เรือนไทย

จากกระทู้ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4184.180 "เราที่สองรองภูมินทร์นามปิ่นเกล้า"


********************************************************

ขออนุญาตร่ายความเป็นมาเป็นไปก่อนนะขอรับ  ซึ่งกระผมมีความประสงค์ที่จะเรียนสอบถามท่านซักหน่อย กระผมไม่ทราบว่าจะไปพิมพ์สอบถามที่ไหน เห็นว่ามีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านประวัติศาสตร์อยู่ที่นี่ กระผมกำลังตามหาข้อมูลเพื่อเรียบเรียงหนังสืออยู่ขอครับ

พระยาพิไชยบุรินทรา ท่านนี้ที่ปรากฏอยู่ในเนื้อความนี้ เป็น พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) ที่ปรากฏในหนังสือนามสกุลพระราชทานหรือไม่ครับ

"ลำดับ ๑๙๔๘   ปัทมาคม   พระราชทานให้ นายร้อยตรีคำ สัสดีเมืองบุรีรัมย์ ปู่ชื่อ พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) บิดาชื่อหลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม)"

ในหนังสืออนุสรณ์ งานฌาปนกิจศพ ของคุณทวด วีระ ปัทมาคม ได้เขียนแผนผังสกุลไว้ว่า

********************************************************

ลำดับชั้นปู่
พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) ท่าน มีภรรยาชื่อ คุณหญิงนก ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
แต่ในเอกสารต่างๆ ไม่ได้ระบุไว้คงเป็นเพราะไม่ได้สลักสำคัญอะไร มีบุตรด้วยกันคือ

********************************************************

ลำดับชั้นพ่อ
หลวงอนุรัฐ นฤผดุง และ นางลูกอิน ปัทมาคม (นางอนุรัฐ นฤผดุง) มีบุตรชายหญิง 9 คน คือ

********************************************************

ลำดับชั้นลูก
๑.  นางสาว ปุก ปัทมาคม
๒.  อำมาตย์เอกหลวงบรรพตภูมาธิการ (อัมพร ปัทมาคม)
๓.  ร้อยเอกหลวงประมาณพลนิกาย (ทองคำ ปัทมาคม)
(ผมเข้าใจว่า ทวดคนนี้ เป็น นายร้อยตรีคำ ที่ ร.6 ท่านทรงประทานให้คงเป็นยศลำดับสุดท้ายที่ได้รับ ใช่หรือไม่ครับ)
๔.  ร้อยโท เจริญ ปัทมาคม
๕.  นางเชื้อ บุญยเกียรติ
๖.  นายชุบ ปัทมาคม
๗.  นายชิต ปัทมาคม
๘.  นางศิลปสุรพล (เชื่อม งามพล(ปัทมาคม))
(สามีคือ ร้อยเอก ขุนศิลปสุรพล (สิน งามพล) เป็นผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่)
๙.  ผู้บังคับหมวดศิลาวีระ ปัทมาคม (เฉี่อย ปัทมาคม)
(ตำแหน่งสุดท้าย หัวหน้ากองประจำฝ่าย ฝ่ายการก่อสร้าง รฟท. เป็นผู้อุทิศสถานศึกษาให้เป็นสมบัติของการรถไฟ ชื่อ โรงเรียนพิบูลปัทมาคม ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดศิลา รฟท.)

********************************************************

มีคำถาม 3 ข้อครับ
๑.  พระยาพิไชยบุรินทรา ตระลาการในพระบวรราชวัง ท่านนี้ที่ปรากฏอยู่ในเนื้อความข้างต้น เป็น พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) ที่ปรากฏในหนังสือนามสกุลพระราชทานว่า
"ลำดับ ๑๙๔๘   ปัทมาคม  พระราชทานให้ นายร้อยตรีคำ สัสดีเมืองบุรีรัมย์ ปู่ชื่อ พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) บิดาชื่อหลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม)" ใช่หรือไม่ครับ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ
๒.  คุณหญิงนก ภรรยาของ พระยาพิไชยบุรินทรา ที่บรรพบุรุษได้เล่าสืบมาว่าเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นจริงอย่างไรครับ ทราบแค่ว่าท่านชื่อคุณหญิงนก ไม่ได้ระบุนามสกุลเพราะแต่เดิมคงไม่มีอยู่แล้ว เป็นธิดาของใคร มีเหล่าเชื้ออย่างไรถึงได้ไปเป็นพระพี่เลี้ยงฯ ได้เพราะในประวัติศาสตร์น้อยนักที่จะระบุไว้ ถึงระบุกระผมก็จนด้วยเกล้าที่จะหาข้อมูลลึกลับอย่างนั้นมา พอมีคำแนะนำที่จะไปสืบหาที่ไหนได้บ้างครับ
๓.  ผู้ที่ได้รับพระราชทาน นามสกุล ในรัชสมัย ร.6 ในขณะนั้นระบุว่า "ลำดับ ๑๙๔๘   ปัทมาคม   พระราชทานให้ นายร้อยตรีคำ สัสดีเมืองบุรีรัมย์ ปู่ชื่อ พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) บิดาชื่อหลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม)" ในชั้นยศสุดท้ายมีราชทินนามว่า ร้อยเอกหลวงประมาณพลนิกาย (ทองคำ ปัทมาคม) ใช่หรือไม่ครับ
๔.  ร้อยเอก ขุนศิลปสุรพล (สิน งามพล) ที่ท่านเป็นผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่ ท่านเป็นบุตรของใครครับ
๕.  หากผมจะตามสืบประวัติขึ้นไป ตามลำดับ กระผมควรจะไปหาเอกสารประเภทใดในการค้นคว้าข้อมูลขอรับ
๖.  ถ้าไม่มีความเป็นไปได้เลย สักข้อหนึ่ง กระผมขอกราบขอบพระคุณที่เสียสละเวลาตอบกระทู้ขอรับ

********************************************************

กระผมได้สืบหาข้อมูลมาเป็นเวลานาน 5-6 ปีได้แล้วขอครับ ลูกหลานก็กระจัดกระจายไปตามบุพกรรม ก่อนที่คุณย่าท่านจะเสีย ท่านฝากความหวังไว้ให้ผมสืบขึ้นไปแล้วทำแผนผังตระกูลเพื่อจะได้ไม่ขาดสายกัน ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้สำเร็จให้จงได้ วันนี้บังเอิญได้เจอเว็บไซด์ "เรือนไทย" เห็นมีท่านอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประวัติศาสตร์มาก และได้เห็นลูกหลานกตัญญูที่จะสืบความถึงบรรพบุรุษเพื่อจะได้ทราบและบำเพ็ญกุศลให้ถึงต่อไป จึงได้เรียนสอบถามเอาความจากท่านอาจารย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญพอที่จะหาเอกสารเก่าๆ มาเทียบเคียงข้อมูล ในโอกาสเบื้องหน้าต่อไป กระผมจะได้ข้อมูลนำไปเรียบเรียงไปพิมพ์ลงในหนังสือ (.............) ครับ ถ้าได้ความอย่างไร ขออนุโมทนาบุญแก่ อาจารย์ผู้ช่วยเหลือครับ ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง อุดมด้วยโภคทรัพย์ เพียบพร้อมด้วยเครื่องอุปโภคทั้งหลาย เป็นบัณฑิตที่มีแต่ความรู้ช่วยเหลือสังคมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกระจ่างในเร็ววัน

ด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง
รามจิตติญาณ

ต้องกราบขออภัยด้วยครับ ด้วยความสะเพร่า กระผมพิมพ์หัวข้อว่า "มีคำถาม ๓ ข้อครับ" จริง ๆ มีเยอะเลยขอรับ

ขอแถมอีกสักข้อแล้วกันนะขอรับ

จากกระทู้ คุณ luanglek  http://www.reurnthai.com/index.php?action=printpage;topic=3568.0
ขุนปัทมาคมบัญชี  (โหย  ปัทมาคม)  สมุหบัญชีฝิ่นประจำกรมฝิ่น

ท่านเป็นคนในตระกูล ปัทมาคม เลยหรือขอรับ? ไม่เคยทราบเลยจริงๆ ขอขอบพระคุณท่านมาก แล้วกระผมจะพยายาม สืบหาลำดับญาติขึ้นเป็นแผนผังให้ได้ขอรับ คุณย่าท่านจะได้สู่สุขคติอย่างไม่เป็นห่วงอะไร

เข้าแนวภูมิรู้ของคุณ Wandee และคุณ Launglek เลยทีเดียว   ถ้ามีในขุมหนังสือของท่าน  คุณรามจิตติญาณก็คงจะได้คำตอบในเร็ววันนี้

สาธุ ขอความอนุเคราะห์ และความเมตตาด้วยขอรับ ขอให้เจอบ้างเถิด เพี้ยง!

ตามบัญชาของคุณเทาชมพู      คิดว่าเคยอ่านเรื่องคุณหญิงนก  มาแล้ว  และจดไว้ด้วย

ปัญหาอยู่ที่ว่า  จดไว้ที่ไหน


คุณหลวงเล็กเธอทำงานละเอียด  เก็บข้อมูลเป็นปี  แล้วจึงโพส

ขอความกรุณา จขกท  คอยสักพักนะคะ   เพราะช่วงนี้หลงทางไปติดกระทู้ยากอยู่ข้อหนึ่ง
จะทิ้งสหายก็ทำไม่ลง

อาจจะหาข้อมูลเรื่องกรมฝิ่นได้บ้าง

ทั้งนี้และทั้งนั้น   เป็นผู้เก็บหนังสือเก่า  เท่านั้น

เมื่อผู้ถามเป็นหลานเหลน   ก็ยินดีจะช่วยตามสติปัญญาความสามารถ

การสะกด ราชทินนามที่แตกต่าง


ขุนศิลป์ศูรพล    ขุน  (สิน  งามพล)  นายทหารคนสนิท  กองพันที่ ๒   กรมทหารราบที่ ๒

ผู้บังคับกองพันที่ ๒ (พระนคร) คือ   พ.ต. หลวงศิลปสารสราวุธ

ชื่อบิดา  ไม่ปรากฎ




(อ้างอิง   หนังสือ พิพิธภัณฑ์สัพพะสยามกิจ  ศักราช ๒๔๗๔   หน้า  ๑๓๒๓)

ด้วยถูกอ้างชื่อถึงในกระทู้นี้  ครั้นจะไม่ตอบเลยก็ดูเป็นการไร้น้ำใจเกินไป

ผมขอรับปัญหาของท่านไว้พิจารณาก่อน  ไม่รับปากว่าจะหาสิ่งที่ท่านต้องประสงค์ได้
เพราะข้าราชการหัวเมืองตามประวัติค่อนข้างยาก  ผมอยากให้คนถามลงสาแหรกตระกูลปัทมาคม
เท่าที่มีมาให้ผมดูสักหน่อย  (อย่าตัดอย่าทอนแม้แต่นิดเดียว) ลงไล่ไปทีละสาขา

กรณีที่คนใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ไม่ปรากฏข้อมูลในสาแหรก หรือคนในสกุลรุ่นหลังไม่รู้จัก
มีความเป็นไปได้ว่า  คนที่เป็นญาติใกล้เคียง มาขอใช้นามสกุลร่วมด้วยกับสายตรง
โดยได้รับความยินยอมจากผู้ขอพระราชทานนามสกุล   เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้สืบสาแหรกลำบากอยู่

มีท่านอื่นมาให้ช่วยค้นสายสกุลหัวเมืองอยู่ท่านหนึ่ง  จนบัดนี้ยังไม่ได้ความคืบหน้าอะไรมากนัก
แต่ก็น่ายินดี ที่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร  เพราะรู้ว่าผมมีงานทำมาก   และเขาก็พยายามค้นเองเหมือนกัน

ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เจ้าของคำถามรอเปล่าๆ  ผมอยากให้คุณลงข้อมูลเท่าที่คุณทราบมาให้ดูหน่อย
เพื่อจะได้เป็นเบาะแสในการค้นหาข้อมูลต่อได้   แม้ว่าตอนนี้กำลังติดพันอยู่ในสมรภูมิรบรามเกียรติ์ก็ตาม
(แหม  สนุกจนไม่มีคนหน้าใหม่เข้ามาเล่นด้วย) ;D

คุณเจ้าของกระทู้   ดิฉันไปเจอชื่อพระยาพิไชยบุรินทรา เข้าอีกแห่งหนึ่ง ใน  "ประกาศคราวเสด็จประพาศหัวเมืองฝั่งทเลไทยฟากตวันตก  เมื่อปีมแมเอกศก  จุลศักราช ๑๒๒๑  พ.ศ. ๒๔๐๒"  (สะกดตามต้นฉบับ)
เป็นประกาศเมื่อสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จะเสด็จประพาสหัวเมืองฝั่งทะเลไทยด้านตะวันตก   เป็นเวลา ๒๗-๒๘ วัน  พร้อมกับพระบรมวงศานุวงศ์   จึงมีประกาศนี้เป็นการมอบพระราชอำนาจให้สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

" เราพระเจ้ากรุงสยามขอมอบอำนาจในราชกิจที่จะรักษาพระนครและบังคับคดีของราษฎร และราชการแผ่นดินตามเหตุต่างๆ   ไว้แด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว"

ในประกาศนี้ทรงระบุชื่อขุนนางผู้ใหญ่ทั้งวังหลวงและวังหน้าเอาไว้  
วังหลวง ได้แก่  เจ้าพระยานิกรบดินทร์ฯ  สมุหนายก
เจ้าพระยารวิวงศ์มหาโกษาธิบดี ที่พระคลัง (เสนาบดีคลัง)
เจ้าพระยายมราชฯ (เสนาบดี เวียง)
เจ้าพระยาพลเทพ  (เสนาบดี นา)
เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์   (เสนาบดี วัง)
เจ้าพระยามุขมนตรี (เสนาบดีวังหน้า)
นอกจากนี้มีชื่อขุนนางผู้ใหญ่อีก ๗ ท่าน คือ พระยามหาอำมาตย์   พระยาสุรเสนา  พระยาเสนาธิเบศร์  พระยาพิไชยบุรินทรา  พระยามณเทียรบาล  พระยาสิงหราชเดโชไชย   พระยาเพ็ชรพิไสย

ดิฉันเคยมีหนังสือรายชื่อขุนนางวังหน้าและวังหลัง  เป็นหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพขุนนาถจำนง     เก็บไว้ในตู้อย่างดีไม่เคยแตะมาหลายปีแล้ว   พอกลับไปค้นจะหารายชื่อพระยาพิไชยบุรินทรา เพราะในนี้มีหมด เทียบไว้ด้วยว่าตรงกับตำแหน่งขุนนางท่านไหนในวังหลวง    ก็หาหนังสือไม่เจอ    ดังเช่นที่เป็นมาหลายครั้งสำหรับหนังสือที่เก็บไว้ดีเกินไป
บางทีคุณ Wandee หรือเพื่อนฝูงอาจจะมี   เคยเห็นวางในร้านหนังสือเก่าเมื่อหลายปีก่อน  คงพอจะหาได้ในหมู่เซียนหนังสือ  
จะได้รู้ว่าตำแหน่งพิไชยบุรินทราคือตำแหน่งอะไรในวังหน้า   ฟังจากชื่อแล้วน่าจะสังกัดเวียง   เป็นตำแหน่งใหญ่ระดับพระยาวังหน้า ซึ่งมีจำนวนไม่กี่คน น้อยกว่าวังหลวง    อาจเป็นได้ว่าเป็นเสนาบดีเวียงของวังหน้า   ตรงกับตำแหน่งเจ้าพระยายมราชของวังหลวง     เพราะวังหน้าก็มีจตุสดมภ์เวียงวังคลังนา ครบเหมือนวังหลวงเช่นกัน     เพียงแต่ศักดินาของขุนนางวังหน้าน้อยกว่าวังหลวงครึ่งหนึ่ง     พระยาพิไชยบุรินทราของวังหน้าจึงอาจตรงกันกับเจ้าพระยายมราชของวังหลวงก็ได้

ขอเฉลย
หลังจากโพสต์ไปแล้วก็ลุกขึ้นค้นหนังสือเป็นการใหญ่อีกครั้ง  ปรากฏว่าเจอจริงๆ  ชื่อหนังสือ ทำเนียบนามภาคที่ ๒

พบชื่อพระยาพิไชยบุรินทรา  อยู่เป็นชื่อแรกในสังกัด "กรมเมือง" ของวังหน้า  หมายถึงเป็นเสนาบดีของกรมนั้นๆ
ในหนังสือระบุว่า พระยาพิไชยบุรินทรา  ศักดินา 5000   เทียบยมราช
แปลว่า ท่านเป็นหนึ่งในจตุสดมภ์วังหน้า   ตำแหน่งการงานเทียบได้กับเจ้าพระยายมราช  หนึ่งในจตุสดมภ์ของวังหลวง  เว้นแต่ศักดินามีครึ่งเดียวของวังหลวง  ตามระเบียบศักดินาของขุนนางวังหน้า

เห็นจะต้องตั้งกระทู้ ขุนนางวังหน้า เสียแล้ว  ก่อนหนังสือจะหายไปอีก

ถึงคุณจขกท.ยังไม่รู้ว่าพระยาพิไชยฯ ที่ต้องพระอาญาในสมัยสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เป็นคนเดียวกับคุณปู่ของคุณทวดคุณหรือไม่   แต่อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าคุณปู่ของคุณทวดซึ่งเคยมีตำแหน่งนี้  มีหน้าที่การงานอะไรอยู่ในวังหน้า
ข้อสันนิษฐานอีกอย่างคือเอาอายุคุณทวดวีระเป็นหลัก   ว่าท่านเกิดพ.ศ.อะไรในรัชกาลไหน    แล้วในปลายสมัยสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ พระยาวังหน้าท่านนี้ยังรับราชการอยู่   อายุพอจะเป็นปู่ของคุณทวดได้หรือไม่

       ขอบพระคุณที่แจ้งชื่อหนังสือค่ะ   จะได้ขอยืมเพื่อนมาดู

มีหนังสืออนุสรณ์ไม่มากนักค่ะ    เก็บที่เป็นวรรณคดีมากกว่า

หนังสืองานศพก่อน พ.ศ. ๒๕๐๐  กำลังโดนกวาดไปมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียในราคาสูงมาก

หนังสือที่พอใช้ได้ในเวลานี้ที่ยังหลงเหลืออยู่   ราคาเล่มละ ๒๐๐ - ๓๐๐ บาท   ถ้าออกไปกว้านตามตลาดและพอเป็น

ที่รู้จัก  อาจได้ในราคาเล่มละ ๔๐ - ๖๐ บาท       เพื่อน ๆ นักอ่านก็ถ่ายเอกสารแจกกันไปมาค่ะ

ไม่นึกเลยว่าหนังสือเก่าของเรามีต่างชาติมากว้านถึงปานนี้

แจ่มค่ะ    กระทู้แจ่มใสแน่นอน

สแกนมาให้คุณวันดีดูค่ะ เผื่อจะหาเจอง่ายเข้า

ขอบพระคุณในความกรุณาค่ะ  มีแนวทางแล้วก็ตามได้ง่ายหน่อย

กระผมขอกราบขอบพระคุณในความอนุเคราะห์ที่ได้รับมาจากท่านผู้มีพระคุณทุกท่าน

คุณเทาชมพู  คุณวันดี  คุณหลวงเล็กครับ และท่านอื่นๆ ที่กำลังจะเข้ามาช่วยหาข้อมูลเพิ่มอีกหลายๆ ท่านขอรับ

กระผมกำลังจะได้ข้อมูลจากคุณย่าอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นน้องสาวของคุณย่าที่เสียไปแล้ว อายุประมาณ 82 ปีแล้วครับ
ซึ่งเป็นที่น่าแปลกมาก ว่า คุณย่าท่านอยู่ดี ๆ ก็เกิดนึกเรื่องในอดีตได้ขึ้นมา (แต่ไม่มากครับ) แต่ท่านก็เห็นว่างาม ว่าดีที่ตั้งใจจะทำให้สมบูรณ์
เวลาทำบุญ บำเพ็ญกุศล หรืออย่างไรก็จะได้ทำได้เต็มที่ ไม่ขาดตกบกพร่อง และที่สำคัญครอบครัวของกระผมก็อยากจะไปกราบบรรพบุรุษ
ผู้มีพระคุณทั้งหลาย รวมถึงเจ้านายของท่านด้วยที่ทำให้พวกเราได้มีที่ดีๆ เช่นทุกวันนี้ บางท่านอาจจะเห็นว่าไร้สาระ แต่ครอบครัวของกระผมไม่คิดเช่นนั้นขอครับ
ถึงแม้ตระกูลของกระผมจะไม่ใช่เจ้านายใหญ่โต ไม่ใช่ราชนิกูลอะไร แต่ถึงจะเป็นราษฏรสามัญชนธรรมดา กระผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่า จะต้องทำให้สำเร็จ เพราะคุณย่าท่านสั่งไว้ก่อนตาย

วันนี้ กระผมได้เล่าให้คุณย่าที่เป็นแม่ของคุณพ่อกระผมอีกท่าน ซึ่งเป็นน้องสาวของคุณย่าที่ตายว่า มีอาจารย์อยู่ในคอมพิวเตอร์เค้าสามารถช่วยหาข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับ สกุล "ปัทมาคม" ของเรา
ว่าต้นตระกูลเป็นใครมาจากไหนบ้าง ท่านก็ดีใจและยิ้มใหญ่เลย กระผมคิดว่า ท่านคงให้ศีลให้พร ท่านอาจารย์ทั้งหลายอยู่ในใจเป็นแน่ขอรับ ยิ้มอยู่ซักพัก ท่านก็มีกำลังลุกขึ้นมานั่งคุย
ตอบได้เท่าที่จะนึกออก เพราะท่านได้ล้มเจ็บแรงถดถอยลง ซึ่งก็ได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกส่วนหนึ่งครับ ผมจะรีบพิมพ์แล้วรีบเอาข้อมูลมาใส่เพิ่มเพื่อประโยชน์ในการสืบค้นต่อไปครับ

สุดท้ายนี้ต้องของขอบพระคุณท่านอาจารย์ผู้เมตตาอนุเคราะห์ในการจัดหาข้อมูลทุกท่าน
งานนี้เป็นงานที่ยากมาก กระผมและครอบครัวของกระผมทราบซึ้งในความเมตตากรุณาของพวกท่านมาก
ดังนั้น กระผมจึงไม่ได้เร่งรัดขอรับ เพียงแต่ ได้ทราบความคืบหน้าบ้างว่าเป็นอย่างไรก็เพียงพอแล้วขอรับ
ส่วนตัวกระผมเอง ก็พยายามหาข้อมูลต่อไป เช่นไปดูตามแผงหนังสือเก่า ตามที่พวกท่านอาจารย์ได้แนะนำ คิดว่าคงจะสำเร็จได้ในที่สุดขอรับ

ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
รามจิตติญาณ

มาถึงขณะนี้   ที่แน่ใจว่าถูกต้องคือต้นสกุลปัทมาคม เป็นขุนนางวังหน้าแน่นอน เพราะราชทินนาม พิไชยบุรินทรา เป็นเจ้ากรมเมือง หนึ่งในจตุสดมภ์ของวังหน้า   เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของวังหน้าเทียบได้กับเจ้าพระยายมราช  ของวังหลวง
ส่วนคุณปู่ของคุณทวดคุณเป็นคนเดียวกับพระยาพิไชยบุรินทราที่เป็นตุลาการในคดีเจ้าจอมมารดากลีบหรือเปล่า   ดิฉันยังสงสัยอยู่      เพราะคุณบอกว่าคุณหญิงนกภรรยาของท่านเคยเป็นพระพี่เลี้ยงในสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ    ถ้าจริงตามนั้น  คุณหญิงนกก็ต้องอายุมากกว่าสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯประมาณ ๑๕-๒๐ ปีโดยประมาณ     เจ้าคุณพิไชยฯสามีท่านก็น่าจะอายุมากกว่าคุณหญิงนก  หรืออย่างต่ำที่สุดก็ไล่เลี่ยกัน
เมื่อเกิดกรณีเจ้าจอมมารดากลีบ   สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯมีพระชนม์ ๕๘   ย้อนหลังไปเมื่อเกิดการฟ้องร้องครั้งแรก  ก็น่าจะประมาณ ๕๕ พรรษา   ขณะนั้นเจ้าคุณพิไชยฯสามีคุณหญิงนก มิอายุเข้าไปตั้ง ๗๕ อย่างต่ำแล้วหรือ     ถ้าอายุมากแค่นั้นยังรับราชการกันหรือเปล่า   
อีกอย่างคนโบราณก็อายุสั้น และแก่เร็วกว่าคนสมัยนี้  แค่อายุ ๖๐ ก็ถือว่าชราแก่หง่อมแล้ว    ผิดกับสมัยนี้อายุ ๘๐ กว่ายังออกสังคม  ทำงานเป็นกรรมการที่โน่นที่นี่ได้สบาย 

เชิญท่านทั้งหลายที่อยากจะช่วยคุณเจ้าของกระทู้   ออกความเห็นด้วยค่ะ 

ถ้าหากว่าพระยาพิไชยฯ(ทิม) คุณปู่ของคุณทวดคุณ เป็นคนละคนกับพระยาพิไชยฯที่ถูกอาญา   ก็เป็นได้ว่าท่านเป็นขุนนางวังหน้าในรัชกาลที่ ๓ (ซึ่งถอยหลังไปมาก  เพราะวังหน้ารัชกาลที่ ๓  ทรงเป็นอยู่ ๗ ปีเท่านั้นก็สิ้นพระชนม์)
ความเป็นไปได้อีกอย่างคือ อาจเป็นพระยาพิไชยฯ สมัยต้นรัชกาลที่ ๔  เมื่อครั้งสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯทรงครองพระบวรราชวังใหม่ๆ   ในเมื่อคุณหญิงนกเป็นพระพี่เลี้ยง   คุณปู่ของคุณทวดคุณก็อาจเป็นข้าหลวงเดิมสมัยทรงเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศฯ  จึงไว้วางพระทัยให้เป็นขุนนางใหญ่ของวังหน้า     แต่ต่อมาท่านอาจถึงแก่กรรม  จึงทรงเลื่อนขุนนางวังหน้าอีกคนขึ้นในตำแหน่งนี้แทน  คนหลังนี้ก็คือคนที่ถูกลงพระอาญา ในปลายรัชสมัย

ในประกาศเดียวกันกับค.ห. 7   มีอีกตอนหนึ่ง ที่เอ่ยถึงหน้าที่การงานของพระยาพิไชยบุรินทราไว้   

ขออธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อสมเด็จพระจอมเกล้าฯจะเสด็จประพาสออกนอกเขตพระนคร ไปนานเกือบหนึ่งเดือน ถือเป็นเรื่องใหญ่    พระองค์ท่านก็ทรงสั่งงาน มอบหมายแจกจ่ายหน้าที่การงาน กำชับกำชาขุนนายใหญ่ๆเอาไว้ว่าระหว่างนี้ ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะต้องทำอะไรบ้าง     เปรียบง่ายๆเหมือนเจ้าของบ้านไม่อยู่  นอกจากมอบหมายให้น้องชายดูแลบ้านแทน  ก็ต้องบอกบริวารในบ้านด้วยว่า ถ้ามีเรื่องนั้นเรื่องนี้เกิดขึ้นจะต้องประสานงานกันอย่างไรแบบไหน
ตอนหนึ่งบอกว่า
" การในกรมพระนครบาลนั้น  ให้เจ้าพระยายมราช   พระยาพิไชยบุรินทราแลพระยาเพ็ชรปาณี  พระยาเพ็ชร์ชฎา   ช่วยกันชำระผู้ร้ายรายเมืองสระบุรีแลรายอื่นๆ  ให้ได้ตัวสำคัญเสียให้ได้     แล้วกราบทูลพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว   แลกราบทูลเจ้าต่างกรมผู้ใหญ่ แลปฤกษาท่านเสนาบดีให้เห็นพร้อมกัน   ควรจะทำโทษอย่างไร   ทำที่ไหนจะควรจะไม่เปนเยี่ยงเปนอย่างต่อไป  ก็จงทำโทษเถิดอย่าเก็บไว้คอยเลย   ผู้ร้ายรายอื่นมันจะกำเริบขึ้น    การรักษาระวังพระนคร ก็จงจัดแจงให้กวดขันตามเคยอย่างเมื่อเราพระเจ้ากรุงสยามไม่อยู่แต่ก่อนๆนั้น    ถ้าการผู้ร้ายลักฉกฤๅตีรันฟันแทงคนนอกประเทศที่มาอยู่   ก็จงเร่งชำระให้ได้ตัวได้ความแล้วให้กรมท่านำไปพร้อมกับกงสุลให้เขารู้ด้วย   แล้วปฤกษากันทำโทษฤๅปรับไหมให้เขาโดยสมควรแก่กฎหมายแลแบบอย่างนั้นเถิด"

จากประกาศพระบรมราชโองการ  ก็พอมองเห็นว่าขอบเขตงานของพระยาพิไชยบุรินทรา คือมีอำนาจหน้าที่ในกรมพระนครบาล  เป็นอันดับสองรองจากเจ้าพระยายมราช  ดูจากการลำดับชื่อข้างบนนี้
หน้าที่คือ
๑  ปราบปรามคนร้ายทั้งในและนอกพระนคร  ในหัวเมืองอื่นๆด้วย
๒  ดูแลความสงบเรียบร้อยในพระนคร
๓  ดูแลความปลอดภัยของชาวต่างประเทศในสยาม    ทั้งฝรั่ง จีน แขก และชาติอื่นๆ
๔  ประสานงานกับกรมท่าเพื่อแจ้งกงสุลให้รู้ในกรณีมีผู้ร้ายทำอันตรายชาวต่างประเทศ
๕  ทำหน้าที่ตุลาการตัดสินลงโทษและปรับค่าเสียหายด้วย  คือเป็นทั้งศาลอาญาและศาลแพ่งด้วยในตัว

คุณรามจิตติญาณคร้บ สาแทรกสกุลที่โพสต์ลงนั้นผมขอแก้ไขสักแห่งเถิด

ลำดับชั้นลูก คนที่ 2. อำมาตย์ตรี หลวงบรรพตภูมาธิการ (อำพร ปัทมาคม) ไม่ใช่อำมาตย์เอกครับ

ส่วนที่ถามว่า ผู้ที่ได้รับพระราชทาน นามสกุล ในรัชสมัย ร.6 คือ นายร้อยเอก หลวงประมาณพลนิกาย (ทองคำ ปัทมาคม) หรือไม่

ใช่ครับ แต่ยศนายร้อยเอกนั้น เป็นยศสุดท้ายในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นะครับ
หลังเปลี่ยนแปลงแล้วคุณหลวงจะได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นหรือไม่ผมยังไม่ได้ตรวจสอบ

ได้รับพระราชทานยศเป็น          นายร้อยโท               เมื่อ พ.ศ. 2458
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น  ขุนประมาณพลนิกาย     เมื่อ พ.ศ. 2469
ได้รับพระราชทานยศเป็น          นายร้อยเอก              เมื่อ พ.ศ. 2472
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น  หลวงประมาณพลนิกาย   เมื่อ พ.ศ. 2473

ส่วนคุณหลวงประมาณพลนิกาย กับคุณหลวงบรรพตภูมาธิการ จะรับราชการในตำแหน่งหน้าที่ใดในช่วงเวลา 2474 แล้ว
คงต้องวานคุณวันดีช่วยเหลือด้วย

เรียนคุณ art47

ขอกราบขอบพระคุณในความอนุเคราะห์ที่ได้เมตตา ค้นคว้าข้อมูลที่คาดว่าจะสาบสูญไป ให้กลับมาดังเดิม
คาดว่าใกล้ความเป็นจริงแล้วขอรับ กระผมก็ได้สัมภาษณ์คุณย่าเพิ่มมาแล้ว
ข้อมูลกระผมก็จะเร่งพิมพ์แล้วนำมาลงให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติม ในการพิจารณาต่อไปขอรับ

ปล. ได้แจ้งให้ผู้ใหญ่ในฝั่งสายตระกูลผมทราบแล้วว่า อำมาตย์เอก หลวงบรรพตภูมาธิการ (อำพร ปัทมาคม) แท้จริงแล้วเป็น อำมาตย์ตรี หลวงบรรพตภูมาธิการ (อำพร ปัทมาคม) นอกเสียจากว่า ลูกหลาน ทางฝั่งคุณหลวงทวดอำพร จะมีข้อมูลที่ยืนยันได้จริงว่า ท่านได้รับพระราชทานยศเป็น อำมาตย์เอก เมื่อ วัน เดือน ปี ใด อย่างไรครับ ส่วนตัวกระผมก็ได้ทำการแก้ลงในสาแหรกแล้วเพื่อป้องกัน การหลงลืม ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านอีกครั้งขอรับ

ประมาณพลนิกาย  หลวง  (คำ  ปัทมาคม)  นายร้อยเอก   สัสดีจังหวัดอุบลราชธานี

(อ้างอิง  หนังสือ  พิพิธภัณฑ์สัพพะสยามกิจ  ศักราช ๒๔๗๔   หน้า ๑๐๔๓)



บรรบตภูมาธิการ    หลวง   (อำพร   ปัทมาคม)  อำมาตย์ตรี   ปลัดจังหวัดพิษณุโลก
(อ้างอิงเดิม  หน้า ๙๘๘)




โล่งใจที่สมาชิกพรรค  สามารถแกะรอยกันคนละก้าวสองก้าว

คุณรามจิตติญาณ  โปรดเข้าใจสักนิดนะคะ    ว่าเราอาจจะต้องใช้เวลานานมากทีเดียว  แต่จะไม่มีใครลืมเป็นอันขาด




มีเพื่อนอยู่สองคน  คนหนึ่งเก็บข้อมูลตระกูลและประวัติขุนนางภาคกลาง     อีกคนหนึ่งเก็บข้อมูลภาคตะวันออก

แน่ใจว่าเขาทั้งสองและทีมงานอ่านกระทู้นี้อยู่เหมือนกัน   ถ้ามีข้อมูลใดๆ   เขาก็คงส่งมาให้อยู่แล้วโดยไม่ต้องออกปาก

เพราะทีมงานยังติดต่อดิฉันอยู่ทุกวัน  แลกเปลี่ยนข้อมูล

ดิฉันห่างไกลเพื่อนสองคน และ คุณหลวงเล็ก มากนัก          เพียงมีเอกสารสำคัญอยู่บ้างเท่านั้น

การเก็บข้อมูลของเพื่อนเป็นระบบ  ทั้งกว้างและลึก  และใช้เวลานับสิบปี

ภูมิใจในคุณอาร์ต47  เป็นกำลัง   คงมีโอกาสได้แนะนำให้รู้จักกับทีมงานค้นเอกสาร ในงานหนังสือเร็ว ๆ นี้

บรรดาศักดิ์ หลวง ในสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้นเป็นได้เพียง อำมาตย์ตรี ซึ่งเทียบเท่า นายพันตรี เท่านั้นครับ  แธนั้นข้อมูลที่ว่า หลวงบรรพตภูมาธิการ (อำพร ปัทมาคม) มียศเป็นอำมาตย์เอกนั้น  น่าจะเป็นการเข้าใจผิด  เพราะยศหลวงนั้นอาจเป็นรองอำมาตย์เอก หรือ อำมาตย์ตรีเท่านั้น  ถ้าจะเป็นอำมาตย์เอกต้องมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยา  หรือเป็นพระเป็นอย่างน้อย

ออกตัวก่อนนะคะ  ว่า  ค.ห.นี้ไม่เกี่ยวกับผู้สืบสกุลปัทมาคม  แต่เป็นการตั้งข้อสังเกตเรื่องที่มาของชื่อนามสกุล

ทีแรก เมื่อเห็นนามสกุลพระราชทานว่า "ปัทมาคม" ก็เดาไว้ล่วงหน้าว่า บรรพบุรุษน่าจะชื่อ "บัว" หรืออะไรที่แปลว่าดอกบัว   เพราะปัทมาคม แปลว่า "มาจากบัว"
นามสกุลพระราชทาน มักจะตั้งขึ้นจากชื่อหรือราชทินนามของบรรพบุรุษ    ตามที่ผู้ขอนำประวัติของสกุลตนขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ประกอบการขอพระราชทานนามสกุล     ถ้าหากว่าเป็นราชสกุล ก็พระราชทานจากพระนามของเจ้าฟ้าหรือพระองค์เจ้าที่เป็นต้นราชสกุล   ถ้าเป็นสามัญชนก็จากชื่อปู่ชื่อทวด
ทำไมปัทมาคม ไม่มีชื่อบัว  มีแต่ชื่อเจ้าคุณพิไชยฯ(ทิม)  และคุณหลวงอนุรัฐฯ (แถม)  ดิฉันสงสัยอยู่หลายวันถึงที่มา
ในที่สุดนึกขึ้นได้จากชื่อ "ทิม" ว่าคงโยงเข้ากับคำว่า "ทับทิม"   ซึ่งโบราณเรียกทับทิมว่า  ปัทมราค  หรือ ปัทมราช  
จึงกลายเป็น "ปัทมาคม" = มาจากทับทิม น่ะเอง 

หลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม  ปัทมาคม)

ผมไม่แน่ใจว่า  ที่ผมเจอข้อมูลนี้เป็นคนเดียวกันไหม

ประกาศกระทรวงมหาดไทย  เรื่องย้าย ปลด บรรจุข้าราชการ
และข้าราชการเวนคืนตำแหน่ง

ให้ปลดอำมาตย์ตรี พระอนุรัฐนฤผดุง  นายอำเภอสามพราน
จังหวัดนครปฐม  ออกรับพระราชทานบำนาญ  เนื่องจากยุบเลิก
ตำแหน่งต่างๆ

ย้ายรองอำมาตย์โท  หลวงประสานประศาสน์  นายอำเภอจระเข้สามพัน
จังหวัดสุพรรณบุรี  เป็นนายอำเภอสามพราน  จังหวัดนครปฐม

๓๐ เมษายน  ๒๔๗๕  จาก ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๔๙

ใครมีคู่มือฝากค้นชื่อตัวให้ทีนะ

ข้อมูล ๒๔๗๔ ถึง ต้นปี ๒๔๗๕


ชื่อตัวของ อำมาตย์ตรี พระ อนุรัฐนฤผดุง   นายอำเถอสามพราน  จังหวัดนครปฐม

คือ  ล้อม  นมะหุต    ค่ะ

กราบเรียน   ท่านอาจารย์ผู้เชียวชาญทุกท่านและทีมงานผู้รวมรวมข้อมูล

กระผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการขอบพระคุณทุกท่าน ในแต่ละข้อมูลเช่นเคย
คุณเทาชมพู คุณluanglek คุณWandee  คุณart47 คุณV_Mee

...ทำไมในข้อมูลเป็น "ล้อม นมะหุต" นะขอรับ ท่านเปลี่ยนชื่อเป็น "ทองแถม (แถม)" หรืออย่างไรในภายหลัง
คุณย่าท่านก็ยืนยันเลยนะครับ เสียงแข็งมาก แบบกระผมตกใจมาก ไปถามธรรมดาๆหน่ะขอรับ
ท่านว่าคุณปู่ท่านชื่อ "หลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม ปัทมาคม)"
คืออารมณ์ประมาณว่า บอกชื่อปู่ท่านผิด แบบตามธรรมชาติของเราหน่ะขอรับ
ก็เลยกลายเป็นข้อสงสัยว่า หาก...นายล้อม นมะหุต เป็น คุณปู่ของคุณย่าของผมจริงหรือ ?
แล้ว "แถม ปัทมาคม" ชื่อนี้มายังไงหรือนั่น ? เป็นที่งงงวยในตอนนี้จริงๆ

**********************************************************

และแล้วกระผมก็ได้ค้นเจอ นามสกุลพระราชทาน "นมะหุต" และ "ปัทมาคม" ไม่ใกล้เคียงกันเลยขอครับ ขุนประกอบธนกิจ (ล้อม) อยู่จังหวัดเชียงใหม่ ปู่ยังชื่อหนำ อีกด้วย ส่วนลูกของหลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม) ชื่อนายร้อยตรีคำ เป็นสัสดีเมืองบุรีรัมย์ ปู่ชื่อ พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) ซึ่งนายร้อยตรีคำนี้ ต่อมายศสุดท้ายคือ หลวงประมาณพลนิกาย  ขอรับ ทั้งนี้ ที่กระผมนำมาอ้างอิง ควรจะเป็นปีเดียวกันที่มีราชกิจจานุเบกษานะขอรับ กระผมจึงคิดทึกทักเอาเองซึ่งคำนวณจากระยะเวลาปี ว่าไม่น่าจะใช่ "ล้อม นมหุต" ที่เป็น คุณปู่ของคุณย่าผม คงจะเป็น ชื่อตำแหน่งที่รับราชการ "อนุรัฐนฤผดุง" หรือไม่ขอรับ กระผมก็ยังเยาว์อยู่ไม่สามารถเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ดีนัก ขอกราบอภัยด้วยขอรับ หากผิดถูกอย่างไร ได้โปรดเมตตาชี้แนะด้วยขอรับ

อ้างอิง สมุดภูมิพิสัยพิสุทธิวรพงศ์ น
นามสกุลเลขที่ ๓๗๐๕  นามสกุล  นมะหุต  นามสกุลอักษรโรมัน Namahutta พระราชทาน ขุนประกอบธนกิจ (ล้อม) เจ้าพนักงานสุรายาฝิ่น จังหวัดเชียงใหม่ ปู่ชื่อหนำ จากราชกิจจานุเบกษา ๑๙/๑/๑๖

อ้างอิง สมุดภูมิพิสัยพิสุทธิวรพงศ์ ป..๒
นามสกุลเลขที่ ๑๙๔๘  นามสกุล  ปัทมาคม  นามสกุลอักษรโรมัน Padma^gama พระราชทาน นายร้อยตรีคำ สัสดีเมืองบุรีรัมย์ ปู่ชื่อพระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) บิดาชื่อหลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม) จากราชกิจจานุเบกษา ๑๐/๓/๑๔


**********************************************************

ขออนุญาตไปเรียบเรียงข้อมูลที่สัมภาษณ์คุณย่า ท่านต่อก่อนขอครับ ใกล้จะได้ข้อมูลเยอะขึ้นครับ ท่านก็นึกออกทีละอย่างๆ ข้อมูลกำลังเข้มข้นมากครับ แต่ละท่านก็ช่วยกระผมค้นหาข้อมูลและได้ข้อมูลมาประติดประต่อทีละอย่าง ทีละอย่าง ซึ่งครานี้ คุณย่า และกระผมขอถึงโอกาสอนุโมทนาในกุศลบุญราศรีทักษิณานุปทานกิจ สำหรับข้อมูลสำคัญๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของกระผม ผู้ซึ่งได้จากโลกนี้กันไปแล้วด้วยขอรับ ขอกราบขอบพระคุณ

หลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม ปัทมาคม) คงเป็นคนที่ได้ดำรงราชทินนามนี้ก่อน พระอนุรัฐนฤผดุง (ล้อม นมะหุต)
และการที่พระอนุรัฐนฤผดุง (ล้อม นะมหุต) จะได้ดำรงราชทินนามนี้ ก็ต้องรอให้ หลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม ปัทมาคม)
เสียชีวิต หรือเลื่อนไปรับราชทินนามอื่นเสียก่อน
ซึ่งข้อมูลการรับพระราชทานราชทินนาม "อนุรัฐนฤผดุง" ของคุณพระ (ล้อม นมะหุต) นี้ ยังหาไม่ได้ว่าเมื่อไร

และอีกประการหนึ่งเราไม่รู้ว่าขณะที่ได้รับพระราชทานนามสกุล "ปัทมาคม" นั้น
หลวงอนุรัฐนฤผดุง (แถม) เสียชีวิตหรือยัง
เพราะถ้ารู้ข้อมูลตรงนี้จะกำหนดระยะเวลาในการตรวจสอบได้ดีขึ้นอีก ว่าคุณหลวง (แถม) น่าจะเกิดในสมัยใด
และบิดา คือ พระยาพิไชยบุรินทรา (ทิม) น่าจะรับราชการในช่วงใด

(ตรวจสอบการเสียชีวิตได้ใน "ข่าวตาย" ของราชกิจจานุเบกษา)

การค้นหาข้อมูลข้าราชการเก่า ซึ่งลำพังรู้จักแต่ชื่อ
เป็นการยากอย่างยิ่ง  เพราะต้องเดินเข้ากองเอกสารแล้วเปิดดูทีละหน้า
จะเจอที่ต้องการเมื่อไรไม่รู้   เพราะเบาะแสที่ให้มายังน้อย
หากว่าท่านผู้ถาม พอจะมีเอกสารอื่นใดเกี่ยวกับคนที่ในสกุลปัทมาคมอยู่บ้าง
แลเห็นว่าเป็นคุณเป็นประโยชน์แก่คนที่เพียรค้นข้อมูล ก็เชิญเขียนมาเถิด

อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่า ราชทินนาม"อนุรัฐนฤผดุง" เป็นของข้าราชการระดับนายอำเภอ    แปลว่าเป็นข้าราชการสังกัดกรมการปกครอง
แต่ทุกคนที่เป็น "อนุรัฐนฤผดุง"  เป็นนายอำเภอประจำที่อ.สามพราน จ.นครปฐม หรือเปล่าไม่แน่ใจ

ไปค้นประวัติกรมการปกครองมา ว่าก่อนหน้าจะมีชื่อ "กรมการปกครอง"  สมัยนั้น ราชการไทยเรียกว่าอะไรมาก่อน  ได้ความว่า
•พ.ศ. 2458กรมพลำภัง มีส่วนราชการย่อย คือกรมปกครองและกรมฝ่ายเหนือ
•พ.ศ. 2459 กรมพลำภังมีส่วนราชการย่อย คือกรมปกครองท้องที่และกรมการเมือง
•พ.ศ. 2460กรมปกครองมีส่วนราชการ2แผนกคือแผนกปกครองท้องที่และแผนกการเมือง
•พ.ศ. 2466กรมพลำภัง มีส่วนราชการย่อย คือกรมปกครอง และกรมการเมือง
•พ.ศ. 2467กรมพลำภัง มีส่วนราชการย่อย คือ การภายในกรมภายนอก และกรมทะเบียน
•พ.ศ. 2469กรมพลำภัง มีส่วนราชการย่อย คือ กรมปกครอง กรมทะเบียนและกรมราชทัณฑ์

หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบ ประชาธิปไตยแล้วในปี พ.ศ. 2476กรมพลำภังได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมมหาดไทยต่อมาในปี พ.ศ. 2505 จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ "กรมการปกครอง" จนถึงปัจจุบัน

--------------------------------------------------------------------------------
ดังนั้น ถ้าสืบได้ว่าหลวงอนุรัฐฯ พ่อของคุณทวดวีระ  รับราชการก่อนปี 2475  ท่านก็เป็นนายอำเภอ สังกัดกรมพลำภัง    แต่อยู่ส่วนราชการย่อยอะไรต้องดูอีกทีว่านายอำเภอต่างจังหวัดภาคกลาง อยู่ในกรมปกครองท้องที่ หรือกรมปกครอง

สิ่งที่ดิฉันอยากให้คุณรามจิตติญาณบอกมาก็คือคุณทวดวีระเกิดเมื่อพ.ศ. อะไร   เผื่อจะเป็นร่องรอยสืบต่อได้ว่าบิดาและปู่ท่านน่าจะรับราชการในรัชกาลไหน
ฝากเรียนถามคุณย่าว่า คุณทวดวีระเกิดที่นครปฐมหรือไม่ หรือว่าตอนเล็กๆใช้ชีวิตกับบิดามารดาที่จังหวัดไหน  จะได้พอแกะรอยได้ว่าคุณหลวงอนุรัฐฯ (แถม) รับราชการอยู่ที่ไหนกันแน่

ป.ล.  ขอถามนอกเรื่องอีกหน่อยว่าทำไมใช้นามแฝงว่า รามจิตติญาณ    ทราบหรือไม่ว่า รามจิตติ เป็นพระนามแฝงในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

๒.  คุณหญิงนก ภรรยาของ พระยาพิไชยบุรินทรา ที่บรรพบุรุษได้เล่าสืบมาว่าเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า เจ้าอยู่หัว เป็นจริงอย่างไรครับ

 ทราบแค่ว่าท่านชื่อคุณหญิงนก ไม่ได้ระบุนามสกุลเพราะแต่เดิมคงไม่มีอยู่แล้ว เป็นธิดาของใคร มีเหล่าเชื้ออย่างไรถึงได้ไปเป็นพระพี่เลี้ยงฯ

 ได้เพราะในประวัติศาสตร์น้อยนักที่จะระบุไว้ ถึงระบุกระผมก็จนด้วยเกล้าที่จะหาข้อมูลลึกลับอย่างนั้นมา พอมีคำแนะนำที่จะไปสืบหาที่ไหนได้บ้างครับ



       ค้นเอกสารที่บันทึกไว้    ไม่ตรงกับคำถามค่ะ    มีแต่พระนมนางในพระบาทสมด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระบวรราชวังในรัชกาลที่ ๔  กรุงเทพฯ

ชื่อพระนมกลิ่นค่ะ   มีสายสกุลตามสมควร  มีรายชื่อบุตรและธิดา  และคู่สมรส และประวัติความเป็นมา     และบุตรเขยของพระนมกลิ่นคนหนึ่ง    

เป็นหลานปู่ของ เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์​(กุน)  ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของเรา


        ขออภัยที่ไม่สามารถตอบคำถามที่ได้ถามมาได้       ได้ตรวจสอบบันทึกและหนังสือเก่าเท่าที่มีอยู่แล้วค่ะ  ไม่ได้ลืมเรื่องเลย

       โดยทั่วไปนักอ่านก็แลกข้อมูลกันค่ะ

       บุตรและสายสกุลของขุนนางผู้ใหญ่ก็ไม่มีการบันทึก  ถ้าไม่ได้รับราชการค่ะ

http://www.naewna.com/news.asp?ID=218851

อันนี้เป็นต้นตระกูลจิงๆของนมะหุตค่ะ   เเต่ก้อได้มาจากคุณพ่อของเราค่ะ
ซึ่งเคยอยู่ในบ้านหลังนี้มาก่อน ซึ่งชื่อเล่นคือ ปู่หนำ ค่ะ ไม่มีการเปลี่ยนชื่อเเต่อย่างใด (เท่าที่ทราบมาเบื้องต้น)

พอดีผ่านมาเห็นเลยมาตอบนะคะ

นมะหุต

ขอกราบขอบพระคุณ ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน กระผมต้องขออภัยที่กระผมไม่ได้เข้ามาตอบคำถามท่านผู้เชี่ยวชาญเลยเพราะติดภาระกิจ วันนี้พอว่าง กระผมจึงได้รีบเข้ามาแจ้งเพื่อไม่ให้เป็นที่น่าเกลียดเหมือนจะทิ้งกระทู้ไป ตอนนี้ติดภาระกิจ ที่จะต้องทำให้เสร็จก่อน เดือนพฤษภาคมขอรับ ไว้หลังเดือน พฤษภาคม กระผมจะกลับมาใหม่ ข้อมูลที่ท่านผู้เชี่ยวชาญทุกท่านได้ให้ไว้นั้น กระผมได้ข้อมูลมามากมาย และจากการศึกษาส่วนตัวของกระผมเอง ก็เรียบเรียงไปเรื่อยๆ ประวัติบุคคลก็พอทราบเกือบหมดแล้วขอรับ ต้องขอขอบพระคุณผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน มา ณ ที่นี้

งานยังไม่เสร็จ ยังคงมีเรื่องให้สอบถาม อีกซักหน่อย ไว้มีโอกาสกระผมจะรีบเข้ามาขอรับ

ขอกราบขอบพระคุณ
รามจิตติญาณ
 ๒๖  มีนาคม  ๒๕๕๔  เวลา ๑.๒๕ นาฬิกา