กราบสวัสดีอาจารย์ เทาชมพู อาจารย NAVARAT C. และทุกๆท่าน
มาอ่านหลังจากกระทู้นี้จบตั้งหลายเดือน แต่ได้รับอรรถรสอย่างยิ่งยวด
รู้สึกเหมือนกำลังอ่านสารคดีสืบสวนสอบสวน หรือไม่ก็งานวิจัยวิทยานิพนธ์ชั้นเยี่ยม
เป็นผลงานร่วมกันของ ท่านอาจารย์ทั้งสองรวมไปถึงท่านอื่นๆที่มิได้เอ่ยนาม
หนังสือของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ที่ผมชอบอ่านที่สุดเล่มหนึ่งคือเรื่อง โครงกระดูกในตู้ นี่แหละ ด้วยผู้เขียนมีสำนวนชวนอ่าน ทำให้อ่านได้แล้วอ่านไ้ด้อีก และเรื่องที่จำได้ดีที่สุดก็คือเรื่องหม่อมเจ้าฉวีวาดนี่เอง ตอนอ่านก็คิดในใจว่าเว่อไปหรือเปล่า แต่สุดปัญญาความรู้ของตัวเองจนได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ต่อเมื่อมาพบเจอกระทู้นี้ก็ตอบข้อสงสัยในใจได้หมดสิ้น
ขออนุญาตเสนอความเห็นว่า น่าจะจัดพิมพ์ เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ หรือเป็นบทความวิชาการ ลงไว้เพื่อเป็นที่รับรู้กันในแวดวงวิชาการ
ตัวกระผมนั้นความรู้ยังด้อยนัก ไม่้มีอะไรจะมาร่วมเสนอ ทำได้ดีที่สุดคือเขียนสดุดีเท่านั้น
ถ้าเป็นภาษาวัยรุ่น(วัยของกระผม
) ก็ต้องบอกว่า ระดมไลค์ ไลค์ๆๆๆๆ กระทู้นี้เลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
อ้อ ในช่วงเวลากระทู้นี้ถือกำเนิิดคือเดือน ตุลาคม ปีที่แล้ว ผมได้อ่านหนังสือชื่อ สตรีหมายเลข 0 ซึ่งเขียนโดย รุ่งมณีี เมฆโสภณ พบว่าสตรีหมายเลข 0 ท่านนั้นมีอุปนิสัยละม้ายคล้ายคลึงกับหม่อมเจ้าฉวีวาดในท้องเรื่องนี้พอสมควรทีเดียว ความประทับใจของผมต่อเรื่องเหล่านี้ไม่ได้มีมากไปกว่า คนเราเมื่อชีวิตไม่ได้ดังหวัง ก็พยายามหาทางออกในรูปแบบต่างๆ
We often sing lullabies to our children that we ourselves may sleep
จาก Sand and Foam --- Kahlil Gibran