พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 27 ก.พ. 01, 03:58
|
|
จำได้ว่าอ่านหนังสือผ่านๆตามาว่า ตอนที่ญี่ปุ่นบุกมีการสู้รบกันที่ประจวบด้วยมังคะ
และก็จะเป็นที่สงขลารึไงเนี่ยะค่ะ ไม่แน่ใจ ญี่ปุ่นขึ้นไปที่จวนผู้ว่าจะยึดเมืองเป็นทางการ แต่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่สองท่านไม่ยอม และยืนหยัดในความเป็นเอกราชของชาติไทย ผู้นำทหารญี่ปุ่นนั่นก็ฟันหัวขาดด้วยดาบซามูไรทั้งสองท่านไปเลยค่ะ หลังจากที่รัฐบาลกลางยอมจำนนแล้ว ทางญี่ปุ่นก็จ่ายเงิน(ที่พิมพ์เองมั้ง)ให้ครอบครัวผู้ตายไป ด้วยความที่จะเอาใจญี่ปุ่น วีรกรรมของผู้รักชาติทั้งสองก็ถูกลืมเลือนไปไม่มีการกล่าวถึงอีก
ใครเคยได้ยินเรื่องนี้บ้างคะ ดิฉันยังมีหนังสืออยู่แต่จำไม่ได้ว่าเป็นเล่มไหน จะเป็นประวัติคุณควง อภัยวงศ์ หรือ ประวัติคุณ ป อินทรปาลิต(โดย เริงไชย พุทธาโร) หรือไงนี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ แต่คิดว่าคงจะไปค้นได้ แต่หากใครเคยได้ยินมาจากแหล่งอื่นก็อยากฟังด้วยค่ะว่ามีเรื่องทำนองนี้หรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปะกากะออม
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 27 ก.พ. 01, 09:45
|
|
การรับรู้เรื่องราวของสงครามโลกในบ้านเรา ดิฉันคิดว่าเราได้จากการอ่านเป็นหลักนะคะ โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งค้นคว้าจากหอจดหมายเหตุ เอกสารร่วมสมัยต่าง ๆ และงานเขียนมากมาย ที่ทำให้เราสามารถให้ข้อมูลได้ตรงกันเป็นส่วนใหญ่
น่าสนใจที่คุณพระนายบอกว่าไม่เคยมีใครสอนเรื่องนี้เลย ดิฉันลองนึกย้อนไปสมัยนักเรียนก็จำไม่ได้ว่าในหนังสือเรียนมีหัวข้อนี้หรือเปล่า ไม่ทราบว่านักเรียนรุ่นนี้มีเรียนหรือไม่คะ
สำหรับเกร็ดที่เกี่ยวกับทหารญี่ปุ่นกับคนไทย ดิฉันคิดว่าน่าจะมีอีกมาก อย่างเช่นที่นครนายกซึ่งเป็นที่ตั้งกองกำลังใหญ่ของญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ชาวบ้านเดี๋ยวนี้ยังทำขนมโมจิได้อยู่เลย เคยไปสัมมนาหลายปีก่อนที่ จปร. มีขนมโมจิให้รับประทานด้วย
หรืออย่างเหตุการณ์ที่บ้านโป่ง เล่ากันว่าทหารญี่ปุ่นตบหน้าเณร เป็นเรื่องใหญ่โต ชาวบ้านไม่ยอมจะเอาเรื่อง ทหารญี่ปุ่นต้องหนีออกจากพื้นที่ เรื่องนี้มีทั้งในบันทึกทางการและคำบอกเล่าของชาวบ้าน แต่เชื่อไหมคะ คนละเรื่องกันเลย แน่นอนว่าของชาวบ้านตื่นเต้นกว่าเยอะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิรันดร์
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 27 ก.พ. 01, 15:11
|
|
เกิดไม่ทันหรอกครับ คุณยาย(ท่านเสียไปนานแล้ว)เล่าให้ฟังถึงคนไทยไปขโมยตาปู ญี่ปุ่นจับได้บังคับให้กลืนตาปู สุดท้ายก็ตายเพราะพอกลืนแล้วถูกเหยียบท้อง ให้ตาปูตำออกมาจากข้างใน ถ้าขโมยน้ำมันก็ต้องกินน้ำมัน โหดไหมล่ะ หรือจะสมน้ำหน้าที่ไปขโมยของเขา
ญี่ปุ่นซื้อของให้ราคาดีเพราะเงินไทย ญี่ปุ่นก็พิมพ์ใช้เองแบบตั๋วรถเมล์ อยากได้กี่บาท ก็ฉีกเอาได้ตามใจชอบ
กลางคืนจุดตะเกียงไม่ได้ กลัวฝรั่งเอาระเบิดมาลง ต้องพรางไฟ คือเอาอะไรมาหุ้มไม่ให้ตะเกียงปล่อยแสงออกไปมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 28 ก.พ. 01, 03:15
|
|
ทั้งคุณพวงร้อยทั้งอาจารย์นิรันดร์มาเยี่ยมพอดี ขอถามเรื่องเครื่องยนต์กลไกครับ มีใครทราบไหมครับว่า รถเครื่องสมัยสงครามโลกที่เราขาดแคลนน้ำมัน แต่คนไทยดัดแปลงปรับเครื่องยนต์ใหม่ใช้แก้ขัดได้ มันเป็นยังไง ผมเข้าใจว่าใช้ถ่านหินแทน หรือใช้น้ำมันอะไรไม่ทราบ จะเป็นน้ำมันก๊าดหรืออะไรไม่รู้ ที่หาง่ายกว่าน้ำมันเบนซินดีเซลเติมแทน ก็คงวิ่งไม่เรียบไม่เร็วเหมือนของเดิมหรอกครับ ใช้พอแก้ขัดไปยามสงคราม
มีเรื่องเกี่ยวๆ เนื่องๆ กับสงครามมหาเอเชียบูรพา คือตอนสงครามอินโดจีน ก่อนญี่ปุ่นขึ้น ที่ทำให้ผมต้องมองประวัติศาสตร์ไทยอย่างพินิจใหม่ ตอนนั้น ฝรั่งเศสเป็นผู้ร้ายเอามากๆ ในสายตาไทย และกระแสปลุกชาตินิยมแรงมาก แรงจนถึงเกือบเป็นคลั่งชาติ (รัฐบาลฝรั่งเศสก็ไม่ได้ทำตัวน่ารักนักหรอก .. อันนี้ผมก็รู้) แต่กระแสแรงอันนั้นไม่ใช่พุ่งเป้าไปแค่ที่รัฐบาลอินโดจีนฝรั่งเศสหรือทหารอินโดจีนฝรั่งเศสเท่านั้น แต่กระเทือนมาถึงคนไทยกันเองที่เข้ารีตคาทอลิกด้วย ถูกสงสัยว่าฝักใฝ่ฝรั่งเศสด้วย
ศาสนจักรโรมันคาทอลิกเพิ่งประกาศเร็วๆนี้ ให้บาทหลวงไทยรูปหนึ่ง ชื่อคุณพ่อบุญเกิด มีสถานะในทางศาสนาของเขา เพราะท่านยอมรับทรมานเพราะความเชื่อของท่าน คุณพ่อบุญเกิดถูกทางการผู้มีอำนาจสมัยนั้นจับไปขังคุก เพราะสงสัยว่าท่านเป็นพวกฝรั่งเศส เข้าใจว่าขังจนท่านป่วย และตายไปในคุก โดยไม่ได้ไต่สวนคดีทางศาล อย่างน้อยนี่เป็นบันทึกของทางเขา เขาว่างั้น (พิจารณาบรรยากาศทางการเมืองสมัยจอมพล ป. แล้วก็เป็นไปได้)
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสำหรับผมมากระทบภาพเดิมในใจผมว่าไทยเราใจกว้างต่อคนต่างศาสนานิดหนึ่ง เอาละครับ ผมยังถือว่านี่เป็นสถานการณ์พิเศษ ที่เป็นหน้าศึกหน้าสงคราม และวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่หรือคนอื่นๆ อาจจะมัวไปได้บ้างเพราะความรักชาติ ทำให้ละเมิดเสรีภาพทางศาสนาของคนไทยด้วยกันได้ อีกอย่างหนึ่ง มันมีพื้นฐานอยู่ในความรู้สึกของคนตะวันออก ไม่เฉพาะไทย ว่าบางครั้ง ไม่ใช่ตัวพระศาสนาคริสตังเอง แต่บุคคลในศาสนจักรบางส่วน ได้เคยมีประวัติในการร่วมกับอำนาจทางการเมืองฝรั่ง ในการตีชิงดินแดนอาณานิคมอยู่
ผมอ่านเรื่องของคุณพ่อบุญเกิดแล้วก็เห็นใจท่าน แต่ผมยังคิดว่านี่เป็นกรณีพิเศษส่วนน้อย เพราะโดยปกติส่วนมากที่สุดแล้วคนไทยยังปฏิบัติต่อคนต่างศาสนาอย่างใจกว้างกว่าชาติเอเชียอื่นมาก
มีกรณีที่ถกเถียงได้คล้ายๆ อย่างนี้เหมือนกันในเมืองจีน เมื่อศาสนจักรวาติกันประกาศแต่งตั้งบาทหลวงที่เสียชีวิตในกรณีกบฏนักมวยให้มีสถานะสูงทางศาสนาเร็วๆ มานี้ รัฐบาลจีนปักกิ่งก็รับไม่ได้ ประท้วงรุนแรง เพราะในสายตารัฐบาลจีนเดี๋ยวนี้ พวกนักมวยเป็นพวกรักชาติ พวกบาทหลวง(ฝรั่ง) หลายคนเป็นพวกเดียวกับฝรั่งอื่นๆ ที่เข้ามาปล้นชาติจีน สำหรับกรณีไทย ผมเข้าใจว่าเราไม่ได้มีปฏิกิริยารุนแรงต่อต้านการแต่งตั้งคุณพ่อบุญเกิดเท่าจีน ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเราค่อนข้างใจกว้างกว่า อีกประการหนึ่ง คุณพ่อบุญเกิดท่านเป็นไทย ในขณะที่บาทหลวงฝรั่งที่จีนโกรธพวกนั้นเป็นฝรั่ง หลักฐานว่าโบสถ์ฝรั่งได้ประโยชน์จากการเอาเปรียบจีนด้วย ทางจีนก็มีอยู่ แต่หลักฐานแน่นอนที่ว่าคุณพ่อบุญเกิดฝักใฝ่ฝรั่งเศสนั้นดูเหมือนทางไทยจะไม่มี รูปการณ์ดูเหมือนคุณพ่อจะเป็นบาทหลวงธรรมดาจริงๆ ที่ถูกจับเพราะเข้าใจผิดจริงๆ ... ก็ต้องยอมให้ศาสนจักรของท่านให้เกียรติท่านไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|