เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: อุ้ยครับ ที่ 06 พ.ค. 01, 20:43



กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 06 พ.ค. 01, 20:43
มุทิงคนาทฉันท์ ๑๔

ขออนุญาตเรียกปู่เมฯต่อเถอะนะครับ อยากเป็นเพื่อนของปู่ของอุ้ยทำไม อุ้ยเรียกมาจนชินปาก ชินใจแล้วครับ ใครจะเรียกพี่พลายฯก็แล้วแต่เค้าเหอะ

ไม่ทราบว่าอุ้ยจะใช้คำว่า"ขออนุโมทนา"ได้หรือเปล่านะครับ แบบเป็นเด็กอ่ะครับ

อีกอย่างนึง อุ้ยก็ไม่รู้ว่าฉันท์นี้จะใช้กับเหตุการณ์แบบนี้ได้หรือเปล่านะครับ คือทราบมาเลาๆว่าฉันท์แต่ละอย่างจะใช้กับแต่ละเหตุการณ์น่ะครับ ส่วนเหตุผลที่อุ้ยเลือกใช้ฉันท์นี้ เป็นเพราะปู่สอนไว้ครับ

.....สดับรุจีวิจิตรสาร.............ก็เบิกก็บาน ณ ดวงใจ
จะสืบจะเนื่องพระศาสน์ไข.......กตัญญุตาละอากูล

.....วิเศษวิสุทธิ์สุจารีต............ประณตประณีตมิเสื่อมสูญ
ประจงจรด ณ บาทมูล...........ประโยชน์นุกูลพระศาสน์ไทย

.....แต่นี้จะร้างละผู้ป้อง.........หทัยก็ร้องระโหยไห้
จำเป็นจำจากจำจรไกล...........นิราศไผทนครธรรม

.....สะกดสะทกสะท้านจิต.......จรุงจริตนิพิธขาน
ดนูประนมนิยมการ...............ฤทัยประสานเกษมเทอญ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 29 เม.ย. 01, 20:53
สำหรับฉันทลักษณ์ของมุทิงค์ฯ ขอให้ถามจากปู่เมฯ(พลายงาม)นะครับ อุ้ยเปิดตำรามาสองเล่มแล้ว ยังหาฉันทลักษณ์ของฉันท์นี้ไม่เจอเลยครับ

แล้วก็...ปู่นะปู่ เอาอุ้ยมานินทาไว้ตรึมเลยง่ะ ปู่ว่าอุ้ยเป็นเด็กเจ้าปัญหาเหรอ ? อะไรจะดู "ถูก" ขนาดนั้นง่ะ...อิอิอิ..แบบดูไม่ผิดอ่ะครับ

พี่พูครับ(ขออนุญาตนะครับ..ชื่อพี่เทาชมพูยาวจัง..อุ้ยขอเรียกสั้นๆนะครับ) อุ้ยมีของมาฝากพี่พูครับ

เป็นกลบทนาคบริพันธ์ทรงเครื่อง ผสม กระทู้นำบทนะครับ..แบบเนี้ยอ่ะครับที่ปู่เมฯเค้าว่าอุ้ยเป็นเด็กเจ้าปัญหา อุ้ยชอบเล่นกลบทครับ แล้วก็ชอบเอามาปนกันด้วยครับ..หวังว่าพี่พูคงไม่รำคาญอุ้ยมากนักนะครับ

คับ...เสื้อผ้าผ่อนท่อนสไบ.........ทบสบัดตัดใหม่
.......ตามหมายมุ่งหวังทั้งมวล
ที่.....มากหลากหลายลายล้วน.....เลอล้ำจำนวน
.......จงน้องบริจาคอยากทำ
อยู่...ที่จิตใจใช้นำ...................ชวนนางสร้างกรรม
.......สอดเกื้อเอื้อหนุนดุลย์ธรรม์
ได้...ทั่วถ้อยธรรมจำครัน.........จาคะละหัน
......ลุห้วงห่วงหายคลายคลา
คับ..คนปนแปดประดา............เปื้อนดำธรรมว่า
......เทิดวิเวกวางจางจินต์
ใจ...เจ้าระอากายิน.................กลับย้ายกลายชิน
......ก็ชนร่วมทางอย่างเรา
อยู่..ร่วมโลกเรียงเคียงเนา......คำนึงถึงเขา
......ทุกคนพ้นกรรมยำเยง
ยาก..ยุ่งมุ่งยิ่งกริ่งเกรง.........กลับกลายหมายเคว้ง
.......หมดคว้างทางลิบนิพพาน


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 29 เม.ย. 01, 21:00
แล้วก็อีกบทนึงครับ บทเนี้ยอุ้ยก็ภูมิใจนะครับ ประมาณว่าคิดเอาเองน่ะครับ คือเอามาปนๆกันครับ...

พี่พูเริ่มปวดหัวกับอุ้ยละยังครับ

.....มือ..อาจก่อร่างสร้าง.......สู่ตัว
ไม่........ละเว้นชั่วกลัว...........กลับพลั้ง
พาย......ตามติดบัวนัว..........เนียจากทิศเฮย
อย่า.......เล่นลืมรั้งยั้ง...........ยากแท้เรียมครวญ

.....เอา...ใจจักด่วนล้วน........ลวงเพลิน
เท้า........เจ็บจะเหินเดิน........ดุ่มเศร้า
รา.........ร้างแต่เมินเกิน........กระเบียด
น้ำ.........ล่มเรือเจ้าเข้า.........ครู่นี้ยังลอย

เป็นโตเล่นหางแบบที่ ๒ ผสมกับกระทู้นำบทครับ...สนุกมะครับ..อุ้ยชอบจริงๆเลยครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 29 เม.ย. 01, 21:04
ไหนๆก็ไหนๆแล้วอ่ะครับ โบราณเค้าบอกว่ามาหาผู้ใหญ่ต้องมีของติดไม้ติดมือมาฝากอ่ะครับ อุ้ยขออีกบทละกันนะครับ

ของอุ้ยจะเป็นช้างชูงวงปนกับพยัคฆ์ข้ามห้วย 2 ชั้นนะครับ

.....ร่างระริก...จิกเล็บกลั้น...สั่นระริก
เคยยิ้มหัว...ตัวชาดิก...ฉีกยิ้มหวัว
เราะระรัว...ตัวยืนสั่น...พรั่นระรัว
เมินหมองจาง...หมางหมองมัว...กลัวหมองจาง

สุดกลั้นจิต...คิดกลั้นใจ...ใคร่กลั้นจิต
ควรสะสาง...หมางมวลมิตร...คิดสะสาง
เคยแคลงคลาง...ค้างคาใจ...ใคร่แคลงคลาง
ร้อนเรื่องใด...ใสกระจ่าง...ร้างเรื่องใด


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 29 เม.ย. 01, 21:15
สุดท้ายแล้วจริงๆครับ(สำหรับตอนนี้)...แบบว่าอุ้ยเสนอผลงานของอุ้ยให้พี่พูดูน่ะครับ ประมาณว่าอุ้ยจะเข้าชมรมของพี่พูได้หรือเปล่าน่ะครับ

บทนี้เป็นโคลงกระทู้ธรรมดาครับ แต่เป็นสองคำ อุ้ยกำลังพยายามทำ ๓ กับ ๔ คำ อยู่ครับ แต่ว่ายังทำไม่สำเร็จครับ เมื่อวันก่อนอุ้ยเจออีกกลนึง สนุกมากครับ แต่อุ้ยคิดจนหลับไปคืนนึงแล้ว ยังแต่งไม่เสร็จเลยครับ

อ้อ..ไอ้บาทที่ 3 ของโคลงข้างบนนั่น ไหงมันเลื่อนมาติดกันได้ก็ไม่ทราบครับ สงสัยอุ้ยจะลืมพิมพ์..เอ่อ...นึกก่อนครับ..มหัพภาคใช่มะครับ

...แล้วสอน...เสริมสั่งเจ้า......จวงจันทร์
ว่าอย่า.........เชื่อใครอัน......แปลกหน้า
ไว้ใจ...........บ่เลือกสรร......เจ็บจิต
มนุษย์.........เชิงเช่นช้า.......ชั่วชั้นทุรชน
...มันแสน....สุดวัดได้.........ใจคน
สุดลึก.........สุดหยั่งพ้น.......แผกสิ้น
ล้ำเหลือ......กว่าอุบล..........บอกบ่ง
กำหนด.......ปนปลอกปลิ้น...เล่ห์ล้วงลวงลม


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 เม.ย. 01, 22:06
เข้ามาได้เลยค่ะ เรือนไทยต้อนรับมิตรทุกคน
อ่านกลบทพวกนี้   เห็นจะต้องไปเช็ดฝุ่นขุดกรุเรื่องศิริวิบุลกิตติเสียแล้ว  
คุณอุ้ยชอบกลบท อ่านเรื่องนี้แล้วหรือยังคะ
ว่าแต่คุณอุ้ยตามคุณพลายงามมาจากเว็บไหนคะ เผื่อว่างๆจะเข้าไปเยี่ยมบ้าง


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 29 เม.ย. 01, 22:24
อุ้ยไม่ได้อ่านศิริวิบุลกิตติเรื่องเดียวอ่ะครับ อุ้ยอ่านจินดามณี กะ ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนด้วยครับ สนุกกกกกมากกกกกกครับ

พี่พูครับ...ไม่เรียกอุ้ยว่า"คุณ"ได้มะครับ เรียกชื่อเฉยๆดีกว่าครับ หรือจะเป็น ตาอุ้ย เจ้าอุ้ย ฯลฯ อะไรก็ได้ครับ เรียก"คุณ"ทีไรอุ้ยสะดุ้งทุกที นึกว่าไม่ได้เรียกอุ้ย

ส่วนเรื่องที่ว่าอุ้ยตามปู่เมฯมาจากไหน...อันนี้อุ้ยขอโทษครับ...คือปู่เค้าเปลี่ยนชื่อ อุ้ยไม่รู้เหตุผลของปู่ด้วย...รบกวนพี่พูถามปู่เถอะนะครับ

:p


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: N.K.Kh. ที่ 30 เม.ย. 01, 03:06
It is so difficult to try to comment on the Chant in English!
MutingkanatChant (the Chant with "beats" like those of long drum - GlongYao), if I remember correctly,is a modern Chant invented not many decades ago, so it is not surprising that Khun Ooy cannot find it in old texts. The beats go -
Pa- tone - pa tone - pa tone tone... like GlongYao.
If I remember correctly again, the brother of one great lady poet Khun Subhorn Polcheevin, whose name I forget, invented this kind of Chant.


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 30 เม.ย. 01, 06:13
คุณ...ปู่..N.K.Kh. ครับ..ตกลงเป็นปู่ไปอีกคนเถอะนะครับ ... ครับผม ปู่เมฯก็สอนไว้อย่างนั้นแหละครับ ป๊ะโท่นป๊ะโท่นป๊ะ๊โท่นโท่น ซ้ำกันหมด แต่ตานี้เวลาผู้ใหญ่สอนแล้วอุ้ยยังหาแหล่งอ้างอิงไม่ได้ เวลาอุ้ยจะใช้อุ้ยก็ต้อง refer ไปพลางๆน่ะครับ (แบบนี้เรียกนิสัยดีเปล่าครับ?)

เช้านี้อุ้ยมีโคลงสกัดกระทู้มาฝากครับ ไอ้ที่ว่าอุ้ยแต่งมาวันนึงแล้วยังไม่ได้น่ะครับ อารามอยากอวดพี่พู เลยดั้นเอาจนเสร็จ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกครับ แต่พอสะท้อนได้นิดหน่อยว่ากลบทสกัดกระทู้เค้าแต่งกันแบบเนี้ยอ่ะครับ

.....ถี่ถี่กางกักกั้น..........กันลอด
ตาเสื่อมเสริมแว่นสอด.....ส่องช้าง
ห่างมากมักแหทอด.......ปลาหลุด..ลอดเฮย
ตาเล็กฤๅเทียบข้าง.......เปรียบได้ตาเล็น

(เวลาอ่านคำหน้าสุด กะ หลังสุด ไล่ไปทีละบาท เก๊าะจะได้ความว่า "ถี่ลอดตาช้างห่างลอดตาเล็น"อ่ะครับ)

ขออีกบทนะครับ

.....คบคนครวญใคร่ด้วย.....จิตคน
ดูตลอดจบจน..................ใช่หน้า
ซื้อใดประดับตน...............พิศพ่า(ผ้า)..ก่อนเฮย
ดูเด่นดอกดวงจ้า..............แจ่มเนื้อนวลนาง

(คบคนดูหน้า ซื้อผ้าดูเนื้อ)

สนุกมะครับ...มาลองเล่นกันมะครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 30 เม.ย. 01, 06:27
อันนี้เรียกกระทู้สองชั้นครับ อุ้ยแต่งเมื่อวันก่อน แบบแต่งตอบพี่คนนึงที่เค้าเปรยๆว่าเค้าชอบกินเหล้า แถมเวลากินเสร็จใครๆก็ไปกันหมดประมาณนั้นอ่ะครับ

...เพื่อน..พ้อง  น้องพี่  ที่เคารพ...........เพื่อน..ประสบ  เคราะห์กรรม  ล้ำเข็ญ
กิน........เหล้า  เช้าสาย  บ่ายเย็น.......ตาย....เป็น  ยังไม่  รู้เลย
หา........แล้ว  หาเล่า  เพรางาย.........หา.......หาย  ไม่เห็น  เช่นเฉย
ง่าย......ยาก  จากใจ  ไม่บ่นเลย........ยาก......เคย  เพราะเห็น  เป็นเพื่อนกัน

อุ้ยรู้สึกว่าจะคล้ายๆ กวางเดินดง หรือ หงส์สะบัดหางนี่อ่ะครับ คือแบ่งเป็น 2 ข้าง แต่ว่าไม่ใช่ซ้ำคำ แบบนี้น่าจะสนุกกว่าหรือเปล่าครับ ?


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 เม.ย. 01, 09:14
สนุกค่ะ เชิญน้องอุ้ยบรรเลงต่อ   ไฟกำลังลุกช่วงโชติทีเดียว
คุณพลายงามยังไม่เข้ามา  คงจะเตรียมตัวเคลียร์งานหรือไงก็ไม่ทราบ
ฉันท์แต่ละอย่าง เอาไว้ใช้กับแต่ละเหตุการณ์  จำได้รางๆว่าเป็นคำอธิบายในตอนท้ายสามัคคีเภทคำฉันท์  เพราะท่วงทำนองจังหวะฉันท์แต่ละแบบให้อารมณ์ความรู้สึกต่างกัน
อย่างสัททุลวิกีฬิตฉันท์  แต่งยาก  ยาว สง่างามให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่น่าเลื่อมใส   ก็ใช้ในบทอาศิรวาท
วสันตดิลก จังหวะลีลาให้ความรู้สึกสวยงามแพรวพราย ใช้ในการพรรณนาปราสาทราชวัง หรือเฉลิมพระเกียรติ
อินทรวิเชียร รองลงมาจากวสันตดิลก ก็ใช้ในการบรรยายหรือพรรณนาที่เรียบกว่า
นอกจากนี้มีภุชงคประยาต อิทิสัง ฯลฯ   คุณพลายงามมีเวลาคงเข้ามาอธิบายเองละค่ะ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: พลายงาม ที่ 30 เม.ย. 01, 14:10
...มาแล้วครับ พอดีช่วงนี้กำลังวุ่นๆอยู่กับการเคลียร์งาน เพราะอาทิตย์หน้าก็เป็นวันลาแล้วครับ
...หลานอุ้ย ตามมาแล้วก็ขอให้สนุกกับที่นี่นะ ยังไงฝากคุณเทาฯ ช่วยดูแลหลานผมคนนี้ด้วยครับ อาจจะดื้อ อาจจะรั้นบ้าง ผมอนุญาตให้ดุได้เต็มที่เลยครับ แล้วหลานอุ้ยก็ต้องเคารพเชื่อฟังพี่ป้าน้าอา เป็นเด็กดีนะครับ
...ตอนนี้ปู่คงไม่มีเวลาตรวจและร่วมแจม กับร้อยกรอง ที่หลานแต่งมา เอาไว้คืนนี้ถ้าไม่ออกไปใหนจะดูให้แล้วกัน

ปล. ยังไงผมขอฝากหลานอุ้ย ไว้กับทุกคนด้วยครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 30 เม.ย. 01, 17:49
เย็นนี้อุ้ยขอเสนอ "นาคราชแผลงฤทธิ์" (ศิริวิบุลกิติ) บังคับซ้ำพยัญชนะ ๖ ๗ ๘ กับ ๑ ๒ ๓ บังคับซ้ำสระ ๓ กับ ๔ , ๕ กับ ๗ และ ๘ กับ ๑
และให้เลื่อนคำสัมผัสไปเป็นคำที่ ๕ ครับ

.....นาคราชอาจองประสงค์รัก
ปักทรวงเหลือเจือสลักฤๅจักถอน
ร้อนจิตถ่ายคลายสุดแม้นนุชรอน
มรณ์นิรันดร์ครั้นผ่อนเห็นค่อนตาย

หายขึ้งตามถามไถ่หัวใจน้อง
ห้องจิตนวลล้วนครองถึงหมองหมาย
ทายมิ่งมิตรคิดตอบว่าชอบชาย
วายเชิงเช่นเน้นหมายหยุดงายงม


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 30 เม.ย. 01, 17:58
คือตอนนี้ปิดเทอมนะครับ ที่เรียนพิเศษภาคฤดูร้อนก็จบแล้ว แบบว่าว่างมากน่ะครับ ถ้าอุ้ยจะ post มากไป...กรุณาอย่าเพิ่งรีบเบื่อนะครับ เดี๋ยวพออุ้ยเปิดเทอม อุ้ยก็หายหัวไปเองแหละครับ

กลบทนี้เรียก "นารายณ์ทรงเครื่อง" (ศิริวิบุลกิตติ์) ครับ บังคับซ้ำพยัญชนะ ๑ กับ ๓ และ ๒ กับ ๔  บังคับซ้ำสระ ๒ กับ ๓  และให้เลื่อนคำสัมผัสมาเป็นคำที่ ๔ ครับ

.....จะกล่าวเจ้ากลับกระลับกระลอก
จะบ่นจนบอกกระฉอกกระฉอน
จะพรากจากพึ่งกระบึงกระบอน
จะเย้าเจ้าย้อนกระดอนกระเด็น

จำพรากจากพ้นกระวนกระวาย
จำขวนจวนขวายกระสายกระเส็น
จำหลบจบเลี่ยงกระเบี่ยงกระเบน
จำคลายใจเคล้นกระเวนกระวน

ของอุ้ยเติมกระทู้ และ จบด้วยสะบัดสะบิ้งครับ

หมายเหตุ กระเวน = ตระเวน , วนเวียน ครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 30 เม.ย. 01, 18:08
แหะๆๆ...บทสุดท้ายสำหรับ"วัน"นี้แล้วอ่ะครับ แบบว่าทั้งวันมีผลงานแค่เนี้ยครับ

โคลงกลบทนี้เรียกว่า "ศรีโสฬสพรหม" (จินดามณี)ครับ บังคับซ้ำสระคำที่ ๒ กับ ๓ บังคับซ้ำพยัญชนะ ๓ กับ ๔ ครับ

.....ให้..โทษโหดหักแกล้ง.......กระทำ
ทุกข์....ท่วมร่วมระกำ.............อกไหม้
แก่......เจ็บเหน็บแนมนำ.........นานเนิ่น
ท่าน....ว่าอย่า , หยุดได้.........เช่นนี้มีคุณ

.....ทุกข์..ทับคับคั่งล้น...........เลอทรวง
นั้น.........หนักจักจำตวง.........ออกบ้าง
ถึง.........ยากมากมุปวง.........ปลดปลิด
ตัว.........เปล่าเราราร้าง.........โศกสิ้นทวีเกษม


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 เม.ย. 01, 18:12
ขอสารภาพว่าดิฉันได้แต่อ่านนะคะ  ตรวจกลอนไม่เก่งอย่างคุณพลายงาม
อ่านนาคราชแผลงฤทธิ์ของน้องอุ้ยแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจเนื้อค่ะ แต่ดูออกว่าสัมผัสนอกสัมผัสในและเล่นกลบทได้ลื่นและรื่นมาก
แต่ความหมายอย่าง  "มรณ์นิรันดร์ครั้นผ่อนเห็นค่อนตาย "
และ
"หายขึ้งตามถามไถ่หัวใจน้อง
ห้องจิตนวลล้วนครองถึงหมองหมาย
ทายมิ่งมิตรคิดตอบว่าชอบชาย
วายเชิงเช่นเน้นหมายหยุดงายงม"
แปลว่าอะไรคะ?


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 30 เม.ย. 01, 18:48
แหะๆๆๆ...พี่พูถามหยั่งงี้ อุ้ยเก๊าะม้วนอ่ะดิครับ แบบอายม้วนสองตลบแล้วจบด้วยบิดครึ่งตัวอ่ะครับ

.....นาคราชอาจองประสงค์รัก ....อีตานาคราชแกมีความรักอ่ะครับ
ปักทรวงเหลือเจือสลักฤๅจักถอน ....รักมากจนหยุดรักไม่ไหวครับ
ร้อนจิตถ่ายคลายสุดแม้นนุชรอน ....ตานี้ก็กระวนกระวาย พยายามอดทน แล้วก็อยากให้ผู้หญิงเค้ารักตอบอ่ะครับ ถ้าไม่รักเก๊าะ...
มรณ์นิรันดร์ครั้นผ่อนเห็นค่อนตาย ...ตายแน่ๆ แล้วถ้าจะยั้งๆใจไว้มั่งก็เกือบตายอยู่ดีแหละครับ

หายขึ้งตามถามไถ่หัวใจน้อง ....ตานี้พอผู้หญิงเค้าเฉยๆ เราเก๊าะเคืองหน่อยๆ แต่พยายามสะกดใจแล้วเอ่ยปากถาม
ห้องจิตนวลล้วนครองถึงหมองหมาย ...ว่าที่ไม่รักเราเนี่ย หัวใจมีเจ้าของครอบครองแล้วเหรอ
ทายมิ่งมิตรคิดตอบว่าชอบชาย ...ช่วยตอบให้ืทราบหน่อย ว่าผู้ชายที่น้องจะชอบเนี่ย
วายเชิงเช่นเน้นหมายหยุดงายงม...จะเป็นยังไง ถ้าไม่ใช่แบบที่พี่เป็น จะได้หยุดงมงายซะที

เหนื่อยเลยครับพี่พู...เนี่ยครับเคยมีคนติงอุ้ยแล้ว ว่าเกาะแต่ฉันทลักษณ์ ให้ความสำคัญกะเนื้อหา อรรถรส น้อยไปหน่อย..ก็จริงอ่ะครับ..คือจริงๆแล้วอุ้ยแต่งอะไรก็ไม่ค่อยได้เรื่องหรอกครับ เลยอาศัยกลเข้าช่วย ประมาณว่าถ้าแต่งได้ตามกล เก๊าะจะดูเหมือนดีอ่ะครับ..แหะๆๆ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: พลายงาม ที่ 30 เม.ย. 01, 23:27
...เยอะมาก จนปู่ได้แต่ตามอ่านแค่นั้นเอง แต่สิ่งที่หลานขาดไป ก็คือ อรรถรส จริงๆอยากให้ลองลองเอาใจใส่ในจุดนี้หน่อย จะไปได้อีกไกล ปู่จะแนะนำให้อย่างหนึ่ง การแต่งคำประพันธ์ชนิดใดก็ตาม อยากให้ ผูกเรื่องที่จะแต่งออกมาก่อน แล้วค่อยแต่งตาม ไม่ใช่แต่งไปคิดไป ซึ่งจะทำให้ กลอนพาไป อันนี้อยากให้หลานใส่ใจให้มากๆ
...คืนนี้ ปู่คงต้องขอตัวพักผ่อนก่อน ราตรีสวัสดิ์ ทุกคนครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 06:56
สวัสดีวันแรงงานครับ

ดูๆไปแล้ว ชักเหมือน diary นะครับ มีตะบันทึกของอุ้ย แต่นั่นแหละครับ อุ้ยกำลังสนุก ขอพื้นที่พี่พูตรงนี้นิดละกันนะครับ..นะ..นะ..นะคร้าบ

ปู่เมฯจ๋า อุ้ยจะไม่ดื้อ(มาก) ไม่รั้น(เยอะ) จะ(พยายาม)เชื่อฟัง ครับผม...ฮี่ๆๆๆ

เรื่องอรรถรส...ยากนะปู่...แต่งถูกตามฉันทลักษณ์ กะ แต่งถูกตามกล มันง่ายกว่าอ่ะครับ ค่อยเป็นค่อยไปนะครับผม ตอนนี้อุ้ยว่าไม่ใช่กลอนพาไปหรอกครับ บังคับพาไปตะหาก

เช้านี้ขอเริ่มด้วย "วิสูตรสองไข" นะครับ ชื่อดีเหมาะกะตอนเช้าๆเลย

บังคับซ้ำคำ ๒ คู่ ในคำแรกกับคำที่ ๓ และคำที่ ๗ กับ ๙ ซ้ำพยัญชนะ ๒ คู่ ในคำที่ ๒ กับ ๔ และ ๘ กับ ๑๐ ซ้ำสระ ๒ คู่ ในคำที่ ๔ กับ ๕ และ ๖ กับ ๘ (พระองค์เจ้าคเนจร : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน)

แค่ดูบังคับก็แทบหงายหลังแล้วเนอะครับ แต่อุ้ยจับได้ว่ามันเหมือนสะบัดสะบิ้งทั้งข้างหน้าทั้งข้างหลัง ด้านหน้าส่งสัมผัสแบบช้างชูงวง ด้านหลังส่งสัมผัสแบบมธุรสวาที เลยได้ออกมาเป็นอย่างนี้ครับ

.....แสวงสวาทมาดหมายสหายสหัส
จำเริญจำรัสวัฒนาประสาประสี
ระเบียบระบอบชอบตริรุจิรุจี
ทวิทวีมีเพิ่มประเดิมประดัง

ทำนุทำนูลพูนเพิ่มเฉลิมฉลอง
ประคับประคองตรองนำฉมำฉมัง
เข้าจิตเข้าใจในมิตรจะชิดจะชัง
ระไวระวังพลั้งผิดจนติดจนตาย

หมายเหตุ ฉมำ กะ ฉมัง ปรากฎในพจนานุกรมนะครับ แปลคล้ายๆ เหมาะเหม็งประมาณนั้นอ่ะครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 07:04
ต่อด้วยโคลงกลบทกระทู้สองชั้นครับ ก็คล้ายๆกับกระทู้สองชั้นทั่วๆไป เพียงแต่เป็นโคลงเท่านั้นเองครับ (ไม่เหมือนสกัดกระทู้ที่ใช้คำหน้าและคำหลัง อ่านทีละบาท แต่จะใช้คำหน้า และเรียงสองแถว จากบนมาล่างครับ)

.....เสือสางจักอยู่ด้วย.....ป่ายัง
พีเพราะป่าปิดบัง...........รกเรื้อ
ป่าเปลี่ยวหากปราศรัง.....เสือสู่....ราบเฮย
ปกปักกันก่อเกื้อ............อยู่ยั้งยืนยง

เสือพีป่าปก  ป่ารกเสืออยู่ [ ต้นฉบับเป็นป่ารกเสือ"ยัง"นะครับ แต่อุ้ยเปลี่ยนคำเพราะบังคับเอก ]


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 07:06
ต่อด้วยโคลงกลบทกระทู้สองชั้นครับ ก็คล้ายๆกับกระทู้สองชั้นทั่วๆไป เพียงแต่เป็นโคลงเท่านั้นเองครับ (ไม่เหมือนสกัดกระทู้ที่ใช้คำหน้าและคำหลัง อ่านทีละบาท แต่จะใช้คำหน้า และเรียงสองแถว จากบนมาล่างครับ)

.....เสือสางจักอยู่ด้วย.....ป่ายัง
พีเพราะป่าปิดบัง...........รกเรื้อ
ป่าเปลี่ยวหากปราศรัง.....เสือสู่....ราบเฮย
ปกปักกันก่อเกื้อ............อยู่ยั้งยืนยง

เสือพีป่าปก  ป่ารกเสืออยู่ [ ต้นฉบับเป็นป่ารกเสือ"ยัง"นะครับ แต่อุ้ยเปลี่ยนคำเพราะบังคับเอก ]


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 07:11
แหะๆๆๆ...ขอโทษครับ เลยกลายเป็นสองครั้งไปเลย  รบกวนพี่พูเอาออกอันนึงได้มั้ยครับ...อย่าเอาออกทั้งหมดนา....อุ้ยร้องไห้แย่เลยครับ

สุรางคนางค์ 28 (กระทู้พวง)

พึ่งหัดแต่งเหมือนกันครับ ดูเหมือนง่าย แต่สุดท้ายอุ้ยว่าไม่ยักกะง่าย เพราะเวลามาอ่านออกเสียงดูแล้วดูมันสะดุดๆไงไม่รู้ครับ

...รักเรารักร้าง.....รักเหินรักห่าง.....รักกลับรักกลาย.....รักลวงรักเล่น
รักเค้นรักคลาย.....รักสูญรักสลาย.....รักล้นท้นทรวง

...แค้นคิดแค้นเขา.....แค้นเคืองเนิ่นเนา.....แค้นคับลับลวง.....แค้นแสนสุดแค้น
แค้นแน่นแหนหวง.....แค้นสดับตรับหน่วง.....แค้นเค้นเน้นนาน

...สาวสาวสุดสวย.....สาวเขินสาวขวย.....สาวสุดรำคาญ.....สาวเมินไม่มอง
สาวจ้องประจาน.....สาวไล่ลนลาน.....สาวงอนเกินงาม

...ชายใช่ชายชั่ว.....ชายกลับเกรงกลัว.....ชายเข็ดชายขาม.....ชายชื่นอกตรม
ชายชมครั่นคร้าม.....ชายใจไล่ลาม.....ชายชอบชมครวญ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 07:15
จบละครับ...ชักเริ่มรู้สึกละครับว่าคงไม่ค่อยมีคนชอบกลบทเท่าไหร่...อุ้ยฝากไว้แค่นี้ละกันนะครับ...ขอบคุณคร้าบที่อดทนกะอุ้ยมาตลอดครับผม

ขอจบด้วยบทแหล่นาคครับ เท่าที่อุ้ยอ่านต้นฉบับมา จะไม่เหมือนทำขวัญนาคเท่าไหร่ จะเน้นล้อเน้นเลียนมากกว่า บทนี้อุ้ยแต่งให้ปู่เมฯ เอาสนุกนะครับปู่ (ต้นฉบับหนักกว่านี่อีกครับ)

ศรี ศรี สวัสดีศุภผล.....แสนประเสริฐเลิศล้นเป็นมงคลสวัสดี.....วันพรุ่งนี้แล้วหนาพ่อนาค.....จะต้องลาจากความสุข.....เบาะเมาะหมอนที่เคยซุก.....จะต้องลุกหลีกลี้.....จะต้องไปนอนเสื่อสาด.....ม่านมุ้งขาดก็มี.....เคยนุ่งเคยห่มสมสี.....ต้องกลับมามีสีเดียว.....เคยกินข้าวสามมื้อ.....เคยอิ่มตื้อเต็มเหนี่ยว.....จะต้องมานั่งหน้าเซียว.....จะผอมเพรียวล่ะคราวนี้.....จงตั้งใจสวดภาวนา.....เผื่อไว้เวลาเขาจะเผาผี.....จะได้นิมนต์โชคดี.....รับทีละสี่ห้าพัน.....จงตั้งใจสืบพระศาสนา.....เป็นบุญญาสะสมกัน.....อันบิดรมารดานั้น.....ได้ขึ้นสวรรค์กันซะที.....บุญของเจ้าที่กตัญญู.....ได้รอบรู้พระคัมภีร์.....ได้ปฏิบัติวัตรที่.....เจริญดีโพธิญาณ.....จะนอนจะนั่งระวังระไว....กางเกงในเค้าไม่ให้ผ่าน.....จงปิดประตูลั่นดาล.....จำวัดนานต้องระวัง.....พวกลูกศิษย์มันทะลึ่ง.....มันจะตะลึงชวนกันมามั่ง.....แล้วแอบประตูดูบัง.....จงระวังอย่าลืมเลือน.....ตอนเช้าเจ้าออกบิณฑบาต.....ออกโปรดญาติอย่าแชเชือน.....อย่ามองจ้องสีกาเหมือน.....ไม่ลืมเลือนไปทั้งคืน.....อย่ามองจ้องในร่มผ้า.....จงก้มหน้าอย่าฝ่าฝืน.....อย่ามองจ้องน้ำลายกลืน.....อย่ายิ้มระรื่นทำหน้าเฉย.....ยามเดินให้มองสามก้าว.....เดินเท้าเปล่าเจ้าไม่เคย.....หนามจะเหน็บเจ็บก็เฉย.....อย่าละเลยจงจำยิน.....จงอยู่ให้ครบพรรษา.....จนได้ผ้าพระกฐิน......ได้อิ่มบุญพุงปลิ้น.....ประเสริฐสิ้นฉะนั้นนั่นแล...


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 พ.ค. 01, 08:36
ไม่ใช่ไม่ชอบหรอกค่ะแต่ไม่รู้จะตอบยังไงดี
น้องอุ้ยสนุกกับกลบทมาก   เอามาให้อ่านเยอะเสียจนตาลาย  อ่านไม่ทัน
แล้วแต่ละบทก็แต่งจบแล้วทั้งนั้น   ไม่มีทางที่คนอื่นเขาจะทำอะไรได้นอกจากอ่านอย่างเดียว
ถ้าจะสื่อสารกันสองทางอย่างในเว็บบอร์ด  น้องอุ้ยลองนึกดูซิคะว่าคนอื่นๆจะร่วมวงด้วยได้ยังไงบ้าง
มีทางไหนจะดึงคนที่เขาไม่ได้เรียนหรือฝึกกลบทมาก่อนให้มาสังสรรค์กับน้องอุ้ยได้บ้าง

กลบทเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่ได้เรียน หรือไม่ได้ฝึกมาก่อน  
บางคนยังจำวิธีการแต่งกลอนและโคลงได้ไม่แม่นเลย เพราะเรียนสาขาอื่นมาตลอด
เพื่อนๆก็เลยต้องเฉยๆ   ไม่รู้จะตอบน้องอุ้ยได้ยังไงกันค่ะ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 16:14
แหะๆๆ....พี่พูพูดในสิ่งที่อุ้ยไม่เคยนึกถึงมาก่อนเลยครับ



แบบอุ้ยก็เรียนมานิดเดียวนะครับ (กำลังจะขึ้น ม.3 เนี่ยครับ)



ตอนนี้อุ้ยใช้ link 2 อันนี่อยู่ แล้วก็ตำราครับ



http://thaiarc.tu.ac.th/host/thaiarc/poetry/

http://www.geocities.com/bot_kawee/kolbot.htm



ให้อุ้ยเปิดกระทู้อย่างปู่เมฯเปิด course โคลงสี่สุภาพไม่ได้หรอกครับ มะมีปัญญาครับ



แต่อุ้ยอยากให้พี่ๆลองเล่นกันนะครับ แบบอุ้ยบอกลักษณะบังคับไว้หมดแล้วง่ะ ตานี้มี link แล้วด้วย



มาเล่นกันเหอะครับ สนุกและท้าทายดีจาตายปาย..นะ..นะ..นะคร้าบ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 01 พ.ค. 01, 16:23
ตานี้อุ้ยขอแก้ตัวบท "นาคราชแผลงฤทธิ์"ที่พี่พูว่านะครับ

...บรรจงจาร..สารสนอง..ประคองเขียน
เปลี่ยนคำขัด..ฉวัดเฉวียน..พากเพียรหนี
ภายภาคหน้า..ค่าล้น..ถั่งท้นดี
ถี่ท่วมดั่ง..หวังนี้..มากมีพลัน

มั่นหมายผอง..น้องพี่..ทวีโชค
ทุกวารเช่น..เว้นวิโยค..และโศกศัลย์
ลั่นสุ้มเสียง..เผดียงวอน..เขียนกลอนกัน
ครั้นก่อนเก่า..เรานั้น..สร้างสรรกลอน


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 02 พ.ค. 01, 20:04
อันนี้อุ้ยเอามาฝากละกันครับ แบบว่าไปเจอมา

กาพย์ยานีนะครับ

.....พึงทราบกาพย์ยานี
บังคับมีสิบเอ็ดคำ
วรรคหน้าห้าประจำ
วรรคหลังหกยกให้เห็น

แบบท่องบทนี้ได้ก็แต่งกาพย์ยานีได้แล้วอ่ะครับ

ส่วนสุรางนางค์นะครับ

สุรางคนางค์.....เจ็ดวรรคจับวาง.....ให้ถูกวิธี
วรรคหนึ่งสี่คำ.....จำไว้ให้ดี.....บทหนึ่งจึงมี.....ยี่สิบแปดคำ

หากแต่งต่อไป.....สัมผัสตรงไหน.....จำให้แม่นยำ
คำท้ายวรรคสาม.....ติดตามประจำ.....สัมผัสกับคำ.....ท้ายบทต้นแล

ส่วนกาพย์ฉบัง..ให้นึกถึงบท..ข้าฯขอประณตน้อมสักการฯ นั่นแหละครับ เขียนออกมาแล้วดูจำนวนคำ ตำแหน่งสัมผัส แล้วก็ล้อได้แล้วอ่ะครับ

อุ้ยก็ใช้วิธีนั้นแหละครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 02 พ.ค. 01, 20:08
อุ้ยเจอฉันทลักษณ์ของมุทิงคฯแล้วครับ

ลักษณะเป็นกลอน ๗ ครับ ส่งสัมผัสแบบกลอนสุภาพธรรมดา...สรุปคือบทแรกอุ้ยแต่งผิดครับ

ครุลหุ จะจัดตามเสียง ป๊ะโท่นป๊ะโท่นป๊ะโท่นโท่น...ซ้ำกันทั้ง 4 วรรค...เสียงป๊ะคือลหุ เสียงโท่นคือครุครับ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: เมรี ที่ 05 พ.ค. 01, 00:59
ก็ได้แต่ตามอ่านค่ะ ต้องขอชม น้องอุ้ยเก่งจังค่ะ
ชื่นใจจังที่เห็นเยาวชนเก่งๆ และสนใจในการร้อยภาษาและกรองคำแบบนี้
ชอบค่ะ (แต่ว่าชอบอ่านอย่างเดียวนะ)
ถ้าให้แต่ง สงสัยต้อง ย้อนเวลากลับอดีต แล้วก็ไปขุดขุดขุด ที่เคยเรียนมาค่ะ


กระทู้: มุทิงคนาทฉันท์...สำหรับปู่เมฯ
เริ่มกระทู้โดย: อุ้ยครับ ที่ 07 พ.ค. 01, 08:43
แหะๆๆ...ดีใจครับ...ตอนนี้นอกจากอุ้ยมีปู่เมฯแล้ว อุ้ยยังมีพี่เมฯอีกคนอะครับ

พี่เมฯมะชอบแต่งมะเป็นไรหรอกครับ เราก็ร่วมสนุกกันได้ แบบพี่พูอะครับ พอพี่พูอ่านแล้วพี่พูไม่รู้เรื่อง พี่พูเก๊าะบอก...เจ้าอุ้ย!!!!...ชั้นอ่านมะรู้เรื่องนะ....กลับไปแก้เด๋วนี้นาาาาา

แล้วอุ้ยก็ปรับปรุงตัวเองแหละครับ...ตรงนี้พี่เมฯช่วยอีกคนได้ปะครับ ???