การที่บุคคลจากแต่ละประเทศ ตื่นนอนไม่พร้อมกัน เข้าทำงานไม่พร้อมกัน รับประทานอาหารไม่พร้อมกัน ฯลฯ ได้ถูกกำหนดไว้ด้วยมาตรฐานแห่งเวลา ชาติใดที่มีมาตรฐานแห่งเวลาเป็นจุดร่วมกับนานาอารยประเทศมากที่สุด ย่อมมีความได้เปรียบ ด้วยความต้องการแห่ง Real Time ซึ่งเป็นผลลัพธ์แห่งเทคโนโลยียุคดิจิทัล ความเหลื่อมล้ำทางเวลาย่อมเป็นผลเสียต่อการประกอบธุรกิจ
สิงคโปร์และมาเลเซียอยู่ทางทิศตะวันตกของ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม และอยู่ทางทิศใต้ของไทย ด้วยหลักแห่งธรรมชาติแล้ว สิงคโปร์และมาเลเซียควรมีเวลามาตรฐานเดียวกับไทย แต่กลับกำหนดมาตรฐานไว้เร็วกว่าไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ทั้งที่พระอาทิตย์ขึ้นภายหลังประเทศเหล่านี้
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสิงคโปร์และมาเลเซีย “เลือก” ที่จะตื่นนอนพร้อมกับ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บรูไน ฯลฯ และไม่ได้เรียกร้องว่า ๖ โมงเช้าของพวกเขา พระอาทิตย์จะต้องขึ้นแล้ว
เร็วนี้ ๆ ได้มีการสถาปนาเวลามาตรฐานอาเซียน หรือ ASEAN Common Time เพื่อกำหนดให้ประเทศส่วนใหญ่ของอาเซียน รวมถึงไทย ใช้ GMT+8 เป็นมาตรฐานแห่งเวลา ซึ่งจะลดความเสียเปรียบเนื่องด้วยความแตกต่างของเวลา และทำให้ไทยสามารถก้าวได้ทันเพื่อนบ้าน แต่เป็นที่น่าเสียดายสำหรับชาวไทย เพราะมีรายงานข่าวว่า ประชากรไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการที่ต้องตื่นเร็วขึ้น ๑ ชั่วโมง หากประเทศไทยเลือกใช้เวลามาตรฐานอาเซียน
ความเจริญก้าวหน้าของประเทศย่อมมาจากการเสียสละของคนในชาติ บางครั้งเพียงแค่ตื่นนอนเร็วขึ้นเพียงหนึ่งชั่วโมง สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างที่ไม่อาจคาดคิด แต่ในครั้งนี้ การปรับเปลี่ยนมาตรฐานแห่งเวลา ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตื่นเร็วขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว แต่ทุกคนจะได้เข้านอนกันเร็วขึ้นอย่างที่ไม่ต้องพยายาม โปรดให้โอกาสประเทศไทยกันครับ
จากบทความเรื่อง
ไทยเกือบช้าที่สุดในอาเซียน ของ ดร. อธิป อัศวานันท์