กระทู้: ขอทราบพระประวัติพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ช่วงวัยผู้ใหญ่ เริ่มกระทู้โดย: kiwi ที่ 07 ส.ค. 14, 17:24 ดิฉันได้อ่านกระทู้เก่า ๆ เริ่มที่กระทู้ เจ้าวังปารุสก์ สนุกและได้ความรู้มากค่ะ แต่ในกระทู้นี้จะพูดถึงเหตุการณ์ตอนต้น และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิทธิการครองราชย์เป็นส่วนใหญ่ ดิฉันเคยอ่านหนังสือเรื่องเกิดวังปารุสก์ มานานมากแล้ว แต่อ่านไม่จบ จำได้ว่าพระองค์ทรงบรรยายเกี่ยวกับการแข่งรถไว้หลายบท ดิฉันจะขอรบกวน อ.เทาชมพู ช่วยกรุณาเล่าพระประวัติตั้งแต่ช่วงที่ทรงศึกษาที่ต่างประเทศ เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ทรงกลังมารับราชการหรือไม่อย่างไร หรือทรงมีบทบาทต่อสังคมไทยอย่างไร ตราบจนท่านสิ้น ขอขอบพระคุณมากค่ะ
กระทู้: ขอทราบพระประวัติพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ช่วงวัยผู้ใหญ่ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ส.ค. 14, 17:36 ขอตอบสั้นๆก่อนนะคะ
พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนราชินี จนพระชันษาครบ 13 จากนั้นเสด็จไปทรงศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนแฮร์โรว์เมื่อ พ.ศ. 2466 ถึงปี พ.ศ. 2470 จนจบก็เข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ทรินิตี้คอลเลจ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ทรงจบด้านประวัติศาสตร์ ได้รับปริญญาตรี (B.A. เกียรตินิยม) เมื่อปี พ.ศ. 2473 และ ปริญญาโท (M.A. เกียรตินิยม)เมื่อปี พ.ศ. 2477 เมื่อครั้นยังเรียนอยู่ที่อังกฤษ ทรงได้รับเลือกเป็นสภานายกสามัคคีสมาคม เมื่อทรงศึกษาสำเร็จแล้วมิได้เสด็จกลับสยาม แต่ทรงรับราชการเป็นนายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงลอนดอน กระทู้: ขอทราบพระประวัติพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ช่วงวัยผู้ใหญ่ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ส.ค. 14, 12:20 คุณ Kiwi คงจำได้ว่า พ.ศ. 2475 คือปีเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่ของสยาม แม้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโดยไม่เสียเลือดเนื้อ แต่ผลกระทบที่ตามมาก็รุนแรงและยาวนานอยู่หลายปี ไม่ว่าจะเป็นกบฏบวรเดชในพ.ศ. 2476 หรือการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สถานการณ์เหล่านี้ไม่เอื้อให้พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์เสด็จกลับสยาม ก็เลยทรงอยู่ในอังกฤษต่อมา
ย้อนหลังกลับไปเมื่อพระบิดา สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถเสด็จทิวงคตในรัชกาลที่ 6 พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ยังทรงพระเยาว์อยู่มาก พระบิดาทรงเสกสมรสใหม่กับหม่อมเจ้าชวลิตโอภาส รพีพัฒน์ และทรงทำพินัยกรรม มอบทรัพย์สินมรดกทุกอย่างให้หม่อมเจ้าชวลิตโอภาสเพียงผู้เดียว ส่วนพระโอรสนั้นทรงมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของพระชายา มีเงื่อนไขให้หม่อมเจ้าชวลิตโอภาสทรงเลี้ยงดูและทะนุบำรุงตามสมควร แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า สิทธิ์ขาดในกองมรดก และอำนาจในการอุปการะอยู่ที่ท่านหญิงเป็นผู้กำหนด หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสสิ้นชีพิตักษัยเมื่อพ.ศ. 2475 ดังนั้นพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์จึงกลายเป็นเจ้าของกองมรดกทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว รายได้ประจำปีจากกองมรดกที่ทรงได้รับก็เพิ่มจากเดิมปีละ 1,000 ปอนด์ มาเป็นปีละ 20,000 ปอนด์ ทำให้ทรงมีฐานะพอจะอยู่ในอังกฤษได้อย่างเศรษฐีคนหนึ่ง กระทู้: ขอทราบพระประวัติพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ช่วงวัยผู้ใหญ่ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 14, 16:49 ความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในสยาม จากการปฎิวัติในพ.ศ. 2475 เป็นส่วนสำคัญให้พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ตัดสินพระทัยอยู่ในอังกฤษต่อไป แทนที่จะเสด็จกลับมาสู่บ้านเกิดเมืองนอน เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯทรงสละราชสมบัติ ก็ยิ่งไม่มีเหตุให้พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ทรงอยากกลับมารับราชการในสยาม
ความเป็นอยู่ในอังกฤษขณะนั้นนับว่าสุขสบายและเป็นอิสระกว่า ผิดกับทางสยามที่ตึงเครียดทางการเมืองอยู่ไม่เว้นว่าง ก่อนหน้านี้ พระองค์จุลฯ ทรงมีพระญาติสนิทพระชันษารุ่นราวคราวเดียวกันเป็นเพื่อน คือพระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ พระโอรสในสมเด็จวังบูรพาฯ พระองค์เจ้าอาภัสสรวงศ์ทรงแนะนำให้พระองค์จุลฯ รู้จักกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช พระอนุชา ทั้งพระองค์จุลและพระองค์พีระเกิดความสนิทสนมคุ้นเคยและต้องชะตากัน เหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ พระองค์จุลฯ ได้วางพระองค์เป็นพี่ชายที่ดีของน้องชายมาโดยตลอด ในช่วงเวลาที่เจ้าชายหนุ่มทั้งสามไปพักร้อนด้วยกัน พระองค์อาภัสฯ ทรงสอนพระองค์พีระฯ หัดขับรถ พระองค์พีระทรงฉายแววพรสวรรค์ทางด้านนี้ ทรงเรียนรู้การขับรู้ได้เร็วและโปรดการขับรถอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ภาวะการเงินของสำนักงานพระคลังข้างที่อยู่ในฐานะลำบาก เพราะอำนาจทางการเงินอยู่ในมือของรัฐบาลทั้งหมด เจ้านายที่อยู่ต่างประเทศได้รับผลกระทบไปด้วย พระองค์จุลฯ จึงรับอุปการะพระองค์พีระฯ อย่างเต็มตัว ถึงขั้นทรงออกทุนทรัพย์ในการแข่งขันรถให้พระองค์พีระเข้าแข่ง ตามพระทัยรักทางด้านนี้ หาอ่านได้ในกระทู้ เจ้าดาราทอง ค่ะ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1151.0 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1151.0) |