NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 21:21
|
|
ผมอยากให้ท่านเปรียบเทียบละคร๒ภาพ
ภาพบนเป็นละครนอก(วัง)ในสมัยรัชกาลที่๔ ถ่ายในกรุงเทพฝีมือฟรานซิส จิต กับภาพล่าง เป็นละครใน(วัง)ของราชสำนักเขมร ตากล้องฝรั่งเศสถ่าย
ถ้าผมไม่บรรยายไว้ก่อน ท่านจะแยกแยะได้ไหม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 21:35
|
|
นี่เป็นละครนอก ที่เล่นกันในบ้านในเมืองนอกรั้ววังของไทย ละครเช่นนี้แหละที่นางสาวแพนได้ร่วมคณะ ตระเวนเล่นไปทั่วจนกระทั่งอรัญประเทศ ดังขนาดถึงพระเนตรพระกรรณพระเจ้าแผ่นดินเขมร ทรงทนไม่ได้ต้องเสด็จมาทอดพระเนตร และมิได้เพียงแค่ทอดพระเนตรเฉยๆ ทรงทอดแหได้ตัวนางเอกไปเป็นเจ้าจอมด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 21:40
|
|
^ ภาพถ่ายโดยฟรานซิส จิตเช่นกัน ถ้าไม่บอก ท่านคงนึกไม่ถึงว่านี่เป็นละครไทยแน่ ก็ออกจะเขมรๆขนาดนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 21:50
|
|
ละครนอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 21:54
|
|
เมื่อสมเด็จพระนโรดมเสด็จสวรรคต ฝรั่งเศสจัดการให้พระอนุชาที่ฝักไฝ่พวกตนขึ้นเป็นกษัตริย์แทน โดยไม่สืบสันตติวงศ์ทางพระราชโอรสของสมเด็จพระนโรดม
ในภาพเป็นพระราชพิธีราชาภิเษกนักองสีสุวัตติ์ มีฝรั่งนั่งเป็นเจ้าพิธี ไทยส่งผู้แทนพระองค์ไปร่วมเพื่อจะเป็นผู้ถวายพระมหามงกุฏตามที่เคยปฏิบัติในรัชกาลก่อน แต่ถูกข้าหลวงใหญ่ของฝรั่งเศสแย่งไปสวมให้กษัตริย์พระองค์ใหม่ของเขมรแทน ทรงพระนามว่าสมเด็จพระสีสุวัตติ คนไทยมักจะเรียกว่าสมเด็จพระศรีสวัสดิ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 22:03
|
|
^ ผมเทียบพ.ศ.แล้ว สมเด็จพระศรีสวัสดิ์นี่แหละครับที่มาทอดแหเอานางสาวแพนไป แสดงว่าเลือดรักศิลปินแรง
สงสารนางสาวแพน ได้เป็นเจ้าจอมแล้วเชียว ถูกการเมืองปัดตกตำแหน่งไปอย่างไม่น่าเชื่อ ชีวิตดุจละครน้ำเน่าน่าเอาไปทำละครจอแก้ว
ในรัชกาลของสมเด็จพระศรีสวัสดิ์นี่แหละครับ ที่ฝรั่งเศสทำให้เขมรแจ้งเกิดในระดับโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 22:35
|
|
ในปี 1906 ฝรั่งเศสได้จัดงานเอกซ์โปของอาณานิคมขอตนขึ้น ผมเขียนไปว่าที่ปารีส ความจริงไม่ใช่ ขออภัย เมืองที่จัดคือมาร์แซย์ หรือออกสำเนียงแท้ๆของเขาว่า มัคแซยา (Marseille) สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ได้รับการทูลเชิญให้เสด็จไปด้วย นัยว่ามีเหตุผลทางการเมืองมาประกอบ ด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯเสด็จประพาศยุโรปและเพิ่งทรงเยือนฝรั่งเศส ได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนไปมาก ฝ่ายกระหายการล่าอาณานิคมจึงต้องจัดให้พระเจ้าแผ่นดินเขมรมาแย่งซีนไว้บ้าง
แต่ว่าก็ว่าเถอะ ผมก็ดูว่าเป็นเรื่องมาร์เก๊ตติ้งอยู่นั่นแหละ สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ก็เป็นพรีเซนเตอร์ตัวหนึ่ง ที่ต้องมีเข้ามาสร้างสีสันแบบลครๆ ถูกกำหนดให้ฉลองพระองค์เพื่อให้ประหลาดตา ทั้งๆที่บรรยากาศยุโรปไม่ค่อยจะเหมาะเท่าไหร่ที่จะนุ่งโจงกระเบน แต่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ดี สังเกตุในรูปดูโจงกระเบนของท่านจะรุ่ยๆชอบกล ไม่ทราบท่านอาจารญ์เทาชมพูจะสั่งให้ใครไปแกล้งดึงของท่านหรือเปล่า ผมละเสียวๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 22:45
|
|
ช่วย อ.NAVARAT.C แนบภาพผู้ตามเสด็จฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ. 1906 สตรีในราชสำนัก แต่งกายยังสวมกำไลข้อเท้าอยู่เลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 22:46
|
|
หนังสือพิมพ์ก็ลงบทความเปรียบเทียบพระเจ้าแผ่นดินทั้งสองพระองค์ ใครอย่าได้มาถามผมนะครับว่า ฝรั่ง(เศส)เขียนว่าอย่างไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 22:54
|
|
สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ท่านขนสาวสรรกำนัลในไปเที่ยวเมืองนอกกันมากในคราวนี้ ผิดกับพระเจ้าอยู่หัวของเรา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯท่านมีพระราชกระแสว่าจะไปเรื่องงาน ทรงเลือกแต่ผู้ชายให้ร่วมขบวนเสด็จทั้งสิ้น
สตรีชาววังเขมรก็เป็นสีสันอย่างหนึ่งในงานเอกซโปครั้งนั้นด้วย อ้อ ปีแรกที่จัด นครวัตจำลองในงานจะเป็นขนาดนี้ อีกประมาณสิบปี เขาจัดอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มโหฬารกว่าเก่าดังรูปที่คุณหนุ่มสยามนำมาลงไปแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 31 มี.ค. 11, 23:02
|
|
และนี่ก็เป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของงาน นาฏศิลป์ราชสำนักเขมรที่นำออกแสดง คนฝรั่งเศสเป็นผู้รักศิลปวัฒนธรรมมากที่สุดชาติหนึ่งในโลก ตื่นเต้นกันมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 01 เม.ย. 11, 06:53
|
|
แล้วละครเขมรก็ถูกชักนำให้มาพบกับชายคนนี้ ออกุสต์ โรแด็ง (Auguste Rodin) โรแด็งมีชื่อเต็มว่า ฟรองซัว โอกุสต์ เรอเน โรแด็ง ( François-Auguste-René Rodin 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1840 - 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1917) เป็นประติมากรชาวฝรั่งเศสที่กำลังประสพความสำเร็จในวิชาชีพถึงระดับสุดยอดในช่วงนั้น หลังจากที่ได้ต่อสู้กับชีวิตศิลปินผู้ยึดมั่นความเป็นอิสระในการสร้างสรรศิลปกรรมมาอย่างล้มลุกคลุกคลาน
โรแด็ง มีธรรมชาติเป็นช่างปั้น แต่เขาก็ถูกชักนำให้มานั่งสเก็ส์ทสีน้ำบรรดาละครเขมรระหว่างพักผ่อนในการแสดงที่เอกซโป ด้วยความหลงไหลได้ปลื้มเป็นอย่างยิ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 01 เม.ย. 11, 07:05
|
|
ในหนังสือเล่มไหนก็ไม่มีบอก แต่ผมคิดเดาไปเองว่า ผู้จัดงานเอ๊กซโปของเขมร คงลงทุนไปดึงเอาโรแด็งให้เข้ามาเป็นตัวชูละครเขมรอีกที ฉลาดครับ ฉลาดมาก
ศิลปินน่ะ อยู่ได้เพราะคนมีเงินอุปถัมภ์ ดังนั้นในคณะผู้ลงทุน คนมีคนหนึ่งละน่าที่ “ขอร้อง”โรแด็งได้ แล้วลองดูผลงานที่โรแด็งสร้างสรรออกมาสิครับ แค่นี้ก็ดังไปทั่วโลกแล้ว นี่แหละครับที่ผมว่ามาร์เก็ตติ้ง หรือวิชาการตลาดที่นำเขมรไปขายในระดับโลก
อาจมีผู้อ่านเยาวชนสงสัยว่า ขายอะไร ก็ขายอย่างเดียวกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขาย Exotic Thailand ให้ฝรั่งรู้จักอยู่ทุกวันนี้ไงครับ แล้วอย่าถามต่อนา ว่ารู้จักแล้วได้อะไร ท.ท.ท.ไปออกงานระดับอินเตอร์ทุกครั้ง ก็ขนละครไทยไปแสดง ว่าจ้างดาราดังๆไปกรีดกรายในบู๊ทให้เป็นข่าว ครั้งหนุึ่งในชีวิต ผมเคยไปเบอร์ลินโดยบังเอิญพ้องกับงานมหกรรมท่องเที่ยวระดับโลก ที่ท.ท.ท.ต้องไปออกบุ๊ททุกปี ผมติดตาม “เส้นใหญ่” เข้าไประหว่างเปิดงาน ที่ศาลาของประเทศไทย พระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่เสด็จ นักข่าวฝรั่งมุงกันเป็นร้อย คนในงานก็มาดูละครไทยแน่นขนัด ผมไปติดอยู่ในนั้น เห็นพระองค์ท่านเสี้ยวเดียว และแว๊บเดียว นอกนั้นศรีษะฝรั่งบังหมด
ยุคนั้น เขมรจึงเป็นที่รู้จักของโลกในบัดดล ถึงกับมีสโลแกนออกมาว่า See Angkor and Die ราวกับชื่อหนังชุดเจมส์ บอนด์ ผมก็เชื่อว่าเขาจ้างพวกครีเอทีฟคิดประดิษฐ์คำอย่างนี้ขึ้นมาปล่อยออกไปแน่นอน แต่สมัยนั้นฝรั่ง(มีเงิน)ผู้มีรสนิยมอันวิไลทุกคนจะคิดว่า ถ้ายังไม่มาเห็นนครวัตสักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็พึงจะตายไปก่อนมิได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 01 เม.ย. 11, 07:20
|
|
พระสาทิศลักษณ์สมเด็จพระศรีสวัสดิ์ ฝีมือป้ายสีน้ำของศิลปินระดับโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|