กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 05 ธ.ค. 10, 09:46 http://www.youtube.com/v/gZKAKLQrLGA
กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 10, 17:50 ไม่เห็นใครเข้ามาต่อ เลยขอมาดึงกระทู้ขึ้นค่ะ
ขอเชิญฟังอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง http://www.youtube.com/watch?v=1qb9OZc2OS0&NR=1 กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 10, 17:53 ทำนอง: พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร)
คำร้อง: ขุนวิจิตรมาตรา แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง ไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตแดนสง่า สืบชาติไทยดึกดำบรรพ์บุราณลงมา ร่วมรักษาเอกราษฎร์ชนชาติไทย บางสมัยศัตรูจู่มารบ ไทยสมทบสวนทัพเข้าขับไล่ ตะลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท สยามสมัยบุราณรอดตลอดมา อันดินแดนสยามคือว่าเนื้อของเชื้อไทย น้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้า เอกราษฎร์คือกระดูกที่เราบูชา เราจะสามัคคีร่วมมีใจ ยึดอำนาจกุมสิทธิ์อิสสระเสรี ใครย่ำยีเราจะไม่ละให้ เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินของไทย สถาปนาสยามให้เทิดชัยไชโย กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 10, 08:56 เนื้อคงต้องเปลี่ยนใหม่ เมื่อจอมพลป. เปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็นไทย เพลงชาติก็เลยต้องเปลี่ยนเนื้อใหม่เป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ธ.ค. 10, 21:02 พระเจนดุริยางค์ ท่านเจ็บปวดมากเมื่อถูกขอร้องให้แต่งเพลงชาติไทย โดยทางคณะราษฎร์สัญญาว่าจะไม่เอ่ยถึงเจ้าของบทประพันธ์ แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อออกวิทยุกระจายเสียงก็เอ่ยถึงเจ้าของผลงาน ทำให้ท่านถูกออกจากราชการในที่สุด
กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 10, 23:17 พระเจนดุริยางค์ ท่านเจ็บปวดมากเมื่อถูกขอร้องให้แต่งเพลงชาติไทย โดยทางคณะราษฎร์สัญญาว่าจะไม่เอ่ยถึงเจ้าของบทประพันธ์ แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อออกวิทยุกระจายเสียงก็เอ่ยถึงเจ้าของผลงาน ทำให้ท่านถูกออกจากราชการในที่สุด ทำไมท่านต้องถูกออกจากราชการเพราะถูกเปิดเผยชื่อล่ะคะ? กระทู้: เพลงชาติไทยในอดีต เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 ธ.ค. 10, 07:08 ปี พ.ศ. 2473 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาดำรงราชานุภาพ นายกราชบัณฑิตสภา ได้ทรงเริ่มจัดการให้พระยาวรพงศ์พิพัฒน์ เสนากระทรวงวัง เจ้าสังกัดวงปี่พาทย์และโขนหลวง สั่งให้ครูดุริยางค์ดนตรีและผู้ชำนาญการจดโน้ตเพลงมาร่วมกันบรรเลง และบันทึกเป็นตัวโน้ตไว้ทั้งนี้กระทำกัน ณ วังวรดิศ สัปดาห์ละ 2 วัน จนถึง พ.ศ. 2475 ก็หยุดชงักไปชั่วคราว พระเจนดุริยางค์ก็มีส่วนร่วมในการบันทึกโน้ตคือ มีหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการบันทึกโน้ต ซึ่งเป็นผลงานที่ท่านภาคภูมิในยิ่งอีกชิ้นหนึ่ง มาเมื่อปลายปี 2474 พระเจนฯได้พบปะกับเพื่อนายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง ซึ่งสนิทสนมกันมาก่อนคือ นาวาตรี หลวงวินิจเทศกลกิจ (กลาง โรจนเสนา) ซึ่งเป็นผู้ขอร้องให้พระเจนฯ แต่งเพลงให้บทหนึ่งให้มีทำนองเป็นเพลงที่มีความคล้ายคลึงกับเพลงชาติฝรั่งเศส ท่านก็ตอบว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพราะเพลงชาติที่มีชื่อ สรรเสริญพระบารมีของเราก็มีอยู่แล้ว นายทหารเรือผู้นั้นก็ตอบว่า อยากจะให้ไทยเรามีเพลงปลุกใจเพิ่มขึ้นอีกบ้าง เพราะเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้นเป็นเพลงของพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนเพลงของประชาชนนั้นไม่มี พระเจนก็ได้ตอบปฎิเสธไป เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปรากฎว่าเพื่อนคนนั้นได้ร่วมในคณะผู้ก่อการด้วย และขอร้องให้ท่านแต่งทำนองเพลงเพลงชาติให้ได้โดยบอกว่าเป็นความประสงค์ของผู้ก่อการท่านจึงยากที่จะปฏิเสธ และท่านได้ขอให้เวลาสำหรับแต่งเพลงสำคัญนี้ 7 วัน แต่พอจะครบกำหนดท่านก็ยังไม่สามารถแต่งได้จนกระทั่งถึงวันสุดท้าย ขณะที่ท่านกำลังนั่งรถรางสายบางขุนพรหมจะไปทำงานตามปกติ ท่านจึงเกิดนึกทำนองเพลงชาติขึ้นมาได้พอไปถึงที่ทำงานจึงลองเล่นเปียโนดูพร้อมกับจดโน้ตไว้ ปรากฏว่าสามารถใช้ได้ทันการพอดี ดังนั้นท่านจึงได้แต่งทำนองเพลงชาติขึ้นเป็นทำนองเพลงมารช์ใช้ได้คึกคักเร่งเร้าใจ ดังที่เราได้ยินได้ฟังกันอยู่อย่างทุกวันนี้ สำหรับเนื้อร้องของเพลงชาตินั้นเดิมเป็นของขุนวิจิตร มาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) และนายฉันท์ ขำวิไล ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นของ พ.อ. หลวงสารานุประพันธ์ ทั้งร้องอยู่ในปัจจุบัน
พระเจนดุริยางค์ ท่านถูกเพื่อนของท่านที่เป็นคณะราษฎร์ขอร้อง (แกมบังคับ) ให้แต่งเพลงชาติไทยให้ (อาจจะเพื่อแสดงความเป็นประชาธิปไตยหรืออะไรก็ตามที) เมื่อผัดผ่อนจนไม่อาจจะขัดได้ ท่านก็แต่งให้อย่างไม่เต็มใจเพราะท่านรู้สึกว่าที่ท่านได้ดีทุกวันนี้เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 พระองค์ (รัชกาลที่ 6 - รัชกาลที่ 7) แต่ขอร้องให้ทางคณะราษฎร์สงวนนามผู้แต่งเอาไว้ แต่คณะราษฎร์ไปให้ข่าวกับทางหนังสือพิมพ์ศรีกรุง ท่านก็เลยถูกผู้ใหญ่เรียกไปตำหนิว่า ประเทศไทยยังมีพระเจ้าอยู่หัวปกครองอยู่ ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษา หลังจากนั้นท่านก็ถูกให้ออกจากราชการด้วยเหตุผลว่าอายุราชการครบ 30 ปี |