แฮรรี่นี่ก็น่าผิดหวัง เป็นชายชาติทหารแต่กลับพ่ายแพ้ต่อหญิงสาว เธอลักพาไปทั้งตัวและหัวใจ
ไม่ใช่แต่คุณปากานินีเท่านั้นที่ผิดหวัง บรรดานักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างก็พยายามหาคำตอบว่าเหตุใดแฮร์รี่จึงทำตัวเช่นนี้ อายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว
คำตอบมีหลากหลายค่ะ ขอสรุปมาให้อ่านกันง่ายๆแล้วกัน คือเมแกนนอกจากชูธงการแบ่งแยกผิวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นางน่าจะศึกษาชีวิตแฮร์รี่มาอย่างละเอียด พอจะจับจุดอ่อนจุดแข็งได้ เราคงไม่ลืมว่าเมแกนเรียนจบวิชาการละครมาด้วยจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น วิชานี้เขาสอนให้ตีความบุคลิกนิสัยใจคอของตัวละครจนแตกละเอียดยิบ เพื่อเวลาสวมบทบาทบนเวทีจะได้เข้าถึง เหมือนเป็นตัวตนจริงๆ
แฮร์รี่กำพร้าแม่เมื่ออายุ 12 ยังไม่ทันเข้าสู่วัยรุ่น จึงยังโหยหาแม่อยู่มาก ประกอบกับรู่เต็มอกว่าพ่อไม่รักแม่ รักเมียน้อยแถมยังเชิดชูออกหน้าออกตา ส่วนย่าแม้ว่ารักหลาน ก็ยังเข้าข้างลูกชายมากกว่าลูกสะใภ้ แฮร์รี่จึงเติบโตมาด้วยความน้อยใจแทนแม่ว่า..ไดอาน่าเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากญาติทั้งหมดทางฝ่ายพ่อ
เมแกนจึงไม่รีรอที่จะอัดเรื่องนี้ใส่เข้าไปในหัวของสามี ด้วยการชูธงว่า เธอก็หัวอกเดียวกับไดอาน่า ผนวกไปกับเรื่องแบ่งสีผิวที่เป็นคาถาเดิมประจำตัว
เมื่อตรงกับความรู้สึกลึกๆอยู่แล้ว แฮร์รี่ก็เลยทุ่มเทใจให้เมียแบบเกินร้อย ประกอบกับพี่ชายเองก็ไม่เข้าข้างน้องชายในเรื่องนี้ แฮร์รี่จึงรู้สึกว่า เมื่อไม่มีใครช่วยเหลือ ชายชาติทหารอย่างเขาย่อมมีหน้าที่ปกป้องเมีย ทดแทนกับที่เขาโตไม่ทันพอจะปกป้องแม่
เมื่อพ่อกับพี่ชายพึ่งไม่ได้ แฮร์รี่ก็ยิ่งแค้นเคืองทั้งสองคนจนแทบจะไม่นับพ่อนับพี่อีกต่อไป
ขณะที่ราชสำนักเห็นเมแกนเป็นตัวแสบ เข้าที่ไหนพังที่นั่น แฮร์รี่กลับได้ยินแต่เสียงร่ำไห้ของนางว่า ถูกรังแกจากรอบด้าน
ทางออกของเจ้าชายก็คืออย่างที่เป็นข่าวช็อคโลกกันนั่นละค่ะ