เรือนไทย

General Category => ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 21:29



กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 21:29
นอกจากวัดโชติการามแล้ว มีอีก2วัดที่เดิมตั้งใจว่าจะพาสมาชิกชมรมฯไป เมื่อไม่ได้ไปก็ต้องนำข้อมูลมานำเสนอ เพราะ2วัดนี้เกี่ยวเนื่องกัน เกิดจากบรรพบุรุษของชนชาติมอญที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย เข้ามารับราชการสร้างความดีความชอบมาชั่วลูกหลานเป็นที่โปรดของเจ้าแผ่นดินจนสืบเนื่องมาเป็นต้นสกุล "คชเสนี" ท่านผู้นั้นคือพญาเจ่ง(เจ่งแปลว่าช้าง) เรื่องราวและประวัติวัดเกาะพญาเจ่งมีดังนี้
วัดเกาะพญาเจ่ง หรือวัดเกาะบางพูดเดิมนั้น เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน แต่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่าประวัติเดิมของวัดนับแต่เริ่มสร้างนั้น สามารถค้นคว้าได้น้อยมาก อาจเป็นเพราะวัดนี้เป็นวัดเล็กๆ อยู่ในชุมชนชาวมอญไม่กี่หลังคาเรือนรอบวัด ชาวมอญนั้นได้นำพุทธศาสนาในรูปแบบของมอญมาด้วย มีวัดมอญประจำหมู่บ้าน และเนื่องจากเป็นผู้พลัดบ้านเมืองมาด้วยกัน จึงมีความรักใคร่เห็นใจกัน มีการติดต่อพึ่งพาอาศัยในหมู่เดียวกัน ความจำเป็นที่จะติดต่อกับคนนอกกลุ่มเกือบจะไม่มี 1

            อีกทั้งอุปสรรคทางด้านภาษาที่ขัดขวางการติดต่อกับคนไทยทั่วไป ทำให้การบูรณปฏิสังขรณ์อาจทำได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร ข้อมูลต่าง ๆ จึงไม่มีการรวบรวมไว้ แต่เมื่อความเจริญเริ่มเข้ามา วัดก็ได้มีการพัฒนาขึ้นตามลำดับ จากหลักฐานเท่าที่มีอยู่สามารถลำดับการพัฒนาของวัดได้ดังต่อไปนี้.-

สมัยกรุงธนบุรี

             พ.ศ. ๒๓๑๘ เริ่มสร้างวัดเกาะบางพูดโดยพระยาเจ่ง ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

            เจ้าพระยามหาโยธา นามเดิมว่า เจ่ง(แปลว่าช้าง) เป็นมอญนอก เดิมทำราชการอยู่กับพม่า ได้เป็นเจ้าเมืองเชียงแสนอยู่คราวหนึ่ง(มีเชื้อสายสืบกันมาอยู่ในเมืองนครลำปาง) แล้วจึงย้ายไปอยู่เมืองเตริน (อังกฤษเรียกว่าอัตรัน)อันเป็นเมืองข้างตอนใต้ ครั้นเมื่อสมัยกรุงธนบุรี พวกมอญถูกพม่ากดขี่เหลือทนเกิดเป็นกบฏขึ้น พระยาเจ่งเป็นหัวหน้าของพวกกบฏคนหนึ่งรวมกำลังยกขึ้นไปตีเมืองร่างกุ้ง สู้พม่าไม่ได้ก็พากันอพยพครอบครัวเข้ามาพึ่งไทย ในครั้งกรุงธนบุรีจะมีบรรดาศักดิ์อย่างใดไม่ทราบ ถึงรัชกาลที่ ๑ ทรงตั้งเป็นเจ้าพระยามหาโยธา จางวางกองมอญ ต่อมารบพุ่งพม่ามีความชอบ โปรดให้เลื่อนเป็นเจ้าพระยามหาโยธานราธิบดีศรีพิชัยณรงค์ บุตรของท่านคือเจ้าพระยามหาโยธา(ทอเรียะ) ท่านเป็นต้นสกุล คชเสนี 2
 
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์

รัชกาลที่ ๑

            พ.ศ. ๒๓๓๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

รัชกาลที่ ๒-๔

            เจ้าพระยามหาโยธา(ทอเรียะ) บุตรชายพระยาเจ่ง ทำการสร้างวัดต่อจากบิดา ขณะนั้นเรียกกันว่าวัดเกาะรามัญ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นชุมชนชาวมอญ และมีคลองบางพูดอยู่โดยรอบวัด

            เจ้าพระยามหาโยธา นามเดิม ทอเรียะ เป็นบุตรเจ้าพระยามหาโยธา(เจ่ง) ในรัชกาลที่ ๑ เกิดในเมืองมอญ อพยพเข้ามากับบิดาด้วยกัน จะมาได้เป็นตำแหน่งมีบรรดาศักดิ์อย่างใดก่อนหาทราบไม่ ได้เป็นเจ้าพระยามหาโยธาแทนที่บิดา ในรัชกาลที่ ๒ ถึงรัชกาลที่ ๓ โปรดฯ ให้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยามหาโยธาและได้เป็นแม่ทัพยกพลไปช่วยอังกฤษตีเมืองพม่าครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๘ บุตรของท่านคือ พระยาดำรงราชพลขันธ์(จุ้ย) ซึ่งเป็นบิดาเจ้าจอมมารดากลิ่น เจ้าจอมมารดาของกรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ รัชกาลที่ ๔ และพระยามหาโยธา(นกแก้ว) พระยาเกียรติ์(ขุนทอง)เป็นต้น

            เจ้าพระยามหาโยธา(ทอเรียะ คชเสนี) ถึงอสัญกรรมในสมัยรัชกาลที่ ๔ 3

            พ.ศ. ๒๓๖๕ - ๒๓๙๕ สมัยพระสุเมธาจารย์(เถ้า) เป็นเจ้าอาวาส

            ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยามหาโยธา(ทอเรียะ คชเสนี) มีศรัทธาสร้างวัดเกาะรามัญขึ้นที่ตำบลบางพูด เมืองนนทบุรีแล้วถวายเป็นพระอารามหลวง จึงขอพระราชทานพระสุเมธาจารย์(เถ้า) จากวัดปากอ่าว(วัดปรมัยยิกาวาส) ไปเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก โดยมีพระปลัดและพระวินัยธรซึ่งเป็นพระฐานานุกรมตามไปอยู่ด้วยตามธรรมเนียม พระสุเมธาจารย์เป็นเปรียญรามัญ พระราชาคณะชั้นสามัญ และเป็นเจ้าสำนักเรียนชั้นสูงของเมืองนนทบุรีขณะนั้น ท่านถึงแก่มรณภาพราว พ.ศ. ๒๓๙๕ 4

            พ.ศ. ๒๓๙๕ สมัยพระครูอินทมุนี เป็นเจ้าอาวาส วัดเกาะรามัญยังคงเป็นสำนักเรียนปริยัติธรรมรามัญ

สมัยรัชกาลที่ ๕ - ๘

            พ.ศ. ๒๔๒๓ เกิดเหตุการณ์เรือพระที่นั่งสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล่มลง ณ ตำบลบางพูด ซึ่งต่อมาได้ทรงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่วัดเกาะบางพูด

วันที่ ๔๒๒๐ วันจันทร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒(วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓)

            เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ได้เกิดอุบัติเหตุล่มลง ณ ตำบลบางพูด  สมเด็จพระนางเจ้า, เจ้าฟ้าในพระครรภ์, พระราชธิดา สิ้นพระชนม์พร้อมพระพี่เลี้ยงแก้ว การสิ้นพระชนม์ของพระปิยมเหสีและพระราชธิดาในครั้งนั้น ยังความโทมนัสยิ่งมาสู่พระพุทธเจ้าหลวง พระองค์จึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นที่วัดเกาะบางพูด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปก่อด้วยปูน หันพระพักตร์ไปทางทิศทั้งสี่ เข้าใจว่าทรงสร้างอุทิศให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ, เจ้าฟ้าในพระครรภ์, พระเจ้าลูกเธอและพระพี่เลี้ยงแก้ว กล่าวกันว่าพระพุทธเจ้าหลวงได้โปรดให้ฝังเรือพระที่นั่งซึ่งล่มไว้นั้น ไว้ใต้พระเจดีย์องค์นี้ด้วย ส่วนที่ข้างพระเจดีย์นั้น มีข้อความว่า

                                        ลาภยศใดใดไม่พึงปราถน์    นางใดใครปราถน์พี่ไม่ข้อง

                                        นางเดียวนางในหทัยปอง     นางน้องแนบในหทัยเรา

                                                 ตราบขุนคีรีขัน          ขาดสลาย    แลแม่

                                                 รักบ่หายตราบหาย     หกฟ้า

                                                 สุริยจันทรขจาย        จากโลก       ไปฤา

                                                 ไฟแล่นล้างสี่หล้า      ห่อนล้าง       อาลัย 5

            พ.ศ. ๒๔๓๒ - ๒๔๓๔ สมัยพระครูอมราธิบดี(วร) เป็นเจ้าอาวาส

            พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานสมณศักดิ์ให้ พระวร นนฺทิโย เป็นพระครูอมราธิบดี ไปอยู่วัดเมืองนนทรามัญ (วัดเกาะรามัญ) ในตำแหน่งเจ้าคณะรอง เมืองนนทบุรีรวม ๓ พรรษา แล้วจึงย้ายไปครองวัดบ่อและวัดปรมัยยิกาวาสตามลำดับ ซึ่งต่อมาท่านคือพระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระสุเมธาจารย์ บริหารธรรมขันธ์ รามัญสังฆนาธิบดี ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายรามัญ และเจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส 6

            พ.ศ. ๒๔๓๔ - ๒๔๙๐ ช่วงนี้วัดเกาะบางพูดมีเจ้าอาวาสองค์ต่อมาแต่ไม่ทราบประวัติ จนมาถึงสมัยหลวงปู่พลัด, อาจารย์กรี, หลวงตาเหมือน, หลวงตาเกียเป็นเจ้าอาวาสมาตามลำดับ วัดเกาะบางพูดยังคงเป็นวัดเล็ก ๆ ในหมู่บ้านชาวมอญเช่นเดิม ในช่วงนี้ได้เปลี่ยนจากรามัญนิกาย เข้าสังกัดมหานิกายตามพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ไทย พ.ศ. ๒๔๘๔

สมัยรัชกาลปัจจุบัน

            พ.ศ. ๒๔๙๐ - ๒๕๒๒ สมัยพระอธิการสงวน เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้เริ่มการบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิ ศาลาการเปรียญ โดยได้รับวัสดุบางส่วนมาจากการที่กรมชลประทาน ปากเกร็ด ได้ทำการยุบวัดหน้าโบสถ์ซึ่งตั้งอยู่ในกรมชลประทานให้ไปรวมเป็นวัดชลประทานปากเกร็ด

            ราว พ.ศ. ๒๔๙๕ - ๒๔๙๙ วัดบางพูดได้ทำการก่อสร้างอาคารโรงเรียนประชาบาลหลังใหม่ จึงให้นักเรียนได้มาอาศัยเรียนที่ศาลาการเปรียญวัดเกาะบางพูดเป็นการชั่วคราว

            พ.ศ. ๒๕๐๑ เริ่มทำการบูรณะพระอุโบสถ โดยเปลี่ยนหลังคากระเบื้องที่ชำรุดเสียหายมากจนไม่สามารถกันน้ำฝนที่มาทำลายภาพจิตรกรรมฝาผนังได้ ในครั้งนั้นใช้สังกะสีเนื่องจากโครงหลังคาไม่แข็งแรงเท่าที่ควร บริจาคโดยคุณเกษม-ลูกอินทร์ ต่างใจ เป็นเงิน ๘๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๐๘ ทำการฉาบปูนภายนอกพระอุโบสถ และทำลวดลายที่ซุ้มประตู หน้าต่าง โดยขอบริจาคซุ้มละ ๒,๕๐๐ บาท มีผู้บริจาคครบ
ทุกซุ้ม

            พ.ศ. ๒๕๐๘ - ๒๕๑๗ หลวงบริณัย, ภรรยาและลูกหลานตระกูลคชเสนี ผู้สืบสกุลมาจากเจ้าพระยามหาโยธา(ทอเรียะ) หรือทองชื่น คชเสนี ได้มาทำการบูรณปฏิสังขรณ์ และเห็นว่าเป็นวัดที่ต้นตระกูลคชเสนีเป็นผู้สร้างขึ้น จึงขอเปลี่ยนนามใหม่ ซึ่งทางการก็ได้ประกาศเปลี่ยนเป็น
วัดเกาะพญาเจ่ง ตามนามผู้สร้าง เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗

            พ.ศ. ๒๕๑๐ ทำการเทปูนในพระอุโบสถทำเป็นพื้นหินขัด ซึ่งเดิมเป็นพื้นปูน โดยนายสง่า แป้นเพชร เป็นเงิน ๒๘,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๑๕ ทำลวดลายที่ชั้นประตู หน้าต่าง เป็นรูปลอยตัวลายดอกไม้ โดยคุณเกษม-ลูกอินทร์ ต่างใจ

            พ.ศ. ๒๕๑๙ เปลี่ยนหลังคาพระอุโบสถเดิม จากสังกะสีเป็นกระเบื้องพร้อมโครงหลังคา โดยมีคณะกรรมการได้แก่

                        คุณดิเรก ถึงฝั่ง(รองผู้ว่าราชการ จ.นนทบุรี, ตำแหน่งในขณะนั้น)

                        คุณนิพนธ์ บุญภัทโร(นายอำเภอปากเกร็ด, ตำแหน่งในขณะนั้น)

                        คุณสงบ แป้นเพชร ไวยาวัจกร, คุณลมูล ชูศรี ผู้ร่วมดำเนินการ

                        คุณบุญเรียบ อินทิแสง, คุณทวีศักดิ์ เปรื่องการ กรมชลประทาน

                        บริจาคโดยคุณสุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์ เป็นเงิน ๒๓๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๒๒ - ๒๕๔๘ สมัยพระอธิการสำเริง เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้ทำการถมดินที่เพิ่มขึ้นเองจากการตื้นเขินของดินบริเวณโค้งชายแม่น้ำ ขยายออกไปอีก ๒ ไร่เศษ เป็นเงิน ๒๗๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๒๖ บูรณปฏิสังขรณ์พระราชอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเรือล่ม และจัดทำสวนหย่อมโดยรอบ โดยคุณสุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์ เป็นเงิน ๙๐๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๒๖ - ๒๕๒๗ บูรณปฏิสังขรณ์หอสวดมนต์-กุฏิพระสงฆ์ ร่วมบริจาคโดยคุณสุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์ เป็นเงิน ๗๒๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๓๐ ทำการสร้างศาลาเรือนไทยริมน้ำที่บริเวณพระราชอนุสาวรีย์ เพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ โดยคุณ
สุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์ เป็นเงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๓๑ - ๒๕๓๒ กรมศิลปากร ทำการซ่อมแซมภาพจิตรกรรมฝาผนังและตัดความชื้นภายในพระอุโบสถ ด้วยการเจาะฝาผนัง
ฝังแผ่นโลหะไร้สนิมไว้ภายใน เพื่อป้องกันมิให้ความชื้นซึมผ่านขึ้นมาได้

            พ.ศ. ๒๕๓๒ สร้างกำแพงแก้ว, ประตูรอบพระอุโบสถ โดยคุณสุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์ เป็นเงินทั้งสิ้น ๖๕๒,๕๔๔.๕๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๓๓ บูรณปฏิสังขรณ์กุฏิพระสงฆ์, สร้างห้องน้ำพระสงฆ์, ห้องน้ำสาธารณะ, ทางเดินและศาลาริมน้ำ

            พ.ศ. ๒๕๓๔ - สร้างหอระฆังใหม่ โดยคุณชวลิต-มุกดา เอื้อชูยศ, พ.อ.อ.สินชัย ต่างใจ, คุณอดุลย์ โพธิ์อ่อน, คุณม่วย ศรีดี, คุณวีระศักดิ์ สวัสดี, ร.ต.นิยม ใจซื่อ, บริษัทสักทองไทย และเงินบริจาครวมทั้งสิ้น ๔๕๐,๐๐๐ บาท

                    - สร้างกุฏิเจ้าอาวาสใหม่ โดยคุณป้าถม เพิ่มเทศ, คุณสุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์ เป็นเงิน ๖๕๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๓๘ - ๒๕๔๑ ซ่อมแซม ต่อเติมศาลาการเปรียญ, สร้างศาลาอเนกประสงค์, สร้างห้องน้ำสาธารณะ, ถมพื้นที่ชายฝั่งแม่น้ำและทำเขื่อนกั้นดิน, ซ่อมแซมเสาหงส์และตัวพญาหงส์ โดยหลวงตาวงและเงินบริจาครวมทั้งสิ้น ๑,๙๐๐,๐๐๐ บาท

            พ.ศ. ๒๕๔๑ กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน ตามราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๕ ตอนพิเศษ ๓ ง 
ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๑

            พ.ศ. ๒๕๔๒ ปิดทององค์พระประธาน, พระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร, บูรณะฐานชุกชีในพระอุโบสถ, ซ่อมแซมซุ้มประตูทางเข้าวัด พร้อมทั้งร่วมปลูกต้นไม้บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำ โดยคุณสุรพล-สรญา ชวาลดิษฐ์, กฐิน-ผ้าป่าสามัคคีและเงินบริจาครวมทั้งสิ้น ๓๘๖,๗๘๕ บาท

สถานที่ตั้งและอาณาเขตวัด

            วัดเกาะพญาเจ่ง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๐๘ หมู่ ๑ ซอยสุขาประชาสรรค์ ๒ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวง/เขต ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 21:58
จิตรกรรมฝาผนังที่วัดเกาะพญาเจ่งนี้น่าจะเขียนขึ่นในต้นรัชกาลที่4 จากรูปแบบและสีสันในการเขียนเป็นแบบรัชกาลที่4ที่ยังยึดคติการเขียนแบบดั้งเดิมก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแบบนิยมตะวันตก พระอุโบสถหันหน้าสู่แม่น้ำ เรื่องราวที่เขียนก็ยังเป็นคตินิยมคือด้านหน้าพระประธานเขียนภาพมารผจญ หลังพระประธานเขียนภาพเสด็จดาวดึงส์โปรดพุทธมารดาแต่มีที่แปลกออกไปคือ ผนังโดยรอบนั้นเขียนเป็นเรื่องทศชาติชาดกซึค่งทั้วไปมักจะเขียนเสมออยู่ระดับความสูงของหน้าต่างแต่ที่นี่เขียนเลยขึ้นไป โดยแบ่งผนังที่สูงเกนระดับหน้าต่างขึ้นไปเป็น5ส่วนคือส่วนที่หนึ่งเขียนชาดกที่กล่าวชั้นที่2และ3เขียนเป็นเทพชุมนุมชั้นที่4เขียนอดีตพุทธจบด้วยชั้นที่5ซึ่งรวมอยู่กับชั้นที่4เป็นนักสิทธวิทยาธร กล่าวถึงเรื่องชาดกที่เขียนนั้นยังมีที่เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากวัดอื่นก็คือมีเพิ่มเรื่องสุธนชาดก(พระสุธน-มโนราห์)และเรื่องพระรถ-เมรี(นางสิบสอง)


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 22:25
บานประตูด้านหน้าพระประธานทางเข้านั้นมี3คู่คือคู่กลางจะสูงกว่าบานขวา-ซ้าย คติการสร้างประตูอย่างนี้กล่าวกันว่าประตูคู่กลางนั้นจะเป็นทางเข้าเฉพาะพระมหากษัตริย์ก็เห็นจะเป็นจริงดังนั้นส่วนประตูซ้าย-ขวาก็สำหรับข้าราชบริพารและชนชั้นสามัญทั่วไปเท่านั้น ที่ประตูคู่กลางนั้นเขียนเป็นภาพเวี่ยวกางอย่างไทย ท่าทางทะมัดทะแมงสวยงามยิ่งนัก ส่วนคู่ซ้ายขวาเขียนเป็นภาพชาวต่างชาติน่าจะเป็นชาวอังกฤษรวมทั้งบานคู่หลังด้วย คติการเขียนภาพชาวต่างชาตินั้น ผมคิดว่าเนื่องด้วยเมื่อชาวต่างชาติต่างภาษาเข้ามามาในสมัยนั้นมีทั้งมาดีและมาร้าย การเขียนภาพชาวต่างชาติต่างภาษาให้เห็นเป็นรูปร่างนั้นก็เพื่อว่าชาวบ้านร้านช่องเมื่อได้เห็นแล้วจะได้รู้จักว่าหน้าตาคนเล่านี่เป็นเยี่ยงไรโดยเฉพาะการแต่งตัวและผลิจะว่าคนเหล่านี้พระเจ้าอยู่หัวเห็นว่าศิวิไลส์หากคนในประเทศของท่านเลือกแต่สิ่งดีที่ชาวต่างชาตินำมาแล้วศึกษาเรียนรู้ประเทศของเราจะได้เจริญทัดเทียมอารยประเทศเหล่านั้นบ้างก็เป็นได้


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 22:28
ภาพชาวต่างชาติที่บานประตู


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 22:33
ที่บานหน้าต่างทุกบานเขียนเป็นเทวดายืนแท่นมือขวาถือดอกบัวมือซ้ายถือพระขันธ์เหมือนๆกันทุกบาน ฝีมือทัดเทียมกันสวยงามทีเดียว


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 22:45
เริ่มเรื่องจากผนังด้านขวามือพระประธานเขียนเรื่องสุธนชาดกเป็นเรื่องแรก เสียดายว่าภาพเขียนช่วงที่อยู่บริเวณหน้าต่างนั้นชำรุดเสียกว่าครึ่งแม้จะมีการอนุรักษ์แล้ว แต่ก็ด้วยการอนุรักษ์แบบมักง่ายเช่นเดิมคือแทนที่จะทำการกั้นความชื้นด้วยการฝังโลหไร้สนิมไว้แล้วก็ตามแต่ปูนที่ใช้กับใช้ปูนซิเมนต์ปัจจุบันที่มีความเค็มในการฉาบทำให้ความเค็มจากผนังนั่นแหละทำลายภาพเขียนลงไปทุกวันทุกวัน ฝีมือภาพเขียนระหว่างหน้าต่างนั้นจัดว่าเขียนได้ละเอียดงดงามกว่าส่วนที่สูงขึ้นไปเหนือหน้าต่างมากนัก เมื่อ20กว่าปีก่อนผมเคยเข้าไปถ่ายรูปที่วัดนี้มาก่อน ภาพเขียนยังเหลือมากกว่านี้ ไว้มีโอกาสจะนำเสนอเปรียบเทียบต่อไป


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 22 ส.ค. 09, 22:55
เรื่องสุธนชาดกส่วนที่เหนือหน้าต่างขึ้นไป เนื่องด้วยพระอุโบสถตอนนี้มีเพิ่งมีการพุทธาภิเศกพระไปไม่นานเพราะเจ้าอาวาสท่านเดิมมรณะภาพ ทำให้ช่วงบนของผนังนั้นถ่ายได้ลำบาก เพราะติดแนวสายสิญจ์เต็มไปหมดจะดึงทิ้งก็ไม่ได้ จึงถ่ายได้เท่าที่ความสามารถจะมี ขอทิ้งท้ายไว้เท่านี้ก่อนเพราะง่วง พรุ่งนี้มาต่อ ส่วนใครจะแวะมาชมโพสต์สอบถามก็เรียนเชิญเลยครับ ไม่รู้สมาชิกไปไหนกันหมด เหงานะเนี่ย โม้อยู่คนเดียว


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: ฉันรักบางกอก ที่ 23 ส.ค. 09, 09:09
หัวหน้าชมรมฯอย่างเพิ่งน้อยใจนะคะ หนูยังอยู่ทั้งคน

ตอนนี้กำลังย้ายหอกับบ้านคะ คอมไม่มี เนตก็ไม่มีให้เล่น  ขอเวลาสักครู่นะคะ แล้วจะไปอัพกระทู้ทริปตัวเองคะ

ยังติดตามอยู่นะคะ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 12:41
ทำไมน้องแพรชอบคิดว่าหัวหน้าจะน้อยใจละจ๊ะ ก็แค่เหงาและไม่มีคนร่วมคิดร่วมคุยต่างหาก เพราะนำเสนออยู่คนเดียวแล้วไม่มีกระแสตอบรับ ก็ไม่ได้ต่อยอดความคิด มันก็เลยไม่สนุก อย่างตอนที่ไปวัดเกาะฯนั้นเจอนักเรียนมาทัศนะศึกษาพอดี วิทยากรก็อธิบายไม่ใคร่จะถูก ก็เลยได้ช่วยเสริมให้ความรู้เค้าไป ทำให้เรามีความสุขอย่างประหลาด อนาคตต้องรับเชิญเป็นวิทยากรซะแล้วมั้งเรา หาตังค์ใช้5555555555555 ภาพต่อไปตอนพระเตมีย์ใบ้


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 12:46
มหาชนก ช่วงล่างลอกเสียเยอะเห็นแต่เฉพาะปราสาทนิดหน่อย เลยนำเสนอช่วงบน


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 12:50
สุวรรณสามชาดก


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 12:57
พอจบตอนสุวรรณสามช่างเขียนกลับเขียนตอนมโหสถชาดกต่อแทนที่จะเป็นเนมีราช พอจบมโหสถถึงจะเขียนเนมีราช


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:02
เนมีราชชาดก น่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายภาพเต็มผนังได้ภาพจึงออกมาเป็นส่วนๆดูไม่เป็นเรื่องราว


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:11
ข้ามมาผนังซ้ายมือพระประธานเริ่มจากท้ายผนังด้านหลังเขียนเรื่องพระรถเมรี(นางสิบสอง)เขียนถึง2ช่องผนัง


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:18
ภูริทัตชาดก


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:21
จันทกุมารชาดก ตอนนี้ช่างเขียนได้สอดแทรกอารมณ์ขันในด้านเชิงสังวาสไว้ในภาพเขียนตอนนี้อย่างโจ๋งครึ่ม ดูเอาเองไม่ขออธิบาย


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:24
ดูอารมณ์ขันของช่าง แหม๋ทำไปได้


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:33
ลืมบอกไปผนังด้านนี้มีการเขียนข้ามตอนอีกแล้วคือพอเขียนพระรถเมรีแล้วก็ภูริทัตแต่แทนที่จะเป็นจันทกุมานกลับเป็นพรหมนารทก่อนซะงั้น


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:35
จันทกุมารอีกตอนหนึ่ง


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:48
วิธูรบัณฑิต ตอนนี้เป็นตอนนึงที่ผนังระหว่างหน้าต่างยังสมบูรณ์อยู่ ทำให้เห็นว่าฝีมือช่างที่เขียนนั้นงดงามมาก ผมเคยถ่ายไว้เมื่อ20กว่าปีก่อนยังสมบูณ์กว่านี้มาก อ้อโพสต์มากชักเบลอ กระทู้ที่ช่างสอดแทรกอารมณ์ขันนั้นคือตอนพรหมนารทครับไม่ใช่จันทกุมาร ขอโทษด้วยครับ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 13:51
ภาพตอนนี้เหมือนที่วัดกำแพงบางจากหยั่งไงหยั่งงั้น


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 14:08
ที่ว่าเหมือนนั้นหมายถึงการเขียนเล่าเรื่องมีตอนเดียวกันคือการเล่นสะกา แต่ผมว่าฝีมือที่นี่งดงามกว่ามากในรายละเอียดตัวภาพ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 14:22
ตอนสุดท้ายเวสสันดรชาดก


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 14:40
เสียดายที่ภาพมารผจญนั้นไม่สามารถถ่ายเต็มผนังได้เพราะติดสายสิญจ์ ได้แต่ถ่ายเพียงบางส่วนมา ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นคิดว่า มารผจญที่นี่เขียนได้งดงามไม่แพ้หลายๆวัดที่มีชื่อเสียงทีเดียว ดูรูปนี้ขบวนทัพพญามารเมื่อพ่ายแพ้แล้วถูกกุ้งยักษ์เขมือบซะ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 14:51
เพดานของพระอุโบสถนั้นเขียนเป็นลายดอกพุตตานอย่างจีน ให้จดจำลายนี้ไว้ เพราะที่วัดกู้นั้นเขียนแบบเดียวกันทั้งสีสันและลวดลายสวยงามนัก


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 15:08
ปกติที่วัดนี้มิได้เปิด ต้องทำหนังสือไปขออนุญาต แต่วันที่ผมไปมีนักเรียนมาทัศนะศึกษาพอดี ก็เพียงแต่เข้าไปบอกเจ้าอาวาสให้ท่ารับรู้แล้วก็เข้ามาถ่าย แต่ถ่ายได้ไม่เท่าไหร่นักเรียนก็เข้ามา เสียเวลาไปกว่าชั่วโมง พอนักเรียนกลับ พระท่าจะมาเฝ้าปิดซะอีก ก็ขอท่านถ่ายต่อ แล้วก็ให้ความรู้ต่อท่าน แต่ก็ทำให้เราถ่ายไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะจะปีนป่ายอย่างไรเพื่อให้ได้มุมภาพสวยงามมันทำไม่ได้ เพราะเกรงใจพระ อ้อที่วัดนี้ยังมีพระพุทธรูปเรียกว่าปรางค์แสดงอภินิหารเมื่อครั้งปรินิพพานแล้วพระกัสสปะเสด็จมนมัสการไม่ทัน เมื่อบรรจุพระบรมศพไปแล้ว พระพุทธองค์จึงสำแดงปาฏิหารยิ์ยื่นพระบาทออกมานอกโรงพระบรมศพให้พระกัสสปะกราบเมื่อมาถึงพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: ฉันรักบางกอก ที่ 23 ส.ค. 09, 15:42
อยู่ถึงบ่ายโมง ครึ่งเลยหรอคะ  แล้วนั้นหน้าปัดตัวเลขเป็นของยุคสมัยไหนกันเล่า ... ปวดใจเสียจริง

ถ้าได้บอกเล่าในสิ่งที่ชื่นชอบ ให้คนที่เค้ารับฟัง แล้วสนใจ เข้าใจ ในสิ่งที่เราพูด มันน่าชื่นใจจริงๆคะ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 15:43
วัดวัดกู้ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด สร้างในสมัยพระยาเจ่ง ซึ่งอพยพครอบครัวมอญเข้ามา ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี วัดนี้จึงเต็มไปด้วยศิลปะแบบมอญดังจะ เห็นได้จากภาพฝาผนังภายในวัด มีพระพุทธไสยาสน์ ที่เป็นพระนอนขนาดใหญ่ ความยาว 22 วา นอกจากนี่ยังมีพระตำหนักที่สร้างขึ้นเพื่อ เป็นอนุสรน์แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 ซึ่งประสบอุบัติเหตุเรือล่มสิ้นพระชนม์ ณบริเวณใกล้เคียงกันนี้(เป็นที่ถกเถียงว่าเรือล่มที่ไหน ทางวัดเกาะก็ว่าล่มที่วัดเกาะ เพราะมีการสร้างอนุสรณ์ปรากฎไว้ แต่คนทั่วไปก็จะคิดว่าเป็นวัดนี้ตามชื่อวัดและสิ่งก่อสร้างที่สร้างสนับสนุนอยู่ แต่ที่แน่ๆวัดเกาะพญาเจ่งน่าจะสร้างก่อนแล้วจึงมาสร้างวัดกู้ เพราะความวิจิตรงดงามนั้นปรากฎที่วัดเกาะมากกว่า แต่ปัจจุบันวัดกู้น่าจะมีคนรู้จักมากกว่าและพัฒนาใหญ่โตกว่าวัดเกาะมากนัก ภาพเขียนในพระอุโบสถเก่าที่ปัจุบันเปลี่ยนไปเป็นวิหารนั้น เป็นภาพเขียนเล่าเรื่องชนชาติมอญตลอดทุกผนังมีสอดแทรกเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนาอยู่ด้วยแต่มองไม่ออกว่าเป็นตอนอะไรจวบจนชั้นสุดท้ายจึงเขียนเป็นอดีตพุทธตามคตินิยมของวัดสุลช่างนนทบุรีนิยมเขียน ภาพเขียนที่นี่น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับวัดเกาะคือปลายร.3 ต้นร.4 ฝีมือช่างเป็นรองวัดเกาะ คือฝีมือท้องถิ่นสีที่ใช้ก็น้อยสีอย่างกับที่วัดตำหนักใต้ วัดชมภูเวก เช่น สีเขียว สีดินแดงเป็นหลัก ผมเคยไปวัดนี้เมื่อ20กว่าปีก่อนเช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพราะเต็มไปด้วยค้างคาวและขี้ของมันเต็มไปทั้งผนัง ซึ่งปัจจุบันแม้จะอนุรักษ์มาแล้วแต่ก็มิได้มีการดูแล ผนังมีคราบสกปรกจับอยู่เต็มมองแทบไม่เห็นจิตรกรรมในบางตอนน่าเสียดายอย่างยิ่ง ผมเองได้เคยมีโอกาสไปคลุกคลีอยู่กับคนมอญที่เกาะเกร็ด พอรู้เรื่องเกี่ยวกับมอญมาบ้างโดยเฉพาะความเชื่อว่าวันนึงคนมอญจะกลับมามีบ้านเมืองเป็นของตนเองอีกครั้ง แต่ดูจากปัจจุบันแล้วคนมอญในประเทศไทย ก็น่าจะกลายเป็นคนไทยเสียหมดแล้ว


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 15:51
พี่ไปวัดกู้ก่อนครับน้องแพร วัดกู้นั้นเปิดอยู่ตลอด ไปถึงประมาณ11โมงเศษ ในวิหารมีค้างคาวเฝ้าอยู่1ฝูงร้องจี๊ดๆ ประมาณ3-40ตัวได้ ส่วนขี้นั้นเต็มพื้น พระจะเอาจีวรรองไว้ มันจะขี้ตรงที่มันเกาะอยู่นั่นแหละ ส่วนที่วัดเกาะนั้น พระนอนหงายเป็นสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็คงประมาณร.4นะครับ พระปางอย่างนี้มีพบอีกที่ที่วัดเวฬุราชินตลาดพลูครับ แต่ที่นั่นไม่มีโรงพระศพ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 15:57
ดูลายเพดานที่กล่าวไว้เหมือนที่วัดเกาะพญาเจ่งเปี๊ยบเลย


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 16:07
ดูภาพนี้แล้วคิดถึงน้องเนเลยครับ ภาพปราสาทปรางค์5ยอด เขียนทรวดทรงปรางค์งดงามแบบปรางค์อยุธยาดีเเท้ ผลิว่าเดิมพญาเจ่งนั้นเป็นมอญหนีมาพึ่งใบบุญพระเจ้าตากสิน น่าจะมีช่างเขียนได้เคยเห็นลักษณะปราสาทอย่างนี้ที่อยุธยาแล้วจึงนำมาเขียนไว้ที่นี่เป็นแน่


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 16:16
ที่วัดนี้มีเสน่ห์ตรงการเขียนภาพสอดแทรกด้วยต้นไม้และสิงห์สาราสัตว์ที่งดงามมีชีวิตชีวาดีแท้ อย่างอันนี้เขียนตัวเงินตัวทองซะงั้น


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 16:19
นี่รูปต้นไม่เขามอทั้งหลายเขียนได้ธรรมชาติดีแท้


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 23 ส.ค. 09, 16:23
นี่รูปขบวนทัพชาวมอญมีแม่ทัพนำอาจจะเป็นพญาเจ่งก็ได้ใครจะรู้ ขอหยุดไว้แค่นี้ก่อนนะครับ จะไปธุระ แล้วจะมาต่อ เพราะยังมีอีกหลายรูปที่สวยงามน่าชม


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 23 ส.ค. 09, 20:44
วัดหยุดนี้ผมไม่ได้ออกไปไหน พี่ยีนส์เอาภาพเขียนสวยๆมาให้ได้ชม ดีจริงๆเลย
แถมข้อมูลละเอียดยิบ ต้องหาเวลาไปชมบ้างแล้วครับ ได้แต่เคยผ่านไม่รู้ว่า
มีของดีน่าชมซ่อนอยู่

เห็นแบบนี้แล้วแสดงว่าของดีงามในบ้านเมืองเรายังมีอีกมาก หากว่าถูกทิ้งขว้างหรือทำซ้ำ
อย่างไม่ถูกวิธี กลัวว่าคุณค่าจางหายไปทุกวันๆ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 15:16
มาดูวัดกู้กันต่อ ผนังด้านหน้าพระประธานมีเขียนเป็นรูปชาวบ้านออกไปทำมาหากิน เนื่องด้วยเป็นวัดริมน้ำ ช่างก็คงเขียนภาพชาวบ้านแถบวัดนั่นแหละกำลังออกไปหาปลาดูได้จากอุปกรณ์ที่ถือไปด้วยครับ นี่แหละครับเสน่ห์ของจิตรกรรมฝาผนังไทยที่เปรียบเสมือนภาพเล่าเรื่องในอดีตฝากไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ดู


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 15:20
ภาพนี้เป็นภาพเจดีย์อย่างพม่าที่เรียกว่าพระธาตุมุเตา ช่างเขียนอาจจะหมายถึงเจดีย์ชเวดากองก็ได้


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 15:28
อันนี้น่าจะเป็นด่านเจดีย์3องค์ที่พญาเจ่งแตกทัพมาเป็นแน่เพราะเนื้อเรื่องที่นี่ส่วนนึงคือการอพยพของชาวมอญอีกส่วนนึงคือเรื่องอดีตพุทธ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 15:36
ซ้ายมือพระประธานเหนือช่องหน้าต่างขึ้นไปเขียนภาพอดีตพุทธ องค์ประกอบงดงาม แต่ไม่รู้ว่าตอนใดของพระพุทธเจ้าองค์ใดใน28พระองค์


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 15:40
นี่อีกตอนไม่รู้อดีตพุทธองค์ใด


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 15:55
อันนี้เป็นมณฑปประดิษฐานพระโกศมีธงตะขาบปักเคียงข้าง ไม่รู้ตอนใด


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:10
ที่บานหน้าต่างวัดกู้นอกจากที่บานประตูที่เขียนเป็นภาพฝรั่งแบบวัดเกาะแล้วที่หน้าต่างนั้นเขียนเป็นเครื่องบูชาอย่างจีนแบบที่นิยมในช่วงรัชกาลที่3-4


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:23
นี่ภาพฝรั่งที่บานประตูฝีมือเป็นรองที่วัดเกาะพญาเจ่ง คือที่นี่จะเขียนแบบแนวช่างท้องถิ่นสีดิบๆไม่ใช่สีมากนักแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะอย่างไรเสียงานศิลปะเหล่านี้ก็มีคุณค่าในตัวของมันเองเป็นภาพเล่าเรื่องอดีตกาลในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี สุดแต่ที่ใครจะให้ความสำคัญกับมันแล้วเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาตนแก่ตนสืปไป ขอจบเรื่งวัดกูไว้แต่เพียงเท่านี้ แต่กระทู้ยังไม่จบเนื่องด้วยลืมเรื่องสำคัญของวัดเกาะพญาเจ่งไปติดตามได้ในความคิดเห็นต่อไป


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:32
ที่วัดเกาะพญาเจ่งนั้นเมื่อครั้งบูรณะหลังคาพระอุโบสถนั้นได้ค้นพบสมุดร่าง(สมุดข่อย)ซึ่งเข้าใจว่าเป็นของช่างเขียนที่เขียนวัดนี้ทิ้งไว้ ฝีมืองดงามมาก กรมศิลปจะขอเก็บไปแต่ทางวัดไม่ให้ (ซึ่งก็ดีแล้วไม่อย่างนั้นคงหายเข้ากลีบเมฆ)ทางวัดได้เข้ากรอบกระจกไว้และนำไปตั้งไว้ในศาลาข้างพระอุโบสถ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:35
ฝีมือและสีสันงดงามมากด้านนึงเขียนสีอีกด้านนึงเขียนลายเส้นดินสอแล้วกระทบเส้น(ตัดเส้น)ดำ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:40
อีกรูป


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:42
อีกรูป


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:44
รูปนี้ซิผมชอบ ทศกัณฐ์เขียนได้ดุดีจัง


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 16:48
ภาพเต็มๆของรูปทศกัณฐ์ จะเห็นมีลิงเผือกปีนอยู่บนต้นไม้คงจะเป็นหนุมาน สวยจริงๆ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 17:00
นี่ภาพร่างดินสอฝีมือชั้นครูจริงๆ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: ฉันรักบางกอก ที่ 24 ส.ค. 09, 17:44
สมุดข่อยสวยจังเลย สีสด เขียนต่อกันหลายหน้าด้วย แบบนี้ไม่เคยเห็น
แล้วเค้าพบได้ยังไงคะ บนหลังคาเลยหรอคะ ทำไมถึงนำไปเก็บไว้บนนั้นหล่ะคะ



 


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 17:45
สุดท้ายแล้วครับภาพร่างที่กระทบเส้นแล้วสวยงามจริงๆ ขอจบเรื่องวัดเกาะพญาเจ่งและวัดกู้แต่เพียงเท่านี้ จริงๆภาพมีมากมายกว่านี้ 2วัดนี้ถ่ายไปแค่400กว่าภาพเท่านั้น แต่ถ้าจะให้ดีใครที่สนใจก็ขอให้เดินทางไปดูของจริงที่วัดดีกว่าจะได้ซาบซึ้งถึงคุณค่าของจิตรกรรมฝาผนังและศิลปะไทยที่ยังพอมีเหลืออยู่ให้ศึกษาในบ้านนี้เมืองนี้ การเดินทางก็ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก การชมทางเว็ปก็เพียงแต่ให้รับรู้ถึง "ของดีมีอยู่"ก็เพียงเท่านั้น


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 24 ส.ค. 09, 18:03
สวัสดีจ๊ะน้องแพร สมุดข่อยที่นี่สวยจริงๆ การพบบนหลังคานั้นพบเพียงเล่มเดียว ส่วนอย่างอื่นก็ไม่ได้บอกไว้ ถ้าช่างไม่ลืมไว้ก็คงจงใจทิ้งไว้เพื่อให้รู้ เสียดาย มีภาษาเขียนไว้แต่อ่านไม่ออก แต่ที่แปลกใจคือเป็นร้อยๆปีสภาพยังดีอยู่มาก ดูการร่างภาพแล้วนึกถึงวัดไม้รวกมั๊ยละ เรื่องการเก็บของไว้บนเพดานนั้นเท่าที่พบส่วนใหญ่มักจะเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กองค์น้อย อย่างเมื่อปี30ตอนที่บูรณะวัดป่าเกดที่สมุทรปราการเพื่อนของพี่อยู่ในทีมงานของกรมศิลปในยุคนั้นก็พบพระพุทธรูปมากมายบนฝ้าเพดานของพระอุโบสถ(รูปประกอบ ไม่รู้ช่างใช้การแบ่งตารางเพื่อดูสัดส่วนของรูปหรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นเยี่ยงนั้น)


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 25 ส.ค. 09, 21:26
ไอ้เราก็รอน้องๆในชมรมเข้ามาโพสต์ที่ไปเที่ยวกันบ้างก็เงียบ ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ศิลปะไทยนั้นน่าสงสารนัก จะหาคนรู้คนศึกษาคนสนใจให้ถ่องแท้ยากนัก ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ก็ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันก่อนเป็นอันดับแรก การงานการเรียนก็ยุ่ง จะมุ่งแต่เที่ยวดูความสวยงามให้เจริญหูเจริญตาย่อมไม่มี ที่บ่นอย่างนี้มิได้น้อยใจนะครับ แต่พูดถึงความเป็นจริงในปัจจุบัน ก็ได้แต่หวังว่าใครที่ผ่านเข้ามาดู อย่าดูแล้วเพียงผ่านไป อยากรู้อยากถามอะไร ถ้ารู้ก็จะสรรหามาบอก หากนำเสนอแต่ด้านเดียวแล้ว ก็คงเบื่อและเลิกไปในที่สุด เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ที่จะทำ


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: ฉันรักบางกอก ที่ 25 ส.ค. 09, 21:53
มีฉันรักบางกอกอ้วนๆ ขาประจำอยู่ทั้งคน... (คาดว่าสมาชิกท่านอื่นคงจะแวะมาดู แต่ไม่ออกเสียง เสียมากกว่า)

เรื่องคนสมัยก่อน นำของไว้บนบนเพดานโบสถ์ ถ้าจำไม่ผิด หนังสือการบูรณะวัดโพธิ์ ลงภาพห้องใต้หลังคาด้วย เห็นโครงสร้าง ด้านบน...ไม่แน่ใจ พี่ยีนส์ มีหนังสือเล่มนี้หรือป่าวคะ อยากเห็นจัง ถ้ามีเจอกันคราวหน้า หนูขอยืมดูหน่อยได้ไหมคะ ยืมเฉยๆ ไม่เอากลับบ้าน

ส่วนรูปทริปวันเสาร์ที่แล้ว ไม่ทราบว่า คงจะติดธุระกันทั้งสองคน สัญญาคะว่า ฉันรักบางกอกจะเอารูปมาลงแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้อุปกรณ์ไม่อำนวย พร้อมข้อมูลวัดมาด้วย ดีไหมๆคะหัวหน้าชมรม ถือว่าส่งการบ้านละกันนะคะ

แพรส่งข้อความหลังไมค์ พี่ยีนส์อย่าลืมอ่านด้วยนะคะ

ขณะนี้มีคนส่งอีเมลล์สนใจชมรมเพิ่มเติมอีกนะคะ ดีจัง ชมรมฯเราน่าจะก่อตั้งอย่างเป็นทางการเสียที ถ้าทำได้ จัดทริปประจำเดือนละครั้งก็น่าจะสนุกไม่หยอก


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 27 ส.ค. 09, 20:16
เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องวัดกูเสียหน่อย เพราะไปเจอบทความเก่าที่เก็บไว้ของท่านที่ใช้นามว่า หวน พินธุพันธ์ เขียนบทความเรื่อง "นั่งเรือเที่ยวชมวัดมอญที่เกาะเกร็ดและใกล้เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี" ซึ่งจำไม่ได้ว่าเซฟมาจากไหน แต่ก็ตรงกับความรู้สึกของผมที่ว่าวัดกู้น่าจะมีมาแต่เดิมตั้งแต่สมัยอยุธยา และภาพเขียนที่ปรากฎอยู่นั้นมันดูเก่าแก่กว่ารัตนโกสินทร์โดยเฉพาะสีสีน ผลิว่าถ้าเป็นรัตนโกสินทรก็คงจะเฉกเช่นเดียวกับวัดชมภูเวกและวัดประดู่ทรงธรรมที่เดิมมีภาพเขียนสมัยอยุธยาแล้วมาบูรณะในสมัยรัตนโกสินทร์ คุณหวนพินธุพันธ์เขียนถึงวัดกู้ไว้ดังนี้   
"จากวัดเกาะพญาเจ่งนั่งเรือทวนน้ำขึ้นไปถึง วัดกู้ ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลบางพูด มีถนนวัดกู้จากตลาดปากเกร็ดไปทางทิศเหนือถึงวัดนี้ประมาณ 2 กิโลเมตร  เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย  สร้างราว พ.ศ. 2295(หนังสือจิตรกรรมไทยประเพณีชุดที่001ของกรมศิลปากร เรื่องข้อมูลวัดที่มีจิตรกรรมฝาผนังก็ระบุปีที่สร้างไว้ตรงกัน พญาเจ่งเข้ามากรุงธนบุรีเมื่อพ.ศ.2318ห่างกัน24ปี) เดิมชื่อ "วัดท่าสอน" มีโบราณสถานที่น่าชมน่าศึกษาคือ  พระวิหารสมัยอยุธยาตอนปลายซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนัง แต่ลบเลือนไปมากแล้ว, พระพุทธไสยาสน์ ซึ่งยาว 21 วา มีวิหารแต่ไม่มีฝาผนัง จึงมององค์พระเห็นสง่างามมาก, ศาลสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ศาลพระนางเรือล่ม” ซึ่งมีอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งหนึ่ง และสร้างขึ้นใหม่ในบริเวณวัดอีกแห่งหนึ่ง และยังมีเรือมาดเก่าลำหนึ่ง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นเรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทางวัดได้นำมาตั้งไว้ในศาลาข้างวิหารพระพุทธไสยาสน์
เนื่องจากวัดกู้มีที่มา คือเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2423 เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้ากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เกิดอุบัติเหตุล่มลงบริเวณใกล้วัดท่าสอน ในคราวตามเสด็จประพาสบางปะอินทางชลมารค และได้กู้เรือพระที่นั่งพร้อมพระศพพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ขึ้นที่วัดท่าสอน วัดท่าสอนจึงขนานนามใหม่เป็น "วัดกู้" แต่นั้นมา และทางวัดได้สร้างศาลดังกล่าวแล้วในตอนต้น นอกจากนี้ ในนิราศภูเขาทองมีการกล่างถึงตำบลบางพูด ที่น่าจะเป็นตำบลบางพูดที่2วัดนี้ตั้งอยู่แน่ เพราะตั้งอยู่ในเส้นทางน้ำที่สุนทรภู่เดินทาง ดังมีใจความดังนี้
                        ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์              มีคนรักรถถ้อยอร่อยจิต
      แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร      จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา"

รูปด้านข้างของพระวิหารวัดกู้เป็นฐานโค้งแบบท้องสำเภา เดิมที่นี่ต้องเป็นพระอุโบสถแน่นอน เพราะปรากฎซุ้มเสมาซึ่งเหลืออยู่ซุ้มเดียวด้านหลัง(เดี๋ยวดูรูปต่อไป)
 


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 27 ส.ค. 09, 20:21
ซุ้มเสมาที่เหลืออยู่ซุ้มเดียว


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: jean1966 ที่ 27 ส.ค. 09, 20:30
พบเศษแผ่นหินขนาดใหญ่เป็นหินชนวนดูน่าจะเป็นเศษใบเสมาที่แตกหักและยังเหลืออยู่ครับ คงจะจบเสียที นี่กำลังหารูปเก่าๆอยู่เกี่ยวกับสมบัติของส่วนตัวของบุคคลสำคัญของชาติที่สะสมศิลปะไทยชิ้นดีๆสวยๆงามแล้วผมได้มีโอกาสไปถ่ายภาพไว้ แต่ยังไม่รับปากนะครับ เพราะไม่รู้เจ้าของเค้าอยากจะให้ดูรึเปล่า แม้จะไม่เอ่ยว่าเป็นของใครก็ตาม เพราะปัจจุบันทราบว่า ทายาทของท่านก็ไม่อยากให้เผยแพร่ออกไปให้ใครรู้เพราะ"โจรมันชุม"


กระทู้: วัดเกาะ(พญาเจ่ง)และวัดกู้ทริปของหัวหน้าชมรมฯที่สมาชิกมิได้ไป
เริ่มกระทู้โดย: virain ที่ 30 ส.ค. 09, 16:55
โจรชุมจริงๆ แหะๆ
แต่วัดกู้นี่น่าสนใจมากๆครับ