street ย่าน Harajuku หลังเที่ยงคืนวันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม เกิดเหตุรถพุ่งเข้าชน
คนเดินบนทางเท้าทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย
         ผู้ก่อเหตุร้ายเป็นหนุ่มญี่ปุ่นวัย 21 ปี, ให้การขั้นต้นหลังถูกจับกุมว่า ทำไปเพื่อตอบโต้การลงโทษด้วย
การประหารชีวิต
         10 ปีก่อนหน้านี้ที่โตเกียว,เคยเกิดเหตุ Akihabara massacre  เมื่อหนุ่มญี่ปุ่นก่อเหตุขับรถพุ่งเข้าชน
ผู้คนแล้วลงจากรถไล่แทงต่อจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย

นอกจากนั้น,
              ยังเกิดเหตุรุนแรงเกิดขึ้นที่อังกฤษ ณ Victoria Station, Manchester ในคืนส่งท้ายปีเก่า
เมื่อชายผู้ก่อเหตุวัย 25 ปีใช้มีดแทงผู้โดยสารและตำรวจรวม 3 รายพร้อมกับตะโกนคำว่า 'Allah' โชคดีที่
ไม่มีผู้เสียชีวิต

           อีกแห่งเป็นที่เยอรมัน, เหตุเกิดในวันขึ้นปีใหม่โดยชายวัย 50 ปี ซึ่งมีประวัติป่วยด้วยโรคจิตเภท
ขับรถมุ่งพุ่งเข้าชนผู้คนชาวต่างชาติถึง 4 จุดใน Bottrop และ Essen ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม
ทั้งสิ้น 8 ราย

ข่าวรายงานว่าเวลาประมาณเที่ยงคืนสิบนาทีของวันที่ ๑ มกราคม ๒๐๑๙ในขณะที่ผู้คนกำลังเดินเที่ยวเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างสนุกสนานอยู่นั้น เกิดเหตุคนขับรถยนต์ป้ายเหลืองขนาดเล็กพุ่งเข้าชนผู้คนที่กำลังข้ามถนนแบบไม่เลือกหน้า ทำให้มีคนถูกรถชนได้รับบาดเจ็บถึง ๙ ราย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นคนหนุ่มสาว ในจำนวนนี้มีนักศึกษาผู้ชายอายุ ๑๙ ปีคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส พอชนคนเสร็จแล้วผู้ก่อเหตุยังลงจากรถยนต์แล้วตรงเข้าไปชกต่อยทำร้ายคนที่ถูกรถชนอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้าระงับเหตุและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้แบบพร้อมหลักฐาน เขาคือนายคะซุฮิโระ คุซะกะเบะ (日下部和博) อายุ ๒๑ ปี ไม่มีที่อยู่และอาชีพที่แน่นอน

จากการสอบสวนนายคนนี้ให้การยอมรับสารภาพว่าตอนแรกตั้งใจจะทำให้รถยนต์ระเบิดเพื่อฆ่าคนให้ได้มากที่สุด เพื่อแก้แค้นให้กับสมาชิกลัทธิโอมชินริเคียว (オウム真理教) ที่ถูกประหารชีวิตไปนั่นเอง นอกจากนี้ยังบอกอีกด้วยว่ามีแผนการที่จะไปก่อเหตุที่ย่านอุเอะโนะอีกด้วย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าในรถยนต์บรรทุกน้ำมันเป็นจำนวนมาก และเสื้อผ้าที่นายคนนี้สวมใส่ก็เปื้อนน้ำมันอีกด้วย

https://www.facebook.com/100003175986574/posts/2398758800239963/

ครั้งหนึ่งญี่ปุ่นเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศปลอดภัยที่สุดหรือเกือบที่สุดในโลก      เคยเห็นรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายมีเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ วัยน่าจะพอกับโนบีตะ คือระดับม.ต้น  เลิกเรียนพิเศษกลับบ้านคนเดียว 
บัดนี้   อดีตคืออดีต

อเมริกาเกิดเหตุร้ายซ้ำซาก    มือปืนยิงกราดผู้คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อีกแล้ว     คราวนี้ไม่ได้ไล่ยิงเปะปะตามถนน แต่ยิงกราดในโรงงานอุตสาหกรรม

บ่ายวันศุกร์ที่ 15 กพ. 2019   คนงานกำลังทำงานอยู่ดีๆ  มือปืนวัย 45 ชื่อแกรี่ มาร์ติน เป็นอดีตคนงานที่ถูกเลิกจ้างไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ก็พกปืนบุกเข้าไปยิงกราดเพื่อนร่วมงานที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย ตายไป 5 คน
ตำรวจได้รับแจ้งจาก 911 เข้าไประงับเหตุก็โดนยิงบาดเจ็บไป 5 คน  คนที่ 6 ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า   ส่วนมือปืนถูกตำรวจวิสามัญในที่เกิดเหตุ

https://slate.com/news-and-politics/2019/02/aurora-illinois-shooting-updates.html

วันนี้ bbc.com/thai ลงข่าว

          ก่อการร้าย : พบห่อบรรจุระเบิดที่สนามบิน-สถานีรถไฟในลอนดอน

          ตำรวจนครบาลลอนดอนระบุว่า พบระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กในห่อเอกสารขนาดกระดาษ A4
ที่สนามบินฮีทโธรว์ สนามบินกรุงลอนดอน (London City Airport) และสถานีรถไฟวอเตอร์ลู ตำรวจ
หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายถือว่านี่เป็นเหตุที่มีความ "เชื่อมโยงกัน" และยังไม่สรุปว่าเหตุเกิดจากแรงจูงใจอะไร
          ห่อเอกสารที่ส่งไปยังสนามบินฮีทโธรว์และสถานีรถไฟวอเตอร์ลูมีดวงตราไปรษณียากรที่มาจากสาธารณรัฐ
ไอร์แลนด์ มีการอพยพคนออกจากอาคาร Compass Centre ซึ่งเป็นสำนักงานของสนามบินฮีทโธรว์ หลังจากมี
การแจ้งตำรวจเรื่องห่อเอกสารเมื่อเวลา 9.55 น. เวลาอังกฤษ เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.)
          3 ชั่วโมงต่อมา มีการพบห่อเอกสารบรรจุระเบิดอีก 2 จุด บีบีซีเข้าใจว่ามีการปิดล้อมพื้นที่บริเวณหนึ่งใน
สถานีรถไฟวอเตอร์ลูหลังจากพบเอกสารต้องสงสัยในห้องจดหมายเมื่อเวลาราว 11.40 น.

นึกถึงคำว่า อาณาจักรแห่งความกลัว ขึ้นมาเลยค่ะ

อ.คงจะนึกถึง ชื่อไทยของนิยายอิงเหตุการณ์จริงแปลเมื่อปีพ.ศ. 2507 โดย คุณเนื่องน้อย ศรัทธาจาก
In the Reign of Terror: The Adventures of a Westminster Boy(G. A. Henty 1888)
เนื้อเรื่องอิงเหตุการณ์ The Reign of Terror, or The Terror (French: la Terreur)
(is the label given by most historians to a period during the French Revolution)

 :D
ใช่ค่ะ  เป็นยุคสมัยที่ผู้คนพลเมืองอยู่ด้วยความหวาดกลัว   ไม่มีความมั่นคงในชีวิต      ไม่รู้ว่าวันนี้จะมีชีวิตรอดไปถึงเย็นหรือเปล่า ทั้งๆไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย   ไม่ว่าคนรวยคนจน ไพร่ผู้ดี ล้วนเสี่ยงตายเท่าๆกัน
ใครมีปัญญาหนีเอาตัวรอดได้ก็ย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่น   ใครไม่มีปัญญาหรือไม่รู้จะหนีไปไหนก็ต้องทนอยู่ไปวันๆ

หลังจากปีปฏิวัติฝรั่งเศส 1789  เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอองตัวแน็ทท์ถูกประหารด้วยกีโยตีนไปแล้ว     ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ใหญ่น้อยก็ถูกนำขึ้นกีโยตีนไม่เว้นแต่ละวัน     จากนั้นพวกปฏวัติแย่งชิงความเป็นใหญ่ ฆ่ากันเอง    ประชาชนพลเมืองก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวต่อมาอีกหลายปี

ปัจจุบัน  สาเหตุการประหัตประหารไม่ใช่การล้มล้างชนชั้นอย่างเมื่อก่อน  แต่เป็นการเมืองระหว่างประเทศ  ถึงกระนั้น ประชาชนก็รับเคราะห์พอๆกัน

เหตุน่าสลดใจยังคงเกิดขึ้นอีก ไม่มีท่าทีว่าจะจบสิ้น

คราวนี้ไม่ได้เกิดในอเมริกา หรือยุโรป  แต่ไปเกิดที่ Suzano, ใกล้ São Paulo. ประเทศบราซิล
มือปืน 2 คน อายุ 19 กับ 25 ปี  ขโมยรถยนต์จากร้านค้า ยิงเจ้าของตาย แล้วเอารถขับไปที่โรงเรียนเก่าของตัวเอง    พกปืน ธนูและลูกธนูกับวัตถุระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง บุกเข้าไปสังหารเด็กนักเรียนและครู ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร
นักเรียนตายไป 5  คน ครู 1 คน พนักงานตายไป 2  คน  บาดเจ็บ 17 คน 
จากนั้นมือปืนทั้งสองก็ยิงตัวตาย

ตำรวจยังไม่รู้สาเหตุการสังหารหมู่ในครั้งนี้ค่ะ  กำลังสืบสวนอยู่

https://www.bbc.com/news/world-latin-america-47558141

รูปประกอบครับ

         รายงานผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง 8 ราย และ ตัวผู้ก่อการร้ายวัยราว 20 -  25 ปี, 2 คนยิงตัวตาย

         แม้ว่าบราซิลจะเป็นประเทศที่มีคดีฆาตกรรมสูงที่สุดในโลกแต่การกราดยิงในโรงเรียนเช่นนี้เกิดขึ้น
น้อยมาก

เกรงว่าจะเป็นการเลียนแบบกันค่ะ

ควันปืนที่บราซิลเพิ่งจะจาง

           ข่าวด่วนในหลายเว็บวันนี้

           เมื่อเวลา 1.40 pm (NZT) ได้เกิดเหตุกราดยิงผู้คนในมัสยิดสองแห่งที่ Christchurch, New Zealand
ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย(ยังไมีมีการระบุจำนวนแน่นอน)
           บางรายงานกล่าวว่า จนท.จับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 รายเป็นชาย 3 และหญิง 1 และเชื่อว่า1 ในนั้นเป็นชาวออสเตรเลีย

น่ากลัวมากคะ่   นิวซีแลนด์เคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศสงบสันติ ปลอดภัย  ไม่มีปัญหาการเมืองใดๆระหว่างประเทศ
เหตุร้ายครั้งนี้ คนร้ายยิงกระหน่ำเข้าไปในมัสยิด 2 แห่ง ทำเอาคนตายไปอย่างน้อย 49 คน  และอีก 20 บาดเจ็บสาหัส
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บด้วยค่ะ
 

ขึ้นเหนือมาที่ เนเธอร์แลนด์

          เกิดเหตุการณ์ร้าย มือปืนชายกราดยิงใส่รถราง วานนี้,เวลาประมาณ 10.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่
บริเวณแยก 24 อ็อกโทเบอร์ปลายน์ Dutch city of Utrecht ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีก 9 คน
          ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวตุรกีวัย 37 ปี มีชื่อว่า เกิกมน ทานิช ถูกจับกุมตัวได้ในตอนกลางคืน 

ยูเทร็กต์เป็นนครที่มีประชากรราว 3.4 แสนคน,ใหญ่โตเป็นอันดับ 4 ของประเทศและมีสถิติอาชญากรรมในเมืองต่ำมาก

   เกรงว่าจะกลายเป็น "ลัทธิเอาอย่าง" ที่เดิมพันด้วยชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก    แค่ออกจากบ้านไปดำเนินชีวิตประจำวัน ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะรอดกลับมาบ้านได้หรือเปล่า
   สร้างอาณาจักรแห่งความกลัวได้ผลจริงๆค่ะ

โลกแสนกว้าง ไม่ว่างเว้นเหตุการณ์ร้าย

        วันพุธที่ 27 มี.ค. นี้ เวลาบ่าย 4 โมงเย็น,เกิดเหตุร้ายอีกครั้งเวียนมายังเมกา ที่ North Seattle neighborhood
ชายหนุ่มวัย 33 ปี ก่อเหตุยิงปืนใส่รถยนต์บนถนน,ตามด้วยรถโดยสาร จากนั้นจึงยิงใส่คนขับรถอีกคัน
แล้วขโมยรถคันนั้นขับพุ่งไปชนรถอีกคันหนึ่งจนทำให้ผู้ขับรถคันหลังสุดเสียชีวิต รวมผู้เสียชีวิต 2 ราย
และบาดเจ็บอีก 2
        ทางการสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้แต่ยังไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ
ในอเมริกา ทุกวันนี้ แม้แต่ขับรถออกจากบ้านตามปกติ   ก็ไม่รู้ว่าจะเจอคนร้ายไล่ยิงไล่ชน  ทั้งๆไม่รู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า
รายนี้น่าจะป่วยโรคจิต   มากกว่าก่อการร้าย

ข่าวเศร้าปีก่อนซ้อนโศกปีนี้

            จากเหตุการณ์วาเลนไทน์เลือดในร.ร.มัธยมที่ฟลอริด้าเมื่อปีก่อน ปีนี้มีข่าวสะเทือนใจตามมา
เมื่อมีรายงานข่าวว่า นักเรียนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น 2 ราย ได้เสียชีวิตจากการกระทำอัตวินิบาตกรรม
            Calvin Desir วัย 16 ปีได้กระทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อวันที่ 17 มีนาคมและจากไปในคืนวันเสาร์
ที่แล้ว     Sydney Aiello วัย 19 ปีเสียชีวิตจากอัตวินิบาตกรรมเมื่อวันอาทิตย์

            ครอบครัวของ Aiello กล่าวว่าหลังการสูญเสียเพื่อนรักจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เธอก็มีชีวิตอยู่ด้วย
ความรู้สึกผิดที่รอดตายมา และได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยภาวะ ความเครียดหลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจ
(post-traumatic stress disorder)

รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อครั้งเหตุการณ์ Columbine shooting ในปี 1999 ก็ได้มีผู้กระทำอัตวินิบาตกรรม
ตามหลังเช่นกัน

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเยาวชนทั้งสองด้วยค่ะ
อยากขอให้คุณหมอ SILA ช่วยอธิบายถึง ความเครียดหลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจ (post-traumatic stress disorder) ด้วยค่ะ   คงยังมีคนอีกมากที่ไม่ทราบว่ามันคืออะไร

งานงอก :)    

               โรคทางจิตเวชที่ค่อนข้างใหม่ - Post-traumatic Stress Disorder นี้, PTSD ชื่อนี้เพิ่งเข้ามาอยู่ใน
สาระบบการวินิจฉัย เมื่อประมาณปี 1970-80 นี้เอง สืบเนื่องจากจำนวนผป. หลายรายในเมกาที่เป็นทหารผ่านศึกสงคราม
เวียดนามเกิดอาการทางจิต,พฤติกรรมที่เป็นผลจากบาดแผลสงคราม - Posttraumatic condition  
               เมื่อย้อนกลับไปดู จะพบภาวะนี้ที่มีชื่อเรียกกันดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยสงครามกลางเมืองเมกา - สงครามโลก
ครั้งที่ 1 - 2 ว่า Irritable Heart, Shell Shock Syndrome, Combat neurosis หรือ  Operational Fatigue
ตามลำดับ จนสุดท้ายจึงใช้ชื่อนี้
                ชื่อไทย, พบว่าใช้แตกต่างกันไป เช่น ความผิดปกติทางจิตใจ(หรือ เครียด) ภายหลังภยันตราย (หรือ เหตุ
สะเทือนใจ หรือ ได้รับบาดแผลทางจิตใจ), ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง

The Deer Hunter หนึ่งในภาพยนตร์ที่นำเสนอตัวละครที่เป็นทหารผ่านศึกเวียตนามผู้ป่วยด้วยภาวะ PTSD

ขอบคุณค่ะคุณหมอ SILA
ไปหาอ่านเพิ่มเติม ถึงอาการของผู้ป่วย   พบว่าพวกนี้ฝังใจจำเหตุการณ์ร้ายแรงในอดีต  ลืมไม่ได้  เห็นอะไรก็ย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์เดิมอยู่ร่ำไป  เกิดอาการตามมาหลายอย่างเช่นซึมเศร้า   ประสาทหลอน   บางคนติดเหล้าติดยา เพื่อให้ลืมทุกข์ 
บางคนทนรับความกดดันไม่ไหว ก็จบชีวิตตัวเองให้พ้นทรมาน

เป็นเรื่องน่าเศร้ามากสำหรับนักเรียน 2 คนที่รอดชีวิตมาได้ แต่ไม่รอดจากอาการป่วย

 ;D

https://youtu.be/Ure96rzWZ7s

             ภาวะ PTSD จัดอยู่ในกลุ่มของโรคที่เกี่ยวเนื่องกับ stress ทั้งหมด   
             ผป. จะมีอาการหลังประสบกับเหตุการณ์ที่รุนแรงมากจนกระทบกระเทือนเป็นบาดแผลทางใจ(และอาจ
มีทางกายด้วย) เช่น การถูกทำร้ายทรมาน, ข่มขืน, อาชญากรรม, อุบัติเหตุหรือภัยพิบัติรุนแรง, สงครามจลาจล ฯ
โดยอาจมีปัจจัยหนุนนำที่มีส่วนทำให้ผป.เกิดอาการได้ง่ายขึ้น เช่น ลักษณะบุคลิกภาพแบบย้ำคิด, อ่อนแอ
             ผป.ผ่านเหตุการณ์นั้นแล้วรอดมาได้ หรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการณ์นั้น แล้วเกิดความเครียด
ทางด้านจิตใจชนิดรุนแรงทนทุกข์ทรมาน จนส่งผลให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

(ย่อความจากบทความโดย #หมอเบิ่นนี่)

            ในส่วนของรายงานข่าวนี้ ผป.ที่เป็นผู้รอดจากความตายในขณะที่เพื่อนรักเสียชีวิตไป ทำให้มี

            ความรู้สึกผิดของผู้รอดชีวิต(survivor's guilt)

            ผป.เกิดคำถามว่า ทำไมฉันถึงรอด? ในขณะที่คนอื่นตาย ทำไมฉันถึงไม่ทำอะไรเพื่อจะได้ช่วยคนอื่นหรือ
ตายแทนคนนั้น หรือ ทำไมเขาต้องมาตายแทนฉัน?
            ทั้งนี้เป็นผลมาจากความรู้สึกนึกคิดโทษตนเองว่า เป็นสาเหตุหลักทำให้คนอื่นตาย, ทำบางสิ่งบางอย่างผิด
ไปหรือไม่ได้ทำเพื่อช่วยให้คนรอด โดยที่อาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือคิดไปเอง
            ทั้งนี้บริบทของสังคม มีส่วนกระตุ้นภาวะนี้ผ่านทางวัฒนธรรมในสังคมที่ให้ความสำคัญ และเรียกร้องความรับ
ผิดชอบต่อส่วนรวม หรือแรงกดดัน ตำหนิติเตียน จากคนรอบข้างในสังคม

ลักษณะของบุคคลที่จะมีความรู้สึกผิดได้ต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้

1. คนมีคุณธรรม (moral)  ยิ่งมีคุณธรรมประจำใจมาก, ความรู้สึกผิดก็ยิ่งมาก
2. เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ (responsibilty) ต่อพฤติกรรมของตน รวมทั้งจิตสำนึกในผลจากการกระทำของตน
ต่อส่วนรวม (accountability)
3. เป็นคนที่รู้สึกว่าต้องช่วยคนอื่น (altruism) 
4. เป็นคนที่สามารถเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้ (empathy)

แต่ คนที่จะมีความรู้สึกผิดได้มากจนเกิดโทษ คือ

1. เกิดจากบุคลิกที่ชอบตำหนิตัวเอง (self- criticism)
2. คนที่ให้อภัยตนเองได้ยาก มีระดับการมีคุณธรรมมากเกินไปไม่สามารถให้อภัยตนเองได้
3.เป็นคนขาดความยืดหยุ่น มองอะไรเป็นขาวหรือดำเท่านั้น ไม่มีสีเทา

ความรู้สึกผิดมากเกินไปเช่นนี้ มีผลทำให้

1. อาจกลายเป็นโรคซึมเศร้า หรือ โรควิตกกังวล
2. ไม่อนุญาตให้ตนเองมีความสุข ต้องการลงโทษตัวเองเพราะเมื่อมีความสุขก็รู้สึกละอายใจ จึงต้องทำให้ตนเอง
รู้สึกทุกข์ใจ หรือทำให้ชีวิตตนเองตกต่ำอยู่ตลอดเพราะยังรู้สึกผิดอยู่ ใช้ชีวิตไปอย่างไม่ใยดีตนเองเพื่อชดเชย
ความผิด
3. พยายามฆ่าตัวตายเพื่อชดเชยความผิดนั้น

Saving Private Ryan หลายชีวิตต้องสูญเสียไปเพื่อให้พลทหารไรอันรอด แต่ด้วยประโยคทองของ
ร.อ.มิลเลอร์ที่สั่งเสียไว้ก่อนสิ้นใจ “James.... earn this. Earn it.” ช่วย save พลทหารไรอันจาก
Survivor's Guilt

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6879.msg164449#msg164449

หลังจากความสูญเสียเกิดบาดแผลในใจของผู้รอด

             ในช่วง 1 เดือนแรก, เป็นระยะอาการเครียดเฉียบพลัน(Acute Stress Disorder)
             หลังจากนั้น คือระยะที่สอง -  PTSD: Post-Traumatic Stress Disorder
เป็นช่วงเวลาอาการเนิ่นนานเกิน 1 เดือน - หลายเดือนหรือเป็นปี ผป.ยังคงมีลักษณะอาการสำคัญ 4 อย่าง คือ

1. นึกถึง,เห็นภาพเหตุการณ์นั้นตามมาหลอกหลอน โดยที่อาจจะมาเป็น ฝันร้าย (nightmares) ถึงเหตุการณ์
หรือ เห็นภาพเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ ๆ (flashbacks)
2. พยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น (avoidance) ที่ทำให้นึกถึง,เกิด flashbacks
3. อาการตื่นกลัว (hyperarousal) มีอาการนอนไม่หลับ ใจสั่น หงุดหงิด,ตกใจง่าย ไม่มีสมาธิ
4. มีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ไปในเชิงลบ รู้สึกว่าชีวิตหม่นหมอง ไม่อาจมีความสุขได้อีกต่อไป ไม่สนใจกิจกรรมที่เคย
ชอบ และอาจมีความคิดฆ่าตัวตายหรือพึ่งสารเสพติด

Jeremy Cains PTSD flashback

            ภาวะ PTSD มักจะเป็นแบบเรื้อรัง หากไม่รักษามักจะไม่หาย, อาการจะรุนแรงขึ้นในช่วงที่เครียด
และ มักมีอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลตามมา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อ
การฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติถึง 14 เท่า
           ในต่างประเทศ ผู้ที่รอดจากเหตุการณ์รุนแรงนี้ จะได้รับคำแนะนำให้พบกับจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา
เพื่อประเมินว่ามีอาการ PTSD หรือ survivor's guilt หรือไม่

            การรักษา มักเริ่มด้วย จิตบำบัด, ความคิดพฤติกรรมบำบัด (psychotherapy, cognitive-behavioral therapy)
เป็นอันดับแรก และจะมีการใช้ยาร่วมด้วย โดยเฉพาะกรณีผู้ป่วยเป็นเรื้อรังและอาการมาก
            ในส่วนของจิตบำบัด ประกอบด้วย การจัดการความเครียด โดยการผ่อนคลาย, การคิดบวก, เทคนิค
การหยุดความคิด เป็นต้น
            และ การปรับเปลี่ยนความคิด,ความเชื่อ เพื่อให้ผป.ได้รู้ถึงความคิดที่ผิดคลาดเคลื่อนของตนเองแล้ว
แก้ไข และ การเผชิญหน้ากับสถานการณ์ซํ้าเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าสถานการณนั้นไม่น่ากลัวอีกต่อไป

การปฎิบัติธรรม เช่นนั่งสมาธิ  ทำกรรมฐาน เดินจงกรม  โดยไม่ใช้ยาเลย 
ช่วยได้ไหมคะ

(คห.ส่วนตัว ครับ)
           การทำโยคะ, การหายใจเข้าออกผ่อนคลาย, การปฏิบัติธรรมที่ได้ผล น่าจะช่วย ลดหรือระงับ
ความเครียดลงได้ หรือ บางแห่งที่กล่าวถึง การดูจิต ถ้าดูแล้วเห็นก็น่าจะลดละความเครียดลงได้ แต่
ถ้ามีอาการมากเกินก็ควรใช้ยาและรับจิตพฤติกรรมบำบัด

และ, อ้างถึง, คำแนะนำ จากบทความรับสถานการณ์บ้านเมืองยามนี้ ที่กล่าวถึง
 Political Stress Syndrome (PSS)    Post-Election Stress Disorder

การเมืองเรื่อง (ไม่) เครียด  http://www.judprakai.com/feature/994

           5. การผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกาย ฝึกโยคะ ทำสมาธิ ฝึกผ่อนคลายกำหนดลมหายใจ
เข้า-ออก เป็นต้น

ขอบคุณค่ะคุณหมอ
ลิ้งค์ที่คุณหมอทำให้ข้างบนนี้   ทันกระแสสังคมยุคหลังเลือกตั้งมากค่ะ
ขอนำลิ้งค์มาลงอีกครั้งค่ะ

 http://www.judprakai.com/feature/994

ผ่านมาสดๆร้อนๆ คือระเบิดในศรีลังกา
https://www.bbc.com/thai/international-48002445

ข่าวจากบีบีซีไทย

              เกิดเหตุระเบิดขึ้นอย่างน้อย 8 ครั้ง, ที่โบสถ์ 3 แห่งในย่านโกชชิกาเด ในกรุงโคลัมโบ, เมืองเนกอมโบ และ
เมืองบัตติคาโลอา ระหว่างที่ประชาชนกำลังประกอบพิธีทางศาสนาเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ เมื่อ 21 เม.ย.
              อีก 3 ครั้งเกิดขึ้นที่โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมซินนามอน แกรนด์ และโรงแรมคิงส์บิวรี ในกรุงโคลัมโบ
โดยเหตุระเบิดบริเวณย่านเดอมาตาโกดา ในกรุงโคลัมโบ เป็นการระเบิดฆ่าตัวตาย
              ประชาชนอย่างน้อย 290 คนเสียชีวิต เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 36 ราย และราว 500 คนได้รับบาดเจ็บ
              ล่าสุดเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีผู้ถูกจับกุม 24 คน ฐานต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น
              ยังไม่มีกลุ่มใดออกมากล่าวอ้างว่าอยู่เบื้องหลังโจมตีที่เกิดขึ้น

ภาพจาก ndtv.com

https://www.matichon.co.th/social/news_1460698

เผยภาพความโกลาหลที่สนามบินศรีลังกา หลังเกิดระเบิดโจมตี 8 จุด คร่าชีวิตผู้คนกว่า 200
วันที่ 22 เมษายน 2562 - 09:12 น.

คนอเมริกันยังหายใจกันไม่เต็มปอด   ก็เกิดเหตุสะเทือนขวัญ  ยิงกราดกันในสถาบันการศึกษาอีกแล้ว
คราวนี้เจอที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ธ คาโรไลน่า หรือรัฐคาโรไลน่าเหนือ
วันอังคารที่ 30 เมษา เป็นวันสอบวันสุดท้ายของนักศึกษา   มือปืนยิงกระหน่ำ  มีเหยื่อตายไป 2 คน บาดเจ็บอีก 4  ในจำนวนที่บาดเจ็บมีอาการสาหัส 2 คน
ตำรวจจับกุมมือปืนไว้ได้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดค่ะ

https://edition.cnn.com/2019/04/30/us/university-of-north-carolina-charlotte-shooting/index.html

         รายงานอัพเดทเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย, บาดเจ็บ 4 โดยที่ 3 รายมีอาการหนัก
ผู้ต้องสงสัยเป็นชาย(ระบุชื่อแล้ว) วัย  22 ปี, ยังไม่มีการกล่าวถึงเหตุจูงใจ

Local police arrested a suspect at the campus.Source:Twitter
Gun Violence Archive 2019

          ควันปืนเพิ่งจางไปในรัฐคาโรไลน่าเหนือจากเหตุการณ์ร้ายเมื่อสัปดาห์ก่อน วันที่ 7 พ.ค. เกิดเหตุการณ์
กราดยิงอีกครั้งที่ร.ร. STEM School Highlands Ranch ใน Denver, Colorado
          ผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นนักเรียนและผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 8
          ผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนสองคนๆ แรกอายุ 18 ปี ส่วนอีกคนเป็นเยาวชน

และ...
          Kendrick Castillo วัย 18 ปี คือวีรบุรุษน้อยผู้พลีชีพโดยการโถมเข้าใส่มือปืนทั้งสองทำให้เพื่อนๆ
ได้มีเวลาหนีรอดไปได้

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคาสติลโลด้วยค่ะ  ขอให้วิญญาณหนุ่มน้อยไปสู่สุคติ

         กลับมายุโรป, ที่ฝรั่งเศส ตอนเย็นวันศุกร์ที่ 24 พ.ค. นี้,ตามเวลาท้องถิ่น, ณ เมือง Lyon เกิดเหตุ
พัสดุระเบิดบนถนน Victor-Hugo ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย,หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ
         จนท. เผยแพร่ภาพผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยประมาณ 30 ปี

metro.co.uk

ฝรั่งเศสยังคงเป็นอาณาจักรแห่งความกลัวอยู่เช่นเดิมค่ะ

           เช้าวันนี้, ช่วงเวลาเร่งด่วน, ที่ป้ายรถเมล์ใน Kawasaki City ใกล้กรุง Tokyo เกิดเหตุการณ์ร้าย
เมื่อชายวัยประมาณ 40 - 50 ปี ใช้มีดที่ถือมาทั้งสองมือบุกเข้าแทงผู้คนมากมายที่ยืนรอรถเมล์ ส่งผลให้มี
ผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย, ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนถึง 13 คน รายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย
           ส่วนผู้ต้องหาได้ใช้มีดทำร้ายตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อต้นปีนี้ที่ญี่ปุ่น, ช่วงหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม ปีเก่าเข้าสู่ปีนี้, เกิดเหตุ ชายหนุ่มขับรถพุ่งเข้าชน
ผู้คนริมถนนย่าน Harajuku ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ผู้ก่อเหตุให้การขั้นต้นหลังถูกจับกุมว่า ทำไปเพื่อ
ตอบโต้การลงโทษด้วยการประหารชีวิตสมาชิกลัทธิโอมชินริเคียว

และ เหตุการณ์ใช้มีดบุกฆ่าผู้อื่นครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้เป็นที่ศูนย์ดูแลผู้มีปัญหาทางจิตใจใน Sagamihara ซึ่ง
อยู่ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว, อดีตจนท.ของศูนย์ได้ใช้มีดปลิดชีวิตผป.ไป 19 ราย

เด็กนักเรียน ป. ๑ อายุ ๖-๗ ขวบถูกแทง ๑๓ คน อายุ ๑๐-๔๐ ปี อีก ๓ คน
คนร้ายอายุระหว่าง ๔๐-๕๐ ปีถือมีด ๒ เล่ม

อ่านความคืบหน้าเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/100003175986574/posts/2671929579589549?s=100006582436536&sfns=mo

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
นึกถึงหัวอกพ่อแม่ ที่ตอนเช้า  ลูกออกจากบ้านไปร.ร. ตามปกติ
ไม่กี่ชั่วโมงได้ข่าวว่าลูกตาย หรือบาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลเสียแล้ว

ไปๆมาๆกระทู้นี้ยาวอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะมีเหตุการณ์เพิ่มเข้ามาเป็นประจำ    สลดใจทุกครั้งที่บันทึกลงในค.ห.ใหม่

สังหารหมู่ครั้งล่าสุด  เกิดเมื่อบ่ายสี่โมงวันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2019  (ตามเวลาท้องถิ่น) มือปืนบุกเข้าไปยิงกราดผู้คนที่ทำงานอยู่ในศาลาเทศบาลเมืองเวอร์จิเนีย บีช  รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา(อีกแล้ว)

มือปืนเป็นพนักงานเทศบาล บุกเข้าไปยิงเพื่อนร่วมงานตายไป 11 คน  แล้วตัวเองก็ถูกตำรวจวิสามัญ    รวมเป็น 12
 ศพด้วยกัน
ยังไม่ทราบแรงจูงใจค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=ymmllJt-LdQ

      เหตุการณ์ร้ายเกิดแล้วเกิดอีกจนเกือบจะกลายเป็นความคุ้นเคยชิน, จนไม่เกิดความเปลี่ยนแปลง
การเรียกร้องแก้กฎหมายควบคุมปืนในเมกาก็เงียบๆ, ซาๆ ไป
      แต่ถึงแม้หากจะแก้แล้ว, จากบทเรียนที่ญี่ปุ่นซึ่งกฎหมายควบคุมปืนเข้มงวดมากจนแทบไม่มีใคร
ได้ครอบครองปืน ผู้ก่อเหตุการณ์ร้ายก็เลี่ยงไปใช้สิ่งอื่นเป็นอาวุธ เช่น มีด, รถยนต์, สารหรือแก๊สพิษ
      ดูเหมือนคนบริสุทธิ์จะต้องอยู่อย่างระมัดระวังตัวและหาทางรักษาชีวิตให้รอดกันเอง

เหตุร้ายซ้ำซากเกิดขึ้นอีกแล้ว   ฆาตกรออกมาไล่ยิงคนแบบไม่เลือกหน้า
คราวนี้ไปโผล่ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย

ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับมือปืน นอกจากว่านายคนนี้เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากคุกแต่ยังต้องไปรายงานตัว     แกเที่ยวไปยิงเหยื่อ ผู้ชายตายไป 4 คน ผู้หญิงได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน   และรายงานข่าวบอกด้วยว่าเป็นสถานที่ต่างกัน  ไม่ใช่ยิงกราดในที่เดียวกัน

ออสเตรเลียเพิ่งออกกฎหมายเข้มงวดเรื่องอาวุธปืน     เพื่อป้องกันเหตุร้าย
แต่ก็มีคดีนี้เกิดขึ้นมาจนได้
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ

https://www.cbsnews.com/news/darwin-australia-shooting-latest-updates-today-suspect-arrested-2019-06-04/

  หลังจากข่าวกราดยิงในอเมริกาเงียบไปสักระยะหนึ่ง พอให้โล่งอกกันขึ้นมาบ้าง    ไม่เท่าไหร่มือปืนประเภทยิงไม่เลือกก็ออกโรงมาฆ่าผู้บริสุทธิ์อีกแล้ว
  คราวนี้เกิดในคาลิฟอร์เนีย  ที่เมืองกิลรอย ในงานเทศกาลอาหารประจำปี เรียกชื่อว่า GILROY GARLIC FESTIVAL เป็นงานเทศกาลใหญ่ในฤดูร้อน จัดกันกลางแจ้งในเดือนกรกฎาคม  มีอาหารและเครื่องดิ่ม แล้วยังมีประกวดแข่งทำอาหารกัน
   อยู่ๆท่ามกลางผู้คนมาร่วมงานคึกคัก   มือปืนซึ่งเป็นชายผิวขาวก็บุกเข้าไปยิงกราดผู้คน  แบบยิงไม่เลือกทุกทิศทาง ไม่เล็งที่ใครเป็นพิเศษ    ผู้คนแตกฮือวิ่งหนีกันชุลมุน     
  ผลคือคนตายไป 4 คน บาดเจ็บอีก 11 คน  หนึ่งในผุ้เสียชีวิตคือผู้ต้องหาว่าเป็นคนร้าย  ถูกตำรวจวิสามัญไปแล้ว

    https://www.youtube.com/watch?v=RrQYjjOLD4U

ถามเพื่อนอาวุโสที่เคยอาศัยอยู่แคลิฟอร์เนีย - ไม่รู้จักเมืองนี้ว่าอยู่ละแวกไหน
จึงต้องอาศัยคุณกูเกิ้ล

สิ่งที่มือปืนรายนี้ผลาญลงไปไม่ใช่ชีวิตของเหยื่อผู้บริสุทธิ์เท่านั้น  แต่ผลาญงานการกุศลงานใหญ่สุดของเมืองกิลรอย ที่จัดประจำทุกฤดูร้อนมาตั้งแต่ปี 1979 ด้วย
ชื่องาน Gilroy Garlic Festival  บอกให้รู้ว่าเกี่ยวกับกระเทียม    เป็นงานเทศกาลอาหารจัดกลางแจ้ง มีดนตรี ออกร้าน ประกวดทำอาหาร  มีกระเทียมเป็นหลัก  แต่อะไรที่ไม่เกี่ยวกับกระเทียมก็ยังพอหากินได้เช่นกัน 
แต่เดิมมากระเทียมเป็นอาหารกลิ่นน่ารังเกียจของฝรั่งที่อพยพจากยุโรปมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในอเมริกา     ความร้ายแรงของกระเทียมมีขนาดไหนเห็นได้จากบราม สโตเกอร์ ผู้เขียนเรื่อง Dracula กำหนดให้กระเทียมเป็นสิ่งหนึ่งนอกจากไม้กางเขนที่ท่านเคานต์เขี้ยวยาวพระเอกของเรื่องไม่กล้าเข้าใกล้ 
แต่ในคาลิฟอร์เนีย  จำนวนผู้อพยพจากเม็กซิโกมีสูงมาก    พวกนี้ไม่รังเกียจเครื่องเทศกลิ่นฉุน   อาหารเมกซิกันจึงเข้ามาอยู่ในรัฐนี้จนฝรั่งกินกันเป็นของปกติ
 
เทศกาลกระเทียมเมืองกิลรอยประสบความสำเร็จอย่างสูงมาตลอด จึงจัดกันมารายปี   สามารถระดมทุนเพื่อการกุศลได้มากกว่า 11.7 ล้านเหรียญแล้ว
เฉพาะปี 2018 ที่แล้วมา  ผู้จัดสามารถบริจารการกุศลได้มากกว่า $255,000 ให้กับมูลนิธิท้องถิ่น องค์กรศาสนาและทีมกีฬาโรงเรียน
แต่ก็มาสะดุดตอล้มคว่ำ  เพราะจิตไม่ปกติของมือปืนรายเดียว    บวกกับนักการเมืองอเมริกาที่สนับสนุนให้พกอาวุธปืนเสรี   ยังไม่มีการแก้ไขกฎหมายจนบัดนี้

ภาพข้างล่างจะเห็นร้านขายกระเทียมสดในงาน  และคุณตาผู้มาเที่ยวงานสวมหมวกประดับกระเทียมเข้ากับบรรยากาศรื่นเริง  ก่อนเกิดเหตุไม่นาน

ถึงคราววนกลับมาบ้าน    

         เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เกิดเหตุวางระเบิดขึ้นหลายจุดในกทม. จุดแรกเป็นที่บริเวณหน้าตึกมหานคร ใกล้สถานีรถไฟฟ้า
บีทีเอส ช่องนนทรี และพงหญ้าใต้บันไดบีทีเอส จุดที่สอง ภายในศูนย์ราชการ-กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ
และจุดที่สาม บริเวณซอยพระราม 9 แยก 57/1 จุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์

         พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. เผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าน่าจะมีคนร้ายก่อเหตุไม่ต่ำกว่า
2 คนต่อจุด มีการวางแผนและแบ่งทีมกันวางระเบิดแสวงเครื่องโดยตั้งเวลาให้ระเบิดช่วงเช้าเวลาไล่เลี่ยกัน

(ภาพจากเว็บแนวหน้า)

:o

ถ้าช่วยกันเปิดกล้องวงจรปิดทุกตัวที่บ้าน หากได้ติดตั้งไว้ให้บันทึกภาพ ก็น่าจะดีนะครับ
เราช่วยกันดูแลคนละไม้คนละมือ เป็นหูเป็นตาให้ทางการ เท่าที่พอจะทำได้

ดีมากทีเดียวละค่ะ    นอกจากนี้กล้องวงจรปิดควรมีทุกถนน ทุกซอย ทุกแห่งที่ติดได้ ไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน  จะช่วยผ่อนแรงปราบอาชญากรรมได้มาก

ข่าวน่าสลดใจในอเมริกามาอีกแล้ว

สังหารหมู่ล่าสุดในสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ในเมืองเอล ปาโซ รัฐเทกซัส  มือปืนหนุ่มวัย 21 ชื่อนายแพทริค ครูซิอุส บุกเดี่ยวเข้าไปยิงกราดผู้คนในศูนย์การค้าถึง 2 แห่งที่อยู่ใกล้กัน คือศูนย์การค้าวอลมาร์ท และเซโล วิสต้า มอลล์
ทำให้ประชาชนที่เดินจับจ่ายใช้สอยซื้อของอยู่ที่นั่นตายไป 20 คน บาดเจ็บอีก 23 คน   
ตัวมือปืนถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ได้

เข้าไปตามข่าวได้ในลิ้งค์นี้ค่ะ

https://edition.cnn.com/2019/08/03/us/el-paso-texas-shooting-what-we-know/index.html

         กล้องวงจรปิดแสดงภาพมือปืนผิวขาววัย 21 ปี จาก Allen(suburb of Dallas) ที่อยู่ห่างไปกว่า 600 ไมล์
จนท.สืบสวนสาเหตุจูงใจไปในแนวทางการก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง(hate crime)

       Hate crime  มีชื่ออื่นๆในความหมายเดียวกัน เช่น bias-motivated crime และ bias crime   เป็นอาชญากรรมที่ไม่ได้เกิดจากการมุ่งร้ายต่อใครคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน เฉพาะตัว      แต่เป็นอาชญากรรมที่เกิดจากอคติต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ  ทั้งๆอาจจะไม่ได้รู้จักกันเป็นส่วนตัวมาก่อน  เช่นเกลียดชังคนผิวสี  คนชาตินั้นชาตินี้  คนพิการ  คนแปลงเพศ  ฯลฯ  
       อาชญากรพวกนี้ พอสบโอกาส ก็เข้าทำร้ายเป้าหมาย  ส่วนใหญ่จะไม่ใช่เป้าหมายคนเดียว    อาจทำทีเดียวเป็นกลุ่ม เช่นยิงกราดคนผิวสีไม่เลือกหน้า   หรือว่าเลือกทำร้ายแต่เฉพาะคนที่เข้าข่าย เช่นเกลียดพวกโจ๋  พอเห็นวัยรุ่นเดินมาคนเดียวไม่ได้ เป็นตัองยิงหรือแทง ต่อเนื่องกันไปหลายราย

ภายใน 13 ชั่วโมง ประชาชนในรัฐเทกซัสยังไม่หายขวัญผวากับชีวิตที่สูญไป 20 ชีวิต    ประชาชนในรัฐโอไฮโอก็ประสบชะตากรรมเดียวกันอีก     เมื่อมือปีนบุกเดี่ยวยิงกราดในแหล่งบันเทิงของนักเที่ยวกลางคืน เมืองเดย์ตัน 
ทำเอาคนตายไป 9 คน  บาดเจ็บอีก 16 คน
ส่วนมือปืนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญไปแล้ว ในที่เกิดเหตุ   ยังไม่ทราบชื่อและแรงจูงใจ  รู้แต่ว่าใช้ปืนยาวยิงกราดผู้คนไม่เลือก

  https://edition.cnn.com/2019/08/04/us/dayton-ohio-active-shooter/index.html

         เหตุกราดยิงที่โอไฮโอนี้ ทางการระบุตัวคนร้ายชื่อ Connor Betts วัย 24 ปี สวมหน้ากากใช้อาวุธ
ปืนไรเฟิลพร้อมพกซองกระสุนมาเป็นพิเศษ ทั้งยังสวมชุดป้องกันกระสุนและอุปกรณ์ป้องกันเสียง และ
         ยังไม่มีรายงานถึงมูลเหตุจูงใจในการสังหารครั้งนี้
       
บีบีซี เสนอเรื่อง  4 เหตุผล เหตุกราดยิงในสหรัฐฯ กำลังเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ว่า

อาวุธทรงพลังขึ้น
มือปืนเจาะจงเลือกสถานที่มากขึ้น
คนร้ายชอบความสนใจจากสื่อ
มือปืนแข่งขันกัน

Connor Betts  ถูกเด็ดชีพด้วยฝีมือตำรวจไม่ถึงหนึ่งนาทีนับแต่สาดกระสุนใส่ผู้คน    แต่เขาก็มีเวลาพอจะฆ่าผู้บริสุทธ์ไปถึง 9 คน และบาดเจ็บอีกมาก
ตอนนี้ เพื่อนๆสมัยเรียนชั้นมัธยมออกมาให้ข่าวว่า สมัยขึ้นม.ปลาย   คอนเนอร์เคยสร้างบัญชีรายชื่อเพื่อนๆที่เขาไม่ชอบเอาไว้ ระบุว่าเป็น "รายชื่อเหยื่อกระสุน" แล้วส่งให้เพื่อนอย่างน้อย 4 คนที่อยู่ในรายชื่อ   ส่วนเพื่อนนักเรียนหญิงด้วยกัน คนไหนเขาจีบแล้วไม่เล่นด้วย ก็จะถูกส่ง "รายชื่อเหยื่อข่มขืน" ไปให้ 
อย่างไรก็ตาม คอนเนอร์หายไปปีหนึ่งจากโรงเรียน  (อาจจะถูกส่งไปบำบัดทางจิต?) พอกลับมาก็เปลี่ยนเป็นเด็กดี เป็นคนละคน  ร่วมทำกิจกรรมโรงเรียน เรียนหนังสือตามปกติ  จนเรียนจบ   
ผ่านไปหลายปี ก็กลับมาสร้างข่าวสะเทือนไปทั้งประเทศ

ข่าวที่น่าช็อคยิ่งกว่านี้ก็คือ สองจากเก้าคนในเหยื่อที่คอนเนอร์สาดกระสุนเข้าใส่จนเสียชีวิตทั้งคู่ คือน้องสาววัย 22 ของเขาชื่อเมแกน   กับแฟนหนุ่มของเธอ
สงสารพ่อแม่

รูปข้างล่างนี้คอนเนอร์ถ่ายคู่กับน้องสาวค่ะ

โศกนาฏกรรมจากการใช้อาวุธปืนและระเบิดเกิดขึ้นทั่วไปในประเทศที่มีความขัดแย้งทางความคิดและความเชื่อ เราอาจจะสนใจเหตุที่เกิดในบ้านเรา และประเทศที่สื่อหลักพูดถึงบ่อย ๆ เช่น อังกฤษ อเมริกา และญี่ปุ่น

แต่เราอาจจะไม่สนใจในประเทศที่เราไม่คุ้นเคย  :o

เหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีงานเลี้ยงสมรสในอัฟกานิสถาน ช่วงค่ำ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๖๓ ราย บาดเจ็บ ๑๘๒ คน ล่าสุด กลุ่มติดอาวุธ 'ไอเอส' อ้างตัวเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ อาจกระทบการเจรจาถอนทหารสหรัฐฯ และการสงบศึกกับกลุ่มตอลิบาน

https://voicetv.co.th/read/BMwHCefId

https://youtu.be/CEEPwlOHJ54

         ภาพรองเท้ามากมายหลายข้าง,หลายคู่ของเหยื่อความรุนแรงที่อัฟกานิสถาน,โฮไฮโอ และที่อื่นๆ
เป็นอีกภาพหนึ่งที่สร้างความสะเทือนใจได้มากโดยแทบไม่ต้องมีคำบรรยาย

         เมื่อสองปีก่อนนี้(มีนาคม 2018) นักกิจกรรมจึงได้จัดกิจกรรมต่อต้านความรุนแรงจากปืนที่พรากชีวิตเด็กไป
นับพันรายในแต่ละปีที่อเมริกา โดยการนำรองเท้ามาวางเรียงรายที่สนามหญ้าของ อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา
U.S. Capitol Washington, D.C.
         และ ปีต่อมา(กันยายน 2019) ที่สนามของอาคารรัฐสภาอังกฤษ ก็ได้มีกิจกรรมจัดวางชูชีพนับพันชิ้นเพี่อ
เรียกร้องให้อังกฤษรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้น

กลับมาดูข้อความที่แล้ว, จึงได้พบว่า เรียบเรียงผิดไป

แก้ไข เป็นว่า

             กันยายน 2016 ที่สนามของอาคารรัฐสภาอังกฤษ ก็ได้มีกิจกรรมจัดวางชูชีพนับพันชิ้นเพี่อ
เรียกร้องให้อังกฤษรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้น และ อีกสองปีต่อมา

             มีนาคม 2018 นักกิจกรรมได้จัดกิจกรรมต่อต้านความรุนแรงจากปืนที่พรากชีวิตเด็กไปนับพันราย
ในแต่ละปีที่อเมริกา โดยการนำรองเท้ามาวางเรียงรายที่สนามหญ้าของ อาคารรัฐสภาสหรัฐอเมริกา

          ส่งท้ายเดือนสิงหาคมด้วยเหตุการณ์ร้ายในเมกาอีกแล้วที่ West Texas ช่วงเวลาบ่ายใน Midland
เมื่อชายผิวขาววัย 36 ปีที่ขับรถฝ่าฝืนคำสั่งได้ยิงปืนเข้าใส่จนท. แล้วขับรถหนีไปพลาง,กราดยิงใส่ผู้คนบน
ท้องถนนไปพลาง จากนั้นจึงปล้นชิงรถขนส่งไปรษณีย์แล้วขับกราดยิงต่อระหว่างทางมุ่งหน้าสู่ Odessa
รวมเวลาเกือบสองชั่วโมง ก่อนที่จนท.จะสามารถสะกัดกั้นและได้กระทำวิสามัญฯ
          มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตรวม 7 รายและบาดเจ็บอีกนับสิบ  ยังไม่มีรายงานถึงเหตุจูงใจจากทางการ

ภาพแผนที่และรถขนส่งไปรษณีย์ที่ผู้ก่อเหตุปล้นชิง

เห็นกระทู้นี้เด้งขึ้นมาทีไรก็รู้ว่าเรื่องหดหู่ใจเกิดขึ้นอีกแล้ว  :'(

มือปืนรายนี้ถูกวิสามัญไปแล้ว   ตำรวจเปิดเผยชื่อว่า   Seth Ator   เพื่อนบ้านให้สัมภาษณ์ว่ามีพฤติกรรมรุนแรง ชอบใช้ปืน   
ก่อนเกิดเรื่องเขาถูกไล่ออกจากงานขับรถบรรทุก  จากนั้นก็อาละวาดไล่ยิงดะ  เหยื่อที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไป 7 คนรวมทั้งพนักงานส่งจดหมาย เป็นผู้หญิงสาววัย 29 ปี
เด็กน้อยวัย 17 เดือนได้รับบาดเจ็บ แต่อาการปลอดภัยแล้ว

เหตุร้ายครั้งล่าสุดเกิดที่ฟินแลนด์  ซึ่งไม่เคยติดอันดับเหตุร้ายทำนองนี้มาก่อน  แต่ก็เกิดจนได้

ในกรุงเฮลซิงกิ   วันอังคารที่ 1 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น    นักศึกษาหนุ่มรายหนึ่งสะพายเป้เข้ามาในวิทยาลัยอาชีวะซาโว แล้วหยิบดาบพร้อมอาวุธปืนออกมาจากเป้   ไล่ยิงไล่ฟันผู้คนในวิทยาลัย ซึ่งมาเช่าเปิดกิจการอยู่ในส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าเฮอร์มัน   ในระหว่างตัวอาคารโรงเรียนปิดปรับปรุง
ทำให้ผู้หญิงถูกสังหารไป 1 คน อีก 9 คนบาดเจ็บสาหัส   ส่วนตัวฆาตกรเองก็ถูกตำรวจยิงบาดเจ็บสาหัส    และถูกจับตัวไว้ได้แล้ว
ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อและเหตุจูงใจ

           ข้อมูลเพิ่มเติมว่า  เหตุเกิดใน Kuopio ซึ่งอยู่ห่างจาก Helsinki ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 350 กม.
มือดาบ(sabre-like weapon) เป็นนักศึกษาชายฟินแลนด์วัย 25 ปีของโรงเรียนอาชีวะแห่งนั้น(เกิดปี 1994 ใน
ฟินแลนด์) และ ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
           ประเทศฟินแลนด์นั้นจัดได้ว่าเป็นประเทศที่สงบปลอดภัย มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นน้อยทั้งๆ ที่มีประชากรผู้ครอบ
ครองปืนอยู่เป็นจำนวนมาก

โรงเรียนที่เกิดเหตุตั้งอยู่ที่ชั้นสองของศูนย์การค้าแห่งนี้

                    จับตา เหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อหนังออกฉาย

           "โจ๊กเกอร์" รุนแรงเกินไปไหม ทำไมภาพยนตร์นี้จึงสร้างความกังวลเรื่องความปลอดภัยในสหรัฐฯ

โจ๊กเกอร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เล่าเรื่องราวของตัวร้ายและศัตรูตัวฉกาจของแบทแมนเป็นหลัก จะออกฉายพร้อมกับทั่วโลก
ในวันที่ 3 ต.ค. นี้
         แม้คนไม่มากที่ได้ดูภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ไปแล้ว แต่ โจ๊กเกอร์ ก็ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ
เมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งเตือนให้กองกำลังเตรียมพร้อม มีการพูดถึงข่าว "ที่น่าเชื่อถือ"
เรื่องการกราดยิงที่อาจจะเกิดขึ้นวันที่ Joker เข้าฉาย
         เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ชายคนหนึ่งก่อเหตุกราดยิงในโรงหนังที่เมืองออโรรา,โคโลราโด ระหว่างการฉายภาพยนตร์ The Dark Knight Rises
ที่บอกเล่าเรื่องราวของแบทแมน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 70 คน

อ่านต่อที่   https://bbc.in/2oAtJFL

https://www.youtube.com/watch?v=t433PEQGErc

https://www.youtube.com/watch?v=zAGVQLHvwOY

แต่ทางการก็ไม่สามารถห้ามฉายหนังเรื่องนี้ได้อยู่ดี

        ยามเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ณ Saugus High School ใน Santa Clarita,Southern California
ช่วงเวลาก่อนเข้าเรียน ขณะที่เหล่านักเรียนกำลังเดินทางมาถึงและทักทายสนทนากันเช่นวันก่อนๆ
        แต่แล้วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด,นักเรียนชายวัย 16 ปี คนหนึ่งได้ดึงปืนพกออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง
แล้วกราดยิงโดยไม่เลือกหน้าเข้าใส่น.รที่อยู่ใกล้เคียง ส่งผลให้น.ร.หญิงวัย 16 และชายวัย 14 เสียชีวิต กับ
บาดเจ็บอีกสาม ก่อนที่มือปืนหนุ่มจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันลั่นไกปลิดชีพตนเองลง

Nathaniel Berhow มือปืนหนุ่มเชื้อสายเอเชีย ผู้ไม่มีปัญหาในการเข้าสังคม, ไม่มีพฤติกรรมเก็บตัว
ก่อเหตุในวันนั้นซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของเขาเองและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น

เป็นเรื่องน่าเศร้าอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
มือปืนวัยรุ่นคนนี้ไม่มีเค้าให้เพื่อนฝูงระแวงเลยว่าจะก่อเรื่องร้ายขึ้นมา     ดูจากรูปการณ์  เขาวางแผนมาล่วงหน้าแน่นอน
บรรจุกระสุนเต็มแม็ก   ยิงเพื่อน 5 คน ใน 5 นัด ตาย 2  บาดเจ็บ 3  กระสุนนัดสุดท้ายเขาหันเข้าจ่อที่ศีรษะตัวเอง
จนบัดนี้ก็ไม่มีใครรู้ถึงแรงจูงใจ 

             เหตุการณ์ร้ายยังเกิดขึ้นใน California อีกครั้ง แต่คราวนี้เหยื่อเป็นชาวเอเชีย

             ที่ Fresno, ตอนบ่ายวันอาทิตย์ช่วงเวลาขณะที่ญาติมิตรเชื้อสายเอเชียมาชุมนุมกันในบริเวณหลังบ้าน
เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอล มือปืนอย่างน้อยหนึ่งคนได้บุกเข้ามาในบ้านเป้าหมายหลังนี้แล้วกราดยิงเข้าใส่อย่าง
ไม่เลือกหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชายวัย 25 -  30 ปี 4 ราย และบาดเจ็บอีก 6  
             ยังไม่มีรายงานระบุตัวผู้ก่อเหตุและสาเหตุที่ลงมือ (หลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุนร.เชื้อสาย
เอเชียกราดยิงที่ร.ร. ใน southern California)

Fresno - a city in and the county seat of Fresno County, California. It covers about 112 square miles
in the center of the San Joaquin Valley, the southern portion of California's Central Valley.

เป็นเรื่องน่าสลดใจอีกเรื่องที่ยังหาคำอธิบายไม่ได้ค่ะ

กลับมาที่อังกฤษ, บีบีซีไทยรายงานข่าว

              ตำรวจอังกฤษยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังเขาไล่แทงผู้คนที่เดินบนลอนดอนบริดจ์ ในช่วงบ่ายวันที่
29 พ.ย. ตำรวจกรุงลอนดอนระบุว่า ได้รับแจ้งเหตุแทงก่อนเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น, ชายผู้นี้คาด
ระเบิดปลอมไว้กับตัวด้วย และเหตุโจมตีไล่แทงคน "เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย"
              ผู้สื่อข่าวบีบีซี รายงานว่า เขาเห็นการต่อสู้บนสะพาน โดยมีผู้ชายหลายคนรุมทำร้ายผู้ชายคนหนึ่ง จากนั้น
ตำรวจก็มาถึงอย่างรวดเร็ว และยิงปืนหลายนัดใส่ชายคนดังกล่าว
             
รายงานเพิ่มเติมว่า

              ชายที่ก่อเหตุไล่แทงผู้คนบนลอนดอนบริดจ์ชื่อนายอุสมาน ข่าน อายุ 28 ปี เป็นอดีตนักโทษคดีก่อการร้าย
ในปี 2012 และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวโดยมีทัณฑ์บนเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว
              จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหัวสะพานด้านทิศเหนือซี่งใกล้ ๆ กันนั้นกำลังมีการจัดการประชุมวิชาการที่มหาวิทยาลัย
เคมบริดจ์เรื่องการฟื้นฟูผู้ต้องขัง มีนักศึกษาและอดีตผู้ต้องขังเข้าร่วมงานหลายสิบคน
              เดอะ ไทมส์รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยซึ่งได้รับการปล่อยตัวโดยมีทัณฑ์บนและสวมใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ
ติดตามการเคลื่อนไหว ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย             
              รายงานระบุมีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 3 คน

ตร.อังกฤษเผยมือมีดไล่แทง 2 ศพที่ลอนดอนบริดจ์ ‘เพิ่งออกจากคุก’ หลังต้องโทษคดี ‘ก่อการร้าย’

รอยเตอร์ - ตำรวจอังกฤษเปิดเผยชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุไล่แทงเหยื่อเสียชีวิต 2 รายในกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ (29 พ.ย.) พบเคยต้องคดีก่อการร้ายมาก่อน และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อปีที่แล้ว

อุสมาน ข่าน (Usman Khan) วัย 28 ปี ซึ่งติดเข็มขัดระเบิดปลอมถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ หลังก่อเหตุทำร้ายผู้คนใกล้กับสะพานลอนดอนบริดจ์ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจถือเป็นคดีก่อการร้าย และยังไม่ระบุตัวผู้ต้องสงสัยอื่นๆ

บุคคลคนนี้เป็นที่รู้จักของทางการ และเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีก่อการร้ายเมื่อปี 2012” นีล บาซู ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามก่อการร้าย ระบุในถ้อยแถลง “เขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วโดยมีเงื่อนไขคุมประพฤติ และแน่นอนว่าคำถามสำคัญก็คือ เขาลุกขึ้นมาก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ได้อย่างไร”

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมประพฤติไปตลอดจนกว่าจะพ้นโทษ ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานว่า ข่าน ยินยอมที่จะถูกสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์

ชายคนนี้ใช้มีดไล่ทำร้ายผู้คนเมื่อเวลาราว 14.00 น. โดยพุ่งเป้าไปที่คนเดินเท้าแถวๆ อาคาร Fishmongers’ Hall ใกล้สะพานลอนดอนบริดจ์ ซึ่งบริเวณนี้เคยเกิดเหตุโจมตีโดยกลุ่มอิสลามิสต์มาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมประพฤติไปตลอดจนกว่าจะพ้นโทษ ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานว่า ข่าน ยินยอมที่จะถูกสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์

ชายคนนี้ใช้มีดไล่ทำร้ายผู้คนเมื่อเวลาราว 14.00 น. โดยพุ่งเป้าไปที่คนเดินเท้าแถวๆ อาคาร Fishmongers’ Hall ใกล้สะพานลอนดอนบริดจ์ ซึ่งบริเวณนี้เคยเกิดเหตุโจมตีโดยกลุ่มอิสลามิสต์มาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

การปล่อยตัวอาชญากรที่ก่อคดีร้ายแรงออกจากคุกก่อนกำหนดถือเป็นข้อผิดพลาด จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องยกเลิกแนวปฏิบัตินี้ และบังคับใช้บทลงโทษที่เหมาะสมสำหรับอาชญากรที่เป็นบุคคลอันตราย โดยเฉพาะผู้ก่อการร้าย” จอห์นสัน กล่าว

ระหว่างช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2017 กลุ่มติดอาวุธ 3 คนได้ขับรถตู้ไล่ชนคนเดินเท้าบนสะพานลอนดอนบริดจ์ และยังใช้มีดไล่แทงเหยื่อในบริเวณนั้นจนมีคนตายถึง 8 ศพ บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 48 คน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวทีฟถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการปรับลดงบประมาณและกำลังตำรวจหลังจากที่ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศในปี 2010

https://mgronline.com/around/detail/9620000114804

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ นักรบนาร์วาล Narwhrrior  ;D

พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าถึงวินาทีที่เกิดเหตุดังกล่าวว่า ขณะที่เธอกำลังเดินอยู่ใกล้ฟิชมอนเกอร์ส ฮอลล์ ชายคนหนึ่งได้วิ่งไปคว้าเอาไว้งาวาฬออกมาจากกำแพงบริเวณอาคารดังกล่าว ก่อนจะเข้าไปสมทบกับพลเมืองดีและระงับเหตุ โดยพยายามยื้อแย่งอาวุธมีดออกมาให้ได้ และเขากับงาวาฬก็ช่วยคลี่คลายสถานการณ์เอาไว้ได้ระดับหนึ่ง

ชายพลเมืองดีกับงาวาฬในครั้งนี้ได้รับคำกล่าวชื่นชมเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีใครทราบว่าเขาเป็นใคร แต่โลกโซเชียลในอังกฤษต่างยกย่องเขากับพลเมืองดีคนอื่น ๆ ในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก

สำหรับ งาวาฬ ที่ชายพลเมืองดีนำมาใช้ระงับเหตุในครั้งนี้ พบว่าเป็นงาที่ประดับตกแต่งอยู่บริเวณกำแพงอาคารฟิชมอนเกอร์ส ฮอลล์ มีขนาดความยาวประมาณ ๑.๕ เมตร เป็นงาของ "นาร์วาล" หรือสัตว์ที่ถูกขนานนามว่า "ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล" เนื่องจากเป็นวาฬที่มีลักษณะโดดเด่นที่มีงาเกลียวยาวยืนออกมาจากศีรษะ พวกมันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแถบอาร์กติก กรีนแลนด์ หรือรัสเซีย


https://www.sanook.com/news/7968854/

https://youtu.be/QiN6faLZH-k

    พลเมืองดีมี 3 คน ที่เข้ากลุ้มรุมสะกัดมือมีดรายนี้ไว้ได้   คนหนึ่งใช้งาวาฬแทนดาบ ไม่ให้คนร้ายเข้าถึงตัวเขา  อีกคนใช้เครื่องดับเพลิง (DWAFE or Dude With A Fire Extinguisher) ฉีดเข้าใส่คนร้ายไม่ให้หนี จนลื่นล้มลง   ส่วนคนที่สามเข้ามาช่วยสมทบด้วย
    พลเมืองดีเหล่านี้พอหมดหน้าที่ก็หายตัวไปแบบซูเปอร์ฮีโร่ 

https://imgur.com/gallery/jIbHrhh

   ข่าววันที่ 7 ธันวาคม  2019

   เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ แถลงว่า โมฮัมเหม็ด ซาอีด อัลชามรานี ทหารจากกองทัพอากาศของซาอุดีอาระเบีย ที่เดินทางเยือนสหรัฐเพื่อชมและเข้าร่วมการฝึกทหาร ก่อเหตุกราดยิงที่ที่ฐานทัพเรือสหรัฐในเมืองเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 4 คน รวมตัวของอัลชามรานีที่ถูกวิสามัญด้วย และบาดเจ็บ 8 คนเมื่อวานนี้
   นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นที่ฐานทัพสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทหารเรือสหรัฐ ยิงเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 คน ที่ฐานทัพเพิร์ล ฮาเบอร์ ในรัฐฮาวายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา



https://www.youtube.com/watch?v=Rq8GS0sJL7U

        เสียงปืนที่ฐานทัพเรือในฟลอริดายังแว่วหู บ่ายวันอังคารที่ 10 ธ.ค.นี้ก็เกิดเหตุการร้าย มือปืนกราดยิง
ครั้งใหม่ใน supermarket Kosher(อาหารตามหลักศาสนายูดา) ที่ Jersey City, รัฐ New Jersey
        มือปืนมาเป็นคู่ได้จ่อยิงจนท.ตำรวจหนึ่งรายเสียชีวิตก่อนที่จะเข้าไปยังร้านค้าแล้วเกิดการปะทะ
กับจนท.ตำรวจ นานนับช.ม. ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ราย เป็นคนร้าย 2,จนท.ตำรวจ 1 และประชาชน
อีก 3 ราย
         มูลเหตุจูงใจในครั้งนี้คาดว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายของต่อต้านยิว(Antisemitism)

มีคลิปให้ดูค่ะ
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-50747374

https://www.youtube.com/watch?v=3ZQilDgbK7s

                 เหตุความรุนแรงตอนบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นในอังกฤษ ที่กรุงลอนดอนตอนใต้

          ชายไม่ระบุวัย,เชื้อชาติ ใช้มีดดาบจู่โจมเข้าแทงผู้คนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย,หนึ่งในนั้นบาดเจ็บระดับรุนแรงอาจถึงชีวิต
          หลังเกิดเหตุชายคนนั้นได้ถูกตำรวจกระทำวิสามัญฆาตกรรมด้วยปืน จากการตรวจค้นร่างกายพบว่าคนร้ายมีระเบิดปลอมติดอยู่กับตัวด้วย
          ทางการระบุสาเหตุว่า เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และเผยข้อมูลว่าชายผู้นี้เพิ่งได้รับปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อปลายเดือนม.ค.นี้ (เหมือนกับเหตุการณ์เมื่อพ.ย. ปีก่อนที่เกิดเหตุไล่แทงที่สะพานลอนดอนโดยอดีตนักโทษเพิ่งได้รับการปล่อยออกจากคุก)
        และ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่นาที ก็มีรายงานข่าวตำรวจในเบลเยี่ยมยิงผู้ก่อเหตุไล่แทงคนที่ Bevrijdingslaan ใน Ghent

         ติดตามรายงานข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงมาหลายปี และยังคิดอยู่ว่า
บ้านของเรานี้(ยัง)เป็นที่ที่ปลอดภัย แต่
         ในที่สุด - วันที่ไม่อยากให้เกิด,ให้มี,ให้มาถึง ก็เกิดขึ้นในวันมาฆบูชาที่ 8 ก.พ. - 9 ก.พ.

อ่านเรื่องราวในกระทู้  เหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราช : ศึกษาเพื่อก้าวต่อ ที่

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=7083.msg171101;topicseen#msg171101

เกิด เหตุกราดยิง ในเมืองทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปได้

ตำรวจท้องถิ่นเมืองฮาเนา ของประเทศเยอรมนี รายงาน เหตุกราดยิง 2 ครั้ง เวลาประมาณ 22.00 น. เวลาท้องถิ่น ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปได้


สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า ไม่ทราบจำนวนผู้ก่อเหตุแน่ชัด แต่ผู้ก่อเหตุได้ยิงเหยื่อเสียชีวิต 3 รายที่บาร์แห่งหนึ่งใจกลางเมืองฮาเนา ก่อนขับรถไปยิงเหยื่อเสียชีวิตอีก 5 รายที่บาร์อีกแห่งในย่านเคสเซลสตัตต์ ห่างจากจุดแรกราว 2 กิโลเมตร

ฮาเนาเป็นเมืองทางตะวันตก ที่อยู่ห่างแฟรงก์เฟิร์ตออกไปราว 25 กิโลเมตร มีประชากรราว 100,000 คน

เพียง 4 วันที่แล้ว เพิ่งเกิด เหตุกราดยิง ที่เมือง ร๊อทแอมซี ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเป็นชายอายุ 26 ปี ก่อเหตุยิงสมาชิกครอบครัวตัวเอง เสียชีวิต 6 ราย และก่อนหน้านั้น มีเหตกราดยิงที่โบสถ์ยิวในเมืองฮัลล์ ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มขวาจัด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

ประชาชนในเยอรมนีสามารถถือครองอาวุธปืนได้อย่างถูกกฎหมาย แต่การขายถูกควบคุมโดยรัฐบาล โดยผู้ซื้อต้องมีใบอนุญาตก่อน

https://www.springnews.co.th/global/620285

อัพเดท สรุปรายงานเหตุการณ์ที่ Hanau ใกล้กับ Frankfurt เมื่อคืนที่ผ่านมา

       ผู้เสียชีวิต 8 ราย,บาดเจ็บรุนแรง 5 คน
       ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปด้วยรถยนต์ ตำรวจกำลังตามล่าตัว
       รายงานเกิดเหตุการณ์ยิง 2 ครั้ง ใน shisha (flavoured tobacco) bars
       ภาพจนท.เข้าตรวจพื้นที่แสดงว่า มีเหตุการณ์ในพื้นที่ 2 แห่ง ห่างกันประมาณ 2 กม.
       ยังไม่ทราบมูลเหตุการยิง แต่ bild.de/news กล่าวว่าเหยื่อบางรายมี Kurdish background

            รายงานอัพเดทเหตุการณ์ยิงที่บาร์ในฮาเนา เยอรมัน

       มือปืนได้ฆ่าตัวตายหลังจากที่ยิงแม่ของตัวเสียชีวิตในบ้านของตน
       เชื่อว่ามูลเหตุจูงใจคือ ความเกลียดชังต่างเชื้อชาติ
       ตำรวจระบุมือปืนเป็นชายวัย 43 ปีชื่อ Tobias R. ไม่ระบุนามสกุลชัดเจนตามแนวทางปฏิบัติของเยอรมัน
แต่สื่อที่นั่นก็ได้เผยแพร่นามสกุลของมือปืน
       ในจดหมายสารภาพและในวิดีโอที่มือปืนบันทึกไว้ เผยแนวความคิดขวาสุดโต่งตกขอบ

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ก็เกิดเหตุการยิงจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย,บาดเจ็บ 4 คน ในงาน Turkish comedy show ที่เบอร์ลิน

เมื่อเกิดเหตุการณ์ไวรัสเขย่าโลกอยู่ตอนนี้   คิดว่าข่าวร้ายอื่นๆคงจะเงียบไปได้ชั่วขณะ   เพราะผู้คนไม่มีกะจิตกะใจจะไปก่ออาชญากรรม
เอาเข้าจริงก็พบว่าเข้าใจผิดค่ะ
คราวนี้หวยไปออกที่แคนาดา  ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ

เกิดเหตุกราดยิงในแคนาดา โดยมือปืนปลอมเป็นตำรวจขับรถกราดยิงผู้คนในหลายพื้นที่อยู่นาน 12 ชม. ตำรวจพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 คน โดยมีคนร้ายรวมอยู่ด้วย นับเป็นเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่สุดในรอบ 30 ปี

วันนี้ (20 เม.ย.63) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจแคนาดา แถลงว่า เหตุกราดยิงสะเทือนขวัญเกิดขึ้นในจังหวัดโนวาสโกเชีย ซึ่งเริ่มขึ้นหลังมีผู้แจ้ง 911 ว่าเกิดเหตุยิงกันที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองพอร์ ทา พิก ซึ่งเป็นเมืองชนบทเล็กๆ  เมื่อตำรวจไปตรวจสอบก็พบศพผู้เสียชีวิตหลายคน จึงระดมกำลังค้นหาคนร้ายในพื้นที่ และพบว่าคนร้ายได้จุดไฟเผาอาคารหลายแห่ง ก่อนขับรถหนีออกจากเมือง โดยมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าฮาลิแฟกซ์ จึงเกิดการไล่ล่าขึ้น โดยมีการขอกำลังตำรวจหน่วยทมล่าคนร้าย

มือปืนซึ่งแต่งกายเป็นตำรวจ และขับรถคล้ายรถสายตรวจ ขับรถหนีไปตามถนนหลายสายผ่านหลายเมือง โดยระหว่างนั้นก็กราดยิงผู้คนไม่เลือกหน้า เหตุกราดยิงและการไล่ล่าเกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันเสาร์ ต่อเนื่องถึงรุ่งเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมเวลา 12 ชั่วโมง ตำรวจจึงเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยมือปืนถูกตำรวจวิสามัญฯ

นอกจากนั้น ยังพบศพผู้ถูกยิงเสียชีวิตในหลายพื้นที่อย่างน้อย 16 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจหญิงคนหนึ่ง คาดว่าผูัเสียชีวิตอาจมีมากกว่านี้ เนื่องจากตำรวจกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้งหมด

จากการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจระบุว่ามือปืนเป็นชายผิวขาว ชื่อว่า นายกาเบรียล เวิร์ตแมน วัย 51 ปี มีอาชีพเป็นทันตแพทย์  บ้านอยู่ในเมืองพอร์ทาพิก แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจ ที่ทำให้เขาก่อเหตุสะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นเหตุกราดยิงที่มีผู้ เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 30 ปีในแคนาดา ซึ่งเกิดเหตุกราดยิงไม่บ่อยนัก เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวดกว่าในสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุมือ ปืนกราดยิงหญิง 15 คนเสียชีวิตในเมือง มอนทรีออล เมื่อปี 2532 และในปี 2561 เกิดเหตุชายขับรถตู้พุ่งชนผู้คนในเมืองโทรอนโต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน

ด้าน นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นเหตุการณ์น่าสยดสยอง

ส่วน นายสตีเฟ่น แม็กนีล ผูัว่าการจังหวัดโนวาสโกเชียระบุว่า เป็นการกระทำที่บ้าคลั่งไร้สติมากที่สุดครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในจังหวัดแห่งนี้

            รายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนอย่างน้อย 18 ราย ในคืนฝันร้ายยาวนานที่ Nova Scotia

            เหตุกราดยิงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยครั้งในแคนาดา เนื่องด้วยกฏหมายการครอบครองปืนที่เข้มงวด
เหตุการณ์ครั้งรุนแรงที่สุดก่อนหน้านี้จนมีผู้สูญเสีย 14  รายเกิดขึ้นเมื่อปี 1989 ที่วิทยาลัยวิศวกรรมใน Montreal

แยกกระทู้ไปที่
 2020 อเมริกาจลาจล
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=7125.0

เหตุก่อการร้าย ไม่หายไปไหน

           เย็นวันเสาร์,ที่สวนสาธารณะใน เรดดิ้ง,อังกฤษ ชายเชื้อสายลิเบีย วัย 25 ปีได้ก่อเหตุไล่แทง
ผู้คนจนมีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บอีก 3
           จนท.ตำรวจจับกุมคนร้ายได้และพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นเหตุก่อการร้าย

จากอังกฤษ ผ่านไป ๔ เดือนกลับมาเกิดอีกที่ฝรั่งเศส  :'(

เมื่อวานนี้ (๒๙ ตุลาคม ๕๖๓)) เกิดเหตุก่อการร้ายในโบสถ์ใจกลางเมืองนีซ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย ๓ ราย เป็นผู้สูงอายุ ๒ ราย ที่ถูกฆ่าปาดคอขณะอยู่ภายในโบสถ์ ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีกรายที่ถูกมีดแทง ซึ่งหลบหนีมายังคาเฟ่ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา คาดเกี่ยวพันกับมุสลิมหัวรุนแรง
 
เบื้องต้นนายกเทศมนตรีเปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยถูกยิง ก่อนจะถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ฆ่าปาดคอคุณครูซามูเอล ปาตี ในเมืองกงฟล็องส์-แซงโตโนรีน ชานกรุงปารีส เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
 
คริสเตียน เอสโตรซี นายกเทศมนตรีเมืองนีซเผยว่า ผู้ต้องสงสัยอาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม ‘อิสลามโมฟาสซิสม์’ โดยในระหว่างก่อเหตุเขาตะโกนหลายครั้งว่า ‘Allahu Akbar’ (ซึ่งแปลว่าพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่)
 
หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงปารีส เผยว่า เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกเดินทางไปยังเมืองนีซแล้ว หลังเสร็จสิ้นการประชุมรับมือวิกฤตกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส
 
ขณะที่ผู้นำโลกคนอื่น ๆ ได้ร่วมประณามเหตุโจมตีดังกล่าว โดย เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน ทวีตข้อความแสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย พร้อมระบุว่าเวลานี้ “เราจะสามัคคีกันเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวและความเกลียดชัง”
 
ขณะที่ เดวิด ซัสโซลี ประธานรัฐสภายุโรป ระบุในทวิตเตอร์ว่า เขารู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกล่าวว่าชาวยุโรปต่างสะเทือนใจและรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุที่เกิดขึ้นนี้”

https://thestandard.co/terrorist-attack-in-the-middle-of-nice-in-france/

https://youtu.be/wzrfj7N8Wi4

ส่วนดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทวีตข้อความระบุว่า ชาวมุสลิมมีสิทธิ์โกรธและมีสิทธิ์สังหารชาวฝรั่งเศสนับล้านคน เพราะในอดีตฝรั่งเศสก็เคยสังหารชาวมุสลิมจำนวนมากเช่นกัน ในเวลาต่อมา ทวิตเตอร์ดำเนินการลบข้อความดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า เป็นข้อความที่ละเมิดข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม ซึ่งความเห็นนี้ของเขาถูกประณามอย่างกว้างขวาง

อัฟกานิสถานช็อกอีก! ก่อการร้ายโจมตีมหาวิทยาลัย สังหารโหดกลางชั้นเรียน ตาย 22 ศพ
เผยแพร่: 3 พ.ย. 2563 05:33   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กลุ่มมือปืนบุกโจมตีมหาวิทยาลัยคาบูล ในเมืองหลวงของอัฟกานิสถานเมื่อวันจันทร์ (2 พ.ย.) สังหารอย่างน้อย 22 ศพ ในนั้นเป็นการปลิดชีพนักศึกษาหลายคนในห้องเรียน เหตุการณ์สยองที่ประธานาธิบดี อัชราฟ กานี ประณามว่า เป็นการก่อการร้ายที่ชั่วช้า ในขณะที่พวกนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบ

กานี ซึ่งเคยบรรยายที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ กล่าวผ่านวิดีโอประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 1 วัน เพื่อเป็นเกียรติแก่เหยื่อ พร้อมแสดงความเสียใจและเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อประเทศชาติและครอบครัวเหยื่อ “หัวใจของผมยังคงสถิตอยู่ที่สถาบันการศึกษาแห่งนี้” เขากล่าว “เหตุโจมตีในวันนี้ ทำให้เราเศร้าโศกอย่างที่สุด”

มือปืนบุกจู่โจมเข้าไปในมหาวิทยาลัยคาบูล ในตอนเช้าวันจันทร์ (2 พ.ย.) สังหารนักศึกษาในชั้นเรียน และเปิดฉากยิงใส่คนอื่นๆ ระหว่างหลบหนี จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่และผู้เห็นเหตุการณ์ ในเหตุโจมีสถาบันการศึกษาในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ครั้งที่ 2 ในเวลาห่างกันไม่ถึงสัปดาห์

อ่านต่อได้ท่
https://mgronline.com/around/detail/9630000113715

เหตุร้ายวันนี้ ไปโผล่ที่เวียนนา

ออสเตรียปิดเมืองหลวงไล่ล่ามือปืน ก่อเหตุยิงอย่างน้อย 6 จุดทั่วเมืองหลวง

เสียชีวิตอย่างน้อย 1 เจ็บ 15 มือปืนดับ 1
คาร์ล เนฮัมเมอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรีย แถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 15 ราย จำนวนนี้อาการสาหัส 7 ราย หนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ จากเหตุกราดยิงโดยคนร้ายหลายคนใช้ปืนไรเฟิล กระจายก่อเหตุอย่างน้อย 6 จุด เมื่อค่ำวานนี้ ( 2 พ.ย.) และเกิดขึ้นไม่กี่ชม.ก่อนออสเตรเลียประกาศใช้มาตรการคุมเข้มใหม่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 บาร์และร้านอาหารคราคร่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากก่อนที่จะต้องปิดยาวจนถึงสิ้นเดือน

 https://www.komchadluek.net/news/foreign/447861

 

The attack happened just hours before Austria imposed new national restrictions to try to stem rising cases of coronavirus. Many people were out enjoying bars and restaurants which are now closed until the end of November.

https://www.bbc.com/news/world-europe-54786952

ออสเตรีย-ออสเตรเลีย อยู่คนละทวีป แต่มักจะทำให้ผู้คนสับสนเสมอ  ;D

               โอ้เวียนนา มหานครงดงามติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุด โดนโควิดโจมตีแล้วยังมีเหตุก่อการร้าย
ซ้ำเติมอีก

             มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 22 ผู้ก่อเหตุซึ่งถูกวิสามัญแล้วเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม
วัย 20 ปีมาจาก มาซีโดเนียเหนือเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อธันวาคมปีก่อน

            เกิดเหตุการณ์ระเบิดสนั่นสั่นสะเทือน Nashville อเมริกา ในเช้าวันคริสต์มาสเวลา 6:30 น.
รูปการณ์เข้าข่ายคาร์บอมบ์ ส่งผลให้ระบบสื่อสารล่ม และมีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่รุนแรง 3 ราย บางแหล่งข่าว
ระบุว่า พบชิ้นส่วนมนุษย์ในที่เกิดเหตุด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=U-QWfdujuy0

อาชญากรรมจากชังเชื้อชาติครั้งล่าสุด เกิดในแคนาดา
ครอบครัวชาวมุสลิม ประกอบด้วยสมาชิก 5 คนกำลังเดินอยู่ดีๆริมถนน  ก็ถูกหนุ่มชาวแคเนเดียนขับรถบรรทุกพุ่งเข้าชนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย   ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน   
เสียชีวิตทันที 4 คน คือพ่อ แม่ ลูกสาววัยรุ่นและหญิงชราซึ่งคงเป็นย่าหรือยาย  ส่วนลูกชายคนเล็กอาการสาหัสยังไม่พ้นขีดอันตราย
ตำรวจตามจับผู้ต้องหาได้ เป็นหนุ่มวัย 20 เองชื่อ Nathaniel Weltman   ตำรวจแถลงว่าน่าจะเกิดจากความเกลียดชังคนต่างชาติ   ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองส่วนตัว

นอกจากคนต่างชาติในอเมริกาจะต้องอกสั่นขวัญหายเวลาออกจากบ้านแล้ว  บัดนี้ในแคนาดาก็น่าจะไม่น้อยหน้ากัน

https://hindustannewshub.com/world-news/communal-violence-in-canada-truck-driver-tramples-on-muslim-family-four-killed/

เหตุร้ายคราวนี้ไม่ใช่เรื่องชังชาติ  แต่เป็นการดวลปืนระหว่างชาย 2 คนที่ผู้คนบาดเจ็บกันไปถึง 14 คน ,2 คนบาดเจ็บสาหัส
เกิดขึ้นที่ถนน 6  ย่านบันเทิงตอนกลางคืนของเมืองออสติน รัฐเทกซัส

สังเกตว่าในคลิป  ไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยกันสักคน  ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หน่วยกู้ภัย และประชาชนตามถนนหนทาง
ชาวเทกซัสคงฉีดวัคซีนกันครบหมดแล้วกระมัง

https://www.youtube.com/watch?v=xwX2F0Gberw&t=34s

             โลกยังคงไม่พ้นเหตุการณ์ร้ายรุนแรงเป็นระยะประปราย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้แตกต่างตรงที่มีคลิปบันทึกเหมือนภาพ
ฉากจากหนังแอ็คชั่นระทึก
             เหตุเกิดที่ลิเวอร์พูล ในวันรำลึกทหารผ่านศึก ที่โรงพยาบาลหญิง แท็กซี่พร้อมผู้โดยสารขับมาที่รพ.แล้วเกิดการระเบิด
จากภายในรถ คนขับซึ่งเป็นคุณพ่อลูก 2 วัย 45 ปีสามารถเปิดประตูออกจากรถโดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนผดส.ผู้ก่อเหตุที่ถูก
ล็อคอยู่ในรถโดยคนขับเสียชีวิตจากแรงระเบิด
             รายงานข่าวระบุว่าเป็นชายวัย 32 ปี มีชื่อว่า Emad Al Swealmeen และจากเหตุการณืนี้ทางการได้ยกระดับ
ความระวังระแวงการก่อการร้ายเป็นขั้นรุนแรง ซึ่งหมายถึงว่าเหตุการณ์ร้ายครั้งต่อไปมีโอกาสเกิดขึ้นสูง

https://www.youtube.com/watch?v=68DKKEKeRzk

https://truthforyou.co/8018/

อดีตตำรวจโหดมือฆ่าจอร์จฟลอยด์พ้นคุก ประกันกว่า 31 ล้าน

อดีตตำรวจมือฆ่าจอร์จ ฟลอยด์จนเป็นกระแสต่อต้านการเหยียดสีผิวทั่วโลก ล่าสุดได้รับการปล่อยตัว ยื่นหลักประกันตัว 31.2 ล้านบาท
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ว่า การปล่อยตัวนายเดเร็ก ชอวิน วัย 44 ปี อดีตตำรวจเมืองมินนีแอโพลิส ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม นายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันเชือสายแอฟริกา ขณะเข้าจับกุม โดยการใช้เข่ากดคอด้านหลังของฟลอยด์จนเสียชีวิต จนทำให้เกิดกระแสการต่อต้านการเหยียดสีผิวไปทั่วโลก

โดยนายเดเร็ก ได้ยื่นประกันตัวด้วยหลักทรัพย์1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 31.2 ล้านบาท และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล คือ ไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกรัฐมินนิโซตาหากศาลไม่อนุญาต ไม่อนุญาติให้ติดต่อกับครอบครัวของฟลอยด์ ไม่อนุญาตให้กลับไปประกอบอาชีพตำรวจ มอบใบอนุญาตถือครองอาวุธส่วนบุคคลให้กับทางการ และต้องขึ้นศาลด้วยตัวเองทุกครั้งตามหมายเรียก ห้ามผ่อนผันยกเว้นมีเหตุจำเป็นสูงสุด

ซึ่งการปล่อยตัวนายเดเร็คนั้น เป็นที่ค้านสายตาของคนทั่วโลก ด้านนายเบน แคมป์  ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและตัวแทนครอบครัวของนายฟลอยด์ กล่าวว่าการปล่อยตัวนายชอวินเป็นเครื่องย้ำเตือนที่แสนเจ็บปวดว่าคดีนี้ยังห่างไกลจากการได้รับความยุติธรรม

สงสัยจริงว่าแกหาหลักทรัพย์ราคาเป็นล้านมาจากไหน  ใครสนับสนุน
ตัวเองไม่น่าจะมีบ้านหรือที่ดินราคาเป็นล้าน

เหตุร้ายล่าสุดในอเมริกาเกิดที่เมืองวอเคชา รัฐวิสคอนซิน    ผู้คนกำลังเฉลิมฉลองจัดขบวนคริสต์มาสพาเหรดกัน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่
จู่ๆรถยนต์คันหนึ่งก็พุ่งพรวดเข้าไปในขบวน ชนผู้คนที่กำลังพาเหรดกันจนบาดเจ็บกวา่20 คน  ทั้งผู้ใหญ่ 11 คนและเด็ก 12 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

https://www.youtube.com/watch?v=Y8HiT6pUOkc

หลังจากเงียบหายไปนานในช่วงโควิด   โรงเรียนมัธยมก็กลายเป็นสนามสังหาร ด้วยฝีมือนักเรียนฆ่านักเรียนอีกครั้งหนึ่งแล้ว
คราวนี้เกิดที่โรงเรียนมัธยมออกซฟอร์ด ในเมืองออกซฟอร์ด รัฐมิชิแกน  ทางเหนือของดีทรอยต์
นักเรียนชายวัย 15  ใช้ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ สาดกระสุนใส่เพื่อนตายไป 3 คน บาดเจ็บอีก 8 คน  มือปืนถูกจับได้แต่ไม่ยอมให้การใดๆ

 https://www.youtube.com/watch?v=7ykAxlro7Ks

         สืบเนื่องจากเหตุกราดยิงในร.ร. ที่มิชิแกน

         ทำไมพ่อแม่ นร. วัย 15 ปีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยกราดยิงใน รร. มิชิแกน ถึงถูกตั้งข้อหา-จับตัว

         https://www.bbc.com/thai/international-59532453

         ......... ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน (29 พ.ย.) ครูสาวรายหนึ่งเล่าว่าเห็นนักเรียนชายรายนี้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ
กระสุนปืนในโลกออนไลน์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียนรับทราบเพื่อติดต่อผู้ปกครองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
         หลังได้รับแจ้งจากทางโรงเรียน นางครัมบลีย์ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือไปหาบุตรชายว่า "ฮ่า ๆ ๆ แม่ไม่ได้
โกรธลูกหรอก ลูกต้องเรียนรู้ที่จะไม่ถูกจับได้ก็แล้วกัน"...
         อัยการกล่าวว่า นายและนางครัมบลีย์เพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนว่าจะเกิดเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนที่ตัวเองเป็นเจ้าของ
และไม่ช่วยขัดขวางหรือระงับการก่อเหตุ
         "การที่พ่อแม่ได้อ่านข้อความเหล่านั้น และยังรู้อยู่แล้วว่าลูกชายสามารถเข้าถึงปืนที่พวกเขามอบให้ เป็นเรื่องไร้เหตุผล
และเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา" นางแมคโดนัลด์กล่าว

รายงานข่าวบอกว่าเมื่อลูกชายถูกคุมตัวที่สถานีตำรวจ   พ่อแม่ไปถึงก็สั่งลูกชายไม่ให้เปิดปากให้การใดๆทั้งสิ้น
น่ากลัวกันทั้งบ้านเลย บ้านนี้

กระทู้นี้ตกจอไปเมื่อใดแสดงว่าเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวสงบลงชั่วขณะ  แต่ถ้าขึ้นมาอีก ก็คือเหตุน่าสลดใจเกิดขึ้นอีกแล้ว

12 เม.ย.65 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุโลกสะพรึงอีกครั้ง เมื่อเวลา 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการรายงานข่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงภายในสถานีรถไฟฟ้าบรูคลิน มหานครนิวยอร์ก สถานีที่ 36th Street และ 4th Avenue ในย่านซันเซ็ตพาร์ค

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ยังไม่มีรายงานการยืนยันจำนวนผู้บาดเจ็บที่แน่ชัด แต่มีผู้บริสุทธิ์ถูกยิงถึง 13 รายและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว  ขณะที่รายงานของกรมตำรวจ NYPD ระบุว่า ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ และกำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน
ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานการพบกลุ่มควัน พร้อมทั้งอุปกรณ์ระเบิดหลายชิ้นในบริเวณดังกล่าว แต่มีการตรวจสอบพบว่า ระเบิดทั้งหมดยังไม่ทำงาน

รายงานของกรมตำรวจ NYPD ระบุถึงสถิติการกราดยิงมีเพิ่มมากขึ้น อาจสืบเนื่องมาจากอาชญากรรมภายในรถไฟฟ้าใต้ดินของเมืองได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยสถิติอาชญากรรมเพิ่มขึ้นถึง 68% เลยทีเดียว


https://www.naewna.com/inter/647304

https://www.youtube.com/watch?v=onjUKaUREU8

เหตุสยองขวัญล่าสุดนี้ คือฝันร้ายของคนเอเชียในอเมริกา   ทำท่าจะต่อเนื่องยาวนานอีกหลายปี
ขอยกบทความของคุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้  คนไทยที่มีถิ่นฐานพำนักอาศัยอยู่ในอเมริกา มาให้อ่าน  จะเห็นภาพชัดกว่าอ่านจากข่าวค่ะ


อาทิตย์ก่อนชายผิวดำคนหนึ่งบุกเข้าไปในร้านทำเล็บของชาวเอเซียในโคเรียทาวน์ที่ดัลลัส เท็กซัส   แล้วกราดยิงใส่ช่างทำเล็บชาวเอเซียในร้านบาดเจ็บสามคน
.
เชื่อไหมว่าข่าวนี้แทบไม่ถูกนำเสนอในข่าวกระแสหลักเลยด้วยซ้ำ  หลายคนอาจงงว่า ทำไมคนผิวดำถึงจ้องหาเหยื่อที่เป็นคนเอเซีย   อยากจะเล่าว่ามีศิลปินฮิปฮอป YG เขียนเพลงต่อต้านคนเอเซีย   ไอ้ต่อต้านนี่ก็หนักแล้ว   ในเนื้อเพลงมีการยุให้บุกปล้นบ้านคนเอเซียด้วยสิ   แล้วดันมีคนผิวดำปล้นคนเอเซียจริงๆ   จนกลายเป็นเรื่องที่คนเอเซียในอเมริกา   ต้องระแวดระวังเอาเองอย่างอกสั่นขวัญแขวน
.
เพลงที่ว่านี้คือเพลง "Meet the Flockers" คำว่า "Flockers"คือคำเรียกโจร ผู้เขียนเคยฟังเพลงนี้แล้วขนลุก เพราะแนะคนฟังว่าถ้าคิดจะปล้น ให้ปล้นบ้านพวกเอเซียเถอะ     พวกนี้ชอบเก็บเงินสดและเครื่องประดับในบ้าน รื้อลิ้นชักควานหาของที่ดูไม่น่าจะเป็นที่ซ่อนเงินนั่นแหละ แล้วจะเจอเอง   คนเอเซียในอเมริกาเลยประท้วงยูทูปให้ยุติการเผยแพร่   แต่ยูทูปปฎิเสธ
.
ควันปืนแถวดัลลัสยังไม่ทันจาง   เกิดการกราดยิงขึ้นอีกในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ไอ้หนุ่มผิวขาววัยแค่18 ปี ไม่รู้เกิดคลั่งอะไรขึ้นมา ลงทุนขับรถจากเมืองที่ตัวเองอยู่มาที่เมืองบัฟฟาโล่ ซึ่งห่างออกไปถึง 200 ไมล์หรือ 320 กิโลเมตรพอมาถึงห้าง Tops Friendly Market   เปิดฉากยิงใส่ผู้คนที่เดินไปมานอกห้างตายไป 4 คน  แล้วพุ่งเข้าห้างไปยิงยามรักษาความปลอดภัย
  จากนั้นแจกความตายไม่จำกัดรัวๆ   ปืนที่ใช้ก่อเหตุคือปืนไรเฟิลแถมขณะที่ยิงคนตายก็ถ่ายทอดสดไปด้วย
.
ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็แทรก     ชาวผิวขาวบุกเข้าไปกราดยิงคนผิวดำในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เมืองบัฟฟาโล่นิวยอร์ก วันถัดมามีการกราดยิงในโบสถ์คริสเตียนเมืองลากูนาวูดส์ ใกล้ลอสแองเจลิส ตาย 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย   เหยื่อทั้งหมดเป็นชาวไต้หวัน ส่วนมือปืนนั้นเป็นคนเอเซีย 
.
ไม่รู้ว่าโศกนาฎกรรมเช่นนี้จะจบลงเมื่อไหร่  เหมือนไม่สามารถหาความปลอดภัยใดๆ ได้ไม่ว่าจะทั้งในเมืองเล็กและเมืองใหญ่ เพราะความรัก ความชัง  ความบ้าคลั่งไม่เข้าใครออกใคร   กระสุนจากความเกลียดชังอาจปลิวมาฝังร่างได้ทุกเมื่อ
.
เวลาเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ ในใจมักแว่วเสียงเพลง The Star-Spangled Banner อันเป็นเพลงชาติอเมริกาขึ้นมาทุกที โดยเฉพาะท่อนสุดท้าย
.
Tis the star-spangled banner: O, long may it wave O’er the land of the free and the home of the brave!
.
นี่คือธงประกายดาวอันพราวพลิ้วไสว..โอ้..ธงจะโบกสะบัดตราบนิรันดร์บนแผ่นดินแห่งเสรีและที่พำนักแห่งความหาญกล้า..
.
เนื้อเพลงฟังดูเหมือนนิทานที่เอาไว้หลอกเด็กอย่างไรอย่างนั้นเลย..เพราะภาพที่เห็นและเป็นอยู่ในอเมริกาทุกวันนี้ หาได้เป็นเช่นนั้นแม้แต่น้อย   การแจกจ่ายความตายให้คนอื่น..ไม่ใช่ความกล้าหาญ   แต่คือความขี้ขลาดอันน่าละอายต่างหาก

https://www.naewna.com/columnonline/51539?fbclid=IwAR0ykc68yoAwuIEzCOTIPP9XC_EAs0pnvjVR9tDxXMkhTXkhemRtmuIr7Us

ข่าวข้างบนยังไม่ทันจาง ข่าวร้ายล่าสุดมาให้สยองอีกแล้ว สำหรับผู้ปกครองและครู

มือปืนวัน 18- ปี บุกเข้าไปในรร.ประถมในรัฐเทกซัส   เดินกราดยิงไปตามห้องเรียนต่างๆจากห้องหนึ่งสู่อีกห้องหนึ่ง
ทำเอาเด็กน้อยตายไปอย่างน้อย 19 คน  และครูอีก 2 คน
(ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังไม่แน่นอน)
ตัวมือปืนถูกเจ้าหน้าที่ยิงตาย

https://www.youtube.com/watch?v=85aF42JXwCU

https://www.youtube.com/watch?v=v9LdDdOvSjI

            มือปืนซึ่งถูกวิสามัญฯ เป็นวัยรุ่นชาย,อายุ 18 ปี - Salvador Ramos ก่อนก่อเหตุที่ร.ร.ได้สังหารย่า
(แกรนด์มา) ของตนในบ้านแล้วจึงมุ่งมายังร.ร.แห่งนี้พร้อมกับปืน 2 กระบอกที่เพิ่งซื้อมาตอนวันเกิด และ
            That was the first thing he did on his 18th birthday, จนท.ระบุ
            
             ส่วนปู่ไบเดน กล่าวว่า
(บีบีซีไทย -) "ผมสะอิดสะเอียนและเหนื่อยหน่ายต่อเรื่องทำนองนี้ เราต้องจัดการเรื่องนี้"
                 "อย่าบอกผมนะว่า เราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นะ...การที่เด็ก 18 เดินไปที่ร้านแล้วซื้ออาวุธหนัก 2 กระบอก
เป็นเรื่องผิด"
                 "การยิงสังหารหมู่แบบนี้เป็นเรื่องที่แทบไม่เกิดขึ้นในส่วนอื่นของโลก"

ควันปืนที่เทกซัสยังไม่ทันจางหาย   ชีวิตเหยื่อ 4 คนในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา ก็ปลิดปลิวไปแล้ว วันนี้

เหตุเกิดที่โรงพยาบาลเซนต์ฟรานซิส   มีคนร้ายบุกเข้าไปแล้วใช้ปืนไรเฟิลและปืนพก ยิงเหยื่อตายไป 4 คน  มือปืนตายในที่เกิดเหตุ  ยังไม่ทราบแรงจูงใจ

https://www.youtube.com/watch?v=zvphz68a2N8

ข่าวน่าสลดใจอีกครั้งในประเทศเสรีภาพใหญ่ที่สุดในโลก  คราวนี้เมืองที่ถูกหวยคือฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย
กลุ่มมือปืนยิงกราดผู้คนตามถนน  ในคืนวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน เวลา 11.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ในไทยก็คือวันนี้
คนตายไป 3  บาดเจ็บอย่างน้อย 11   คน

https://www.youtube.com/watch?v=XmbWyFHpwRY&t=219

สังหารหมู่ในไนจีเรีย :'( :'(

https://www.youtube.com/watch?v=_zT0vSqCqvc

เหตุกราดยิงครั้งล่าสุด เกิดที่เดนมาร์ก

4 กรกฎาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่ผู้คนที่กำลังชอปปิ้งภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ก่อนมือปืนถูกจับกุมตัวได้ภายหลัง ตำรวจเดนมาร์กยังไม่ตัดประเด็นว่าเป็นการก่อการร้าย

โดยนักท่องเที่ยวจำนวนมากแตกตื่นวิ่งหนีตายออกจากห้างสรรพสินค้าฟิลด์ส ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งทางใต้ของกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้คนภายในห้างสรรพสินค้า เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า มือปืนใช้ปืนยาวสำหรับล่าสัตว์เป็นอาวุธ กราดยิงภายในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนจำนวนมากกำลังจับจ่ายซื้อของอย่างใจเย็น

โฆษกตำรวจนครบาลกรุงโคเปนเฮเกน ออกแถลงว่า เหตุการณ์นี้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด และว่าหลังเกิดเหตุไม่นาน ตำรวจก็เข้าปิดล้อมที่เกิดเหตุและช่วยอพยพผู้คนจำนวนมากออกจากห้างสรรพสินค้า

ส่วนมือปืนถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมาบริเวณด้านนอกห้างสรรพสินค้า เป็นชายวัย 22 ปี สัญชาติเดนมาร์ก เบื้องต้นเชื่อว่าก่อเหตุเพียงลำพัง แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริง และตำรวจยังไม่ตัดประเด็นว่าเป็นการก่อการร้าย

มีรายงานว่าคอนเสิร์ตของ แฮร์รี สไตล์ ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ ที่เตรียมจัดแสดงภายในโรงละครรอยัล อารีนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ ก็ต้องถูกยกเลิกกะทันหันเพื่อความปลอดภัย และมีการอพยพแฟนเพลงออกจากสถานที่แล้ว

เช่นเดียวกับเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ก็ต้องทรงยกเลิกพระกรณียกิจในวันนี้ด้วย โดยสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ แห่งเดนมาร์ก ทรงออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจแก่ผู้เสียชีวิตและครอบครัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนบรรดาผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งฟินแลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ ต่างก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียเช่นกัน
 
https://www.naewna.com/inter/664446

 

สังหารหมู่ในวันฉลองวันชาติ 4 กรกฎาคม ของสหรัฐอเมริกา (อีกแล้ว) :'( :'( :'(

เหตุร้ายเกิดขึ้นที่เมือง ไฮแลนด์ ปาร์ค ในรัฐอิลลินอยส์   ชาวบ้านอุ้มลูกจูงหลานกันมาฉลองวันชาติ ด้วยการเดินพาเหรดกันไปตามถนนอย่างเบิกบาน
ไม่มีใครรู้เลยว่าบนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง  หนุ่มชาวเมืองวัย 22 ปี ชื่อ Robert E. “Bobby” Crimo III ปีนขึ้นไปพร้อมอาวุธปืน (ที่ซื้อมาอย่างเสรี เหมือนซื้อของกินของใช้ในบ้านเรา)เต็มเพียบ  
ครีโมยิงกราดลงมาอย่างใจเย็น  เป้าหมายคือขบวนของเพื่อนร่วมเมืองของเขา   ไม่เลือกว่าเป็นใคร ทั้งผู้ใหญ่และลูกเด็กเล็กแดง
ชาวบ้านตายไป 6 คน  บาดเจ็บอีก 31 คน
นายคนนี้หลบหนีไปจากเมืองได้  แต่ตำรวจก็ตามรวบตัวได้แล้ววันนี้

ขอให้เข้าไปดูคลิปข้างล่างนี้ในยูทูปค่ะ  

https://www.youtube.com/watch?v=U1VQ4DNQvJY

https://www.youtube.com/watch?v=LCvRYSaq3wA

             เฉลิมฉลองวันหยุดสุดสัปดาห์วันชาติด้วยปืน นอกจากที่ชิคาโก แล้วยังมีรายงานจากที่อื่นๆ เช่น
       เซนต์ หลุยส์ มีเหยื่อความรุนแรงจากปืนรวม 19 ราย จากจำนวนนี้ 7 รายถึงแก่ชีวิต
       บอสตัน ก็มีเหยื่อถูกยิง 10 ราย ในสถานที่ต่างๆ 7 แห่ง
       ส่วนปีก่อน มีผู้เสียชีวิตจากปืนทั้งประเทศรวม 150 รายในช่วงสุดสัปดาห์วันชาติ (metropoltv.co.ke)

          เกิดเหตุรุนแรงจากอาวุธปืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากในญี่ปุ่น(เนื่องจากกฎหมายที่เข้มข้น) และ
ครั้งนี้ยังเกิดขึ้นกับบุคคลสำคัญด้วย บีบีซีไทย เพิ่งรายงานข่าวสั้นๆ

          อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะ ถูกยิงระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมในเมืองนาระของญี่ปุ่น
          สำนักข่าวเอนเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า นายอาเบะถูกยิงจากทางด้านหลัง และล้มลงไปกับพื้น
ระหว่างขึ้นปราศรัยในกิจกรรมที่เมืองนาระ โดยมีรายงานว่า อดีตผู้นำญี่ปุ่นมีเลือดออกด้วย ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวแล้ว

‘อาเบะ’อดีตนายกฯญี่ปุ่นเสียชีวิตหลังถูกลอบยิงขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่นารา

ผู้สื่อข่าวของเอ็นเอชเค ระบุว่า ได้ยินเสียงดังขึ้น 2 ครั้งติดต่อกัน ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของอาเบะ
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าอดีตนายกฯอาเบะ ไม่รู้สึกตัว และอยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันหลังถูกยิง

จาก FB  ของคุณ Kornkit Disthan

ในฐานะผู้สื่อข่าวต่างประเทศ "การลอบสังหาร" อาเบะ ชินโซ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นเรื่อง "สั่นสะเทือน" เอามากๆ เพราะอาเบะมีนโยบาย "เชิงรุก" ในด้านการทหารและความสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน
ดังนั้น ต้องจับตากันดีๆ ว่าผู้ลงมือก่อเหตุเพราะอะไร และจะสะเทือนถึงการเมืองโลกหรือไม่
ที่สะเทือนต่อผมมากอีกอย่างหนึ่งคือในฐานะผู้สนใจเรื่องญี่ปุ่นและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นบอกว่านี่คือการลอบสังหารนายก/อดีตนายก ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ กรณีเดือน 2 วันที่ 26 (二・二六事件) เมื่อปี 1936 ที่นายทหารหนุ่มพยายามยึดอำนาจด้วยการยกพลไปลอบสังหารนักการเมืองใหญ่ของประเทศ ครั้งนั้นอดีตนายกฯ เสียชีวิตไป 2 คน ส่วนนายกที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้นรอดชีวิตหวุดหวิด
ไซโก มาโกโตะ อดีตนายกหนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้น ดำรงตำแหน่งนายกฯ หลังกรณีเดือน 5 วันที่ 15 (五・一五事件) เมื่อปี 1932 ซึ่งนายทหารหนุ่มญี่ปุ่นลอบสังหารนายกอินุไค ซึโยชิ ทำให้ไซโก มาโกโตะรับตำแหน่งต่อมา แต่แล้วก็ต้องมาตายเพราะการลอบสังหารเช่นกัน
กรณีลอบสังหารทั้ง 2 กรณีนี้ทำให้การเมืองญี่ปุ่นผันแปรอย่างหนักจากทิศทางเสรีประชาธิปไตย เป็นระบอบเผด็จการทหารนิยม และนำญี่ปุ่นสู่วังวนของสงคราม
อาเบะ ชินโซ เองมาจากตระกูลนักการเมืองใหญ่ ตาของเขาคือนายก คิชิ โนบุสุเกะ เจ้าของฉายา "อสูรแห่งยุคโชวะ" ถูกลอบสังหารโดยคนร้ายที่ใช้มีดแทงเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 1960
เหตุการณ์ครั้งนั้น คิชิ รอดมาได้ ในยุคนี้หลานของเขากลายมาเป็นนายกรัฐมนตรี และ "ถูกลอบสังหาร" เช่นกัน
ทั้งคิชิ ผู้เป็นตาและอาเบะผู้เป็นหลาน มีความเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ต้องการให้ญี่ปุ่นมีกองทัพที่แข็งแกร่งอีกครั้ง คิชิต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญเลิกข้อห้ามญี่ปุ่นมีกองทัพเลยทีเดียว (และยังแก้ต่างให้กับการการรุกรานชาติเอเชียและการสร้างวงไพบูลย์เอเชียในช่วงสงคราม)
ปัจจุบันนี้ญี่ปุ่นไม่มีกองทัพมีแต่ "กองกำลังป้องกันตนเอง" ซึ่งแสนยานุภาพแกร่งขึ้นอย่างมากเพราะการผลักดันของอาเบะ และเช่นเดียวกับตาของเขา อาเบะต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้ประเทศมีกองทัพเป็นตัวเป็นตนเสียที
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากๆ จึงนำมาบอกกล่าวให้ตระหนักถึงเบื้องลึกเบื้องหลังต่อการเมืองโลก
แม้ผู้ก่อเหตุจะมีเจตนาอื่นที่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่นี่ก็นับเป็นเรื่องสะเทือนขวัญระดับโลกอยู่ดี ในญี่ปุ่นนั้นถึงกับเริ่มตั้งคำถามกันเรื่องความปลอดภัยของนักการเมืองกันแล้ว
ป.ล.
ในยุคก่อนสงครามมีการลอบสังหารนายกฯ ญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อย ส่วนใหญ่เป็นการลงมือของฝ่ายขวาในยุคของรัฐบาลประชาธิปไตยเฟื่องฟู และในที่สุดการลอบสังหารเหล่านี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคัร้งใหญ่ดังที่เขียนไว้ข้างต้น
การลอบสังหารนายก สำคัญๆ เช่น ปี 1921 นายกฯ ฮาระ ทาเคชิ ถูกพวกขวาจัดแทงที่สถานีโตเกียว ปี 1930 นายกฯ ฮามากุจิ โอซาจิ ถูกพวกฝ่ายขวายิงที่สถานีโตเกียวเช่นกัน และย้อนกลับไปกรณีแรก คือ ฮิโรบูมิ อิโตะ ถูกผู้รักชาติเกาหลีสังหารที่ฮาร์บิน
การลอบสังหารนักการเมืองญี่ปุ่นหลังสงครามเกิดขึ้นอยู่ประปราย ไม่ใช่ไม่เคยมี กรณีใหญ่เช่นการลอบสังหารอาซานุมะ อิเนจิโรจนเสียชีวิต เมื่อเดือนตุลาคม 1960 ผู้ก่อเหตุใช้ดาบญี่ปุ่นจ้วงแทงเข้าไปต่อหน้าผู้คนที่ฟังการปราศรัยของอาซานุมะ
ญี่ปุ่นนั้นไม่ค่อยพกปืนและใช้ปืนฆ่ากันน้อย จะเห็นว่าการลอบสังหารคิชิและอาซานุมะใช้มีด แต่ก็มีการใช้ปืนเช่นกัน เช่น กรณีสังหารนายกเทศมนตรีนางาซากิโดยพวกฝ่ายขวาจัด ปี 1990 การยิงทำร้ายรองประธานพรรค LDP เมื่อปี 1992 และนายกเทศมนตรีนางาซากิถูกยากูซายิงเมื่อปี 2007　
จนกระทั่งเอเบะถูกผู้ต้องสงสัยชื่อ ยามากามิ เท็ตสึยะ ยิงด้วยปืนกระสุนลูกปรายระหว่างปราศรัยที่แถววัดไซไดจิ จ. นาระ 8 กรกฎาคม ปี 2022

(ภาพเหตุการหลังการทำร้ายอาเบะจากคลิปของ NHK / #安倍元首相)

มือปืนคือ เท็ตสึยะ ยามางามิ วัย 41 ปี อดีตเมื่อ 17 ปีก่อนช่วงปี 2002-2005 เขาเป็นทหารกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (ทหารเรือ) ปัจจุบันเขาจบปริญญาเอก เป็นรองศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เขาจึงรู้จุดอ่อนกายวิภาคมนุษย์อย่างดี และให้การกับตำรวจญี่ปุ่นว่า “ไม่พอใจนโยบายหลายเรื่องของอดีตนายกฯ อาเบะ และตั้งใจมาเพื่อสังหาร”..

https://www.thaipost.net/hi-light/177549/

ผู้สื่อข่าว “มติชน” ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่า มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ @zutomayo_0 ทวีตเมื่อเวลา ๑๑.๔๓ น. ของวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕  ระบุว่า เตือนให้ระวังในการค้นหาชื่อผู้ต้องสงสัย เท็ตสึยะ ยามากามิ (山上徹也) จะปรากฏชื่อ ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยกุนมะ (https://pttweb.tw/s/59FRhB) แต่ว่าศาสตราจารย์ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับผู้ต้องหาที่ลอบสังหาร นายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นคุมตัวอยู่

https://www.matichon.co.th/heading-news/news_3445064

ตอนนี้ ข่าวเกี่ยวกับมือสังหาร สับสนอลหม่านมาก
ไม่น่าเชื่อว่าสื่อญี่ปุ่นที่ควรจะแม่นยำข้อมูล กลับหละหลวมขนาดนี้ค่ะ

ไปกันใหญ่! นักสร้างเกมญี่ปุ่นชื่อดังถูกสื่อต่างชาติเข้าใจผิดเป็น 'มือสังหารอาเบะ'

จ้าของสตูดิโอผลิตเกมชื่อดังของญี่ปุ่น ฮิเดโอะ โคจิมะ ถูกสำนักข่าวอิหร่าน กรีซ และไทย นำภาพไปใช้แทนรูปคนร้ายในข่าวการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่รอบคอบในการทำงาน

สำนักข่าว ANT1 TV ในกรีซ และสำนักข่าว Mashregh News ในอิหร่านได้นำภาพของ ฮิเดโอะ โคจิมะ เจ้าของสตูดิโอผู้สร้างเกมชื่อดัง Death Stranding และ Metal Gear Solid ไปอ้างว่าเป็นภาพของมือสังหาร ชินโซ อาเบะ

ความผลิตพลาดดังกล่าวเริ่มกลายเป็นไวรัลเมื่อนักการเมืองฝ่ายขวาในฝรั่งเศส ดาเมียง เรียว ทวีตภาพของโคจิมะ เพื่อตอบกลับทวีตเกี่ยวกับการสังหารครั้งนี้ของนักการเมืองอีกคนหนึ่ง

เรียวโพสต์ข้อความเหนือภาพของโคจิมะ ที่กำลังใส่หมวกที่มีตราสัญลักษณ์โซเวียตว่า "มือสังหารนิยมซ้ายสุดโต่ง"

เรียวยังรีทวีตโพสต์อีกโพสต์หนึ่งจากบัญชีชาวฝรั่งเศสชื่อ @JordiPasAlba ซึ่งก็เข้าใจผิดว่าโคจิมะ เป็นมือสังหารเช่นกัน @JordiPasAlba ลบทวีตของเขาหลังจากนั้นไม่นานและรีโพสต์รูปถ่ายหน้าจอ พร้อมกับระบุว่า มันเป็นตลกร้าย เรียวก็ลบทวีตดังกล่าวแต่มันจะถูกผู้ใช้คนอื่นสกรีนช็อตไว้และแชร์ออกไปย่างแพร่หลายแล้วก็ตาม

และเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (9) ทางช่อง one31 ของไทยก็นำรูปของผู้สร้างเกมชื่อดังรายนี้ไปใช้แทนรูปของมือสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นใน รายการข่าวเย็นช่องวัน ด้วยเช่นกัน  และล่าสุดเมื่อช่วงค่ำ ทางช่อง one31 ได้ออกมาขอโทษสำหรับความผิดพลาดในครั้งนี้แล้ว

กรณีการใช้รูปภาพหรือวิดีโอที่ไม่ถูกต้องตามความจริงเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังเหตุการณ์ความรุนแรงหรือภัยพิบัติที่มีข้อมูลอยู่มากมายในอินเทอร์เน็ต และนอกจากสำนักข่าวช่อง one31 ของไทยแล้ว ทางสำนักข่าวของกรีซและอิหร่านก็ออกมาขอโทษสำหรับความผิดพลาดนี้แล้วเช่นกัน

ฮิเดโอะ โคจิมะ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการสังหารอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ และตำรวจก็จับตัวคนร้ายได้แล้วในที่เกิดเหตุ โดยเขามีชื่อว่า เท็ตสึยะ ยามากามิ

อย่างไรก็ตาม ทาง Kojima Productions บริษัทพัฒนาเกมที่ก่อตั้งโดย ฮิเดโอะ โคจิมะ ออกคำแถลงผ่านทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
"#KojimaProductions ขอประณามการเผยแพร่ข่าวเท็จและข่าวลือที่จะชี้นำไปสู่ข้อมูลแบบผิดๆ"
"เราจะไม่ทนต่อการหมิ่นประมาท และจะพิจารณาดำเนินคดีกับบางกรณีด้วยเช่นกัน"

https://mgronline.com/around/detail/9650000065571

เสียใจที่คุณใช้ลูกปืน

อะไรหนอที่ทำให้ใจคุณโหด
เราจะโทษอะไรคือปัญหา
ว่าการเมืองเรื่องโลกย์หรือโชคชะตา
จึงคิดฆ่ากันได้ใจหนอใจ

สงสาร ซินโซ อาเบะ
เป็นเหยื่อความเละเทะสังคมใหม่
ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นแต่ที่ไทย
มีเรื่องราวมากไปใช้ลูกปืน
 
 ชมัยภร  แสงกระจ่าง
 ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕

https://www.facebook.com/103972055709682/videos/1409397902915745/

คำถามข้างบนนี้ คุณชมัยภรเห็นจะต้องถามอีกหลายครั้งโดยไม่มีคำตอบ  :'( :'( :'(

ภาพข้างล่างนี้เป็นครอบครัวของสามีภรรยาไทเลอร์ ชมิดช์และซาร่าห์   มีลูกน่ารัก 2 คนคืออาร์โล ลูกชายวัย 9 ขวบและลูลา ลูกสาววัย 6 ขวบ
ชีวิตพวกเขาดำเนินไปอย่างสงบและเป็นสุข     พ่อแม่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง จึงพาลูกไปปีนเขาบ้าง กางเต๊นท์นอนในวนอุทยานแห่งชาติในรัฐไอโอวาบ้าง   เป็นสถานที่ปลอดภัยไม่เคยมีภัยธรรมชาติหรือภัยจากคนร้ายเลยตั้งแต่สร้างมา
ในเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม ขณะครอบครัวนี้และครอบครัวอื่นๆกางเต๊นท์นอนพักอยู่ในแคมป์กราวน์     ก็มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งไม่เคยรู้จักมักจี่หรือแม้แต่เห็นหน้ากันมาก่อน บุกเข้าไป สาดกระสุนใส่สามีภรรยาและลูกสาววัย 6 ขวบอย่างเลือดเย็น   จนตายคาที่
ส่วนลูกชายวัย 9 ขวบรอดมาได้   ยังไม่มีรายละเอียดว่าหนูน้อยรอดมาได้ด้วยวิธีใด  
หลังจากสังหารคนไป 3 คน  ฆาตกรก็ออกจากที่นั้นไป   แล้วไปยิงตัวตายในช่วงเวลาสั้นๆต่อมา ในสถานที่ไม่ห่างจากตรงนั้นนัก
จากการสอบสวนชั้นต้น  ตำรวจไม่พบเหตุจูงใจ เพราะฆาตกรและเหยื่อไม่รู้จักกัน     สันนิษฐานขั้นแรกว่าคนร้ายเพียงแต่ต้องการฆ๋าคน  แบบเป็นใครก็ได้
ครอบครัวชมิดช์บังเอิญมาอยู่ในสายตาของฆาตกร ในจังหวะเวลาและสถานที่พอดีเท่านั้น

ฆาตกรเป็นหนุ่มอายุ 23 ปีชื่อ แอนโธนี เชอร์วิน   ไม่มีประวัติอาชญากรรมใดๆ   เขาเป็นหนึ่งในผู้มาพักแรมในวนอุุทยานแบบเดียวกัน  พร้อมกับพ่อแม่
พ่อแม่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่า เหตุใดลูกชายจึงแอบพกอาวุธมาด้วย แล้วออกไปฆ่าครอบครัวนี้   กลับมาอีกทีก็มีผู้พบศพเขาพร้อมรอยกระสุนบนร่าง ที่บ่งว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย

     เหตุการณ์สะพรึงในแคนาดา ที่รัฐตอนกลาง มีผู้เสียชีวิต 10 รายและบาดเจ็บ 15 จากมือมีดหนุ่ม 2 พี่น้องที่กำลังหลบหนี

https://www.bbc.com/thai/articles/ceqll229p2lo

       ล่าสุด ข่าวว่า มือมีด1 คนได้เสียชีวิตแล้ว,อีกคนยังหลบหนีไปได้

;D

https://www.facebook.com/TNNWorld/videos/746933676395354/

กำลังจะเข้ามาโพส  คุณเพ็ญชมพูไวกว่า

นี่คือหน้าตาของฆาตกร
คนซ้าย เดเมียน แซนเดอร์สันวัย 31   ตายแล้ว  มีรอยบาดแผลหลายแห่งบนตัว เชื่อว่าตายด้วยน้ำมือน้องชาย ไมล์ (รูปขวา) ที่ยังหลบหนีอยู่

รอยเตอร์รวบรวมเหตุสังหารหมู่ครั้งใหญ่ของแคนาดา หลังจากเมื่อวันอาทิตย์เกิดเหตุผู้ต้องสงสัยสองรายใช้มีดไล่แทงสังหารผู้คน ๑๐ คนในชุมชนชาวพื้นเมืองและเมืองใกล้เคียง ในมณฑลซัสแคตเชวาน (Saskatchewan) ถือเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์แคนาดา

ในที่สุด เหตุการณ์ที่กลัวนักหนา ไม่อยากให้เกิด ก็เกิดขึ้นจนได้ :'( :'( :'(

เปิดประวัติ ส.ต.อ.คลั่งมือกราดยิงชาวบ้านตายนับสิบ สุดอึ้งติดยาบ้าหนัก เสพตั้งแต่เรียนยันรับราชการตำรวจ

เปิดประวัติ ส.ต.อ.ปัญญา มือกราดยิงชาวบ้านในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ หนองบัวลำภูตายนับสิบรายพบประวัติเสพยาบ้าตั้งแต่เรียนมัธยม เคบรับสารภาพต่อผู้บังคับบัญชาสูบมานานแล้ว มีเป็นร้อยเม็ด

อดีต ผบ.หมู่(ป) สภ.นาวัง เกิดเมื่อ 4 มิถุนายน 2531 บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน2555 ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยานนาวา ต่อมาย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.นาวัง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 เมื่อย้ายมาที่ สภ.นาวัง เริ่มมีปัญหาทะเลาะกับแฟน เนื่องจากแฟนไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และเริ่มมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจนร่างกายซูบผอม มีอารมณ์ฉุนเฉียว ซึ่งเพื่อนข้าราชการตำรวจต่างทราบดีและไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารออมสิน ส.ต.อ.ปัญญา ไม่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ กลับไปนอนอยู่ในรถซึ่งจอดไว้หน้าธนาคาร เมื่อผู้จัดการธนาคารออมสิน ได้ขอความช่วยเหลือโดยให้คุ้มกันการเคลื่อนย้ายนำเงินเข้าเครื่อง ATM กลับแสดงอาการไม่พอใจ ทำท่าจะชักปืนขู่ ทำให้ผู้จัดการต้องโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา ส.ต.อ.ปัญญา ได้เริ่มคบกับ น.ส.หญิง ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งทำงานเป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.หญิง เคยเป็นแฟนกับ นายเดย์ (ไม่ทราบนามสกุล)ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู
เมื่อ คบกับ น.ส.หญิงฯ มักพาเพื่อนมามั่วสุมดื่มสุรา และส่งเสียงดัง ที่ห้องพักข้าราชการตำรวจเป็นประจำ เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ แก่ข้าราชการตำรวจและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเมาสุราแล้ว ส.ต.อ.ปัญญาฯ จะชอบนำอาวุธปืนมายิง ทำให้ไม่มีคนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และเคยนำอาวุธปืนไปยิงสุนัข ของประชาชน จนต้องมีข้าราชการตำรวจไปไกล่เกลี่ยให้ไม่ดำเนินคดี

เมื่อ เดือน กรกฎาคม 2564 ส.ต.อ.ปัญญาฯ ได้มั่วสุมดื่มสุราในห้องพัก และส่งเสียงดังรบกวน และได้มีเพื่อนข้าราชการตำรวจไปตักเตือนให้หยุด แต่ ส.ต.อ.ปัญญาฯ กลับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเข้ามาทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทกัน และผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวมาทำทัณฑ์บนไว้
พ.ต.อ.สุวัฒชัย มะลิทอง ผกก.สภ.นาวัง ในขณะนั้น ได้เรียกเจ้าตัวมาสอบถาม และเจ้าตัวได้ยอมรับว่าได้เสพสารเสพติดตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว และรับปากกับผู้บังคับบัญชาว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ทำการยึดอาวุธปืนประจำกาย ของ ส.ต.อ.ปัญญาฯ ไว้ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายต่างๆ

ต่อมา สภ.นาวัง ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตามโครงการตำรวจสีขาว ไม่ไห้ข้าราชการตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังได้รับรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญาฯ ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าตรวจค้นจับกุม ปรากฏหลักฐานตามบันทึกจับกุม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ส.ต.อ.ปัญญาฯ ให้การรับสารภาพ

- เมื่อถูกจับกุมได้ซักถาม ส.ต.อ.ปัญญาฯ ได้ให้ถ้อยคำว่า “สูบยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมียาบ้าเป็นร้อยๆ เม็ดไม่เห็นมีใครมาจับกุม” อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.ปัญญาฯ รับสารภาพว่ายาบ้าของกลางที่ชุดจับกุมพบเป็นของตนเอง โดยได้รับมาจากอดีตตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว

เมื่อ ส.ต.อ.ปัญญาฯ ได้ถูกจับกุมและย้ายออกจากบ้านพักแล้ว ข้าราชการตำรวจ สภ.นาวัง รู้สึกผ่อนคลาย และทำงานโดยไม่มีความหวาดระแวงต่อเพื่อนร่วมงาน

https://mgronline.com/crime/detail/9650000095993

“พลเอกประยุทธ์”  สั่ง ลดธงครึ่งเสา 1 วันเป็นกรณีพิเศษ ทุกส่วนราชการ ทั่วประเทศ เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์  กราดยิง ที่  จ. หนองบัวลำภู  ขอให้คนไทยทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน   ร่วมผ่านช่วงเวลาแห่งความสูญเสียที่โหดร้ายนี้ไปด้วยกัน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขอให้ทุกส่วนราชการทั่วประเทศลดธงครึ่งเสา ในวันพรุ่งนี้ (7 ตุลาคม 2565) เป็นกรณีพิเศษ 1 วัน เพื่อแสดงความเสียใจ ต่อการเสียชีวิต ครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ กรณีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ จ. หนองบัวลำภู ก่อให้เกิดความเสียใจ แก่คนไทยทั้งประเทศ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
 “นายกรัฐมนตรีเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
และขอให้คนไทยทุกคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมผ่านช่วงเวลาแห่งความสูญเสียที่โหดร้ายนี้ไปด้วยกัน”

4 องคมนตรี” เป็นผู้แทนพระองค์ เยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ “กราดยิงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” หนองบัวลำภู
ก่อนที่ “ในหลวง-พระราชินี” จะเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ โดย ไม่ต้องเตรียมการรับเสด็จฯใดๆ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี, พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข, พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง และ นายอําพน กิตติอําพน องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปเยี่ยมครอบครัว ผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ “กราดยิงหนองบัวลำภู”  ที่  โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
โดยในวันศุกร์7 ตค. นี้ ทั้ง2 พระองค์ จะเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ มาทรงเยี่ยม ผู้บาดเจ็บ และ ครอบครัว ผู้เสียชีวิต ด้วยพระองค์เอง  โดย ไม่ต้องเตรียมการรับเสด็จฯใดๆ พระองค์ทรงทราบ ว่า ทุกคน อยู่ในความโศกเศร้า รวมทั้ง ทั้ง2 พระองค์ เช่นกัน จึงทรงมาให้กำลังใจ

         หลับสบาย แก้วตา อย่าร้องไห้               ตื่นขึ้นใหม่ ในสวรรค์ สันติสุข
ลืมความกลัว ความเจ็บปวด ปราศจากทุกข์          สนานสนุก ปลอดภัย ไร้คนพาล

         Hush-a-bye, don't you cry, go to sleepy little baby
When you wake you shall have all the pretty little horses

https://www.youtube.com/watch?v=4NQrTtE8LMw

รอยเตอร์รวบรวมเหตุกราดยิงและเหตุสังหารหมู่ในโรงเรียนทั่วโลกที่ผ่านมา หลังเกิดโศกนาฎกรรมครั้งล่าสุดที่ จังหวัดหนองบัวลำภูในไทย

 :'(

 :'(

ยังมีหนูน้อยเหยื่อนอกศูนย์เด็กเล็กอีกรายหนึ่ง  แต่โชคดี ปลอดภัยแล้ว

ขณะที่อาการล่าสุดของน้องมิก อายุ 3 ขวบ หนึ่งในเหยื่อเหตุกราดยิง ที่ถูกอาวุธมีดฟันที่ศีรษะขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ภายใต้ความดูแลของแพทย์ รพ.อุดรธานี โดยตอนเกิดเหตุน้องนั่งรถซาเล้งมากับแม่และยายเพื่อไปขายข้าวโพดต้ม และถูกรถของผู้ก่อเหตุขับชน รถทับแม่เสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุใช้มีดฟันยายกับน้องมิก ด้านคุณยายรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู

https://mgronline.com/local/detail/9650000096248

จิตอาสากองปราบล้อมจับหนุ่มเมืองคอนคลั่งยาบ้า พกปืน 2 กระบอก กระสุนครึ่งร้อย หวังบุกชิงตัวลูกที่โรงเรียน หวิดซ้ำรอยโศกนาฎกรรมที่หนองบัวลำภู

วันนี้ ( 7 ต.ต.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จำนวน 13 นายปิดล้อมจับกุมชายเมายาบ้าคลุ้มคลั่งพกปืนจะไปชิงตัวลูกวัย 7 ขวบที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู


เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบรถกระบะต้องสงสัย จึงใช้รถเก๋งจอดประกบทางด้านขวา เพื่อแสดงตัว ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงจากรถ คนร้ายได้ถอยรถไปชนกับรถยนต์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหนึ่งคันที่จอดปิดท้ายไว้ ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จากนั้นคนร้าย ก็ได้ขับรถไปทางด้านหน้าพุ่งชนรถยนต์เก๋งของทางเจ้าหน้าที่ จึงทำให้รถยนต์ของ คนร้าย ไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงเปิดประตูลงจากรถ ซึ่งจังหวะนั้นเองทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นคนร้าย ล้วงอาวุธปืนพกสั้นออกจากบริเวณสะเอวขวา จึงได้รีบเข้าชาร์จ จนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายธีระพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี

จากการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 17 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน 10 นัด อาวุธปืนยาวเดี่ยวลูกกรด .22 พร้อมเครื่องกระสุน 5 นัด เครื่องกระสุนปืน .22 จำนวน 50 นัดและยังพบผู้โดยสารนั่งข้างคนขับอีก 1 คือ นายเชาวลิต อายุ 33 ปี

สอบสวน นายธีระพงษ์ รับสารภาพ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามาคนละ 2 เม็ด จากนั้นได้ทะเลาะกับภรรยา จึงเกิดความเครียดชวนเพื่อนมารับลูกที่โรงเรียนแต่ถูกจับกุมเสียก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ, ร่วมกันพาอาวุธปืนฯ, มียาบ้าไว้ในครอบครองฯ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)และทำให้เสียทรัพย์” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้น เป็นลักษณะการ Copy cat หรือพฤติกรรมเลียนเเบบจากเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เพิ่งเกิดเหตุสลดขึ้น โดยทางตำรวจสอบสวนกลางเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยได้ ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้งจึงรีบสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเข้าตรวจสอบทันที โดยขณะนั้นทางตำรวจ กก.5 บก.ป. กำลังทำกิจกรรมจิตอาสาบริเวณใกล้เคียงอยู่พอดี จนนำมาสู่การระงับเหตุได้ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ทราบข่าวว่ามีคนเมายาบ้าถือปืนจะบุกเข้าไปในโรงเรียนเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ทำให้บรรดาผู้ปกครองต่างตกใจกลัว รีบเดินทางมารับลูกๆ กลับบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุเศร้าสลดเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู

https://mgronline.com/crime/detail/9650000096468

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสกับประชาชนที่มาเฝ้า ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ในคืนวันที่ 7 ตุลาคม 2565

“วันนี้มาเยี่ยมเยียนมาให้กำลังใจ ก่อนอื่นก็ขอแสดงความเสียใจ รู้สึกเศร้าสลดมากที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และขอร่วมในความรู้สึกเสียใจ ไม่ทราบว่าจะอธิบายอย่างไร เข้าใจ และมีความรู้สึกร่วม ก็เป็นเหตุที่ไม่ดีเกิดขึ้น ถ้าเผื่อมีอะไรเดือดร้อนลำบาก ก็จะให้ความสะดวกช่วยเหลือดูแล
ขอแสดงความเสียใจและไม่มีคำไหนที่จะมาแทนคำว่าเสียใจได้ ขอให้กำลังใจพวกเราเข้มแข็ง เพื่อวิญญาณน้องๆเขาจะได้มีความสบายใจว่า ญาติและครอบครัวเขาเข้มแข็งและมีชีวิตต่อไป
ถึงเวลาเราก็บำเพ็ญกุศลให้กัน จะให้มีการสวดมนต์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้น้องๆที่จากไป และในเวลาเดียวกันก็เป็นการบำรุงขวัญกำลังใจของเรา เสียใจที่เรื่องร้ายมันเกิด วันนี้เราก็จะทำยังไงให้มันดีที่สุด เท่าที่จะดีได้ เพื่อที่จะได้มีกำลังใจกันต่อไป”

ก่อนนี้วันคริสต์มาสไม่กี่วัน   ก็เกิดเหตุสะเทือนขวัญในศูนย์การค้าอีกแล้ว

สุดระทึก!! คนร้ายโลนวูล์ฟยิงแม่ตัวเองดับคาอพาร์ทเมนท์ก่อนจับตัวประกันในศูนย์การค้าเดรสเดนยืดเยื้อ อพยพตลาดคริสต์มาสชื่อดังเยอรมันวุ่น

เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – คนร้ายมือปืนก่อเหตุที่คาดว่าน่าจะเป็นโลนวูล์ฟชายวัย 40 ปีเสียชีวิตหลังยิงแม่ของตัวเองเสียชีวิตคาอพาร์ทเมน์ก่อนพยายามบุกสถานีวิทยุท้องถิ่นแต่ไม่สำเร็จวันเสาร์(10 ธ.ค) ชิงหนีเข้าศูนย์การค้าชื่อดังในเดรสเดน(Dresden)ทางตะวันออกของเยอรมัน จับตัวประกันแต่พลาดเสียชีวิตหลังปะทะกับตำรวจ ตลาดคริสต์มาสเยอรมันประจำเมืองชื่อดังอพยพวุ่นกลัวซ้ำรอยก่อการตลาดคริสต์มาสสตาร์สบูร์กของฝรั่งเศสปี 2018

เดอะซัน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(10 ธ.ค)ว่า ตำรวจเยอรมันเจรจาทางโทรศัพท์กับคนร้ายที่เป็นมือปืนวัย 40 ปีก่อนที่จะสั่งให้กำลังบุกเข้าไปด้านในศูนย์การค้า อัลมาร์คต์-กาเลอรี(Altmarkt-Galerie) ในเมืองเดรสเดน(Dresden)ทางตะวันออกของเยอรมันวันเสาร์(11 ธ.ค)

เป็นที่เข้าใจว่าคนร้ายซ่อนตัวอยู่ภายในร้านขายยาในศูนย์การค้าแห่งนี้ ขณะที่ตัวประกัน 2 คนซึ่งเป็นผู้หญิงและเด็กสามารถช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะที่คนร้ายที่ยังไม่ทราบชื่อได้รับบาดเจ็บและภายหลังเสียชีวิต

อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์บิลด์ (Bild) ของเยอรมันระบุว่า คนร้ายสังหารผู้หญิงคนหนึ่งและพยายามที่จะบุกเข้าไปด้านในสถานีวิทยุท้องถิ่นและยิงปืนออกมาหลายนัดก่อนที่จะหลบเข้าไปในศูนย์การค้าที่เขาได้จับตัวประกันไว้จำนวนไม่กี่คน

โทมาส เกิธเนอร์ (Thomas Geithner) โฆษกตำรวจเยอรมันแถลงว่า “ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตในปฎิบัติการเกี่ยวข้องกับการจับตัวประกันเกิดขึ้นในเมืองเดรสเดน”

และแถลงต่อว่า “คนร้ายวัย 40 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการปะทะและการปล่อยตัวประกันให้เป็นอิสระ”

เดอะซันชี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า คนร้ายเสียชีวิตอย่างไร แต่ทว่ารอยเตอร์รายงานโดยกล่าวว่า แต่มีการสันนิษฐานว่า คนร้ายนั้นน่าจะมีความสับสนทางจิตประสาทและน่าจะลงมือก่อเหตุตามลำพัง

อาร์มิน ชูสเตอร์ (Armin Schuster) รัฐมนตรีมหาดไทยประจำรัฐซัคเซิน (Sachsen) แสดงความเห็นว่า “ผมรู้สึกไม่พอใจอย่างหนักต่อการกระทำที่ดูเหมือนมาจากบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตประสาทก่อเหตุตามลำพัง”

แต่ทว่าตำรวจเยอรมันยืนยันว่า คนร้ายยิงแม่วัย 2 ปีของตัวเองเสียชีวิตคาอพาร์ทเมนท์ในเมือง Prohlis ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง

ทั้งนี้ สตรีเซิลมาร์คต์ ( Striezelmarkt) ในเมืองเดรสเดนขึ้นชื่อในเรื่องตลาดเทศกาลคริสต์มาสดึงดูดนักท่องเที่ยวร่วม 3 ล้านคนจากทั่วโลกทุกปีหลังจากเปิดเป็นตลาดวันเดียวเมื่อปี 1434

เดอะซันกล่าวว่า มีการสั่งปิดตลาดคริสต์มาสอย่างเร่งด่วนและอพยพคนออกไประหว่างวิกฤตจับตัวประกันภายในศูนย์การค้าเกิดขึ้นแต่สามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้งหลังตำรวจแถลงว่า “ไม่มีอันตรายภายในเมืองอีกต่อไป”

ตลาดคริสต์มาสเคยโดนโจมตีจนกลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญไปแล้วทั่วโลกเมื่อปี 2018 หลังมือปืนรายหนึ่งกราดยิงใกล้กับตลาดคริสต์มาสในเมืองสตาร์สบูร์ก แคว้นอาลซัสภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 12 คน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตมีคนไทย 1 รายรวมอยู่ด้วย

มือปืนที่ก่อเหตุเป็นชายอายุ 29 ปีชื่อ เชรีฟ (Cherif) จากเมืองสตราสบูร์ก และถูกทางการฝรั่งเศสเพ่งเล็งอยู่ก่อนแล้วว่าอาจจะเป็นพวกหัวรุนแรง

       เกิดเหตุเหยื่อ 6 ราย ถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บด้วยมีดที่ทางเข้าสถานีรถไฟในกรุงปารีส เช้าวานนี้
       ส่วนผู้ก่อเหตุถูกยิงได้รับบาดเจ็บโดยนายตำรวจนอกเวลาปฏิบัติงาน

https://www.youtube.com/watch?v=BxTqpshpmNU

ตรุษจีนเลือดที่แคลิฟอร์เนีย

เหตุสลดเกิดขึ้นในย่านธุรกิจ บนถนนการ์เวย์ เอฟเวนิว ที่เมืองมอนเทอเรย์ พาร์คในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเวลาราว ๒๒.๒๐ น. ของวันเสาร์ที่ ๒๑ มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น (๑๓.๒๐ น. ของวันอาทิตย์ที่ ๒๒ มกราคม ตามเวลาประเทศไทย) โดยจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับพื้นที่จัดงานฉลองเทศกาลตรุษจีนที่มีประชาชนหลายพันคนร่วมงานนี้ และงานกำหนดสิ้นสุดในเวลา ๒๑.๐๐ น.
    
ตำรวจเปิดเผยเบื้องต้นว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๐ ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก ๑๐ รายถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายแห่ง ซึ่งบางรายมีอาการขั้นวิกฤต  ส่วนมือปืนชายที่ก่อเหตุหลบหนีไปได้ และเจ้าหน้าที่ขอให้ผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยแจ้งเบาะแส
  
เมืองมอนเทอเรย์ พาร์ค อยู่ห่างจากใจกลางนครลอสแองเจลิส ๑๖ กิโลเมตร มีประชากรราว ๖๐,๐๐๐ คน ซึ่งมีประชากรเชื้อสายเอเชียจำนวนมาก และงานฉลองเทศกาลตรุษจีนประจำปีนานสองวันของเมือง ที่เริ่มขึ้นในวันเสาร์ เป็นหนึ่งในงานตรุษจีนที่ใหญ่ที่สุดในแคลิฟอร์เนีย
    
ตำรวจแจ้งด้วยว่า งานฉลองตรุษจีนในวันอาทิตย์ของเมืองถูกยกเลิกแล้วสืบเนื่องจากเหตุกราดยิงและเพื่อเคารพต่อผู้เคราะห์ร้าย

ข่าวจาก เนชั่น (https://www.nationtv.tv/news/foreign/378900799)

https://youtu.be/mMpnAiN1hFM

น่าหดหู่ใจมาก   ถ้าอยากอ่านรายละเอียด  เข้าลิ้งค์ได้ที่นี่ค่ะ

https://www.latimes.com/california/story/2023-01-22/la-me-monterey-park-mass-shooting

เหตุการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ มอนเทอเรย์ พาร์ค แคลิฟอร์เนีย มีความกระจ่างในระดับหนึ่งแล้ว คุณ CSI LA (https://www.facebook.com/100044978679629/posts/pfbid0282srEhnaNxbTYzbyDUHo2RCh1gikmLGbZNPW4vVFeS1jsLGdvBWCpfZHHL94PUccl/?mibextid=cr9u03) สรุปให้ทราบดังนี้

๑. เมื่อคืนนี้ลุงคนจีนเวียดนามอายุ ๗๒ ปี ชื่อ Huu Can Tran คลั่งกราดยิงสถานที่เต้นลีลาศ ในเมือง Monterey Park ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๑๐ คน ชาย ๕ หญิง ๕ และผู้บาดเจ็บอีก ๑๐ คน

๒. เมืองนี้เป็นเมืองที่มีคนเอเชียอาศัยอยู่มากรวมทั้งคนไทยและแอดมินด้วย ตำรวจมาถึงสถานที่เกิดเหตุเร็วมาก เพราะที่สถานีอยู่ไม่ไกล แต่ลุงหนีไปก่อน

๓. สถานที่เต้นคลับลีลาศ ชื่อ Star Dance Studio เป็นที่นิยมของหญิงชายอายุ ๕๐ ปี ขึ้นไป ที่ส่วนใหญ่เป็นคนเอเชีย รวมทั้งคนไทยวัยเกษียณ

๔. ลุงผู้ก่อเห็นหนีตำรวจไปทั้งคืน เมื่อจนมุมจึงตัดสินใจยิงตัวตายที่เมือง Torrance ซึ่งห่างจากเมือง Monterey Park ไป ๔๕ นาที

๕. เหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้น่าจะมาจากปัญหาส่วนตัว ระหว่างลุงกับคนในคลับ ไม่ใช่การเหยียดสีผิว

๖. งานตรุษจีนที่จัดบนถนน Garvey ข้างๆสถานที่เกิดเหตุ มีคนงานนับแสนคนในวันเสาร์ แต่ต้องถูก Cancel

๗. เหตุการณ์ยิงเกิดขึ้นวันเสาร์ตอน ๔ ทุ่มครึ่ง หลังจากที่ตรุษจีนบนถนน Garvey เปิดไปแล้วชั่วโมงกว่า แต่ในบาร์งานจัดถึงเที่ยงคืน

๘. ๒ ปีที่แล้วเกิดเหตุการหนุ่มจีน บุกเข้ายิงแฟนสาวกับกิ๊ก ตายคาร้านอาหาร ๒ ศพที่เมือง Monterey Park ตอนแรกหลายคนพยายามจะโยงว่าเป็น Hate Crime แต่ไม่ใช่

๙. เมือง Monterey Park ถือว่าเป็นที่ปลอดภัยและดีที่สุดเมืองหนึ่งของ LA มีนายกเทศมนตรีเป็นคนเอเชีย ทั้งอดีตและปัจจุบัน มีความผูกพันกับสังคมไทยมาก เพราะกลุ่มคนไทยจะร่วมเดินงาน parade ในงานครบรอบวันเกิดของเมืองทุกๆปี

๑๐. ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครบ้าง หวังว่าคงไม่มีคนไทยอยู่ในนั้น

สาเหตุคลี่คลาย ไม่ใช่เหตุชังเชื้อชาติ

         แต่แรกเห็นว่าเป็นที่ California, ชวนให้นึกย้อนอดีตถึงเหตุการณ์หฤโหดในวันที่ 24 ตุลาคม ปี 1871 เมื่อ
         ชาวจีนอพยพถูกชาวเมกันและฮิสแปนิคบุกเข้าปล้นสังหารที่ย่านคนจีน ใน Los Angeles, California
มีคนจีนตาย 19 ราย, 15 รายในนั้นตายจากการถูกแขวนคอ จนได้รับการบันทึกว่าเป็น the largest mass lynching in American history

https://en.wikipedia.org/wiki/Los_Angeles_Chinese_massacre_of_1871

กราดยิงที่แคลิฟอร์เนียอีกแล้ว

พ้นตรุษจีนเลือดมาเพียง ๒ วัน ครั้งนี้เหตุการณ์เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๓ มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ที่เมืองฮาล์ฟมูนเบย์ (Half Moon Bay) แคลิฟอร์เนีย ห่างจากซานฟรานซิสโกไปทางใต้ประมาณ ๔๕ กิโลเมตร มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ๗ ราย และได้รับบาดเจ็บอีก ๑ คนในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้น ๒ จุด โดยพบผู้เสียชีวิต ๔ รายแรกเมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๒๒ น. (๐๕.๐๐ น. ของวันอังคารที่ ๒๔ มกราคม ตามเวลาประเทศไทย) บนถนนไฮเวย์คาบิลโลหมายเลข ๑๒๗๐๐โดยเหยื่อรายหนึ่งถูกส่งตัวไปยังศูนย์การแพทย์สแตนฟอร์ด เพราะได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ไม่นานหลังจากนั้นก็พบเหยื่ออีก ๓ ราย เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุอีกแห่งหนึ่ง

ผู้ต้องสงสัยเป็นชายเชื้อสายจีนชื่อ จ้าวชุนหลี (赵春丽) วัย ๖๗ ปี อาศัยอยู่ในเมืองฮาล์ฟมูนเบย์ โดยเขาถูกควบคุมตัวเมื่อเวลาประมาณ ๑๖.๔๐ น. หลังจากพบตัวเขาอยู่ในรถที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวเขาไว้ได้โดยไม่มีเหตุการณ์แทรกซ้อนใดๆ เกิดขึ้น และพบอาวุธอยู่ภายในรถด้วย เหยื่อที่ถูกยิงเสียชีวิตเป็นคนงานชาวจีนที่ทำงานในฟาร์ม แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ

เป็นอีกครั้งที่มือปืน เป็นชายสูงวัยที่มีเชื้อสายเอเชีย :o

ข่าวจาก มติชน (https://www.matichon.co.th/foreign/news_3786385)

เหตุสลดวันปีใหม่จีน (ตรุษจีน) สร้างความกังวล ส่งผลการจัดงานปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ที่แคลิฟอร์เนีย

https://youtu.be/9AgGG4LYzPg

เมื่อเข้ามาโพสกระทู้นี้ทีไรก็หดหู่ใจทุกครั้ง   
เกิดขึ้นอีกแล้วที่อเมริกา  มือปืนกราดยิงผู้คน

คราวนี้ คนรับเคราะห์คือนักศึกษา 8 คนของ Michigan State University  ที่เมือง East Lansing ในรัฐมิชิแกน
อยู่ๆมือปืนวัย 43 ปีชื่อนายแอนโธนี ดเวย์น แม็คเรย์ ( Anthony Dwayne McRae) ซึ่งไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับมหาวิทยาลัย  หรือนักศึกษาพวกนี้ ก็บุกเข้ายิงนักศึกษาที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไป 3 คน อีก 5  คน บาดเจ็บสาหัส
หลังจากนั้น มือปืนก็ยิงตัวตาย  

ตำรวจยังหาสาเหตุไม่พบ  แต่เพื่อนบ้านของนายคนนี้บอกว่าเขาออกจะดูเพี้ยนๆ   แต่ก็ไม่เคยก่อปัญหาอะไรกับใคร  ไม่มีประวัติอาชญากรรม    ไม่เคยมีประวัติเข้ารับการรักษาทางจิตประสาท   ไม่มีงานทำ   อาศัยอยู่กับพ่อวัย 67 ปี ส่วนแม่ตายไปแล้ว

ไม่ไหวจะเคลียร์

            บันทึกเหตุการณ์กราดยิงปีนี้ไปถึง 70+ รายแล้ว - ยิ่งกว่าเกิดเหตุรายวัน

เดือนก่อน cnn พาดหัวข้อข่าว - Three weeks and 39 mass shootings. This is America in 2023.

แผนที่เกิดเหตุเดือนม.ค. ที่ผ่านไป

กลับมาอีกครั้ง และไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

          เด็กเล็กจับมือกัน วิ่งหนีออกมาจากโรงเรียน เด็กหลายคนร้องไห้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พาพวกเขาออกมา
หลังเกิดเหตุหญิงคนหนึ่ง พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปกราดยิงในโรงเรียนประถม ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุ 9 ขวบ 3 คน เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในไทย (27 มี.ค.)
         ผู้ก่อเหตุเป็นหญิงวัย 28 ปี พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืนไรเฟิลจู่โจม 2 กระบอก และปืนพกอีก 1 กระบอก
บุกเข้าไปในโรงเรียนคริสเตียน โคเวแนนท์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมเอกชน ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซีของสหรัฐฯ
ตำรวจเปิดเผยชื่อผู้ก่อเหตุในเวลาต่อมาว่า ชื่อ ออดรีย์ เฮล และระบุว่า เป็นหญิงข้ามเพศ และ ได้ถูกตำรวจวิสามัญ
ฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ
          
.
          นับแต่เริ่มปี 2023 มีเหตุกราดยิงที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 4 คน เกิดขึ้นในสหรัฐฯ แล้วถึง 129 ครั้ง

https://www.bbc.com/thai/articles/cerz24jgxm9o

ล่าสุด วันที่ 6 พฤษภาคม 2023    คนร้ายกราดยิงที่ศูนย์การค้าชื่อ Texas Mall ในเมือง Allen  รัฐเทกซัส 
คนร้ายบุกยิงกราดขณะผู้คนกำลังจับจ่ายใช้สอยกันอยู่   ตายกันไปทั้งผู้ใหญ๋และเด็ก  คนบาดเจ็บสาหัสก็มี
คนร้ายซึ่งบุกเดี่ยว ถูกตำรวจยิงตายในที่เกิดเหตุ

  https://www.youtube.com/watch?v=w_vi6JBS15I

ก่อนหน้านี้ เคยนึกว่าประเทศไทยยังไม่เคราะห์ร้ายเท่าอเมริกาเรื่องความปลอดภัยจากการกราดยิง   ก่อนหน้านี้มีเพียง 2 รายคือกราดยิงที่โคราชและที่ศูนย์เด็กเล็ก    แต่บัดนี้ชักไม่แน่ใจเสียแล้ว
รายที่ 3  ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2566  น่าสลดใจไม่แพ้เหตุสะเทือนขวัญสองครั้งก่อน

เวลา 16.00 น.  เด็กชายอายุ 14  สะพายเป้เดินเข้าไปในห้างพารากอน   เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ชั้น M สวมหน้ากาก หยิบปินแบลงค์กันที่ดัดแปลงให้บรรจุกระสุนจริงและยิงได้ มีกระสุนเต็มแม็ก   เดิินออกมากราดยิงผู้คนที่เดินผ่านไปมา   ก่อนจะขึ้นไปกราดยิงต่อที่ชั้น 3 และ 4  ทำให้โกลาหลกันไปทั่วห้าง  
ผู้เสียชีวิตคือนักท่องเที่ยวหญิงจีน มากับลูกสาวเล็กๆ 2 คน  กับลูกจ้างหญิงชาวพม่าในร้าน    และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คน  หนึ่งในนี้อาการสาหัส  สมองตายอยู่ในภาวะโคม่า

มือปืนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ ไม่มีการต่อสู้

จากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ    มือปืนวัย 14 ปีมาจากครอบครัวฐานะดี  พ่อแม่มีความรู้สูงและมีอาชีพการงานที่สังคมนับถือ    เด็กได้รับการศึกษาอย่างดี  เป็นเด็กที่ฝึกยิงปืนจนชำนาญ  รู้วิธีใช้อาวุธ
เมื่อตำรวจเข้าตรวจค้นห้องนอนของเด็กชาย พบเครื่องกระสุนจำนวนมาก ประกอบด้วย เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 กล่อง จำนวน 49 นัด, กระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 3 นัด, เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 1 นัด
นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนหลายขนาดอีกหลายรายการ เช่น ปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 7 ปลอก, ปลอกกระสุนปืนลูกซอง 5 ปลอก, ปลอกกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 2 ปลอก, ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอก และพบสิ่งเทียมอาวุธปืนพกสั้นอีก 1 กระบอก พร้อมเมกกะซีนสิ่งเทียมอาวุธปืน 1 รายการ รวมทั้งแผ่นกระดาษเป้าซ้อมยิง ซึ่งมีรอยกระสุนอีก 1 แผ่น

https://www.youtube.com/watch?v=rrBAYmmZX-c&t=2s

กฎหมายไทยกำหนดให้เด็กอายุ 12-15 ปีที่กระทำความผิดทางอาญา  ว่า ตำรวจต้องส่งเรื่องแจ้งไปยังผู้ปกครองและสถานพินิจ เพื่อทำการสืบเสาะ แก้ไข บำบัดฟื้นฟู และส่งให้ตำรวจ/ อัยการ /ศาลภายใน 30 วัน แล้วนำตัวเด็กส่งศาลเยาวชนภายใน 24 ชม. หากศาลเยาวชนฯพิจารณาคดีแล้วเห็นว่า “ยังไม่เห็นสมควรพิพากษาลงโทษ”จะสามารถดำเนินการ
-ว่ากล่าวตักเตือน
-ปล่อยชั่วคราว (มี /ไม่มีประกัน)
-ส่งตัวไปยังสถานฝึกอบรม/มอบตัวเด็กให้อยู่กับบุคคล/องค์กรที่ศาลเห็นสมควร หรือกำหนดเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามภายในระยะเวลาที่กำหนด

ชะตากรรมของเด็กอายุ 14 รายนี้ ปัจจุบัน ศาลเยาวชนฯส่งตัวไปควบคุมในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและ เยาวชนกรุงเทพมหานคร ย่านบางนา เพื่อตรวจสภาพจิต โดยไม่มีผู้ปกครองมายื่นประกัน

แพทย์ระบุเด็ก 14 กราดยิงไม่มีอาการทางจิต

https://www.youtube.com/watch?v=jcwiCyaKQg4

เหตุร้ายล่าสุดเกิดขึ้นในอเมริกา เจ้าเก่า   มือปืนเดี่ยวบุกยิงกราดอย่างบ้าคลั่ง ในเมืองเลวิสตัน รัฐเมน  ทำเอาประชาชนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวตายไปอย่างน้อย 22 คน
มือปืนยังหลบหนี จับไม่ได้   ผู้ว่าการรัฐบอกประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านอย่าออกมา และล็อคประตูให้แน่นหนา

 https://www.youtube.com/watch?v=PoLp51tgz4M

น่ากลัวยิ่งนัก ยิ่งกว่า

จาก twitter จับได้แล้ว
มีข่าวว่าเป็นครูฝึกยิงปืน  ก่อนหน้านี้ ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลจิตเวช

         ข่าวล่า NBC News รายงานว่า -
                                 Robert Card, the man accused of killing 18 people at a bowling alley and bar in Lewiston, Maine,
has been found dead, officials said.
                                 All 18 victims have been identified ส่วนใหญ่อยู่ในวัย 30 - 40-50+ อายุน้อยสุด 14 สูงสุด 76 ปี

  ขณะที่หลายส่วนของโลกกำลังเตรียมเฉลิมฉลองคริสต์มาส เป็นเทศกาลแห่งความชื่นชมยินดี    เหตุสยองขวัญก็เกิดขึ้นอย่างไม่เลือกวันเวลา
    22 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปราก ได้เปิดเผยว่า เกิดเหตุกราดยิงในมหาวิทยาลัยชาลส์ ผู้ต้องสงสัยซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นนักศึกษาชายวัย 24 ปี ใช้อาวุธปืนไรเฟิลเป็นอาวุธกราดยิงผู้คนภายในอาคารเรียนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย ในจำนวนนี้มีเพื่อนของผู้ก่อเหตุด้วย และรายงานพบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวน 25 ราย ก่อนจะพบว่าผู้ก่อเหตุฆ่าตัวเองตายในเวลาต่อมา

     ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปราก เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า จากการตรวจสอบพบว่า มือปืนได้ลงมือสังหารบิดาของตนเองที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากกรุงปรากไปทางตะวันตกราว 21 กิโลเมตรเมื่อช่วงสายของวันเดียวกัน ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อหวังฆ่าตัวตาย แต่กลับกลายเป็นว่าเขามาก่อเหตุกราดยิงภายในมหาวิทยาลัย
   
    22 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปราก ได้เปิดเผยว่า เกิดเหตุกราดยิงในมหาวิทยาลัยชาลส์ ผู้ต้องสงสัยซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นนักศึกษาชายวัย 24 ปี ใช้อาวุธปืนไรเฟิลเป็นอาวุธกราดยิงผู้คนภายในอาคารเรียนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย ในจำนวนนี้มีเพื่อนของผู้ก่อเหตุด้วย และรายงานพบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวน 25 ราย ก่อนจะพบว่าผู้ก่อเหตุฆ่าตัวเองตายในเวลาต่อมา

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปราก เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า จากการตรวจสอบพบว่า มือปืนได้ลงมือสังหารบิดาของตนเองที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากกรุงปรากไปทางตะวันตกราว 21 กิโลเมตรเมื่อช่วงสายของวันเดียวกัน ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อหวังฆ่าตัวตาย แต่กลับกลายเป็นว่าเขามาก่อเหตุกราดยิงภายในมหาวิทยาลัย

    นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเชื่อว่า เขาเป็นผู้ต้องสงสัยยิงชาย 1 คนและบุตรสาววัยแบเบาะเสียชีวิตในป่านอกกรุงปราก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วย ส่วนแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปรากบอกเพียงว่า มือปืนอาจได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุกราดยิงลักษณะคล้ายกันนี้ที่เคยเกิดขึ้นในรัสเซีย แต่ยืนยันไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายใดๆ

ทางด้านประธานาธิบดีปีเตอร์ พาเวล ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ ที่ถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งเลวร้ายและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่สาธารณรัฐเช็กแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อปี 1993 พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียอีกด้วย

   https://www.naewna.com/inter/776568