|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 600 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:53
|
|
ตอนกลางศตวรรษที่ 7 พวกคริสเตียนที่ไดอะคลีชั่นเคยทรงสั่งสังหารได้เข้า
มาครอบครองสุสานแล้วแปรเปลี่ยนไปเป็นวิหารของคริสต์ศาสนา กลายเป็นอาคาร
อาสนวิหารที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในยุโรป อุทิศแด่บิชอป St Domnius (Duje) ที่ได้ถูก
สังหารในช่วงโรมันกวาดล้างคริสเตียนครั้งสุดท้ายซึ่งมีคริสเตียนหลายคนถูกประหาร
ในตอนต้นศตวรรษที่ 4
รูปวาดภายในสุสาน
Photograph from E. Hébrard and J. Zeiller, Spalato, le Palais de Dioclétien, Paris, 1912.
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 601 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:56
|
|
ด้านนอกอาคารแปดเหลี่ยมนี้มีระเบียงล้อมรอบและเสาเรียงราย 24 ต้น
รูปสุสานจากด้านประตูตะวันออก
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 602 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 10:59
|
|
สู่สุสาน-วิหาร
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 603 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 11:03
|
|
บานประตูไม้ chestnut เป็นผลงานสไตล์โรมาเนสค์ชั้นเยี่ยมในปี 1214
โดยศิลปินท้องถิ่นยุคกลาง Andrija Buvina แสดงรูปภาพ 14 ชุดจาก Gospel
ฉาบทาสีทอง คงอยู่ให้เห็นเป็นตัวอย่างที่ดีของงานสไตล์โรมาเนสค์ในโครเอเชีย
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 604 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 11:12
|
|
ด้านในสุสานหรือวิหารในวันนี้
ส่วนหลักคือ สุสานจักรพรรดิจากปลายศตวรรษที่ 3 สร้างด้วยวัสดุเหมือนกับ
อาคารวังนั่นคือหินปูนจากแถบท้องถิ่นนี้, หินอ่อนคุณภาพดีจากเกาะ Brac และอิฐจาก
โรงงานใน Salona
อาคารกลมมีช่องเว้ารูปครึ่งวงกลมและสี่เหลี่ยมอย่างละสี่ช่อง ขนาบช่องเว้า
เป็นเสาหินแกรนนิตสีแดงหัวเสาคอรินเธียนสี่เสา เหนือขึ้นไปยังมีอีกแปดเสาขนาดย่อม
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 605 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 11:14
|
|
เสาสองแถวยังคงเป็นต้นเดิม ระหว่างเสาต้นย่อมเป็นรูปสลักคิวปิดและไดอะคลีชั่น
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 606 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 11:16
|
|
พื้นที่ตรงกลางเคยที่ตั้งของโลงหินซึ่งถูกทำลายลงในกาลต่อมา ร่างของจักรพรรดิ
ถูกขุดขึ้นแล้วแทนที่ด้วยร่างของบิชอป ในศตวรรษที่ 7 โครงสร้างและสิ่งประกอบภายใน
อาคารส่วนใหญ่ยังคงเดิมมีเพิ่มเติมเป็นบางส่วน ได้แก่ บริเวณร้องเพลงสวด และแท่นบูชา
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 607 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 11:18
|
|
ส่วนโดมเป็นอิฐเรียงรูปพัดในช่วงล่างและกลมในช่วงใกล้ยอด เคยประดับด้วย
โมเสคแวววาวเช่นเดียวกับที่โถงรอ
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 608 เมื่อ 09 ต.ค. 13, 11:35
|
|
แท่นเทศน์หกเหลี่ยมเป็นงานในศตวรรษที่ 13 สร้างขึ้นจากหินสีเขียว(เคย)
ฉาบทอง เล่ากันว่าภริยาม่ายของท่านดยุคมอบให้วิหารเมื่อปี 1257 (ดูในรูปคห. 604
และ 606)
แท่นบูชาด้านขวาอุทิศแด่ St. Dujam สร้างขึ้นจากโลงหินแบบคริสเตียนยุคแรก
และแผ่นหินแบบโรมาเนสค์ยุคต้น เหนือขึ้นไปเป็นแท่นสร้างในปี 1427 รูปสลักเป็นท่าน
นักบุญในอิริยาบถนอน และมีรูปสลักของนักบุญท่านอื่นร่วมด้วย เบื้องหน้าคือโลงหินโบราณ
ด้านซ้ายเป็นอีกแท่นบูชา St Anastasius มรณสักขีที่ Solin เช่นกัน สร้างขึ้น
ในปี 1448
แท่นบูชาหลักสร้างในปี 1685 และ 1689 ช่องเว้าทางด้านเหนือเป็นแท่น
สร้างในปี 1767 ซึ่งเป็นเวลา 3 ปีหลังจากที่อัฐิของ St Dujam ได้ถูกย้ายมาไว้ที่นี่
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 609 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:14
|
|
ส่วนวิหาร Cathedral of Saint Domnius นี้ อุทิศแด่
พระแม่มารีบริสุทธิ์ และ ส่วนหอระฆังอุทิศแด่ Saint Duje
ท่านเซนต์เป็นที่นับถือว่าคือองค์อุปถัมภ์พิทักษ์สปลิท เกิดที่(ปัจจุบันนี้คือ) Syria
และได้มาเป็นบิชอปแห่ง Salona เมื่อศตวรรษที่ 3 ท่านคือมรณสักขีถูกสังหารโดย
การบั่นเศียรเมื่อปี 303 ที่ Salona ช่วงที่จักรพรรดิไดอะคลีชั่นครองอาณาจักรโรมัน
Persecution of Christians Under Emperor Diocletian and Maximus (301 A.D.)
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 610 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:15
|
|
หอระฆังแห่งวิหารตั้งสูงตระหง่าน 60 ม.เหนืออาคารทั้งปวง
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 611 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:17
|
|
นอกจากจะเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองในวันนี้แล้วยังชวนให้คิดถึงการ"เอาคืน"
องค์จักรพรรดิโรมันผู้สร้างเมืองและสถาปนาองค์เป็นเทพแล้วกวาดล้างผู้นับถือพระเจ้าอื่น
แต่ในที่สุดก็ไม่อาจอยู่ค้ำฟ้า วังที่สร้างขึ้นมาก็กลับถูกชนที่นับถือพระเจ้าองค์อื่นเข้าครอบ
ครองในกาลต่อมา
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 612 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:19
|
|
โครงสร้างสไตล์โรมาเนสค์เริ่มก่อสร้างระหว่างศตวรรษที่ 12 - 14 ช่วงที่สปลิท
เป็นชุมชนอิสระยุคกลาง ต่อมาได้รับการบูรณะแล้วแปรโฉมในศตวรรษที่ 19 (ปี 1908)
และประติมากรรมแบบโรมาเนสค์ได้ถูกย้ายออกไปด้วย
ภาพจากเน็ท
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 613 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:21
|
|
หอศีลจุ่ม (Baptistry หรือ Baptistery)
เดิมคือวิหารเทพจูปิเตอร์ Temple of Jupiter
อาณาบริเวณลาน(peristyle) นี้คืออาณาบริเวณแห่งลัทธิศรัทธาบูชาเทพ
ของไดอะคลีชั่น ฟากตรงข้ามกับสุสานพระองค์รงมีบัญชาให้สร้างวิหารบูชาเทพบดี
จูปิเตอร์ นอกจากนี้ยังมีวิหารเทพอีกสองแห่งในฟากเดียวกันหันหน้าสู่สุสาน แต่ได้ถูก
รื้อถอนลงคงเหลือรอดแต่วิหารเทพจูปิเตอร์เพราะได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นหอศีลจุ่ม ตำแหน่ง
ที่ตั้งของวังอยู่ในแนวที่สมมาตรกับสุสานจักรพรรดิด้านตะวันออกและวิหารจูปิเตอร์ด้านตะวันตก
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
SILA
|
|
ความคิดเห็นที่ 614 เมื่อ 11 ต.ค. 13, 11:26
|
|
Robert Adam นักโบราณคดีสถาปนิกชาวสก็อตยกย่องให้เป็นหนึ่งในอนุสรณ์
สถานที่สวยงามที่สุดในยุโรป อาคารรูปสี่เหลี่ยมอุทิศแด่เทพจูปิเตอร์สร้างอยู่บนยกพื้น
สฟิงซ์อีกหนึ่งนางที่ยังเหลืออยู่จากการนำเข้ามาหลังชัยชนะเหนืออียิปต์ประดับริมทาง
เข้า ประตูเข้าโถงวิหารเทพขนาดใหญ่สลักตกแต่งเสาและคานสวยงาม
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
