สงครามชีวิต ตอนเด็กยืมห้องสมุดมาแล้วอ่านไม่จบ ครับ
จนโตแล้วถึงได้อ่านรวดจนจบอย่างเจ็บปนอึ้งกับการตัดสินใจเลือกทางเดินของนางเอก(เพลิน)
ประทับใจกับประโยครำพันความเจ็บปวดของพระเอก (ระพินทร์) ที่เปรียบดังนกต้องธนู มากกว่า
ประโยคข้างหลังภาพของคุณหญิงกีรติ
ประโยคเหล่านี้ คุณชาลีนำไปแต่งเป็นเพลง อาลัยรัก
จากกระทู้เก่า
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2667.10;wap2 คุณชาลีเป็นนักแสดง นักร้องเพลงสลับฉากละครเวที จนวันหนึ่ง รพีพร ยื่นหนังสือสงครามชีวิต
มาให้อ่าน ต่อมาคุณชาลีมีโอกาสแต่งเพลงแทนนักแต่งเพลงที่เสียชีวิต คุณชาลีจึงแต่งเพลงนี้
(ร้องโดยคุณชรินทร์) แล้วประสบความสำเร็จได้แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน และกลายเป็นนักแต่งเพลงชั้นครูสืบมา
ส่วนคุณชรินทร์เล่าว่า ขับรถผ่านบ้านสุภาพบุรุษท่านหนึ่งแล้วท่านเรียกเข้าไปคุยในบ้าน
โดยที่ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร ก่อนจากยังได้รับห่อของขวัญที่เมื่อกลับบ้านเปิดดูเป็นหนังสือ สงครามชีวิต
พร้อมกับข้อความเขียนว่า ให้คุณชรินทร์ไว้ด้วยความรัก - ศรีบูรพา
คุณชรินทร์รีบขับรถกลับไปกราบท่าน
"ถ้าฉันเป็นนก ฉันจะบินติดตามเธอไปทุกหนทุกแห่ง
แม้ว่าระหว่างทางจะต้องศรเสียบทรวงอก
ฉันก็จะอุตส่าห์พยุงกาย บินไปตกที่หน้าตักของเธอ
เพื่อที่จะให้ยอดรักได้เช็ดเลือดและซับน้ำตาสักหยดหนึ่ง
ฉันก็จะหลับตาตายอย่างเป็นสุข
แต่นี่ฉันบินไม่ได้อย่างนก ขอแม่ยอดหญิงอย่าทอดทิ้งฉันไปเลย"
ส่วนตัวแล้วงานของศรีบูรพา ชอบ แลไปข้างหน้า ที่สุด ครับ