ในที่สุด ทัพเจ้าพระยามหินทรฯก็มาถึงโคราช อย่างปลอดภัย
สังเกตว่าช่วงที่นายทิมบ่นอยู่หนักๆกว่าเพื่อน ก็คือช่วงข้ามเขาในป่าดงพระยาไฟ ซึ่งต้องผ่านห้วยเหวหลายแห่ง เดินทางลำบาก แต่พอพ้นป่ามาแล้วนายทิมก็ดูจะโล่งใจ ถึงมีบทรำพันบ้างก็เป็นรำพันถึงนางตามขนบของนิราศ ไม่ค่อยจะพิโอดพิโอยมากมายอย่างตอนแรก เส้นทางในดงพระยาไฟน่าจะกินเวลาไม่กี่วันนัก เพราะคำพรรณนาค่อนข้างสั้น ข้อสำคัญคือไม่มีตรงไหนบอกเลยว่าเจอไข้ป่า ไม่มีการระบุถึงการล้มเจ็บป่วยไข้ของไพร่พล และไม่มีบอกด้วยซ้ำว่ามีอุบัติเหตุเช่นตกเหวตกเขาตายกันไป แสดงว่าไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าหากว่ามี นายทิมคงบันทึกเอาไว้แล้ว
แต่พอถึงโคราช ตั้งทัพอยู่ที่นั่น นายทิมจึงบันทึกว่าไพร่พลตายกันไปร้อยกว่า แต่เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ใช่ด้วยการรบ
เท่าที่เฝ้าติดตามกระทู้นี้ในห้องเรียนนี้ คิดว่าแม่ทัพระดับเ้จ้าคุณมหินทรฯไม่น่าจะครั่นคร้ามพวกฮ่อ หรือว่ายังมีเงื่อนงำอื่นอีกที่เราๆยังไม่ทราบกัน ขอติดตามรอสรุปสุดท้ายของอาจารย์ต่อไปครับ
เป็นเรื่องยากที่จะสรุปได้ว่า เจ้าคุณมหินทรฯท่านคิดอย่างไรของท่านแน่ นิราศหนองคายที่อ่านกันอยู่ก็ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ ถูกกรมศิลปากรเซนเซอร์ออกไปบางส่วน ซึ่งส่วนตรงที่หายไปอาจจะมีคำเฉลยอยู่ก็ได้ แต่ที่เห็นได้อยู่อย่างคือนายทิมน่าจะเป็นกระจกสะท้อนความคิดของเจ้าคุณออกมาได้บางส่วน มองเห็นได้ว่าการเดินทางครั้งนี้ ส่วนที่เจ้าคุณมหินทรฯท่านเห็นเป็นเรื่องใหญ่คือการฝ่าดงพระยาไฟซึ่งเป็นที่เลื่องลือถึงไข้ป่า ว่าใครผ่านไปแล้วเป็นต้องได้เชื้อไข้ตัวนี้ติดไปทุกคน เป็นไข้ป่าร้ายแรงไม่มีทางรอด แต่พอพ้นดงไปแล้ว น้ำเสียงนายทิมก็ดูโล่งอก จากนั้นก็ชมดงชมไม้ต่อไปไม่มีน้ำเสียงหนักใจอีก
ดูจากประวัติของเจ้าพระยามหินทรฯ ว่ากันว่าเมื่อครั้งเจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จธุดงค์ไปตามหัวเมืองต่างๆ ก็ทรงนำเจ้าคุณเมื่อครั้งยังเป็นแค่นายเพ็ง ตามเสด็จไปด้วย เพราะฉะนั้นนายเพ็งก็ต้องคล่องตัวพอสมควรเรื่องกินนอนในป่า รู้จักหัวเมืองหลายจังหวัดดี ไม่ใช่ว่าเกิดมาไม่เคยออกจากเมือง เพราะฉะนั้นจะว่าท่านกลัวป่าก็ไม่น่าจะใช่
มาถึงคำถามว่า ถ้าไม่กลัวป่า แล้วกลัวฮ่อหรือเปล่า ข้อนี้มีคำพูดของนายทิมอยู่ตอนหนึ่งว่า ไม่มีข้าศึกรออยู่ปลายทาง เหมือนถูกสั่งให้เดินทัพกันมาเปล่าๆปลี้ๆ คือไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ เพราะเชื่ออย่างนี้หรือเปล่าเจ้าคุณท่านจึงไม่ยอมเสี่ยงตายเข้าดงพระยาไฟ
อย่างน้อย เราก็รู้อยู่ข้อหนึ่งว่า ในนิราศนี้มีพญาคชสารอยู่ 2 ช้างด้วยกัน คือสมเด็จเจ้าพระยาและเจ้าพระยา ส่วนนายทิมเป็นหญ้าแพรกอยู่ตรงกลาง