กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:41 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:42 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:42 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:43 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:44 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:44 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 13:46 *
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 06 ก.ค. 12, 14:01 อ่านแล้วครับผม ทั้งนี้ผมขอความรู้ว่าสู้กันมาถึง ๒ ศาล คือ ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ศาลอุทรณ์เห็นพ้องด้วย ยืนตามศาลชั้นต้น แสดงว่าโจทย์ และ จำเลย ยังจะสู้ต่อได้อีกถึงศาลฎีกาเลยใช่หรือไม่
ทั้งนี้จำเลยได้กระทำการหนีไป ยังมีคดีหมายจับอีก ทำให้มูลเหตุความผิดหนาแน่นขึ้นไปอีก แบบนี้จะฟ้องได้ถึงศาลฎีกาได้หรือ กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ค. 12, 14:13 ดิฉันไม่ทราบขั้นตอนเรื่องฎีกาค่ะ ถ้าใครมีความรู้ทางกฎหมาย กรุณาตอบด้วยนะคะ ขอบคุณ
กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.ค. 12, 08:53 ในคดีหมิ่นประมาท ระหว่างคุณหญิง วินิตาดิถียนต์ โจทก์ และน.ส. วารวิณ มัชฌิมา จำเลย ที่ศาลชั้นต้นตัดสินว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องนั้น จำเลยได้อุทธรณ์ บัดนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ส่วนคดีที่คุณหญิงวินิตาฟ้องน.ส.วารวิณ ข้อหาหมิ่นประมาท เป็นคดีที่สอง จำเลยไม่มาศาลตามนัดหมาย ศาลจึงออกหมายจับ มีอายุความ ๑๐ ปี จนบัดนี้จำเลยยังไม่มาแสดงตนต่อศาล ศาลจึงจำหน่ายคดีชั่วคราวจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมจำเลยได้ จึงจะพิจารณาคดีต่อไป หากว่าพลเมืองดีท่านใด ทราบที่อยู่ของจำเลย โปรดแจ้งเบาะแสมาที่ vinita_lawyer@yahoo.com ด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง กระทู้: คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีน้ำอบ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 12 ก.ค. 12, 19:45 อ้างถึง อ่านแล้วครับผม ทั้งนี้ผมขอความรู้ว่าสู้กันมาถึง ๒ ศาล คือ ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ศาลอุทรณ์เห็นพ้องด้วย ยืนตามศาลชั้นต้น แสดงว่าโจทก์ และ จำเลย ยังจะสู้ต่อได้อีกถึงศาลฎีกาเลยใช่หรือไม่ ทั้งนี้จำเลยได้กระทำการหนีไป ยังมีคดีหมายจับอีก ทำให้มูลเหตุความผิดหนาแน่นขึ้นไปอีก แบบนี้จะฟ้องได้ถึงศาลฎีกาได้หรือ เพื่อตอบคำถามของคุณหนุ่มสยาม และเป็นความรู้ของบุคคลทั่วไป ผมจึงได้ค้นคำตอบมาให้ดังนี้ครับ โดยปกติศาลต้องอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จำเลยฟัง จำเลยจึงต้องมาฟังตามวันเวลาที่ศาลนัด ถ้าจำเลยไม่มาฟังและศาลมีเหตุสงสัยว่าจำเลยจงใจหลบหนี หรือจงใจไม่มา ศาลจะออกหมายจับจำเลย ถ้ายังไม่ได้ตัวจำเลยมาภายใน ๑ เดือน นับแต่วันออกหมายจับ ศาลอาจอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นลับหลังจำเลยได้ โดยถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยอย่างใด ถ้าเป็นคดีที่ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์หรือต้องห้ามฎีกา โจทก์จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาไปยังศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา โดยยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาต่อศาลชั้นต้น ภายในกำหนด ๑ เดือน นับแต่วันอ่านหรือถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์แล้วแต่กรณีให้จำเลยฟัง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2504 เมื่อออกหมายจับจำเลยเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกินเดือนแล้ว ไม่ได้ตัวจำเลยมา ศาลจึงอ่านคำพิพากษานั้นให้โจทก์ฟังถือว่าได้อ่านคำพิพากษาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยยื่นฎีกาเกินหนึ่งเดือนนับแต่วันศาลอ่านดังกล่าว ฎีกาของจำเลยย่อมขาดอายุฎีกา แม้ว่าศาลจะได้อ่านคำพิพากษานั้นให้จำเลยฟังอีก เมื่อได้ตัวจำเลยมาแล้วหลังจากวันอ่านดังกล่าวข้างต้น 5 เดือนเศษ ก็เป็นแต่เพียงให้จำเลยได้ทราบคำพิพากษาตามที่จำเลยต้องการเท่านั้น หามีผลทำให้ยืดอายุฎีกาไม่ สรุปคือ จำเลยมีสิทธิ์ฏีกาได้ภายใน๑เดือน นับจากวันที่อ่านคำพิพากษาไปแล้วครับ และไม่ว่าจะมายื่นฎีกาหรือไม่มา ตลอดอายุความของหมายจับ ไม่ว่าจะนานเท่าไรจำเลยยังอาจโดนจับกุมมาฟังศาลอ่านคำพิพากษานั้นให้จำเลยฟังอีกได้ |