เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 13:10



กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 13:10
ละครเรื่องยาว "ศรีอโยธยา"จบภาคแรกไปแล้ว หลังออกอากาศได้ 20 ตอน  ยังไม่ทราบว่าภาค2 จะมาถึงเมื่อไร
กระทู้นี้เป็นบันทึกเบื้องหลังความเป็นมาส่วนหนึ่งของละคร ที่มีนวนิยายเรื่อง "เรือนมยุรา" ของ "แก้วเก้า" เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย      นำลงเพื่อเป็นหลักฐานให้ผู้สนใจได้ค้นคว้าศึกษา ไม่ว่าจะในด้านการทำละคร การเขียนบท หรือในการทำวิจัยเกี่ยวกับนวนิยาย และละคร ก็ตาม   
และรวมการแสดงความเห็นเกี่ยวกับกลวิธีการนำเสนอละครเรื่องนี้   เน้นในเรื่องที่เกี่ยวกับ "เรือนมยุรา" แต่ก็อาจจะต้องเลยไปถึงประเด็นอื่นด้วยบ้างตามความจำเป็น

เรื่องเดิมมีอยู่ว่า ทางช่อง True4U ได้มาติดต่อขอนำนวนิยายเรื่อง "เรือนมยุรา" ไปทำเป็นละครออกทางช่อง 24   " แก้วเก้า" เจ้าของเรื่องก็ได้ตกลงทำสัญญากัน
ต่อมาได้รับแจ้งจากผู้บริหารว่า ได้ติดต่อขอให้ม.ล. พันธ์เทวนพ เทวกุล มาเป็นผู้กำกับละครเรื่องนีิ้  เจ้าของบทประพันธ์ก็รับทราบเรื่องนี้

วันหนึ่งได้ไฟล์ส่งมาทางอีเมล์    ทำนองเหมือน portfolio ของละคร  ซึ่งแทนจะเป็นละครเรื่อง "เรือนมยุรา"  อย่างที่ตกลงกันไว้แต่แรก ก็กลายเป็นละครเรื่อง "ศรีอโยธยา"   ชื่อภาษาอังกฤษคือ The Lost Mansion  และมีข้อความในบรรทัดรองลงมาว่า  ดัดแปลงจากเรื่อง "เรือนมยุรา"

การเตรียมการในลักษณะนี้   เจ้าของบทประพันธ์ไม่รู้เรื่องมาก่อน   ไม่เคยมีใครมาบอกกล่าวหรือขออนุญาต หรือทำความตกลงกันก่อนจะมีไฟล์นี้ส่งมา


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 13:11
นอกจากนี้ มีข้อความในหน้าต่อมาว่า


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 21 ก.พ. 18, 13:41
ผมงี้ รีบวิ่งมานั่งข้างหน้าเลยครับ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 14:12
ขยับที่เผื่อท่านอื่นๆด้วยนะคะคุณนริศ  ;D

ก่อนอื่น ขอเล่าเรื่องย่อของเรือนมยุราเสียหน่อย  สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ จะได้ปะติดปะต่อเนื้อหาในกระทู้ได้

     "เรือนมยุรา" เป็นจินตนิยาย หรือเรียกกันว่านิยายแฟนตาซี  ตามแนวของ "แก้วเก้า" เนื้อหาคาบเกี่ยวกับสองยุคคืออยุธยาเมื่อพ.ศ. 2310 ปี่ที่เสียกรุงครั้งที่ 2   กับยุคปัจจุบัน สองร้อยกว่าปีหลังจากนั้น    ตอนแก้วเก้าเขียนเรื่องนี้ลงในพลอยแกมเพชร จำได้ว่าประมาณพ.ศ. 2535 
     ขอเรียงลำดับเรื่องว่า ในสมัยอยุธยามีคนตระกูลพราหมณ์เดินทางมาจากอินเดียตอนเหนือ เข้ามาสวามิภักดิ์กับพระเจ้าปราสาททอง แล้วก็รับราชการเรื่อยมา กลายเป็นขุนนางไทยเชื้อสายแขกขาว จนถึงยุคพระเจ้าเอกทัศ  ขุนนางในตระกูลนี้มีชื่อว่าพระยาเทพสงคราม   เป็นขุนนางคนสนิทเป็นที่ไว้พระทัยของพระเจ้าอุทุมพร   
พระยาเทพสงครามมีน้องสาวชื่อเจ้าจอมแส  หรือหม่อมแส  เป็นหม่อมของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง) ตอนเปิดฉากเรื่องนี้ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์สิ้นพระชนม์ไปหลายปีแล้ว     นอกจากน้องสาว พระยาเทพสงครามมีลูกชาย 4 คนและลูกสาวคนเดียวเป็นลูกคนสุดท้องชื่อนกยูง อายุ 16 ปี เป็นสาวสวยหน้าตาเหมือนแขกขาวตามเชื่อสายพ่อ
      ความลับของตระกูลนี้คือ นกยูงสำริด  ซึ่งแพนหางของมันหมุนได้ด้วยอาคมขลังที่ตกทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูลพราหมณ์   สามารถบังคับเวลาในสถานที่ที่นกยูงตั้งอยู่ ให้เวลาเดินช้ากว่าภายนอก 100 เท่า   
      ในพ.ศ. 2310  พระยาเทพสงครามพาลูกชายออกไปสู้ศึกพม่า   ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวจึงปิดเรือน ให้นกยูงอยู่กับพี่เลี้ยงและบ่าวไพร่ผู้หญิง กับเด็กรับใช้ตัวจิ๋วไว้จุกชื่อเจ้าสัมฉุน   ใช้อาคมทำให้แพนหางนกยูงหมุนช้ากว่าธรรมดา 100 เท่า   เวลาในเรือนผ่านไป 1 วันภายนอกจะเท่ากับ 100 วัน     เพราะพระยาเทพสงครามไม่รู้ว่าศึกจะยืดเยื้อเท่าใด  ก็ตั้งใจว่าเสร็จศึกแล้วจะมาเปิดเรือน กลับเข้าบ้าน
     ก่อนปิดเรือน  นกยูงไปหาเจ้าจอมแสผู้เป็นอาในวัง  ขากลับ พบขุนนางหนุ่มชื่อจมื่ยไวยวงศา หรือพระนายไวยที่ท่าน้ำ    จมื่นไวยวงศาหลงรักนกยูงจึงส่งเพลงยาวมาติดต่อจนลอบมาพบนกยูงได้ในเรือน    นกยูงนัดให้จมื่นไวยมาหาอีกครั้งก่อนเรือนปิด เพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน  แต่จมื่นไวยมาถึงช้าเกินไป  เรือนถูกปิดผนึกและหายไปในมิติเวลาต่อหน้าต่อมา
    แม่นกยูง  ยี่ภู่พี่เลี้ยงสาวของนกยูง   เจ้าส้มฉุนกับบ่าวหญิงอีกหลายคนก็เลยติดอยู่ในเรือน    พ่อกับพี่ชายไปทำศึกไม่ได้กลับมาอีกเลย จนเวลาผ่านไป 2 ปี  เสบียงอาหารหมด นกยูงต้องเปิดเรือนออกมาซื้อเสบียง จึงพบว่าเวลาผ่านไปแล้ว 200 ปี
   หญิงสาวสมัยปลายอยุธยาก็เลยต้องออกมาผจญโลกในยุคปัจจุบัน พร้อมด้วยองครักษ์หัวจุกตัวน้อย

   https://www.youtube.com/watch?v=e4eiVLbiHqA


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 14:18
       จากเรื่องย่อข้างบนนี้  คงเห็นได้ว่า เนื้อเรื่องภาคอดีตจบลงก่อนกรุงแตก   คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างการทำศึกครั้งสุดท้าย    นกยูงไม่มีโอกาสเห็นพม่าเข้ากรุงศรีอยุธยา     จมื่นไวยหรือพระนางไวยคนรักของนกยูงก็พลัดพรากกันตั้งแต่เรือนปิด  ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีิอย่างไร  แม้แต่พ่อ  อา  และพี่ชายเป็นอย่างไรนกยูงก็ไม่อาจรู้    ก่อนหน้านี้นกยูงก็อยู่ในบ้านกับพ่อและพี่ๆมาตลอด  ไม่เคยเข้าไปอยู่ในวัง      อยุธยาที่นกยูงเห็นจึงเป็นช่วงบ้านเมืองยังสงบอยู่เป็นครั้งสุดท้าย
      ด้วยเหตุนี้ เมื่ออ่านบทบาทของแม่นกยูงใน ศรีอโยธยา    นักเขียนก็เกิดอาการช็อคไม่เล็กนัก


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 14:33
เท่านั้นยังไม่พอ  ยังมีบทพระนายไวยวงศาที่ "แก้วเก้า" ไม่รู้จักทั้งบทเลยอีกด้วย

พระนายไวยวงศาใน "เรือนมยุรา" มีบทกล่าวไว้สั้นๆว่าเป็นขุนนางหนุ่มรูปหล่อของอยุธยา เจ้าชู้ มีนางเล็กๆเต็มบ้าน  นกยูงไม่รู้เรื่องเหล่านี้    ทั้งสองพบกันช่วงสั้นๆแล้วพลัดพรากจากกันเพราะพระนายไวยตามมาเข้าเรือนไม่ทัน 
หลังจากนั้นอีก 200 ปี นกยูงมาพบชายหนุ่มชื่อ " พระนาย" เจ้าของร้านแอนทีคในกรุงเทพ   หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงพระนายไวยวงศา ชื่อก็คล้ายกัน  นกยูงก็ปักใจเชื่อว่าเป็นคนรักเดิมกลับชาติมาเกิด   แต่เอาเข้าจริงก็กลับเป็นว่านกยูงเข้าใจผิด

ส่วนพระนายไวยหรือจมื่นไวยวงศาใน "ศรีอโยธยา" ถูกดัดแปลงแต่งเติมบทไปมาก จนเจ้าของเรื่องจำไม่ได้



กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 21 ก.พ. 18, 15:27
       จากเรื่องย่อข้างบนนี้  คงเห็นได้ว่า เนื้อเรื่องภาคอดีตจบลงก่อนกรุงแตก   คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างการทำศึกครั้งสุดท้าย    นกยูงไม่มีโอกาสเห็นพม่าเข้ากรุงศรีอยุธยา     จมื่นไวยหรือพระนางไวยคนรักของนกยูงก็พลัดพรากกันตั้งแต่เรือนปิด  ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีิอย่างไร  แม้แต่พ่อ  อา  และพี่ชายเป็นอย่างไรนกยูงก็ไม่อาจรู้    ก่อนหน้านี้นกยูงก็อยู่ในบ้านกับพ่อและพี่ๆมาตลอด  ไม่เคยเข้าไปอยู่ในวัง      อยุธยาที่นกยูงเห็นจึงเป็นช่วงบ้านเมืองยังสงบอยู่เป็นครั้งสุดท้าย
      ด้วยเหตุนี้ เมื่ออ่านบทบาทของแม่นกยูงใน ศรีอโยธยา    นักเขียนก็เกิดอาการช็อคไม่เล็กนัก

หน้าตาโทนนี้น่าจะสืบเชื้อสายมาจากพระยาโชฎึก มากกว่าเชื้อสายพราหมณ์นะคะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 21 ก.พ. 18, 15:30
อ้าว!รูปไม่มาด้วย ดิฉันหมายถึงแม่นกยูง เวอร์ชั่นหม่อมน้อยน่ะค่ะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 15:41
หน้าตาโทนนี้น่าจะสืบเชื้อสายมาจากพระยาโชฎึก มากกว่าเชื้อสายพราหมณ์นะคะ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A116.png)


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 17:46
  บทที่ผู้สร้างละคร "ศรีอโยธยา" กำหนดให้นกยูงข้างล่างนี้   เป็นบทเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งหมด ไม่มีในนิยาย   แล้วยังสร้างตัวละครชายขึ้นมาชื่อเจ้าฟ้าสุทัศ  เป็นผู้หลงรักนกยูง ก่อรักสามเส้ากับจมื่นไวย


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 17:54
 ถ้าอย่างนั้น เจ้าฟ้าสุทัศมาจากไหน  คำตอบก็คือ เจ้าฟ้าสุทัศถูกดัดแปลงเพิ่มเติมแบบสุดกู่จากตัวละครพระรองใน "เรือนมยุรา" ชื่อวีร์ หรือนรวีร์
  นรวีร์ใน "เรือนมยุรา" เป็นอดีตดาราวัยรุ่นที่เคยโด่งดัง   พออายุมากขึ้นเป็นหนุ่มเต็มตัวก็อับแสงลง แต่ก็ยังพอมีงานทำ    นรวีร์ที่แท้คือจมื่นไวยวงศาอดีตคู่รักของนกยูงเมื่อชาติก่อน แต่พอกลับมาเกิดหน้าตาก็ไม่เหมือนเดิม  เขาเองระลึกชาติไม่ได้ แต่ยังหลงรักนกยูงเมื่อเห็นเช่นเดียวกับชาติก่อน  
  แต่ใน "ศรีอโยธยา" ฮัท เดอะ สตาร์รับบทนี้ กลายเป็นดารานักร้องดังเป็นพลุแตก  และชาติก่อนเป็นเจ้าฟ้าสุทัศคู่แข่งของพระเอก


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 18:05
ตัวละครรองอีกตัวหนึ่งในเรือนมยุรา ชื่อ ฝอยฝน  เป็นสาวใสๆน่ารัก  มีบทบาทคู่กับพระรองเป็นผู้ช่วยนางเอก   ตอนเป็นละครที่ช่อง 3 คุณยศสินี ณ  นครที่ยังดูเป็นสาวรุ่นๆอยู่รับบทนี้  เหมือนเดินออกมาจากหนังสือ   เป็นบทที่เพิ่มรสชาติให้เรื่องแบบไม่ฉูดฉาดบาดตา
ดิฉันเสียดายมากที่บทนี้ถูกดัดแปลงใหม่ ให้กลายเป็นนางรองที่หลงรักพระเอกจนกลายเป็นรักสามเส้า   กลายเป็นสีสันฉูดฉาด คนละคน คนละเนื้อหากัน


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 18:24
ส่วนที่ดิฉันไม่เห็นด้วยยิ่งขึ้นอีกก็คือมีการเพิ่มบทเจ้าฟ้ารุจจาเทวีพระธิดาพระเจ้าบรมโกศ ให้มาหลงรักจมื่นไวยวงศา โดยกำหนดให้เป็นชาติก่อนของฝอยฝน
แล้วผิดยิ่งกว่านี้คือกำหนดให้เจ้าฟ้าหญิงได้รับพระราชานุญาต เสกสมรสกับหัวหมื่นมหาดเล็ก สมพระทัยเจ้าหญิง

ดิฉันไม่อยากให้ เจ้าของเรื่อง "เรือนมยุรา" ถูกเข้าใจผิดว่าเขียนอะไรผิดหลักโบราณราชประเพณี  ฉีกแนวกันไปได้ถึงขนาดนี้  
เจ้าฟ้ารุจจาเทวีถูกดัดแปลงจากพระองค์จริงคือพระองค์เจ้ารุจจาเทวี มีพระนามปรากฏว่าเป็นพระราชธิดาพระเจ้าเอกทัศอันประสูติจากเจ้าจอม    แม้ว่าไม่ทรงมีบทบาทแสดงรายละเอียดใดๆในประวัติศาสตร์  แต่ในเมื่อพงศาวดารระบุพระนามว่ามีจริง   ดิฉันก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่า มีส่วนร่วมในการทำสิ่งใดให้เสียหายถึงพระอิสริยยศของเจ้านายจริงๆ
เกรงว่าจะไม่เป็นมงคลกับตัวเอง    
ใครไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ ดิฉันเชื่อค่ะ  



กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 19:25
ตัวละครอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่ฉงนสนเท่ห์กันมากถึงบทบาทในเรื่อง คือพระกำนัลนารีสังข์
ตัวละครตัวนี้ถูกดัดแปลงจาก "จั๊ด" ในเรือนมยุรา   แต่เป็นการดัดแปลงไกลจากตัวเดิมมาก   เพิ่มชาติเป็น 2 ชาติด้วยกัน 
จั๊ดใน "เรือนมยุรา" เป็นหนุ่มใหญ่ใจหญิง   เป็นบทตัวร้ายที่น่ารักและน่าหมั่นไส้มากกว่าจะร้ายจริงๆ     คุณไก่ วรายุฑ เล่นบทนี้ได้ถึงบทถึงบาท     แต่มาถึง "ศรีอโยธยา"  จัํ๊ดถูกนำเสนอผิดแผกอย่างไรอ่านได้ข้างล่างค่ะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 19:30
เมื่อออกอากาศ พระกำนัลนารีสังข์แต่งหน้าอีกแบบหนึ่ง ไม่เหมือนในไฟล์
กลายเป็นกะเทยประจำราชสำนัก เข้านอกออกในได้ทุกแห่งแม้ในเขตพระราชฐานชั้นใน   บทบาทเป็นผู้ร้ายเต็มขั้น


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 19:46
  ในการทำสัญญา  มีข้อหนึ่งระบุว่า
  "เพื่อประโยชน์แห่งการนำเอางานวรรณกรรมตามสัญญาไปสร้างเป็นวัสดุแพร่ภาพ ตามความประสงค์ของ"ผู้รับอนุญาต"   " มีสิทธิ์ในการแก้ไขดัดแปลงรายละเอียดแห่งเนื้อเรื่องให้ผิดแผกไปจากบทประพันธ์ได้   แต่การแก้ไขและดัดแปลงเนื้อเรื่องต้องไม่ทำให้เนื้อเรื่องเดิมหรือเค้าโครงเรื่องเดิม และจุดประสงค์ของงาน วรรณกรรมเปลี่ยนแปลงไป
    
  ดิฉันเห็นว่าการแก้ไข เรือนมยุรา ให้เป็น "ศรีอโยธยา ฉบับดัดแปลงจากเรือนมยุรา" ทำให้เนื้อเรื่องเดิม เค้าโครงเรื่องเดิม และจุดประสงค์ของงานวรรณกรรม เปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว    จึงติดต่อขอเข้าพบผู้บริหารของ True4u  แจ้งให้ทราบว่าดิฉันไม่เห็นด้วย และไม่อนุญาตให้ทำละครในลักษณะนี้   คือ ถ้าจะทำ "เรือนมยุรา" ก็ทำ "เรือนมยุรา"  จะทำ "ศรีอโยธยา" ก็ทำ "ศรีอโยธยา"   เพราะทั้งสองเรื่องเป็นคนละแนว  ไม่สามารถผสมผสานกันได้
   ดิฉันได้รับคำตอบจากคุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ว่า ทรูไม่มีโครงการจะทำ "เรือนมยุรา" ในระยะ 2-3 ปีนี้
แต่จะทำ"ศรีอโยธยา"
  ในเมื่อได้คำตอบ ดิฉันก็ลากลับ  ด้วยความเข้าใจว่า เมื่อรู้แล้วว่าเจ้าของบทประพันธ์ไม่อนุญาตให้ออกมาเป็นอย่างนี้ ศรีอโยธยาก็จะได้รับการแก้ไข ให้เป็นละครประวัติศาสตร์เทิดพระเกียรติ  โดยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ "เรือนมยุรา" อีก
  ต่อมาเมื่อละครออกอากาศ  จึงพบว่า ตัวละครเอกหลายตัวในไฟล์ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อเท่านั้น แต่บทบาทเดิมยังคงอยู่   และไม่มีคำว่า ดัดแปลงจากเรือนมยุรา  หรือ The Lost Mansion
  แต่เรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร ดิฉันยังไม่ทราบ เพราะละครจบแค่ภาคแรกเท่านั้น   ดิฉันส่งอีเมลผ่านผู้บริหารอีกท่านหนึ่งไปให้หม่อมน้อย ให้ติดต่อกลับมาที่เบอร์โทร.ของดิฉัน เพื่อจะสอบถามถึงการดำเนินเรื่องว่าแก้ไขหรือยัง   ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจนบัดนี้

  ก็ขอชี้แจงความเป็นมาแต่เพียงนี้ค่ะ   ถ้าใครมีคำถามอะไรก็เชิญถามได้เลยนะคะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.พ. 18, 20:20
มองจากสายตาคนดู     ละครเรื่องศรีอโยธยา แยกโครงเรื่อง (plot) ได้ออกเป็น 3 โครงใหญ่ด้วยกัน
1  เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา  มีศูนย์กลางอยู่ที่รัชสมัยพระเจ้าเอกทัศ
2  เหตุการณ์ในชีวิตตัวละครสมัยอยุธยา 
3  เหตุการณ์ในชีวิตตัวละครปัจจุบัน
ทั้ง 3 ข้อยังมีพล็อตย่อยลงไปอีกมาก
   เช่น ข้อ 1 รัชสมัยพระเจ้าเอกทัศ  มีพล็อตย่อยคือ
    1.1 ศึกพม่า   
    1.2 ความยุ่งยากในราชสำนัก เช่นการทำเสน่ห์
    1.3 ความชิงดีชิงเด่นไม่ถูกกันระหว่างขุนนางฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว
ข้อ 2  มีพล็อตย่อย
    2.1 ชีวิตของขุนนางหนุ่ม 3 คนคือพระยาตาก หลวงยกกระบัตรทองด้วง และพระอุทุมพรบริบาลบุนนาค
    2.2 มิตรภาพของเจ้าฟ้าสุทัศและพระพิมานหัวหน้ามหาดเล็ก   
    2.3 ความรักของบุษบาบรรณกับพระพิมาน
    2.4 ความรักของเจ้าฟ้าสุท้ศที่มีต่อบุษบาบรรณ
    2.5 ความรักที่เจ้าฟ้ารุจจาเทวีมีต่อพระพิมาน
    ข้อ 2.2-2.5 นำไปสู่ 2.6  รักสี่เส้าระหว่างเจ้าฟ้าสุทัศ เจ้าฟ้ารุจจาเทวี พระพิมานและบุษบาบรรณ

    ยังไม่ได้พูดถึงพล็อตที่ 3  ด้วยซ้ำ   พอแยกแยะออกมาเป็นข้อๆ ก็ทำให้พอดูออกว่าเมื่อต้องดำเนินเรื่อง  พันเกลียวพล็อตทั้งหมดเข้าด้วยกัน   สโคปของละครจะกว้างและยุ่งยากมาก   แค่ตัดต่อพล็อตย่อยแต่ละเรื่องให้ดำเนินควบตู่ไปด้วยกัน ไม่ทิ้งส่วนใดส่วนหนึ่งไปนานๆก็เป็นเรืองยากมากทีเดียว


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 21 ก.พ. 18, 21:43
อ่านแล้วเครียดแทน มีแค่ชื่อที่ถูกดึงมาใช้ ดัดแปลงตรงไหนเนี่ย  >:(


นิยายเรื่องหนึ่งไม่ใช่เขียน 3 วันเสร็จ ยิ่งเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ยิ่งเหนื่อยขึ้นไปอีก มาเจอพระกำนัลนารีสังข์เข้าไปนี่ !@#$%^&*()_+


ช่วงนี้อารมณ์ไม่ดีเหมือนหน้าตา อาจแรงไปนิดขออภัยนะครับ  ;)


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: katathorn ที่ 22 ก.พ. 18, 09:25
ดิฉันก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่ามีส่วนร่วมในการทำสิ่งใดให้เสียหายถึงพระอิสริยยศของเจ้านายจริงๆ
เกรงว่าจะไม่เป็นมงคลกับตัวเอง    
ใครไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ ดิฉันเชื่อค่ะ
ทุกวันนี้ผมว่าผลกรรมก็เริ่มๆจะตามทันแล้วล่ะครับ ผมไม่เคยเห็นภาพยนต์หรือละครเรื่องไหนถูกวิพากษ์ได้รุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลยครับ

(https://scontent.fbkk2-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/28279091_10213365677914984_6424694117263734593_n.jpg?_nc_eui2=v1%3AAeEKVORxyXgOZ7e13WGKPMEuJChuhuAjWkGTTRFFmxZbVvE8Jdwpd3QLYr17APnjfCjwHMtuIkpVCo8YAp3bnwwGvHsEoqXq520kCzjDADwj8g&oh=4d5227d7db14b74eb2653737d0a39ddc&oe=5B101CB2)

จริงๆมีอีกมากครับ แต่เอาแต่เพียงเท่านี้ก่อน


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 18, 10:58
  ขอบคุณค่ะคุณคทาธร  ถ้าเจออีกกรุณานำมาลงเพื่อประกอบกระทู้ด้วยนะคะ

  เนื้อหาของสามอาณาจักรที่ต่อเนื่องกัน คืออยุธยา(ตอนปลาย) ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ เป็นเนื้อหาที่ยิ่งใหญ่และยืดยาวพอจะทำซีรี่ส์ได้หลายสิบตอน       ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใส่ "เรือนมยุรา" เข้าไป โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของบทประพันธ์เขาไม่ยินยอม
  ดิฉันก็เลยไม่เข้าใจว่า ในเนื้อหา แทรกเรือนมยุราเข้าไปทำไม  มีฉากให้นกยูงซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อเป็นบุษบาบรรณครอบครองเรือนข้ามกาลเวลาตั้งแต่อยุธยาตอนปลายมาถึงยุคปัจจุบัน    มีบางตอนแสดงให้เห็นว่าเธอเปิดเรือนออกมาสู่โลกภายนอกเป็นครั้งคราว   นี่คือเนื้อหาของเรือนมยุรา  ที่เป็นคนละพล็อตกับเนื้อหาศึกพม่าและเนื้อหากลับชาติมาเกิด
   
   องค์ประกอบอย่างอื่นจากเรือนมยุรา ยังมีให้เห็นอีก คือมีเด็กหัวจุกอยู่ในเรือน เปลี่ยนชื่อจากส้มฉุนในนวิยาย เป็นทองหยิบ  เปลี่ยนบทจากเด็กรับใช้มาเป็นหลานของนางเอก   แต่ฉากที่ทองหยิบออกมาสู่โลกภายนอก มาพบตัวละครในยุคปัจจุบัน ได้กินลูกอมซึ่งไม่มีในสมัยอยุธยา  ทั้งหมดนี้เป็นฉากในเรือนมยุรา ที่หม่อมน้อยไม่ได้ลบออกไป   ทั้งๆดิฉันคิดว่าไม่จำเป็นกับเนื้อเรื่อง    เพราะผู้เขียนบทละคร เขียนพล็อตให้ตัวละครกลับชาติมาเกิดกันแบบยกทีม  เหตุไฉนจึงปล่อยให้นางเอกและเด็กชายทองหยิบตกสำรวจอยู่แค่ 2 คน     แล้วนางเอกกับทองหยิบเป็นผีหรือเป็นคน  ทำไมหายตัวได้  ทำไมมีฤทธิ์ ทำไมรู้เรื่องราวของโลกภายนอก   ก็ไม่มีการเฉลย
   พล็อตที่ซ้อนกันหลายพล็อต  ไม่ได้เชื่อมต่อกันได้สนิท ทำให้ติดตามเรื่องได้ยาก สับสนอลหม่าน จากยุคอดีตมายุคปัจจุบัน  จากพล็อตประวัติศาสตรมาพล็อตชิงรักหักสวาท  และยังพล็อตกลับชาติมาเกิด แทรกเข้ามาอีก   ไม่รวมพล็อตเรือนมยุราซึ่งไม่ได้เข้ากับพล็อตอื่นๆอีกด้วย


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ก.พ. 18, 11:21
หากตัดพล็อต "เรือนมยุรา" และฉากปัจจุบันออก เดินเรื่องให้กระชับและถูกต้องตามราชประเพณี "ศรีอโยธยา" น่าจะสามารถเดินเรื่องจากอยุธยาตอนปลายจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ได้ภายใน ๒๐ ตอน พร้อมกับได้รับคำชมเชย

เสียดายงบประมาณในการสร้าง และเสียดายเวลาในการเฝ้าชม

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley14.png)


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 18, 11:39
    คิดตรงกับคุณเพ็ญชมพูค่ะ     ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ดราม่าเข้มข้น  สมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว
    เสียดายอีกข้อคือ ได้ดาราเด่นๆอย่างศรราม อย่างตุ้ยธีรภัทร มารับบทบุคคลสำคัญในอดีต   ทั้งสองคนมีฝีมือในการแสดงมายาวนาน   น่าจะได้โชว์ฝีมือ   แต่กลับมีบทออกมาให้เห็นน้อยมาก    คนดูยังไม่ทันเห็นคุณสมบัติที่เด่นของพระยาตากและหลวงยกกระบัตรราชบุรี   มีแต่บทเข้าเฝ้าบ้าง  บทเดินชมซ่องโคมเขียวบ้าง บทประจำอยู่บนเชิงเทินคุยกันไปมาบ้าง   ไม่ได้ชี้ให้เห็นเลยว่าสองท่านนี้ก้าวจากขุนนางหนุ่มขึ้นสู่ความเป็นมหาราชได้อย่างไร
    ที่น่าสังเกตอีกอย่างคือบทกลับไปเน้นความสำคัญที่ฮัท  ทั้งๆบทวายุที่เขาเล่นก็เป็นบทลอยๆ ไม่มีอะไรเด่น  เราก็ได้เห็นวายุแด๊นซ์ถ่ายทำมิวสิควิดีโอบ้าง ขับรถสปอร์ตบ้าง   อาบน้ำบ้าง ถอดเสื้อโชว์หุ่นบ้าง  เดินสำรวจที่รกร้างมีแต่ซากศาลพระภูมิก็กินเวลาเข้าไปหนึ่งตอน        แถมตอนท้ายๆก่อนจบยังมีบทถูกหึงริมสระว่ายน้ำ ผู้หญิงตบตีกันตกน้ำ   ราวกับตลกหนังไทยเมื่อ 50 ปีก่อน 
    นอกจากบทวายุมาถึงบทเจ้าฟ้าสุทัศซึ่งเป็นคู่ชิงนางเอกจากพระเอก   โดยการผูกพล็อต สามารถทำให้ดราม่าได้มาก แต่พอนำเสนอ  ฮัทแทบไม่มีบทประกบคู่กับแพนเค้ก  มีแต่บทประกบคู่กับอนันดาไม่รู้ว่ากี่ฉากต่อกี่ฉาก   จนบางทีดูแล้วไม่รู้ว่าเจ้าฟ้าสุทัศรักเพื่อนหรือรักผู้หญิงกันแน่   


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 18, 21:18
       ประวัติศาสตร์ช่วงอยุธยาตอนปลาย เรื่อยมาจนถึงธนบุรีและรัตนโกสินทร์เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการทำละครประวัติศาสตร์  จะเห็นได้ว่า สายโลหิต ฟ้าใหม่ พิษสวาท นิราศสองภพ ล้วนแต่หยิบช่วงเวลาที่ว่ามาเป็นพื้นฐานทั้งสิ้น  แต่ทั้งหมดนี้มีเส้นเรื่อง (story line) แตกต่างกันไปคนละแบบ   เส้นเรื่องที่ว่านี้คือหยิบยกชีวิตผู้คนและประเด็นในเรื่องตามแนวถนัดของผู้ประพันธ์
     ถ้าหากว่าศรีอโยธยาจะทำอีก ก็ต้องเลือกเส้นเรื่องที่ไม่ไปซ้ำกับละครเรื่องก่อนๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว  ดิฉันพิจารณาจากไฟล์ที่ส่งมาให้ คิดว่าผู้เขียนบทมี story line ของตัวเองอยู่แล้ว    ลองแกะรอยเส้นเรื่องดูก็ได้คำตอบมาว่า  เหตุการณ์ตอนปลายอยุธยาโฟกัสไปที่มหาดเล็กหนุ่มซึ่งรักอยู่กับนางละครในราชสำนักพระเจ้าเอกทัศ   แต่นางละครก็เป็นที่หมายปองของเจ้าชายพระราชโอรส   ส่วนพระเอกก็ถูกหมายปองจากเจ้าหญิงพระราชธิดา   เมื่อเกิดศึกครั้งสุดท้าย  ทั้งมหาดเล็ก เจ้าชายและเจ้าหญิงตายกันหมด   แล้วกลับชาติมาเกิดเป็นคนยุคปัจจุบัน    มหาดเล็กเป็นนักโบราณคดี   เจ้าชายมาเกิดเป็นดารานักร้องคนดัง   เจ้าหญิงมาเกิดเป็นสาวไฮโซ  ส่วนนางละครซึ่งควรจะมาเกิดใหม่ให้ครบชุด  กลับไม่ได้เกิด  ยังคงอยู่เฝ้าอดีตในที่อยู่เดิมเมื่อพ.ศ. 2310   ส่วนจะเป็นผีหรือเป็นคน  ละครก็ยังบอกได้ไม่เคลียร์  
    ดูๆว่าเรื่องคงจะดำเนินไปซ้ำรอยกับชาติก่อน คือเจ้าหญิงเมื่อชาติก่อนก็ยังคงตามมาหลงรักพระเอกในชาตินี้  แล้วก็คงผิดหวังอีกเป็นชาติที่สอง เพราะละครปูพื้นให้เห็นว่านักโบราณคดีแสดงความไม่แยแสเธอจนออกนอกหน้า    ส่วนเจ้าชายที่ชาติใหม่เป็นนักร้องดังก็คงจะได้พบนางละครแล้วหลงรักเช่นเดิม  แล้วก็ไม่สมหวังเช่นเดิม
     พระเอกนางเอกจะสมหวังกันไหม ยังดูไม่ออก  เพราะถ้านางเอกไม่ใช่คนก็คงลงเอยกันไม่ได้   ถ้านางเอกเป็นคนก็คงแฮปปี้เอนดิ้งกันไม่ยาก
    ที่จริง ถ้าไม่กำหนดบทบาทนางละครให้เป็นนางเอกในเรือนมยุรา  แต่เปลี่ยนให้เธอกลับชาติมาเกิดใหม่ ก็คงจะลงตัวพอดี  ไหนๆ ตัวอื่นก็กลับชาติมาเกิดกันหมดแล้ว      เจ้าของเรื่องเรือนมยุราได้ไม่ต้องเสียเวลามาตั้งกระทู้ในเรือนไทยว่า ในเมื่อไม่อนุญาตแล้ว   ยังเอาเนื้อเรื่องส่วนนี้ไว้ในละครด้วยเหตุใด


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 23 ก.พ. 18, 11:35
ส่วนตัวของผมนะครับ ผมติดตามข่าวเรื่องการสร้างละครเรื่องศรีอโยธยานี้อยู่ จึงพอจะทราบเรื่องการดัดแปลงเรือนมยุราอยู่บ้างแล้ว ในตอนแรก ผมเข้าใจเอาเองว่า ผู้สร้างศรีอโยธยา อยากใส่เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของตัวละครต่างๆ ในเรือนมยุราให้มากขึ้น (คล้ายๆกับผู้ที่ได้ชมสตาร์วอร์ แล้วอยากรู้ว่า ดาร์ธ เวเดอร์ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร การเขียนเรื่อเรื่องส่วนนี้เพิ่มเติมจึงส่งผลทำให้เนื้อเรื่องของสตาร์วอร์ขยายออกไปอีก)

ครั้นพอทราบว่า เจ้าของเรือนมยุรา ไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อ ผมก็เดาว่า การขยายความนี้คงจะมากเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นเรื่อง เรือนมยุราได้ เพราะผู้สร้างศรีอโยธยาได้นำเนื้อหาส่วนอื่นๆ มาห่อหุ้มโครงเรื่องเดิมจนทำให้ประเด็นเรื่องความรักของหญิงสาวยุคปลายอยุธยากับหนุ่มยุคปัจจุบัน กลายเป็นเพียงประเด็นเล็กๆ เมื่อเทียบกับประเด็นอื่นๆ เช่น บุคลิกของพระเจ้าเอกทัศน์ พระปรีชาสามารถของพระเจ้าตาก ความสัมพันธ์ระหว่าง พระเจ้าตาก รัชกาลที่ 1 และนายบุนนาค เรื่องมุมมองใหม่ที่มีต่อพระมหากษัตริย์พม่า สาเหตุของการเสียกรุง เหตุการณ์ปลายยุคกรุงธนบุรี เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ทำให้ละครเรื่องนี้ ไม่ควรชื่อว่า “เรือนมยุรา” อีกต่อไปแล้ว


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 23 ก.พ. 18, 11:40
เมื่อได้ทราบว่า ละครเปลี่ยนชื่อ ในตอนนั้น ผมเข้าใจว่า เนื้อหาส่วนที่เกี่ยวกับ “เรือน” น่าจะหายไปทั้งหมดด้วย ไม่มีเรือนและผู้คนที่ถูกซ่อนอยู่ในมิติเวลาอีกแล้ว ในตอนแรกที่เปิดตัวบุษบาบรรณ ที่หอประชุมครุสภา ผมยังเข้าใจว่าเธอเป็นวิญญาณที่พยายามจะมาบอกเล่า “เรื่องจริง” ของเหตุการณ์คราวเสียกรุงให้คนรุ่นหลังฟัง ว่าที่ "ถูกต้อง" แล้ว อยุธยาไม่เคยเสื่อม พระเจ้าเอกทัศน์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีและไม่เป็นอย่างที่คนรุ่นหลังไปตำหนิท่านไว้ และพระเจ้าตากไม่ได้ทิ้งหน้าที่หนีออกไปโดยพลการ และอื่นๆ อีกหลายประการที่คนรุ่นหลังเข้าใจผิด (ข้อเท็จจริงที่นำเสนอในละคร อาจมาจากข้อมูลประวัติศาสตร์สายรอง บางเรื่องเกิดจากการตีความเองของผู้สร้าง เรื่องราวอาจจะดำเนินไปไม่ตรงกับประวัติศาสตร์สายหลัก แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเทิดพระเกียรติบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า)

ผมพยายามเดาต่อไปอีกว่า วิญญาณบุษบาบรรณอาจมีข้อจำกัดบางประการ ทำให้ไม่อาจปรากฎตัวให้คนทั้วไปเห็นได้ ต้องเป็นคนที่มีกรรมผูกพันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เธอถึงต้องรอให้คนที่เธอเคยรู้จักในยุคนั้นกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ถึงจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟังได้ เรื่องราวจึงน่าติดตามต่อไปว่า เมื่อคนสมัยใหม่ได้ทราบเรื่องจริงแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นตามมา อาจลงท้ายว่า ความจริงสุดท้ายที่พิมานได้รับทราบจากวิญญาณบุษบาบรรณก็คือ ศพนางอยู่ที่ใด ตัวละครยุคปัจจุบัน ไปทำกระดูกของนางขึ้นมาทำพิธีทางศาสนาแล้วเธอก็จากไป แต่ความจริงเกี่ยวกับราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่บรรยง จะไม่สูญไปอีกแล้ว อะไรยังงี้ก็ได้มังครับ   

อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดนะครับ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 23 ก.พ. 18, 11:51
แต่พอละครออกมาจริงๆ ปรากฎว่า เรือนยังอยู่ รักสาม-สี่เส้า ยังอยู่ เรื่องราวต่างๆ อยู่ในประเด็นการตามหาคนรัก ถ้าจะบอกว่า การที่พิมานกับบุษบาบรรณจะรักกันได้ พิมานต้องจำอดีตได้เสียก่อน เพราะฉะนั้น เรื่องราวจึงต้องพยายามพาพิมาน ย้อนอดีต ไปเห็นความรุ่งเรืองของอยุธยาตอนปลายเสียก่อน 

ถ้าเป็นอย่างนี้ เรื่องราวในอดีต ก็คือ ความทรงจำของพิมาน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ สิ่งที่ปรากฎออกมา ก็ต้องเป็นสิ่งที่พิมานเคยเห็น เช่น  เช่น พระเจ้าเอกทัศน์มีบุคลิกเช่นใด พระเจ้าเอกทัศน์ กับพระเจ้าอุทุทพร มีความสัมพันธ์กันอย่างไร หรือเรื่องเรื่องอยุธยารบกับพระเจ้าอลองพญาด้วยกลศึกใด เป็นต้น (แม้ว่าจริงๆ เรื่องพวกนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรักของเขากับบุษบาบรรณเลยก็ตาม)

แต่เรื่องบางเรื่อง เช่น เรื่องเจ้าฟ้ากุ้งและเจ้าฟ้าสังวาลย์ พิมานน่าจะไม่ทันได้เห็น เหตุการณ์บางเหตุการณ์ เกิดขึ้นลับหลังพิมาน เช่น เรื่องที่สิน ทองด้วง และบุนนาค ไปเที่ยวหอโคมแดง เรื่องนี้พระมิมานในเวลานั้น ก็มิได้อยู่ด้วย แล้วภาพในละครที่ผู้ชมเห็น เป็นภาพอะไร มาจากไหน ใครเอามาเล่า

ต่อให้ผมไม่สนใจเรื่องความถูกต้องในเชิงประวัติศาสตร์ ผมก็ยังรู้สึกว่า ละครเรื่องนี้ เขียนบทไม่ดีอยู่ดีแหละครับ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.พ. 18, 13:25
   ขอบคุณค่ะคุณนริศ    ดิฉันรู้สึกว่าเส้นเรื่องหรือ story line ในความเข้าใจของคุณ เข้าท่ามากทีเดียว    ถ้าหากว่าละครสร้างเส้นเรื่องตามนี้ก็จะทำให้เรื่องดำเนินไปอย่างมีเป้าหมาย มีขอบเขต มีต้นมีปลาย   และไม่เกี่ยวกับเรือนมยุรา  ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเรือนในมิติเวลาและเด็กทองหยิบเข้ามาแทรกในสองยุค ให้งงกันไปเปล่าๆ

   ถ้าสิ่งที่บุษบาบรรณเล่าให้พิมานฟัง มีเป้าหมายอย่างที่คุณว่า  ผู้เขียนบทก็ควรจะรู้ว่าควรเน้นที่เหตุการณ์ไหน จุดไหน และตัวละครใดบ้าง    ถ้าจะสร้างให้เห็นว่าพระเจ้าเอกทัศเป็นกษัตริย์ที่ดี  เหตุการณ์เจ้าจอมแขถวายตัวและทำเสน่ห์ก็ตัดออกไปดีกว่า    การโยนความผิดว่าการเสียกรุงเกิดจากพระเจ้าแผ่นดินถูกเสน่ห์มนต์ดำ ไม่เป็นการเฉลิมพระเกียรติตรงไหนเลย     นอกจากนี้บทบาทของขุนนางหนุ่มๆคนรุ่นใหม่ของอยุธยาอย่างท่านสิน ท่านทองด้วง ท่านบุนนาคก็ควรจะได้รับการเน้นไปที่ฝีมือและความเฉลียวฉลาด   เพื่อปูพื้นความเป็นมหาราชของทั้งสองท่าน และอีกท่านก็เจริญขึ้นเป็นขุนนางผู้ใหญ่ของรัตนโกสินทร์ 
   เท่าที่ดูมา ก็ไม่รู้สึกว่าผู้เขียนบทคิดแบบนี้ค่ะ  เนื้อหากว้างหลายทิศทาง   ตัวละครบางตัวออกมาบ่อยแต่บทมีน้ำหนักน้อยต่อการดำเนินเรื่อง เช่นบทวายุในปัจจุบันและเจ้าฟ้าสุทัศในอดีต   บทนางกำนัลสังข์ก็บ่อยกว่าบทพระยาตากและหลวงยกกระบัตรเสียอีก
   การให้เหตุผลในเรื่องก็ไม่ค่อยจะสมดุลย์กันนักในตัวเอง  เช่นฉากบุษบาบรรณโกรธแม่ลูกจันทน์สาวใช้ที่เอาเพลงยาวของผู้ชายมาส่งให้  ดุว่าไปเสียหลายคำว่าทำสิ่งไม่สมควร  ผิดกฎในวัง จะถูกเฆี่ยนหลังลาย   แต่พอรู้ว่าเป็นของพระพิมานก็ยิ้มแป้นรีบเปิดออกอ่าน    แสดงว่าที่ดุไปเมื่อครู่ก่อนไม่ได้มีความหมายอะไรเลย


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 23 ก.พ. 18, 15:12
เห็นด้วยกับคุณ Naris ค่ะ ทีแรกดิฉันคิดว่าบุษบาบรรณเป็นผี วิญญาน เทพธิดาอะไรทำนองนี้ ถึงได้ปรากฏตัวแบบแวบไปแวบมา


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 23 ก.พ. 18, 21:26
เรื่องความถูกต้องของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ก็เรื่องหนึ่ง
เรื่องความอ่อนของบทก็เรื่องหนึ่ง
ว่ากันไปครับ

แต่นี่จะเป็นเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ก็เรื่องใหญ่นะครับ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.พ. 18, 21:59
เรื่องใหญ่ค่ะ ถ้าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์จริง
ในเมื่อละครยังไม่จบ จะตัดสินว่าเหมือนเรือนมยุรามากน้อยแค่ไหน ก็ยังยากอยู่ค่ะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.พ. 18, 11:40

ผมพยายามเดาต่อไปอีกว่า วิญญาณบุษบาบรรณอาจมีข้อจำกัดบางประการ ทำให้ไม่อาจปรากฎตัวให้คนทั้วไปเห็นได้ ต้องเป็นคนที่มีกรรมผูกพันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เธอถึงต้องรอให้คนที่เธอเคยรู้จักในยุคนั้นกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ถึงจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟังได้ เรื่องราวจึงน่าติดตามต่อไปว่า เมื่อคนสมัยใหม่ได้ทราบเรื่องจริงแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นตามมา อาจลงท้ายว่า ความจริงสุดท้ายที่พิมานได้รับทราบจากวิญญาณบุษบาบรรณก็คือ ศพนางอยู่ที่ใด ตัวละครยุคปัจจุบัน ไปทำกระดูกของนางขึ้นมาทำพิธีทางศาสนาแล้วเธอก็จากไป แต่ความจริงเกี่ยวกับราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่บรรยง จะไม่สูญไปอีกแล้ว อะไรยังงี้ก็ได้มังครับ   

อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดนะครับ

กลับไปทบทวนความจำ    เนื้อเรื่องนี้คล้าย "พิษสวาท" ของ "ทมยันตี"   คงไม่ใช่เนื้อหาของ "ศรีอโยธยา" ที่ตั้งใจจะนำเสนอค่ะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: กงซุนต้าเหนียง ที่ 25 ก.พ. 18, 20:08
ปัญหาอีกอย่างที่ทำให้บทเละเทะก็คือความพยายามโปรโมทนักแสดง โดยการยัดเยียดบท/ฉาก (ที่ไม่จำเป็น) เข้าไปจนรกรุงรัง ไม่ผสานสอดคล้องเป็นเนื้อเดียวกันอย่างต้นฉบับ
ไม่รู้ว่าเป็นความต้องการของนายทุนหรือของตัวผู้กำกับเอง  ;D



กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: ศรีสรรเพชญ์ ที่ 25 ก.พ. 18, 21:52
ส่วนที่ดิฉันไม่เห็นด้วยยิ่งขึ้นอีกก็คือมีการเพิ่มบทเจ้าฟ้ารุจจาเทวีพระธิดาพระเจ้าบรมโกศ ให้มาหลงรักจมื่นไวยวงศา โดยกำหนดให้เป็นชาติก่อนของฝอยฝน
แล้วผิดยิ่งกว่านี้คือกำหนดให้เจ้าฟ้าหญิงได้รับพระราชานุญาต เสกสมรสกับหัวหมื่นมหาดเล็ก สมพระทัยเจ้าหญิง

ดิฉันไม่อยากให้ เจ้าของเรื่อง "เรือนมยุรา" ถูกเข้าใจผิดว่าเขียนอะไรผิดหลักโบราณราชประเพณี  ฉีกแนวกันไปได้ถึงขนาดนี้  
เจ้าฟ้ารุจจาเทวีถูกดัดแปลงจากพระองค์จริงคือพระองค์เจ้ารุจจาเทวี มีพระนามปรากฏว่าเป็นพระราชธิดาพระเจ้าเอกทัศอันประสูติจากเจ้าจอม    แม้ว่าไม่ทรงมีบทบาทแสดงรายละเอียดใดๆในประวัติศาสตร์  แต่ในเมื่อพงศาวดารระบุพระนามว่ามีจริง   ดิฉันก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่า มีส่วนร่วมในการทำสิ่งใดให้เสียหายถึงพระอิสริยยศของเจ้านายจริงๆ
เกรงว่าจะไม่เป็นมงคลกับตัวเอง    
ใครไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ ดิฉันเชื่อค่ะ  




แปลงบทขนาดยอมให้เจ้าฟ้าหญิงแต่งงานกับมหาดเล็กนี้เป็นเรื่องที่ทั้งผิดจารีตราชประเพณีอย่างยิ่งครับ

และยังบิดเบือนข้อมูลอ้างว่าเอาอย่างสมัยสมเด็จพระนารายณ์ยกพระขนิษฐาและพระราชธิดาให้เป็นชายาตั้งแต่ยังเป็นขุนนางอีก ทั้งที่หลักฐานประวัติศาสตร์ระบุว่าสมเด็จพระเพทราชาทรงนำทั้งสององค์มาเป็นพระมเหสีเมื่อขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ซึ่งก็เชื่อว่าเป็นรูปแบบหนึ่งในการสร้างสิทธิธรรมในการครองราชสมบัติของพระเพทราชาว่าทรงเกี่ยวดองกับสมเด็จพระนารายณ์ นอกจากนี้ทั้งสององค์เป็น "กรมหลวง" ก็ไปลดพระอิสริยยศลงมาเป็น "กรมหมื่น"

การดัดแปลงข้อมูลอันเป็นเท็จอย่างชัดเจนของผู้สร้างนั้น ส่วนตัวแล้วผมกลับเห็นว่ายิ่งเป็นสิ่งที่สวนทางกับที่อ้างว่าสร้างเพื่อ "เฉลิมพระเกียรติ" มาก เพราะแต่ละสิ่งล้วนแต่ไม่เป็นการเฉลิมพระเกียรติแต่ประการใดครับ นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นการดัดแปลงบทประพันธ์ดั้งเดิมจนเสียอรรถรสไปอย่างมากครับ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 26 ก.พ. 18, 10:20
รีบลอคอินมาตอบ

พลัดหลงไปเปิดเจอวันที่เอาตัวบ้าอะไรไม่ทราบมาร่ายรำยกแข้งยกขาต่อหน้าคุณอนันดา เล่นเป็นตัวอะไรไม่ทราบแต่คาดว่าเป็นเจ้านาย ทนดูได้แปปเดียว ไม่เข้าใจว่าคนเขียนบทสติสัมปชัญญะพังพินาศขนาดไหนถึงทำออกมาแบบนี้ได้ ทั้งกองไม่มีใครคิดจะทักท้วงอะไรเลยหรือ

ส่วนในเพจแอนตี้ละครลิงเรื่องนี้ หาคำชมมิได้ค่ะ



กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 18, 20:06
ถ้าหม่อมน้อยหรือทีมงานเข้ามาอ่าน ก็อยากขอร้องให้ตัดส่วนที่เอามาจากเรือนมยุราโดยไม่ได้รับอนุญาตออกไปเถอะค่ะ   ในภาค 2  หรือถ้าหากว่าตัดต่อใหม่ เพื่อฉายต่างประเทศ หรือเพื่อทำภาพยนตร์ แบบใดก็ตาม
คือตัดส่วนที่เป็นเรือนซ่อนอยู่ในมิติเวลา  นางเอกอยู่ในกาลเวลาอดีตแต่ยังมีตัวตนอยู่ในปัจจุบัน และบทเด็กหัวจุกที่เอามาจากเจ้าส้มฉุน ออกไป   
ถึงอย่างไร  story line ส่วนนี้ก็ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ และเนื้อหาไม่เกี่ยวกับจุดมุ่งหมายของศรีอโยธยาอยู่แล้ว


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.พ. 18, 21:02
     จาก เฟซบุ๊ก (https://b-m.facebook.com/story.php?story_fbid=506828949688778&id=501470936891246)  

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6855.0;attach=66409;image)

      ตัดเถิดตัด "เรือนมยุรา" เถิดหนาหม่อม
     คุณหญิงพร้อมให้อภัยไม่กังขา
     หากดื้อดึงต่อไปไม่นำพา
     จะยุ่งหนาเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
 

     (http://ptcdn.info/emoticons/smiley/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A116.png)


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: katathorn ที่ 27 ก.พ. 18, 02:14
  ขอบคุณค่ะคุณคทาธร  ถ้าเจออีกกรุณานำมาลงเพื่อประกอบกระทู้ด้วยนะคะ

จัดให้ครับ
(https://scontent.fbkk1-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/28378701_10213405370307269_6211523128864190562_n.jpg?_nc_fx=fbkk1-4&_nc_eui2=v1%3AAeH8p9gkPw-0h_evr89F9pg6YZRDFlf2y0NkQaGDdRqyKZXF2xdO3CbWnYvyR34whupx2R4abGJgD7vUpp10_RBQSrqoB3BIvJe_Tttoo9MfEw&oh=678052865510eecd73105b48cc2701fc&oe=5B4E60D6)


โดนโลกโซเชียลวิจารณ์และล้อเลียนหนักมาก ผมเองตอนนี้เริ่มรู้สึกสงสารคุณน้อยขึ้นมาบ้างแล้ว แต่อย่ามีภาคสองเลยครับ จบเหอะ

(https://scontent.fbkk1-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/28059463_1963616030633144_2004897244544586707_n.jpg?_nc_fx=fbkk1-4&_nc_eui2=v1%3AAeGmihBuDD_Qb3w7xXKQadtOrxz1rYKbY_mGtmnNSyi6hSNW-KCKb02lkupEKBjH7YJDBt7NJWZC7v8c9R_R_FXvlTgTH9pSOXf36xyk5MYD6g&oh=732838707fe3e9f92247680860560b17&oe=5B146839)
(https://scontent.fbkk1-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/28377653_583499805331814_6328575446351037999_n.jpg?_nc_fx=fbkk1-4&_nc_eui2=v1%3AAeEo9CaCqUZxU7htp2Jtp_x8itJhRtLIMNm6XrRRdvjetke7L-KH7sMD3RngHndMg6yw5LjLf8oYqah0JkKd5l2ts6dFT5MK0U0he3H_p8D3QA&oh=5da6a0fc74fb8bf2fca52af456d74dbc&oe=5B4CCFA7)


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: สายหยุด ที่ 07 มี.ค. 18, 13:15
สวัสดีค่ะ อาจารย์ทุกท่าน เพิ่งสมัครสมาชิกใหม่ไม่นาน และเพิ่งได้ไปซื้อนวนิยายเรื่อง "เรือนมยุรา" มาค่ะ
เพิ่งอ่านได้ไม่กี่หน้า

ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ


กระทู้: จาก "เรือนมยุรา" ถึง "ศรีอโยธยา"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มี.ค. 18, 13:52
ทำตัวตามสบายค่ะ